ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี! - ตอนที่ 565
บทที่ 565 การ์ดเชิญเป็นของปลอม
“หมิงจู?”
ขณะนี้หยางเว่ยพูดขึ้นเบาๆ
“หมิงจูคือคุณผู้หญิงคนโตของตระกูลหมิง คุณเฉิน คุณอย่าเห็นเพียงแต่ว่าเธอรูปร่างสง่าสวยงาม แต่ความจริงแล้ว พอทำอะไรขึ้นมาแล้วร้ายกาจมาก ฉันได้ยินมาว่า คุณปู่ของตระกูลหมิงสองสามปีนี้สุขภาพร่างกายเริ่มแย่ลง และยังแอบพาคนมาฝึกฝนและผลิตยาอมตะอะไรสักอย่างเนี่ยแหละ นี่อยู่ในไห่เฉิงของพวกเรา ไม่ถือว่าเป็นความลับอะไรแล้ว! ถึงว่าล่ะ ตระกูลหมิงได้จัดงานงานฉลองฟ้าสมุทรนี้ แล้วยังนำเชิญกลุ่มคนที่ประมูลพวกยาสมุนไพรล้ำค่าพวกนั้นมา ดูเหมือนว่า พวกเธอจะสนใจยาสมุนไพรบางอย่างขึ้นมาแล้ว”
“ดูเหมือนว่า นายกับตระกูลหมิงไม่ได้เป็นมิตรอะไรกัน พวกเขาตระกูลหมิงถือว่าเป็นวงศ์ตระกูลที่เก่งที่สุดในไห่เฉิงไหม?”
เฉินเกอมองไปทางหยางเว่ยแล้วยิ้มด้วยความฝืน
หยางเว่ยพยักหน้าด้วยความอึดอัด “หลายร้อยปีก่อน พวกเราตระกูลหยางต่างหากที่เป็นวงศ์ตระกูลที่ใหญ่ที่สุดในไห่เฉิง แต่แค่ว่า แค่กแค่ก ตอนนี้ตระกูลหยางถือว่าเป็นวงศ์ตระกูลอันดับสองของไห่เฉิงแหละ ที่มาของเศรษฐกิจในไห่เฉิง ต่างก็ตกอยู่ในมือของตระกูลหมิง แล้วฉันก็ทำธุรกิจเกี่ยวกับยาสมุนไพร ดูเหมือนว่าตระกูลหมิงนี้ จะต่อต้านฉัน คุณเฉิน ต้องขอโทษมากจริงๆ! ฉันจะรีบให้คนไปหาการ์ดเชิญมาส่งให้สองใบ!”
เฉินเกอไม่ได้พูดอะไรอีกแล้ว
ส่วนหมิงจูนั้น สีหน้าเยือกเย็น ขณะนี้ได้เดินมา
แต่กลับมองเฉินเกอและหยางเว่ยด้วยความเย็นชาไปหนึ่งที ไม่ได้พูดออกเสียงอะไร ภายใต้การนำพามาของ รปภ. พาคนเดินมา แล้วตามอยู่ข้างหลังของตระกูลหมิง ยังมีชายวัยกลางคนที่มีบารมีไม่ธรรมดาอีก
“คุณหนู หยางเว่ยผมไม่ให้เขาเข้ามา เขาเหมือนจะโมโหมาก!”
ขณะนี้ รปภ. พูดด้วยความเคารพ
“นายทำได้ดีมาก ก็ต้องให้เขารู้ว่า พวกเราตระกูลหมิงถึงแม้ว่าจะเป็นวงศ์ตระกูลที่มาจากข้างนอก แต่ว่า ได้เป็นเจ้าของของไห่เฉิงแล้ว พวกคนอวดดีแบบพวกเขา ก็ต้องชัดเจนสถานะของตัวเอง สถานที่ของตระกูลหมิง ไม่ใช่ที่ที่พวกเขาอยากเข้าก็จะสามารถเข้ามาได้ อีกอย่าง พวกเราตระกูลหมิงได้บอกหยางเว่ยไปว่าภายในหนึ่งปีจะต้องเตรียมยาสมุนไพรที่คุณปู่ต้องการไว้ให้ได้ เขากลับไม่ได้เก็บไปใส่ใจ ไม่ให้การสั่งสอนเขา ก็ถือว่าให้หน้าเขาแล้ว!”
หมิงจูพูดเบาๆ
“จริงด้วย เรื่องที่ฉันให้นายไปจัดการนายทำหรือยัง?”
จู่ๆ หมิงจูก็พูดกดเสียงต่ำลง
“วางใจเถอะครับคุณหนู ไม่มีทางผิดพลาดแน่นอนครับ ได้มั่นใจยาสมุนไพรที่พวกเราสนใจแล้ว หนีไม่พ้นแน่นอนครับ!”
