ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี! - ตอนที่ 581
บทที่ 581 ความลับในบ่ายวันนี้
ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ท่านปู่ฟางและโจ๋วจงทาวก็ถูกส่งกลับไปที่อพาร์ตเมนต์
แต่ว่าตอนที่ส่งกลับไปถึง ท่านปู่ฟางป่วยหนัก ฟางหยีก็อยู่ในอาการหมดสติอย่างรุนแรง
เฉินเกอก็ไม่ทันที่จะทักทายโจ๋วจงทาว ก็ได้เขียนใบสั่งยาใหม่ให้เขาทันที เพื่อให้โจ๋วจงทาวรักษาทั้งสองคน
หลังจากนั้น เฉินเกอก็ออกไปถนนข้างนอกเลย พูดตามหลักการแล้ว เซ่งจู้น้อยท่านนั้น ก็น่าจะมาแล้ว
เดินอยู่บนถนน ถนนในเวลานี้ คึกคักยิ่งนัก
ผู้คนต่างดื่มด่ำไปกับบรรยากาศแห่งความสุขและความตื่นเต้น
ลัทธิอูกู่นี้ แค่ได้ยินชื่อ ก็ทำให้คนรู้สึกถึงความคิดที่ชั่วร้าย
ได้ทำอะไรกันแน่ ถึงสามารถให้ผู้คนมากมายมาบูชาพวกเขา?
เฉินเกอแอบสงสัยในใจ
ในไม่ช้า ก็มาถึงหน้าประตูวิลล่าตระกูลหยุนของหยุนหลิน
วิลล่าตระกูลหยุนซึ่งเป็นสถานที่ต้อนรับสำหรับการมาเยือนของเซ่งจู้น้อยในคืนนี้ ที่นี่ยิ่งถูกล้อมรอบหนาแน่นมาก
และลูกศิษย์ลูกหาของตระกูลหยุน จำนวนไม่น้อย ยิ่งยืนอยู่ที่หน้าประตู ทำหน้าที่ต้อนรับแขกคนสำคัญ
“คนคนนั้น ทำไมนายเข้ามาตามอำเภอใจเลย ใครให้นายเข้ามา?”
และตอนที่เฉินเกอเดินเข้าไป ก็ถูกชายหนุ่มและหญิงสาวกลุ่มหนึ่งห้ามไว้
“หยุนหลิน ไม่ได้บอกกับพวกคุณว่าฉันจะมาหรือ?”
เฉินเกออดไม่ได้ที่จะถามขึ้น
“นายถือเป็นตัวอะไรกัน ถึงกล้าเรียกชื่อลุงใหญ่ของฉันโดยตรง แขกในวันนี้ เป็นผู้ที่มีชื่อเสียงหน้าตาทางสังคมกันหมด ล้วนเป็นผู้อาวุโสที่อายุเกินครึ่งร้อยปี! ไอ้หมอนี่คนที่ฉวยโอกาสในเหตุการณ์ชุลมุนอย่างนาย ฉันเห็นมาเยอะแล้ว!”
ชายหนุ่มคนหนึ่ง ตะโกนใส่เฉินเกออย่างเคร่งขรึม
“อย่าพูดกับเขาอย่างนี้ ดูท่าทางของเขา น่าจะมาจากต่างถิ่น อาจเป็นเพียงว่าได้เห็นตระกูลหยุนมีผู้คนเข้าออกจำนวนมาก และยังดูยิ่งใหญ่อลังการขนาดนั้น เลยอยากเข้ามาดูเท่านั้น นายอย่าดุแบบนี้!”
และในเวลานี้เอง หญิงสาวที่หน้าสวยงาม มองไปที่เฉินเกอแล้วพูดขึ้น ยังส่งยิ้มให้เฉินเกอ
จะพูดยังไงดี เมื่อหญิงสาวตัวได้เห็นหุ่นของเฉินเกอนั้นดียิ่งนัก โดยเฉพาะรูปร่างหน้าตา ยิ่งเหมือนคนที่มีอัธยาศัยมาก รูปลักษณ์ที่หล่อเหลาดูดีทำให้คนรู้สึกถึงความสง่า
จึงถือว่ามองถูกตา
ดังนั้นจึงช่วยเขาพูดนิดหน่อย
นี่ก็เหมือนกับสถานการณ์ที่ผู้ชายบางคนได้เห็นผู้หญิงสวย ก็เต็มใจที่จะช่วยเธอ
“นายอยากเข้าไปไหม?”
หญิงสาวมองไปที่เฉินเกออีกครั้ง ถามด้วยรอยยิ้ม
เธออายุยี่สิบกว่าปี มัดผมหางม้า ยิ้มอ่อนหวาน
แต่ว่าตามเฉินเกอไม่ได้ตอบกลับเธอ
“อย่างนี้แล้วกัน ข้างในต้องการลูกมือพอดี นายตามฉันเข้ามา!”
