ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี! - ตอนที่ 605
บทที่ 605 งานเชื้อเชิญของ ตระกูลเฉิน
“พูดจากใจ ตอนที่เขากอดพี่อยู่ พี่ก็พลอยรู้สึกซึ้งไปด้วยเลย จนกระทั่งกำลังคิดว่าผู้หญิงที่เขารักจะมีความสุขขนาดไหน เพราะมีคนคอยเป็นห่วงเป็นใยและคิดถึงตลอดเวลา!”
ดวงตาที่งดงามของซูฉููฉูได้เกิดประกายความอิจฉาขึ้นมา
“เอ่อ พอแล้วพอแล้ว พี่อย่าไปจมปลักอยู่กับบ่วงนั้นเลย คิดเรื่องไร้สาระจะเสียสุขภาพจิตเปล่าๆ ถ้าหากเขารักพี่ ฉันยังพอสนใจอยากรู้บ้าง ไม่สู้เอาเวลาไปคิดเรื่องงานเชิญของคุณชายเฉินจะดีกว่าไหม ได้ยินว่าผู้หลักผู้ใหญ่ทั้งในเมืองหลิวเฉิงและทางทิศตะวันตกก็จะมาร่วมงานด้วย และที่สำคัญได้เชิญแขกพิเศษที่ลึกลับมาด้วยท่านหนึ่ง!”
ซูหรานหรานกล่าว
“ถ้างั้นน้องไปเลย พี่ไม่ไปหรอก!”
ซูฉููฉูปฏิเสธอย่างหนักแน่น
“หา?พี่ไม่ไป?คุณชายเฉินเชิญพี่โดยเฉพาะเลยนะ?อีกอย่างคุณชายเฉินตามจีบพี่มาตั้งนมนาน ฉันได้ยินเพื่อนของคุณชายเฉินบอกว่าพรุ่งนี้เขาจะสารภาพรักกับพี่อีกครั้ง?”
“พี่รู้จุดประสงค์ของเขา ดังนั้นจึงไม่อยากจะไปยังไงล่ะ พี่เคยบอกเขาว่ามีคนที่ชอบอยู่แล้ว แต่เขายังตามตื้อไม่ปล่อย พี่ไม่ได้มีความรู้สึกอะไรต่อเขา และอีกอย่างพี่ก็รู้ว่าที่เขาตามจีบพี่ทุกวิถีทางเพื่ออยากจะได้อะไร ความรับรู้ของผู้หญิงมันแม่นยำมาก เขาดูถูกผู้หญิงเกินไปแล้ว!”
ซูฉููฉูส่ายหัว
“แต่พี่บอกว่ามีความที่ชอบแล้ว เขาก็ไม่เชื่อนี่นา นอกเสียจากพี่หาใครเจอสักคนจริงๆ แล้วไปยืนอยู่ตรงหน้าเขา ให้เขาเห็น เขาถึงจะตายใจ!ยืดเยื้อต่อไปก็ไม่ใช่วิธีแก้ไขปัญหาเลยนะ!”
“พี่เข้าใจสิ่งที่น้องพูด แต่จะไปหาที่ไหนได้ล่ะ?พี่คงจะหาคนไปเรื่อยไม่ได้หรอกมั้ง?”
ซูฉููฉูส่ายหัวอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี
ส่วนซูหรานหรานก็ถอนหายใจอย่างหดหู่ใจ
เธอเดินมาถึงข้างหน้าต่าง จากนั้นก็มองไปด้านนอกอย่างหดหู่ใจ เธออยากจะช่วยพี่สาวคลี่คลายปัญหาบ้าง
แต่ว่าเวลานี้ ดวงตาของเธอยิ่งเบิกตากว้างขึ้นมาเรื่อยๆ
จากนั้นก็พูดด้วยสีหน้าเซอร์ไพรส์ “ฮาฮา พี่ ฉันมีวิธีแล้ว พูดอย่างตรงประเด็นคือ ฉันหาตัวเลือกที่เหมาะสมได้แล้ว!”
เธอพูดอย่างสนุกสนาม
“ตัวเลือกอะไร?”
“พี่รีบดูสิ ไอ้ขอทานนั้นเขามาอยู่ที่หน้าประตูบ้านเราอีกแล้ว เหมือนฟ้าประทานเลยอ่ะ!”
ซูฉููฉูเดินมาดูก็พบว่าใช่จริงๆเสียด้วย
“ทำไมเขาถึงมาอีกแล้ว?พี่เข้าใจความคิดของน้องอยู่ แต่เขามีคนของใจอยู่แล้ว จะใช้ประโยชน์จากความรู้สึกของเขาได้อย่างไรกัน?ให้เขาปลอมตัวเป็นแฟน คงจะไม่ได้!”
