ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี! - ตอนที่ 588
บทที่ 588 หนึ่งบุปผาหนึ่งพิภพ
เฉินเกอพาทั้งสองคนว่ายเข้าไป
ปากถ้ำนี้ แม้ว่าช่องเปิดจะแคบ แต่ดูเหมือนเป็นรูปน้ำเต้า
หลังจากว่ายเข้าไปแล้ว ถึงได้พบว่า ข้างในเป็นอีกโลกหนึ่ง
จนกระทั่งพวกเฉินเกอมาถึงปากถ้ำที่แตกต่าง
เฉินเกอก็พบอย่างตกตะลึงว่า ทางเข้าถ้ำนี้ เต็มไปด้วยบุปผาผี
รอบข้าง เกสรกระจัดกระจายทั่วทิศ
“กลั้นหายใจ ตั้งสมาธิ!”
เฉินเกอบอกพวกเขา
เฉินเกอมองไปที่หน้าปัดอุปกรณ์ บนนั้น ร่างของหญิงชราได้หายไปแล้ว และได้หายไปที่นี่ด้วย
เธอต้องอยู่ข้างในแน่นอน
หญิงชราคนนี้มีเล่ห์เหลี่ยมยิ่งนัก หากประมาท ก็จะตกหลุมพราง
และในเวลานี้พอดี กู่หยูเซียวและเถียเฉิง ทั้งสองคน ก็รู้สึกไม่สบายกะทันหันในเวลาเดียวกัน
เมื่อพูดโดยรวมแล้ว เกสรในทางเข้าถ้ำทะเลนี้ หนาแน่นมากกว่า
แม้แต่เฉินเกอที่ควบคุมอย่างตั้งใจ ก็ยังเกือบไม่สามารถต้านทานการโจมตีทางจิตใจที่รุนแรง ที่เกิดจากบุปผาผีได้
อีแก่คนนั้น ต้องเล่นอุบายแน่นอน!
ในไม่ช้า เถียเฉิงและ กู่หยูเซียวทั้งสอง ก็ตกอยู่ในภาวะหมดสติ
และเมื่อเผชิญกับการโจมตีทางจิตใจที่ทรงพลัง
วูบ!
เฉินเกอก็ไม่สามารถกลั้นได้ในที่สุด รู้สึกเพียงว่า พื้นที่ในทุกทิศทาง บิดเบี้ยวไปหมด
ตอนที่ใกล้จะหมดสติ ก็ได้เห็นใบหน้าที่อัปลักษณ์แปลกประหลาด ปรากฏต่อหน้าเขา……
มืดสนิท ไร้ความรู้สึก
ไม่รู้ผ่านไปนานเท่าไหร่ เฉินเกอจะได้ค่อยๆฟื้นขึ้นมา
สิ่งที่กระทบกระเทือนต่อประสาทของสมองนี้ ไม่ต่างจากความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น ในตอนที่ตัวเองได้รับความทรงจำกำลังภายในและศิลปะการต่อสู้จากเทพเจ้าท่านนั้น
ทุกคนยังคงอยู่ใต้ทะเล ถ้าไม่ใช่เพราะหินกันน้ำ เกรงว่าตอนนี้จะจมน้ำตายหมดแล้ว
ส่วนเถียเฉิง ใบหน้าขาวซีด ยังตกอยู่ในอาการหมดสติอย่างรุนแรง
เฉินเกอทนอาการปวดหัวไว้ แล้วไปตามหากู่หยูเซียว
แล้วตอนนี้ถึงได้พบว่า
กู่หยูเซียว หายตัวไปแล้ว?
เกิดอะไรขึ้น?
เฉินเกอแบกเถียเฉิงขึ้นมา รู้สึกมีสติขึ้นมาหน่อย
ค้นหาไปมาในอุโมงค์อย่างรวดเร็ว แต่กลับไม่พบร่องรอยของ กู่หยูเซียวเลย!
เธอคงไม่เกิดเรื่องขึ้นนะ?
เฉินเกอตำหนิตัวเองในใจ
แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะลังเล
เพราะตัวเองยังมีชีวิตอยู่ วังราชาสมุทร แค่อยู่ตรงหน้า บางที กู่หยูเซียวอาจจะลอยเข้าไปในอุโมงค์ที่อยู่ตรงหน้า
ด้วยความหวังนี้ เฉินเกอจึงปลุกเถียเฉิงฟื้นขึ้นมา
ทั้งสองเดินต่อไปเรื่อยๆ
ไม่รู้ว่าได้ว่ายอยู่ในอุโมงค์นี้อีกนานแค่ไหน
ตูม!
