ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี! - ตอนที่ 613
บทที่ 613 นานแล้ว
บ้านของหม่าเสี่ยวหนาน ห่างจากโรงเรียนของเธอไม่ไกลนัก
เป็นชุมชนที่สร้างขึ้นมาใหม่
สำหรับตำแหน่งที่แน่ชัดนั้น หานเฟยเอ๋อได้บอกกับตัวเองแล้ว
เฉินเกอได้ขับรถมาถึงที่ตรงนี้
ก็บังเอิญ ตรงทางเข้าชุมชน
เฉินเกอเห็นหม่าเสี่ยวหนานที่เพิ่งไปจ่ายตลาดกลับมา ขณะนี้ได้ถือกับข้าวไว้ในมือ ก็ไม่รู้ว่ากำลังสนทนาอะไรกับชายหญิงคู่หนึ่ง
ในนั้น ขณะที่หม่าเสี่ยวหนานกำลังพูด ชายคนนั้นยังได้ใช้สมุดมาจดบันทึกด้วย
ดูท่าทางแล้ว เหมือนจะเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ กำลังสอบถามหม่าเสี่ยวหนาน
เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?
เฉินเกออดไม่ได้ที่จะแอบพูดในใจ
แน่นอน เขาก็ต้องค่อยๆขับรถไปฝั่งของหม่าเสี่ยวหนานอยู่แล้ว
เฉินเกอพลางสัมผัสว่ารอบข้างโรงเรียน ว่าจะมีผู้หญิงที่ร่างกายมีพลังจุดจื้อหยินหรือเปล่า
ไม่นานนัก ทั้งสองคนก็ได้ข้อมูลที่ต้องการ จากนั้นได้ผลัดกันจับมือกับหม่าเสี่ยวหนาน แล้วจึงได้มุ่งหน้าขับรถไปยังโรงเรียนมัธยมที่ไม่ไกลนัก
อารมณ์ของหม่าเสี่ยวหนานเดาว์ลงอย่างมาก ถือกับข้าวเดินไปทางเข้าไปในบ้าน
คิดคำนวณเวลาดูแล้ว ครั้งก่อนที่เขาเจอเสี่ยวหนานที่เมืองฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ จวบจนตอนนี้ก็ได้หนึ่งปีแล้ว
ตอนนี้ เสี่ยวหนานก็ได้กลายเป็นคุณครู หากเทียบกับเมื่อก่อน นอกจากนี้ยังโตขึ้นไม่น้อยแถมยังฉลาดมีเสน่ห์
ยังคงไว้ผมยาวเหมือนเดิม ผิวพรรณผุดผ่อง
เฉินเกอขับรถตามเธอ
ติ๊~ติ๊ติ๊!
เฉินเกอกดแตร
หม่าเสี่ยวหนานหันหลังมาเล็กน้อย เห็นรถหรูที่ขับตามตัวเองนั้น
ขณะนั้นดวงตาแฝงด้วยความเบื่อหน่าย รีบเร่งฝีเท้า
เธอเกลียดพวกมหาเศรษฐีที่เจ้าชู้มาก นึกว่ามีเงินจะทำอะไรก็ได้เหรอ!
น่าขยะแขยง
และเฉินเกออดไม่ได้ที่จะยิ้มเจื่อนๆ
ยังคงขับตามต่อไป
ติ๊~ติ๊ติ๊!
ครั้งนี้เฉินเกอได้ขับรถแซงไปอยู่ด้านหน้าของเสี่ยวหนาน แล้วก็กดแตรอีกครั้ง
“นายเป็นโรคจิตป่ะ ไปให้ไกลเลยนะ!”
หม่าเสี่ยวหนานด่าอย่างโมโห
ถึงแม้รถคันนี้ขับเข้ามาในชุมชน ก็ได้ดึงดูดความสนใจคนไม่น้อย ถึงขนาดมีหญิงสาวบางส่วนได้เริ่มเดินตามรถเพื่อถ่ายรูปแล้ว
เพียงแต่ว่าหม่าเสี่ยวหนานนั้น ไม่เหมือนพวกเธอเลยแม้แต่นิดเดียว
เผชิญกับการหยอกล้อตรงหน้า สิ่งที่เธอแสดงออกมีแต่ความโกรธ
“อารมณ์ฉุนเฉียวจัง!”
และในเวลานี้ กระจกรถได้เลื่อนลง เฉินเกอมองหม่าเสี่ยวหนานด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
หม่าเสี่ยวหนานได้ยินเสียงพูดนี้
ทันใดนั้นก็สั่นสะท้านไปทั่วร่าง
ราวกับว่าวิญญาณในร่าง เมื่อกี้ได้ถูกกระชากอย่างรุนแรง
มันทำให้เธอรู้สึกว่าโลกใบนี้บิดเบี้ยว เสียงหลอน!
ตัวเองได้ยินผิดไปใช่มั้ย?
หม่าเสี่ยวหนาไม่กล้าเชื่อจนต้องหันหน้า มองไปทางเจ้าของรถหรู
พรึบ!
