ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี! - ตอนที่ 650
บทที่ 650 ภายใต้ความลับ
ในห้องนั่งเล่น
เฉินเกอเดินเข้ามากับหม่าจิ้นก็เห็นอาจารย์หนิงหย่วนนั่งไขว่ห้างอยู่ข้างกระถางธูป
หลับตาพักผ่อน
“คุณชายเฉิน คุณมาแล้ว!”
ได้ยินเสียเท้าเดินของเฉินเกอ อาจารย์หนิงหย่วนลืมตาขึ้น
หลังจากทักทายง่ายๆ
เฉินเกอถามความตั้งใจของตัวเองโดยตรง
ก่อนหน้านี้หม่าจิ้น ก็ได้แสดงเจตจำนงของตัวเองต่ออาจารย์หนิงหย่วนแล้ว
เพียงแค่ต้องการทราบเกี่ยวกับเบาะแสของเมืองกู่
อาจารย์หนิงหย่วนรู้ดีว่าเฉินเกอเป็นผู้บริจาคเงินก้อนใหญ่ที่สุดในครั้งนี้
ก่อนหน้านี้ อาจารย์หนิงหย่วนยังได้ฟังหม่าจิ้นเล่าเกี่ยวกับเฉินเกอช่วยชีวิตเด็กทารกมากกว่าร้อยคนแล้ว
เขาเองมีความเคารพนับถือเฉินเกอมาก
“เมืองกู่ที่คุณจะถาม จริงๆ อาตมารู้ว่าสถานที่นี้อยู่ที่ไหนรู้ เมื่อสิบกว่าปีก่อน อาตมาเคยไปเมืองกู่กับท่านอาจารย์ที่มรณภาพเมื่อนานมาแล้ว และประสบการณ์นั้น ถึงตอนนี้ยังคงสดใหม่ในความทรงจำของอาตมา!”
อาจารย์หนิงหย่วนค่อยๆ จิบชาคำหนึ่ง
ดูการท่าทางของเขา ราวกับว่าประสบการณ์นั้น ทำให้เขารู้สึกอกสั่นขวัญหายจริงๆ
เขามองเฉินเกอและยิ้มกล่าว:
“คุณชายเฉิน ไม่ทราบว่าคุณสนใจที่จะฟังหรือไม่?”
“อาจารย์พูดเถอะไม่เป็นไร!”
เฉินเกอผงกศีรษะ
และแล้ว อาจารย์ หนิงหย่วนจึงเริ่มพูดขึ้นช้าๆ
เรื่องนี้เป็นเรื่องในอดีตเมื่อสี่สิบปีที่แล้ว
ในเวลานั้น อาจารย์หนิงหย่วนซึ่งอยู่ในวัยยี่สิบกว่าติดตามสังฆราชเสวียนเปยอาจารย์ของเขา ตามคำเชิญของตระกูลชาติพันธุ์ที่ลึกลับ ก่อนหน้านั้นไปคลายปมในใจให้กับโยมคนหนึ่ง
และสถานที่อาศัยของโยม ก็คือเมืองกู่ เมืองเล็กๆ ที่มีอยู่ภายในภูเขาลึกลับ
พวกเขาถูกตัดขาดจากทางโลกมาหลายชั่วอายุคน โดยปกติ ก็ไม่มีใครกล้าที่จะรุกรานที่นั่น
เนื่องจากเมืองกู่แห่งนี้มีมายาวนานหลายพันปี
ภายใน มีความลับและความลึกลับไม่รู้จบ
ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เพียงไม่กี่คน และคนของชนเผ่าลึกลับ ถึงจะรู้จักเมื่อเล็กๆ นี่ และมีประติสัมพันธ์กับพวกเขา
อาจารย์ของอาจารย์หนิงหย่วน ก็คือหนึ่งในนั้น
วันนั้น พวกเขามาถึงตีนเขา
ก็พบกับชายหนุ่มที่ดื้อรั้นและโหดร้ายคนหนึ่ง
ชายหนุ่มคนนั้น เพื่อเข้าไปในตระกูลกู่ ใช้วิธีการอันเลวร้ายทุกรูปแบบ พยายามบังคับตระกูลกู่ออกมา
เขาสังหารผู้คนมากมายในหมู่บ้านใกล้เคียง
ผู้คนรอบตัว ตายอย่างไม่หยุดหย่อนเพราะตระกูลกู่ไม่ยอมพบเขา
ยิ่งไปกว่านั้น บุคคลนี้ไม่เพียงแต่โหดร้าย แต่ยังมีเล่ห์เหลี่ยมอีกด้วย
อาตมากับอาจารย์บังเอิญพบเขาจะฆ่าเด็กหญิงเด็กชายสิบคน เราจึงขัดขวาง
เขามีฝีมือที่เก่งมาก อาจารย์ของอาตมาต่อสู้กับเขาเป็นเวลาหนึ่งวันหนึ่งคืน กว่าจะปราบเขาได้ อาจารย์ของอาตมาเห็นเขาฆาตกรรมรุนแรงเกินไป ต้องการฆ่าเขา ให้ผู้คนพ้นจากอันตราย
เขาบอกว่า เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องแก้แค้น
ขอร้องวิงวอนอาจารย์ของอาตมา ไว้ชีวิตเขา
ท่านอาจารย์ของอาตมาก็ใจอ่อน ตกลงจะไว้ชีวิตเขาก่อน และพาเขาขึ้นเขา หลังจากอธิบายย่างชัดเจนต่อคนของตระกูลกู่ ยังไม่ชัดเจนว่าใครเป็นใคร
ถ้าชายหนุ่มคนนี้ชั่วร้ายจริงๆ ท่านอาจารย์ของอาตมาค่อยลงมือฆ่า
ชายหนุ่มไหว้ขอบคุณเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เขามีทรัพย์สมบัติมากมาย และสัญญาว่า จะซ่อมแซมวิหารอันอร่ามรุ่งโรจน์แห่งหนึ่งให้กับท่านอาจารย์
แต่ท่านอาจารย์ปฏิเสธ
เราสามคน ต้องเดินทางไปด้วยกัน และพาเขาเข้าไปเมืองกู่ด้วย
“ถ้าอย่างนั้นเขาก็เข้าไปในเมืองกู่แล้ว แอบคิดแผนการทำร้ายพระสังฆราชงั้นเหรอ?”