รปภ. ก็พูดด้วยเสียงที่เย็นชน
มีคนไม่กี่คนเข้ามา
และผ่านไปไม่นาน หยางเว่ยก็ได้รับการ์ดเชิญมา กำลังจะเข้าไปพร้อมกับเฉินเกอสองคน
ในงานประมูลยาสมุนไพร ต่างก็เป็นยาสมุนไพรโบราณทั้งนั้น
และยาสมุนไพรโบราณที่ล้ำค่าพวกนี้ ในนั้นมีไม่กี่กลิ่น เป็นสิ่งที่เฉินเกอต้องการ
“ห้าสิบล้าน!”
หนึ่งในนั้นมีกลิ่นๆ หนึ่งถูกเรียกราคาขึ้นมา
เฉินเกอก็ไม่ได้เกรงใจ เรียกราคากลับ
และทำให้สถานการณ์ในงานเปลี่ยนไปเลย ทุกคนต่างก็มองมา
มองดูแล้วเป็นเฉินเกอที่นั่งอยู่
“หย่าลี่ เธอรีบดู นั่นคือรุ่นน้องสมัยมหาวิทยาลัยเธอนิ!”
ข้างๆ ของหลีหย่าลี่ พวกผู้หญิงไม่กี่คนพวกนั้นพูดด้วยความตกใจ
“เขามีเงินขนาดนี้เลย? ห้าสิบล้าน? คงจะตะโกนมั่วไปแหละมั้ง?”
“นั่นน่ะสิ เขาเข้ามาได้ยังไงเนี่ย? หรือว่าไม่เคยร่วมงานประมูลหรอ ขอแค่เรียกราคาแล้ว ก็ไม่สามารถเก็บกลับไปได้แล้ว ถ้าหากไม่มีคนเพิ่มราคา งั้นเขาก็จบแล้ว!”
คนไม่กี่คนหมดคำจะพูด
ไม่ว่ายังไงแล้ว ตอนนี้สูงที่สุด ก็เรียกราคาไปประมาณร้อยกว่าล้านเท่านั้น
ตอนนี้ กลิ่นยาสมุนไพรชนิดนี้ ถูกคนอื่นเรียกราคาไปยี่สิบล้านก็จบแล้ว แค่คิดไม่ถึงว่า จะถึงห้าสิบล้าน
เจ้าอ้วนที่เรียกราคาไปยี่สิบล้านได้นั่งลง และในขณะเดียวกันก็มองไปทางหมิงจูที่นั่งอยู่ตรงวีไอพีไปหนึ่งที
และหมิงจูที่นั่งอยู่ตำแหน่งวีไอพี ขณะนี้ก็ยขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วมองไปทาง รปภ.
“สวัสดีครับทั้งสองท่าน พวกเราจำเป็นต้องตรวจการ์ดเชิญของท่านสองครับ ต้องขออภัยมากจริงๆ!”
รปภ.คนนี้ ก็คือ รปภ.ที่ยืนอยู่ข้างนอกเมื่อกี้
เขาพูดด้วยความเย็นชา
“ทำไมคนมากมายขนาดนี้ มีแต่พวกเราที่ต้องตรวจ? น้องชาย ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ต้องเหลือหน้าให้คนอื่นข้างนะ!”
หยางเว่ยสูดหายใจลึก ทั้งตัวของเขาสั่นไปหมด
“เพราะว่าพวกคุณเรียกราคาสูงเกินไปแล้ว ผมกลัวว่าจะมีคนเข้ามาวุ่นวาย ทั้งสองท่าน ขอความร่วมมือด้วยครับ!”
รปภ. พูด
“เอาให้เขาดู!”
เฉินเกอขมวดคิ้วเล็กน้อย
หยางเว่ยจึงจะนำการ์ดเชิญออกมา
รปภ.คนนี้ ตรวจสอบอย่างละเอียด
แต่แค่ว่า ตอนนี้เฉินเกอสามารถจับจุดได้ เขาจะไม่รู้ได้ยังไงว่ารปภ.คนนี้ กับคนที่ชื่อหมิงจูนั่นอยากจะทำอะไร
รปภ.สวมหูฟัง
แต่ว่าขอแค่เฉินเกออยากจะฟัง ก็ไม่มีสิ่งที่เขาไม่ได้ยิน
แล้วได้ยินเสียงในหูฟัง หมิงจูบอกเขาว่า เอาพวกเขาออกไป อีกอย่าง ไปสืบมาด้วยว่าวัยรุ่นคนนั้นมีที่มาอะไร ถ้าหากว่าเป็นคนมีเงินจริงๆ ก็ส่งคนไปจัดการพวกเขา
เฉินเกอยิ้มอย่างฝืน
หยางเว่ยพูดว่า ตระกูลหมิงนี้ ที่จริงแล้วก็ร่ำรวยเพราะไปขโมยมา บรรพบุรุษก็คือพวกโจรสลัด
ตอนนี้พอได้ยินวิธีการของหมิงจูแล้ว เฉินเกออยากจะหัวเราะจริงๆ
“ขอโทษด้วยครับคุณผู้ชาย ผมดูการ์ดเชิญของพวกคุณแล้ว เป็นของปลอมครับ เชิญพวกคุณออกไปด้วยครับ!”