ทันใดนั้นมือไม้อ่อน ผักสดในมือเธอ ได้ตกลงไปบนพื้นทันที
น้ำตาที่หายไปนาน เริ่มหมุนอยู่รอบๆขอบตา
เธอคิดถึงเขาทุกคืน ไม่ สามารถพูดได้ว่าทุกเวลาทุกนาที ที่เฝ้าคิดำนึงถึงเฉินเกอ คิดถึงแต่เฉินเกอ คิดถึงเสียงที่คุ้นเคยนั้น สามารถดังขึ้นที่ข้างหูของตัวเองอีกครั้ง
เธอเหม่อลอยเป็นประจำ คิดถึงตอนแรกที่เจอกับเฉินเกอที่มหาวิทยาลัย ตอนนั้นตัวเองมีความรู้สึกที่ดีต่อเฉินเกอ เขาเป็นคนดีคนหนึ่ง จิตใจมีเมตตา เป็นคนที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว
ในสายตาเธอ แม้ว่าเฉินเกอตอนอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยนั้น จะเหลือทนในสายตาคนอื่น แต่ว่าหม่าเสี่ยวหนานรู้สึกว่า เขาก็มีความโดดเด่นในตัว เธอสามารถมองเห็นแสงประกายในตัวของเขา!
ถึงขั้นเสียใจ ไม่แน่ตอนนั้น เขาทั้งสองอาจจะคบกันก็ได้ ก็จะได้ไม่ต้องมาคิดถึงอย่างทรมานเช่นนี้ ดวงตาของเธอแดง พูดอย่างลนลาน: “เฉินเกอ ใช่นายมั้ย?”
“ก็ต้องเป็นฉันน่ะสิ!”
เฉินได้เดินลงมาจากรถแล้ว
ยิ้มให้หม่าเสี่ยวหนานแล้วกล่าว
และหม่าเสี่ยวหนานที่ไม่สามารถห้ามตัวเองไว้ได้ ได้พุ่งเข้าไป ในอ้อมอกของเฉินเกอ
เธอนึกว่า……..จะไม่ได้เจอเฉินเกอเสียแล้ว ถึงขึ้นคิดถึงเรื่องที่เลวร้ายมากกว่านี้…..
และในชุมชนคนมากมายต่างมาล้อมรอบ
ต่างพากันอิจฉากับภาพที่อยู่บนหน้า
“มีเงินช่างดีเหลือเกิน สามารถทำอะไรก็ได้ตามที่ต้องการ”
มีผู้ชายบางคนพูดอย่างอิจฉา
และคำพูดนี้ พอดีได้ถูกหญิงวัยกลางคนคนหนึ่งที่เพิ่งไปเดินเล่นกลับมาได้ยินเข้า
ยังนึกว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ทุกคนต่างมุมอยู่หน้าประตูบ้านตัวเอง
ขณะนั้น เธอได้เห็นภาพที่อยู่ตรงหน้า หนังตาได้กระตุกอย่างแรง
นางเอกในเรื่อง กลับเป็นลูกสาวของตัวเอง?
“คุณชายคนนี้ช่างเก่งเสียจริง เหมือนจะแค่พูดไม่กี่คำ ก็สามารถจีบผู้หญิงคนนี้ได้แล้ว!”
คนที่ไม่รู้เรื่องกำลังสนทนากันอยู่
“อะไร!”
หญิงวัยกลางคนโกรธแล้ว
นึกว่าลูกสาวถูกรังแก
“ไอ้สารเลว ปล่อยลูกสาวของฉันด้วย!”
เธอพุ่งเข้ามา ได้ไปดึงหม่าเสี่ยวหนานมาข้างกายตัวเอง
กำลังจะด่าผู้ชายเจ้าชู้ที่อยู่ตรงหน้า เธอไม่สนใจหรอกว่าจะรวยมากรวยน้อยแค่ไหน แต่จะมายุ่งกับลูกสาวของเธอนั้น ไม่ได้เด็ดขาด
“แกมันไอ้………..”
แต่ว่าหญิงวัยกลางคนด่าไปครึ่งหนึ่ง
กลับหุบปากลง เปลี่ยนสีหน้าที่โกรธ ถูกแทนที่ด้วยสีหน้าที่ประหลาดใจ: “เสี่ยวเกอ? นายคือเสี่ยวเกอ?”
เธอกล่าวอย่างเซอร์ไพรส์
“ใช่ครับคุณน้า ไม่เจอกันนานเลยครับ!”
เฉินเกออดไม่ได้ที่จะยิ้มเจื่อนๆ
“ไอ้หยา น้ายังนึกว่ามีคนมารังแกเสี่ยวหนาน มาเร็วๆๆ ขึ้นไปบนบ้านกัน!”