ทันใดนั้น คลื่นรอบข้างก็พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง ราวกับว่ามีพลังมหาศาล กำลังดูดเฉินเกอเข้าไปข้างในอย่างบ้าคลั่ง
เถียเฉิงมองไปที่เฉินเกอ ส่งสัญญาณว่าเป็นคลื่นใต้ทะเล แต่พลังนี้ใหญ่มหาศาลมากเกินไป แม้ว่าเฉินเกอจะกระฉับกระเฉงใต้น้ำ และใช้พละแข็งแกร่งในการต้านทาน
แต่ว่า ไม่สามารถต้านทานได้เลย
ร่างของทั้งสอง เคลื่อนตัวเข้าไปในปากถ้ำที่แคบลงเรื่อยๆอย่างบ้าคลั่ง
“วิชาหดตัว!”
ช่องว่างเริ่มเล็กลงเรื่อยๆ ตั้งแต่ความสูงของคนคนหนึ่ง จนถึงตอนนี้ มีเพียงความสูงเท่าเด็กน้อยอายุสี่ห้าขวบเท่านั้น และปากถ้ำ ยังคงหดลงเรื่อๆ
เฉินเกอเตือนเถียเฉิง
ทั้งสองทำการหดตัวพร้อมกัน
ปรับให้เข้ากับสภาพแวดล้อมนี้
ถ้าไม่เช่นนั้น ร่างกายที่น่าสะพรึงของเฉินเกอนี้ ก็จะถูกปากถ้ำนี้ บีบจนเป็นเนื้อละเอียด
ตูม!
ในที่สุด แรงดูดนี้ ก็ถึงจุดสิ้นสุด
พวกเขาสองคนถูกเหวี่ยงเข้ามาในช่องว่างนี้ ด้วยแรงเฉื่อย
สิ่งที่ทำให้เฉินเกอประหลาดใจคือ
ที่นี่ กลับไม่มีน้ำทะเลเลย เป็นพื้นที่แห้งสนิทโดยสิ้นเชิง
ส่วนเถียเฉิงได้รับบาดเจ็บสาหัส เฉินเกอ ดึงเขาขึ้นมา
“คุณผู้ชาย ฉันไม่มีประโยชน์เอง!”
เถียเฉิงพูดอย่างอ่อนแรง
“ไม่เป็นไร เพราะพวกเรา……ดูเหมือนจะเข้ามาถึง วังราชาสมุทรแล้ว!”
เฉินเกอตบไหล่เขาเบาๆ จากนั้นดวงตาของเขาก็นิ่งค้าง มองทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้าด้วยความตกตะลึง
เถียเฉิงก็ได้หันกลับมา มองไปยังพื้นที่นี้ ยิ่งอ้าปากค้างในทันที
เพราะตรงหน้า เป็นราชวังที่ยิ่งใหญ่อลังการมาก
เสมือนวังมังกรใต้ทะเล
เฉินเกอก็ตกตะลึงเล็กน้อย
และในใจกลางของราชวังนี้ มีแท่นสูงขนาดใหญ่ เหนือแท่งสูงอีกห้าหกเมตร บนแท่นสูงนั้น มีโลงศพคริสตัลลอยอยู่
ก็คือโลงศพอมตะ!
เฉินเกอประหลาดใจ
ที่แท้ หลังจากที่หญิงสาวชุดขาวแยกจากเทพเจ้าแล้ว ก็ถูกฝังไว้ที่นี่ด้วยโลงศพอมตะ
จากนั้นทั้งสองอยู่กันคนละฟากฟ้า
และไม่สามารถเจอกันได้ชั่วนิรันดร์
ขอทานชราคนนั้น ต้องการทำเพื่ออะไรกันแน่?
“คุณผู้ชาย รอบข้างล้วนเป็นภาพจิตรกรรมฝาผนัง ดูเหมือนว่า จะเล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นของสิ่งเหล่านี้!”
ในเวลานี้ เถียเฉิง ชี้ไปที่ภาพจิตรกรรมฝาผนังโดยรอบและพูดขึ้น
เฉินเกอเหลือบมองไปที่โลงศพอมตะของหญิงสาวในชุดสีขาวนี้ จากนั้นก็หันสายตามองไปที่ภาพจิตรกรรมฝาผนังโดยรอบ
เช่นเดียวกับราชวังใต้ดินในทะเลทราย ราชวังแห่งนี้ ก็เต็มไปด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนัง
เฉินเกอเหลือบมองคร่าวๆ เป็นการบอกเล่าเรื่องราวการฝังศพของหญิงสาวชุดขาวจริงๆ
และภาพจิตรกรรมฝาผนังด้านหลังนั้น ไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นภาพจิตรกรรมฝาผนังแล้ว แต่เป็นพวกภาพอักขระนามธรรม
แต่อักขระเหล่านี้ เฉินเกอก็ไม่รู้จักแล้ว แตกต่างอย่างมาก กับอักษรของภาพจิตรกรรมฝาผนังที่เคยเห็นก่อนหน้า
ส่วนภาพจิตรกรรมฝาผนังนั้น ส่วนใหญ่จะพูดถึงเกี่ยวกับขั้นตอนการฝังศพ และที่มาของศพหญิงรายนี้
สิ่งเหล่านี้เฉินเกอรู้หมด
“ตัวอักษรชนเผ่าต้ง?”