พูดจบ หญิงสาวทำเหมือนเป็นผู้ปกครองใหญ่ ดึงเฉินเกอไว้ แล้วเดินเข้าไป
“ฮึ่ม น้องเล็กก็ใจดีแบบนี้แหละ ปกติลูกแมวลูกหมาตัวหนึ่งใกล้จะตายก็ต้องร้องไห้ เมื่อกี้ต้องเป็นเพราะว่า ฉันด่าไอ้หมอนั่นโหดร้ายเกินไปแน่นอน จึงทำให้เธอเกิดความสงสาร ช่างไม่เหมือนคนของตระกูลหยุนเลยสักนิด
ชายหนุ่มคนนั้นพูดขึ้น
และหยุนฉิง ก็ได้พาเฉินเกอเข้ามาในคฤหาสน์แล้ว
“ก็คือที่นี่ คนนี้คือลุงหยุน ฉันได้บอกกับเขาแล้ว มีอะไรที่ต้องการช่วยเหลือ นายก็ช่วยเหลือหน่อยก็พอแล้ว ฉันจะออกไปต้อนรับแขกแล้ว!”
หยุนฉิง ยิ้มให้เฉินเกอและโบกมือเล็กน้อย แล้วก็จากไป
“ยัยเด็กนี่ จิตใจไม่เหมือนกับคนของตระกูลหยุนที่ตัวเองเคยพบเจอเลยสักนิด เป็นมิตรมากเกินไปแล้ว!”
เฉินเกออดไม่ได้ที่จะยิ้มเยาะอย่างจนปัญญา รู้สึกว่าเด็กสาวคนนี้มีความน่าสนใจไม่น้อย
ที่จนปัญญาเพราะว่า เพราะเธอเป็นมิตรมากเกินไปเป็นมิตรมากจนตัวเองรู้สึกละอายที่จะบอกเธอ ว่าตัวเองมาที่นี่เพื่อจะฆ่าคน!
บางคน ก็ยากที่จะปฏิเสธ
“นี่นาย คือลุงหยุนที่เรียกนายมาใช่ไหม? เข้ามา เทน้ำให้พวกเราดื่ม!”
และในเวลานี้ ด้านนอกคฤหาสน์ มีโต๊ะและเก้าอี้จัดไว้มากมาย
หนึ่งในนั้น มีชายหญิงวัยรุ่นไม่กี่คน กำลังดื่มน้ำพูดคุยกัน พวกเขาพูดกับเฉินเกออย่างไม่เกรงใจเลยสักนิด
เพราะว่า เมื่อกี้ตอนนี้หยุนฉิงพาเขาเข้ามา และได้มอบหมายให้กับลุงหยุนเป็นทำหน้าที่รับผิดชอบงานบ้าน พวกเขาก็รู้แล้วว่า นี่เป็นคนงานที่มาใหม่
เฉินเกออดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว และรู้สึกโกรธเล็กน้อย
แต่เพราะความเป็นมิตรของหยุนฉิงในเมื่อครู่ ตัวเองจึงไม่ได้ปฏิเสธเธอ ซึ่งก็เท่ากับว่าได้ตอบรับเธอแล้ว
และไม่เหมาะที่จะเกิดโทสะ
ก็เลยจ้องมองไปที่ประตูพร้อมกับเดินเข้าไป หยิบถ้วยชาขึ้น เทน้ำให้กับพวกหญิงสาวที่แต่งหน้าจัดจ้านอย่างเย็นชา
“หมอนี่ คิดไม่ถึงว่าหน้าตาดูดีไม่น้อย แต่ว่าไม่ใช่สเปคที่ฉันชอบ ก็มีแค่หยุนฉิง ที่ชอบสเปคอย่างนาย!”
หญิงสาวคนหนึ่งพูดขึ้น
“นายคงไม่ใช่หนุ่มหน้ามนของเฉิงเอ๋อร์นะ?”
หญิงสาวอีกคนถามขึ้น
“หืม เขาเนี่ยนะ คู่ควรที่จะเป็นหนุ่มหน้ามนของ เฉิงเอ๋อร์เหรอ? ถุ้ย!”
ก็มีหญิงสาวอีกคนพูดอย่างดูถูก
พวกเธอวิพากษ์วิจารณ์เฉินเกอก่อน จากนั้นก็ดึงหัวข้อกลับมา
“ฮ่าๆๆ ตอนนี้ฉันมีความสุขมากจริงๆเลย ในที่สุด ก็มีคนเป็นแพะรับบาปให้ฉันแล้ว!”
หญิงสาวหนึ่งในนั้น ที่มีอายุมากหน่อย รุ่นราวคราวเดียวกันกับเฉินเกอได้พูดขึ้น
“แพะรับบาปอะไรอ่ะ พี่หยุนเฟย?”
พวกเธอถาม
“เฮ้ย! ที่จริงมีบางเรื่อง ที่พวกเธอไม่รู้เลย เอาล่ะ ตอนนี้ฉันไม่เป็นไรแล้ว พูดให้พวกเธอฟังก็ไม่มีอะไรเสียหาย?”
พวกสาวๆทั้งหลาย ต่างก็ขยับหูเข้าไปด้วยความสงสัย
“จริงๆแล้ว ตระกูลหยุนของเรา แอบแลกเปลี่ยนลึกลับอย่างหนึ่ง กับเซ่งจู้น้อยแห่งลัทธิศาสนามาโดยตลอด!”