แม่ของหม่าเสี่ยวหนานพูดอย่างดีใจ
ถึงอย่างไรโรคของตัวเอง เฉินเกอก็เป็นคนรักษาหาย ในสายตาของแม่เสี่ยวหนาน เขาไม่ใช่แค่ผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตเท่านั้น
มองดูทั้งสองขึ้นบันได
แม่ของเสี่ยวหนานก็ไปรีบไปทำกับข้าว รั้งให้เฉินเกอทานข้าวที่บ้าน
เฉินเกอก็ไม่ได้ปฏิเสธ
ก็นั่งอยู่ที่โซฟาสนทนากับหม่าเสี่ยวหนาน
จากนั้นเฉินเกอก็ถ่ายถาม เมื่อกี้ที่ด้านล่างสองคนนั้นมันยังไงกันแน่
หม่าเสี่ยวหนานเวลานี้จึงได้ตบหัวตัวเองแล้วกล่าว:
“เสี่ยวเกอหากนายไม่เอ่ยถึงฉันก็คงจะลืมเรื่องนี้ไปแล้ว ใช่แล้ว ฉันได้คุยกับพวกเธอไว้ ว่าหลังจากที่เอากับข้าวขึ้นมาไว้แล้ว ก็จะไปที่โรงเรียนไปเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด!”
“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อะไรคือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น?”
เฉินเกอมองแล้ว เสี่ยวหนานน่ามีเรื่องอะไรแน่นอน
เวลานี้ แม่ของเสี่ยวหนานได้เดินออกมา
“ก็เป็นเพราะเรื่องทุนการศึกษาของนักเรียน เสี่ยวหนานนอกจากจะเป็นครูประจำชั้นแล้ว ยังเป็นผู้ดูแลทุนการศึกษาของนักเรียนชั้นม.6ทุกชั้น สองแสนหยวนแน่ะ จากนั้นคืนก่อนที่จะแจกทุนการศึกษา เงินก้อนนี้ได้หายไป จากนั้นผู้หญิงอย่างหยางเยี่ยน ก็ยืนยันว่าเสี่ยวหนานของบ้านเราเป็นคนขโมย ไม่อย่างนั้นจะมีเงินซื้อบ้านได้อย่างไร!”
“อีกอย่างเดิมทีทางโรงเรียนจะตรวจสอบเงียบๆ แต่ว่าหยางเยี่ยนก็ไปแจ้งตำรวจ และยังยืนยันว่าเป็นเสี่ยวหนาน ตอนนี้ตำรวจได้มาหาถึงที่บ้านแล้ว!”
แม่ของเสี่ยวหนานกล่าวอย่างโมโห:
“เสี่ยวเกอนายก็รู้ เสี่ยวหนานไม่ใช่คนแบบนั้น อีกอย่างพูดตามตรง เสี่ยวเกอนายก็ได้เงินให้เสี่ยวหนานเป็นประจำ แต่เสี่ยวหนานก็ปฏิเสธทุกครั้ง เธอจะไปโลภอยากได้เงินสองแสนนั่นน่ะเหรอ?”
“ผมเชื่ออย่างแน่นอน!” เฉินเกอพยักหน้า
เสี่ยวหนานยังอยากจะยอมรับให้มันจบๆไป ชดใช้เงินนสองแสนเอง ฉันไม่เห็นด้วยเด็ดขาด ปัญหามันคือพฤติกรรมของคน ทำไมต้องยอมหยางเยี่ยนด้วย
แม่กล่าวอย่างโมโห
“หยางเยี่ยนเป็นใคร?”
เฉินเกอก็ได้ถามขึ้น
“เป็นครูประจำชั้นข้างห้องของฉันเอง เธอกลัวมาตลอดว่าฉันจะไปแทนที่หัวหน้าชั้นของครูมัธยมที่เธอเป็นอยู่ อย่างปีนี้ก็ใกล้เวลาที่จะเลือกหัวหน้าครูแล้ว คุณครูในชั้นต่างก็เสนอฉัน เธอสงสัยว่าฉันจะโกง จะแย่งทุกอย่างของเธอไป ดังนั้น เธอเลยเจาะจงที่จะเล่นงานฉัน!”
หม่าเสี่ยวหนานถอนหายใจแล้วพูด
“ก็ไม่ใช่ว่าอาศัยบารมีของสามีหรอกเหรอ ถึงได้รังแกเธอได้ เสี่ยวหนาน นิสัยของเธอดีเกินไป คนบางคนก็เป็นแบบนี้ เรายิ่งไว้หน้าเขา เขาจะยิ่งรู้สึกว่าเรารังแกได้ง่าย แม่ให้เธอไปหาประธานหลี่เจิ้นกั๋ว เธอก็ไม่ไปหา มีเสี่ยวเกอหนุนหลังให้เรา จะกลัวอะไรอีก!”
“เฮ้ย แม่พูดให้มันน้อยๆหน่อยเถอะ เสี่ยวเกอ ไม่อย่างนั้นนายก็นั่งรอที่นี่สักพัก ฉันต้องไปโรงเรียน ตำรวจยังอยู่ฉันอยู่!”
หม่าเสี่ยวหนานพูด
ไม่เป็นไร พอดีฉันก็ต้องไปเดินวนดูรอบๆโรงเรียนของเธอ พวกเราไปด้วยกัน
เฉินเกอลุกขึ้นกล่าว