และในตอนนี้ เถียเฉิงได้ดูภาพจิตรกรรมฝาผนังจบหมด มาถึงตรงที่กำแพงหินเหล่านี้
“ตัวอักษรชนเผ่าต้งอะไร?”
เฉินเกอมองไปที่ เถียเฉิง
“คุณผู้ชาย ชนเผ่าต้งเป็นชนเผ่าโบราณ นี่เป็นอักษรของพวกเขาเอง ที่บ้านฉัน ก็ได้เก็บสะสมชุดม้วนคัมภีร์หนังสัตว์ของชนเผ่าต้ง ในตอนเด็ก คุณย่าบังคับให้ฉันเรียนรู้ความหมายของตัวอักษรเหล่านี้!”
เถียเฉิง พูดขึ้น
เฉินเกอเลิกคิ้วเล็กน้อย “ถ้าอย่างนั้น นายสามารถอ่านออก?”
เถียเฉิงกวาดมองอย่างคร่าวๆ “มากสุดเข้าใจแค่ห้าหกส่วน ที่เหลือขึ้นอยู่กับการคาดเดา!”
เขาเกาหัวเบาๆ
“ยังดีกว่าฉัน ที่อ่านไม่ออกเลย นายดูหน่อย ข้อความด้านบน ได้พูดถึงอะไรบ้าง?”
เฉินเกอตบไหล่เขาเบาๆ
เถียเฉิง มองอย่างจริงจัง
หลังจากผ่านไปชั่วเวลาจิบชาหนึ่งถ้วย
เขาถึงได้พูดขึ้น “เนื้อหาที่กล่าวมาในนี้ ลึกลับมากเกินไป ราวกับกำลังบอกคำทำนาย……”
“และยังพูดถึงประโยคหนึ่งหลายครั้ง……”
เถียเฉิงเกาหัวเบาๆ ชี้ไปที่ประโยคเหล่านี้ อ่านทีละคำ
“ความหมายของประโยคนี้คือ ดอกไม้บานออกเป็นสองดอก แต่ละดอก ก็คืออีกหนึ่งพิภพ คำตอบที่คุณต้องการ ก็อยู่ที่หนึ่งในนั้น”
“ดอกบานสองดอก หนึ่งดอกหนึ่งพิภพ?”
เฉินเกอพูด
“ใช่ๆๆ คุณผู้ชาย ก็คือหมายความอย่างนี้”
เถียเฉิงรีบพยักหน้า
เป็นประโยคอีกแล้ว หญิงชราที่ประหลาดคนนั้นก็พูดถึง และเฉินเกอใช้พลังจิตตรวจหา หญิงชราไม่ได้อยู่ที่นี่เลย
หรือว่า ในขณะที่เราหมดสติไป เธอได้ออกไปแล้ว?
ไม่สมเหตุสมผล แรงดูดข้างนอกยิ่งใหญ่มากขนาดนี้ ตัวเองยังไม่สามารถทวนกระแสน้ำออกไปได้ ไม่ต้องพูดถึงเธอเลย
แน่นอนว่า นี่ไม่ใช่สิ่งสำคัญของปัญหา
หนึ่งดอกหนึ่งพิภพ หมายถึงบุปผาผี ประโยคนี้จะจับใจความได้อย่างไร?
เฉินเกอขมวดคิ้ว ข้างในยังพูดอะไรอีกบ้าง? นายดูออกจากตรงไหน ว่าเหมือนคำทำนาย?”
“คุณผู้ชาย ข้อความเหล่านี้ เหมือนจะบอกว่า หลังจากหมื่นปี จะมีคนมาที่นี่ พานางฟ้าไป พาเธอไปคืนดีกับคนรักที่หายไปเป็นหมื่นปี ในขณะเดียวกัน คนคนนั้น ก็จะพบคำตอบของเขา แต่คำตอบนี้ ดูเหมือนไกลแสนไกล แต่ก็ใกล้ยิ่งนัก……”
เถียเฉิงบอกว่า อักษรที่เฉพาะสามารถอ่านออก แต่เขาจะแปลออกมาอย่างลำบาก
แต่ เถียเฉิงยังคงพูดว่า “เพราะเขามีกุญ……แจ ที่สามารถเอาโลงศพอมตะออกไป มีเพียงเขาเท่านั้น ที่สามารถเปิดโลงศพอมตะได้อย่างแท้จริง!”
“กุญแจ?”
“อืม ความหมายของคำเหล่านี้ น่าจะเป็นพวกของที่เหมือนกุญแจ!” เถียเฉิงพูดขึ้น
เฉินเกอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “มันจะหมายถึงสิ่งนี้หรือไม่?