“แลกเปลี่ยนอะไร?”
“นั่นก็คือทุกๆปี จะมีการแสวงหาสาวงามหลายสิบคนให้ เซ่งจู้น้อย ในนั้นมีไม่กี่คน ก็เป็นคนของ ตระกูลหยุน ด้วย!
หยุนเฟยพูด
“อะไรนะ! นี่มันเรื่องจริงเหรอ?”
“ยังจะเป็นเรื่องของปลอมหรือ พ่อบอกฉันหมดแล้ว สาวงามที่สรรหามาในครั้งนี้ เดิมทีหนึ่งในนั้นคือฉันเอง แต่ไม่คาดคิดว่า สามเดือนที่แล้ว มีสาวสวยจากตระกูลฟางมาอีกคนใช่ไหม ฮ่าๆ คุณพ่อเพื่อปกป้องฉัน ก็เลยขายเธอออกไป!”
หยุนเฟย พูดขึ้น
“นี่…..ยากที่จะจินตนาการได้เลย ว่าเซ่งจู้น้อย จะเป็นคนแบบนี้จริงๆ!”
“ใช่เลย ตอนแรกคิดว่าเซ่งจู้น้อย บริสุทธิ์ไร้มลทิน แต่กลับน่ารังเกียจอย่างนี้ นี่เป็นความลับใหญ่จริงๆ ถ้าถูกเปิดเผย เขาต้องเจอหายนะแน่ๆ คนในเกาะโม่เต่าต้องห้ามเรื่องอย่างนี้มากที่สุด!”
“วันนี้ฉันเป็นเพราะอารมณ์ดี ที่จริงแล้ว เรื่องนี้ในสายตาของ ตระกูลหยุนของเรา หรือบางคนในเกาะโม่เต่า ก็ไม่ได้ถือว่าเป็นความลับแล้ว!”
หยุนเฟยพูดขึ้น
“ที่จริงในสมัยก่อน ฉันก็ได้ยินข่าวลือมาบ้างเหมือนกัน แต่ก็ไม่ถือเป็นความลับจริงๆ!”
หญิงสาวคนหนึ่งก็พูดขึ้น
“แต่ว่านะ ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง ที่พวกเธอไม่รู้ พ่อของฉันได้ปิดบังทั้งตระกูลแล้ว มีเพียงฉันได้เห็นเท่านั้น!”
หยุนเฟย พูดเสียงเบาอีกครั้ง
ในขณะเดียวกัน ก็มีความเสียใจเล็กน้อย
“พี่สาว พวกคุณกำลังพูดถึงอะไร?”
ในเวลานี้ หยุนฉิงเดินเข้ามาพร้อมกับพวกคุณชายสองสามคนที่อยู่ด้านประตู หัวเราะและนั่งลง
ในขณะเดียวกัน หยุนฉิงยังโบกมือทักทายกับเฉินเกอ
“เฉิงเอ๋อร์ พวกเธอนั่งลงก่อน อย่าเพิ่งขัดจังหวะ พี่หยุนเฟยกำลังบอกความลับกับเรา!”
“ความลับอะไร?”
“นั่นก็คือบ่ายวันนี้ เกิดเรื่องบางอย่างหนึ่ง หยุนหล้าง น้องชายที่ไม่เอาไหนของฉัน เกิดเรื่องขึ้นแล้ว และพวกเธอรู้จักอาจารย์โม่ไหม?
หยุนเฟยพูดขึ้น
“รู้จักแน่นอน!”
“อาจารย์โม่และน้องชายของฉัน ถูกคนหามกลับมา พวกเขาได้เข้ามาทางประตูหลัง ตอนนั้นฉันกำลังคิดที่จะวิ่งออกไปเล่นทางประตูหลังพอดี เลยเห็นเข้าโดยบังเอิญ!”
ตระกูลหยุนรู้หมดเลยว่า ความสัมพันธ์ของหยุนเฟยและหยุนหล้างไม่ดีนัก
เนื่องจากหยุนหล้างเป็นลูกชายคนเดียว ลูกชายทายาทหนึ่งเดียว หยุนหลินเลยรักเอาใจเขามากเป็นพิเศษ จนละเลยหยุนเฟย
“ให้ตายเถอะ หยุนหล้างได้รับบาดเจ็บได้ยังไง และความสามารถของอาจารย์โม่ เราทุกคนก็เคยเห็น ในเกาะโม่เต่า ใครจะรับมือเขาได้”
ทุกคนต่างรู้สึกเหลือเชื่อ แม้แต่ชายหนุ่มหลายคน ก็ถามด้วยความตกตะลึง
“เรื่องนี้ก็ไม่รู้แล้ว แต่ได้ฟังคุณพ่อคุยกับพวกคนรับใช้ เหมือนจะพูดถึงคุณชายเฉิน คุณชายเฉินท่านนั้น ดูเหมือนจะมีที่มาที่ยิ่งใหญ่มาก!”
หยุนเฟยพูดด้วยเสียงต่ำ