รปภ.พูดด้วยความเย็นชา
“ของปลอม? นายมีสิทธิ์อะไรมาพูดว่าของปลอม? วันนี้นายจะต้องให้คำอธิบายกับฉัน!”
หยางเว่ยยืนขึ้นมา เขาโมโหมาก
“พวกเราสามารถยืนยันได้ว่า นี่คือของปลอม!”
ขณะนี้ คนพวกนึ่งที่ตามหลีหย่าลี่มาต่างก็ลุกขึ้น
โดยเฉพาะชายวัยกลางคนที่ยืนกับหลีหย่าลี่พูดว่า
“พวกเรารู้จักวัยรุ่นคนนี้ เขาชื่อเฉินเกอ มาจากจินหลิง เป็นนักศึกษาจนๆ คนหนึ่ง!”
“ใช่แล้ว เมื่อกี้ตอนอยู่หน้าประตู ก็ถูกห้ามไว้แล้ว ตอนที่ฉันออกมาจากห้องน้ำ ก็เห็นพวกเขากำลังโทรศัพท์พอดี คงจะซื้อการ์ดเชิญปลอม!”
ผู้หญิงไม่กี่คนก็พูดขึ้นตามกันมา
เพราะว่าแค่ตาเปล่าก็สามารถมองออกว่า รปภ.คนนี้เป็นคนของตระกูลหมิง หากว่าตัวเองลุกขึ้นมาในตอนนี้ ให้ความร่วมมือกับตระกูลหมิง ไม่แน่อาจจะมีภาพลักษณ์แรกที่ดี หลังจากนี้อาจจะได้ร่วมงานกันก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
อีกอย่าง นี่ก็เป็นโอกาสที่คนในธุรกิจและเศรษฐีต่างๆ จะรู้จักกับตัวเอง
“นักศึกษายากจน? หรือว่าจะแอบลักลอบเข้ามาหรอ?”
ทุกคนต่างก็พูดหารือขึ้นมา
หลีหย่าลี่มองไปทางเฉินเกอ “เฉินเกอ เมื่อก่อนนายก็ดูซื่อสัตย์นะ คิดไม่ถึงเลยว่าตอนนี้นายจะกลายเป็นแบบนี้ ถ้านายอยากจะเปิดหูเปิดตาจริงๆ ไม่ต้องไปทำเรื่องที่ไม่จำเป็นพวกนั้น มีเวลามาทำเรื่องพวกนี้ ไปทำงานยังดีกว่าอีก ชนชั้นสังคมแบบนี้ไม่ใช่ชั้นที่นายอยากจะก้าวข้ามมาก็สามารถเข้ามาได้!”
หลีหย่าลี่ส่ายหัว
หยางเว่ยมองหาคนที่ตัวเองรู้จักรอบๆ ข้าง แต่กลับตกใจมาก งานประมูลที่ใหญ่ขนาดนี้ นอกจากตระกูลหมิงแล้ว ไม่มีคนในท้องถิ่นเลย
“การ์ดเชิญเป็นของปลอมหรือเปล่าไม่จำเป็น สิ่งที่สำคัญคือ สามารถมีเงินมาซื้อยาสมุนไรที่นี่ก็ได้แล้ว ใช่ไหม?”
ขณะนี้เฉิยเกอส่ายหัวแล้วฝืนยิ้ม
“เชื่อว่าเจ้าของงาน ไม่มีทางพลาดโอกาสการหาเงินหรอกนะ?”
เฉินเกอมองไปทางเจ้าของงาน
“ถ้าหากว่าคุณผู้ชายสามารถนำเงินออกมาซื้อยาสมุนไพรของพวกเราได้จริงๆ แน่นอน ท่านก็คอลูกค้าวีไอพีของเรา!”
เจ้าของงานต่างก็ทำเพื่อเงิน ไม่มีทางไปสนใจหรอกว่ามีการ์ดเชิญหรือไม่มี
คนฝ่ายเจ้าของงานเปิดปากพูด รปภ.คนนี้ก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี ขณะนั้น สูดหายใจลึก แล้วจากไปเลย
แต่ว่า แบบนี้ก็ถือว่าแล้วไปแล้วหรอ?
เฉินเกอไม่เห็นร่องรอยอะไรเลย ถ้ารู้อย่างงนี้ตั้งแต่แรกก็จะดึงผมทั้งหมดของรปภ.ออกมาให้หมดเลย
“โมโหจะตายอยู่แล้ว!” หยางเว่ยพูดด้วยความโมโห
“อ้าว!”
หลังจากนั้น รปภ.ที่พึ่งเดินไปไม่นาน ขณะนั้นทั้งตัวของเขาสั่นไปหมด แล้วตะโกนเรียกขึ้น….