เฉินเกอฟังถึงตรงนี้ อดถามขึ้นไม่ได้
อาจารย์หนิงหย่วนส่ายหน้ายิ้มอย่างขมขื่น: “แอบคิดแผนการทำร้าย? เขาจำเป็นต้องทำด้วยเหรอ? พวกเราถูกเขาหลอกแล้ว ท่านอาจารย์ก็ถูกเขาหลอกเช่นกัน!”
ความจริงแล้ว ตอนนั้นชายหนุ่มคนนั้นแสร้งว่าพ่ายแพ้
เขาปิดบังพลังที่แท้จริงของตัวเองได้ดีมาก ทำให้ท่านอาจารย์รู้สึกว่า ไม่ว่ายังไง ไม่มีปัญหาในการปราบเขา
ในความเป็นจริง เขาดูออกว่าท่านอาจารย์และอาตมาในครั้งนี้ น่าจะเดินทางมาที่ตระกูลกู่
จึงพ่ายแพ้โดยเจตนา ขอร้องให้ท่านอาจารย์เมตตา
เพราะเขาแข็งแกร่งมาก แต่เขาไม่สามารถทำอะไรตระกูลกู่ได้
พวกเราเข้าไปในเมืองกู่ ก็มืดค่ำแล้ว
และเขาก็ได้เปิดเผยตัวตนของเขา เริ่มเข่นฆ่าคนขอตระกูลกู่ที่มาต้อนรับพวกเรา
เมื่อท่านอาจารย์ของอาตมาเห็นเข้า รีบลงมือปราบปราม
แต่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเลย
เพื่อช่วยอาตมา ท่านอาจารย์พยายามอย่างยิ่งที่จะปกป้อง ให้อาตมาหนีไปที่ตระกูลกู่เพื่อขอความช่วยเหลือ
ในตอนนั้นชายหนุ่ม ได้คร่าชีวิตผู้คนไป 18 คนในพริบตา
ยิ่งไปกว่าเขาใช้วิชามารเป็น มีดอกชนิดหนึ่งที่ประหลาดมากอยู่ในมือเขา
หนึ่งในนั้น ประทับอยู่ที่อกของอาตมา
ตอนนั้นอาตมารู้สึกว่า จิตวิญญาณของตัวเองกำลังจะแตกสลาย
อาการวิงเวียนรุนแรงแล่นไปทั่วร่างกายของอาตมา
แค่อาตมารู้ว่า อาตมายังล้มลงไปไม่ได้ เพราะท่านอาจารย์ยังรอความช่วยเหลือจากตระกูลกู่
อาจมากัดฟันและคลานไปข้างหน้าอย่างไม่หยุด
ข้างหลัง มีเสียงร้องคนตายอย่างอนาถอย่างต่อเนื่อง
เขาร้ายกาจมาก พลังน่ากลัวเกินไป ทุกคนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา
ไม่รู้ว่าคลานไปนานขนาดไหน ในที่สุด เหมือนอาตมามองเห็นคฤหาสน์ของตระกูลกู่แล้ว
และตอนนั้น อาตมาไม่มีเรี่ยวแรงแล้วจริงๆ
ดอกชนิดนั้นบนร่างกาย ดูเหมือนจะกลืนกินชีวิตของอาตมาอยู่ตลอด
แต่พอดีที่อาตมาเห็นหญิงชราของตระกูลกู่พรั่งพรูออกมา
ปรากฏว่า ชายหนุ่มที่ทั้งร่างถูกสาดเต็มไปด้วยเลือดได้ไล่ตามมาแล้ว
มาถึงที่ตระกูลกู่
ตอนนั้นอาตมาแทบหมดสติ แต่ก็ยังได้ยินเสียงของชายหนุ่ม
ดูเหมือนเขาจะขออะไรบางอย่างจากตระกูลกู่
และให้ตระกูลกู่ส่งมันออกมา
และตระกูลกู่ เป็นศัตรูกับเขาเช่นกัน
สงครามระหว่างทั้งสอง
ในเวลาต่อมา อาตมาได้ฟังจากคำพูดของคนรับใช้ของตระกูลกู่
ชายหนุ่มคนนั้นพ่ายแพ้แล้ว และถูกสะกดพลังแล้ว หนีออกจากเมืองกู่อย่างเร่งรีบ