ซูฉููฉูส่ายหัวไปมา
“แหวะ!เขายังไม่มีคุณสมบัติเพียงพอจะที่ปลอมตัวเป็นแฟนหนุ่มของพี่สาวฉัน เอาอย่างนี้ เรื่องนี้ให้มอบหมายให้ฉันจัดการเองส่วนพรุ่งนี้เราก็ไปร่วมงานเลี้ยงตามปกติก็พอแล้ว ฉันรับรองว่าแผนการของคุณชายเฉินไม่มีทางสำเร็จได้เป็นอันขาด แถมพี่ยังสามารถเคลียร์กับทางคุณพ่อคุณแม่ได้อีกด้วย!”
เห็นน้องสาวจอมซนที่เจ้าเล่ห์ ซูฉููฉูจึงได้พยักหน้าเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
ซูหรานหรานรีบวิ่งลงจากบ้าน
“ขอทานน้อย!”
เธอเรียกเฉินเกอ
เฉินเกอมองเธอ“คุณเรียกผมเหรอ?”
“ไม่เรียกนายแล้วจะเรียกใครล่ะ?เฮ้อ นายมาที่บ้านของพวกเราอีกทำไม?ยังคิดจะมาล่วงเกินอีกเหรอ?”
ซูหรานหรานกล่าว
“ไม่ไม่ไม่ ผมแค่อยากจะมาเข้าพบคุณซู จากนั้นก็ตั้งใจกล่าวคำขอโทษกับเธอ!”
เฉินเกอรีบพูด
“เชอะ!ไม่ต้องขอโทษขอโพยอะไรแล้ว แต่ถ้านายรู้สึกผิดจริงๆ พรุ่งนี้ก็ช่วยพี่สาวสักเรื่องหนึ่ง ใช่แล้ว ฟังจากน้ำเสียงแล้ว นายก็เป็นคนภาคใต้หรือ?”
“คนเมืองจินหลิง!ช่วยเรื่องอะไรล่ะ?”
เฉินเกอกล่าว
“อะไรนะ?ช่างดีเหลือเกิน คนเมืองจินหลิง!มีเพียงนายเท่านั้นที่เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด!”
ซูหรานหรานดีใจจนกระโดดโล้นเต้น
จากนั้นเธอเก็บอาการ“คือเรื่องมีอยู่ว่า พรุ่งนี้ที่ตระกูลเฉินมีงานเลี้ยง ฉันอยากจะให้นายไปส่งการ์ดเชิญหนึ่งใบต่อหน้าผู้คนมากมาย มีบทพูดเพียงคำเดียวเท่านั้น ซึ่งจะต้องให้ทุกคนได้ยินด้วย โดยเฉพาะพระเอกในงานพรุ่งนี้อย่างคุณชายเฉิน!”
“เป็นอย่างไงบ้าง?นายจะช่วยไหม?ถ้าหากนายยินดีจะช่วย พี่สาวฉันก็จะให้อภัยนายและจะซาบซึ้งในน้ำใจของนายมากๆด้วย!”
เธอกล่าว
เมื่อเฉินเกอได้ยินคำนี้ ตอนแรกก็คิดอยากจะทำอะไรสักอย่าง เพื่อจะได้ขอร้องซูฉููฉูยกโทษให้ตน
แม้กระทั่งเคยคิดจะชดใช้เงินให้ซูฉููฉูหลายพันล้าน มันเป็นแค่ของภายนอกที่ไม่ค่อยจะสำคัญเท่าไหร่
จึงกลัวว่าหากใช้เงินจะยิ่งทำให้ซูฉููฉูเกลียดตนเข้าไปอีก มันได้ไม่คุ้มเสีย
ตอนนี้มีเรื่องง่ายๆให้ทำ มีหรือที่เฉินเกอจะปฏิเสธ?
“ไม่มีปัญหา!”
“ดี ถ้างั้นพรุ่งนี้ก่อนจะไปที่งานเลี้ยง ตอนเช้าๆนายมาที่บ้านพวกเราก่อน ฉันจะเอาการ์ดเชิญที่ตกแต่งเสร็จแล้วให้นาย จากนั้นนายก็ทำตามแผนการได้เลย……”
ตระกูลเฉินถือว่าเป็นตระกูลใหญ่ที่อยู่ในเมืองหลิวเฉิง รวมทั้งทางภาคใต้ด้วย
ซึ่งในเมืองหลิวเฉิงมีสองชาติตระกูลใหญ่ๆ โดยตระกูลที่ใหญ่ที่สุดคือตระกูลเฉิน คนในพื้นที่กล่าวว่าตระกูลเฉินมีมิตรสัมพันธ์ไปทั่วประเทศ
ส่วนตระกูลซูนั้นถึงแม้จะยิ่งใหญ่เหมือนกัน แต่ก็ต่ำระดับกว่าตระกูลเฉินหนึ่งขั้น
ทั่วทั้งเมืองหลิวเฉิง ต่างก็นับถือตระกูลเฉินเป็นผู้นำในพื้นที่ จะให้เกียรติกับตระกูลเฉินเสมอมา
และในวันนี้วันสำคัญของคนทั้งเมืองหลิวเฉิงก็มาเยือน
นั่นก็คืองานเลี้ยงที่ตระกูลเฉินได้เตรียมการมาเกือบหนึ่งปี บัดนี้ได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว
ตั้งแต่เช้าตรู่ บนท้องถนนของเมืองหลิวเฉิงได้เรียงรายไปด้วยรถหรูหราเป็นจำนวนมาก
เศรษฐีนักธุรกิจมาจากทั่วสารทิศและยังมีนักธุรกิจระดับโลกมาอีกด้วย
บัดนี้ได้ร่วมงานเลี้ยงที่ตระการตา
และสถานที่จัดงานเลี้ยงคือโรงแรมหลิวโจวอิเตอร์เนชันเนล
ถือว่าเป็นโรงแรมที่มีระดับสูงสุดในเมืองหลิวเฉิง
รถหรูจากทั่วสารทิศได้จอดเต็มอยู่ใต้ลานจอดรถของโรงแรม
ส่วนทางเข้าประตูโรงแรมได้ปูพรมสีแดงยาวๆไว้
คนรอบข้างต่างรู้สึกอิจฉา หากต้องอายุสั้นลงสิบปีเพื่อแลกกับโอกาสเดินเชิดหน้าอยู่บนพรมแดงสักครั้งหนึ่ง มันก็คุ้มค่า
และตระกูลซูที่เป็นที่รู้จักของคนในพื้นที่
ก็มาเข้าร่วมกันทั้งบ้าน
วันนี้คุณนายซูแต่งตัวอย่างเลิศหรูได้เดินนำลูกสาวสองคนที่งดงามมา เธอมีสีหน้าที่อิ่มเอมใจยิ่งนัก
เพราะเธอได้รับข่าวมาว่า นั่นก็คือวันนี้นอกจากจะเชิญแขกพิเศษที่ลึกลับมาแล้ว ยังมีอีกเรื่องที่สำคัญคือคุณชายเฉินจะขอลูกสาวซูฉููฉูแต่งงานต่อหน้าผู้คน
ข่าวนี้เป็นจริงไม่มั่วนิ่มแน่
หากวันนี้ทั้งสองตระกูลจะมีแผนแต่งงานต่อหน้าผู้คน มันเป็นคำบอกต่อที่พิเศษมากมายเลยทีเดียว
และมีหลายบ้านที่ได้ยินข่าวลือนี้
ต่างมากล่าวแสดงความยินดีต่อคุณนายซู
แต่มีเพียงซูหรานหรานคนเดียวที่กำลังกวาดสายตามองรอบๆพลางแอบยิ้มอยู่ตลอดเวลา
กล่าวทักทายถามไถ่สารทุกข์สุขดิบกับเศรษฐีนักธุรกิจ เวลามันช่างผ่านไปเร็วเหลือเกิน
ไม่นานก็ใกล้จะเที่ยงแล้ว
เศรษฐีนักธุรกิจจากทั่วทุกมุมต่างมานั่งประจำที่กันแล้ว
และในห้องโถงด้านหน้ามีเวทีสูงๆอยู่ที่หนึ่ง ซึ่งผู้ที่นั่งอยู่บนเวทีคือผู้มีชื่อเสียงที่ประสบความสำเร็จระดับโลก
แต่สิ่งที่ขาดหายไปก็คือ
ในขณะที่ทุกคนต่างตั้งหน้าตั้งตารอคอยแขกพิเศษที่ลึกลับมาเยือนอยู่นั้น
กลับมีข่าวส่งมาว่า แขกพิเศษของวันนี้มีปัญหานิดหน่อย อาจจะมาช้ากว่าเวลาที่กำหนด
ทำให้ทุกคนอดผิดหวังไม่ได้
และอาจเป็นเพราะจะผ่อนคลายอารมณ์ของทุกคน คุณชายตระกูลเฉินตัดสินใจใช้วิธีอื่นเพื่อปรับอารมณ์ของทุกคน
สายตาของเขาจึงได้มองไปที่ที่นั่งตำแหน่งของตระกูลซู
ส่วนคุณนายซูมีสีหน้าที่ตื่นเต้นลุ้นระทึก หรือจะถึงนาทีแห่งการรอคอยในเรื่องของลูกสาวล่วงหน้า?
คนในงานต่างจดจ้องมองคุณชายเฉินด้วยความอยากรู้ ชั่วขณะนั้นจึงเงียบสงบขึ้นมากะทันหัน……
“ไอ้บ้า เป็นนายเหรอ!”
แต่เพียงสงบได้เพียงชั่วครู่ ด้านนอกก็มีเสียงเอะอะโวยวายเกิดขึ้น……