ตระกูลกู่ส่งคนไปตามล่าเขาทั่วทุกทิศ
ตระกูลกู่ อยู่ในความเกรงกลัวของชนเผ่าลึกลับที่ยิ่งใหญ่ทั้งสี่
เหตุการณ์ในเวลานั้นเป็นเรื่องใหญ่มาก ตระกูลกู่สั่งให้ชนเผ่าลึกลับออกตามหา ตอนนั้นชนเผ่าลึกลับตระกูลโม่ ตระกูลหนานกงและอื่นๆ ก็บ้าคลั่งตามหาเขา
อาตมาก็อยากหาเขา เพราะท่านอาจารย์ของอาตมา ถูกเขาฆ่าตายอย่างอนาถ
อาตมาในตอนนั้น แค่ต้องการแก้แค้น
ตอนนั้น เขาอายุประมาณ35ปี
เหลือเชื่อ เขามีพลังที่แข็งแกร่งขนาดนี้ได้อย่างไร
“แล้วสุดท้าย หาเจอไหม?”
เฉินเกอฟังถึงตรงนี้ ก็อดถามไม่ได้
อาจารย์หนิงหย่วนส่ายหน้า: “เหมือนเขาสูญหายไปจากโลก เหอะๆ เขาฆ่าคนมากมายขนาดนั้น ไม่เพียงแค่คนของตระกูลกู่ หมู่บ้านใกล้เคียงที่เคยเห็นเขา ก็ถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม แต่เขาก็หายตัวไป การนองเลือดนี้ ไม่สามรถหาคนมาชดใช้ได้!”
“งั้นเขาไปที่ตระกูลกู่ เพื่อไปแย่งชิงอะไร? ทำให้เขาคลั่งได้ขนาดนี้?”
เฉินเกออดถามไม่ได้
“นี่เป็นความลับของตระกูลกู่ ตระกูลกู่ไม่ได้บอกอาตมา แต่อาตมารู้สึกลึกๆ ว่า มันมีอะไรเกี่ยวข้องกับกลีบดอกไม้ประหลาดนั่นที่เขาประทับอาตมาในตอนแรก!”
อาจารย์หนิงหย่วนกล่าว
“กลีบดอกไม้ประหลาด?”
เฉินเกอถามด้วยความประหลาดใจ
จากนั้นอาจารย์หนิงหย่วนก็เปิดไหล่ของตัวเองออก
บนนั้น มีการประทับเครื่องหมายกลีบดอกไม้ที่ชัดเจน
และช่วงเวลาที่ฉันเห็นกลีบดอกไม้นี้
เฉินเกอลุกขึ้นทันที
“บุปผาผี!”
กลีบดอกนี้ ก็คือบุปผาผี
เฉินเกอถูกทรมานไม่น้อยด้วยดอกไม้ชนิดนี้ ที่เห็นในขณะนี้ แม้จะเป็นเครื่องหมาย แต่ก็ทำให้เฉินเกอรู้สึกชาเล็กน้อย
“ทำไม? คุณชายเฉินคุณรู้จักสิ่งนี้?”
อาจารย์หนิงหย่วนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
“ผมเคยได้ยินเพื่อนคนหนึ่งเล่าให้ฟัง ครั้งนี้ผมจะไปหาคนที่ตระกูลกู่ ตระกูลกู่ มีเพื่อนของผมคนหนึ่ง!”
หม่าจิ้นบอกกับอาจารย์หนิงหย่วนแล้วว่าจุดประสงค์ของตัวเองในการตามหาตระกูลกู่ ก็คือการค้นหาและช่วยชีวิตคน
ดังนั้น อาจารย์หนิงหย่วนจึงไม่แปลกใจเมื่อได้ยินเรื่องนี้
แน่นอน แม้ว่าภายนอกเฉินเกอจะสงบนิ่งมาก แต่ในใจก็พลุ่งพล่านแล้ว
“มันน่าแปลกที่หญิงชราคนนั้นมีบุปผาผี และถึงแม้ว่าคุณปู่จะไม่รู้ว่าบุปผาผีคืออะไร แต่ครั้งหนึ่งเขาก็เก็บบุปผาผีไว้เป็นของสะสม ในตอนนี้ คนที่ฆ่าคนอย่างโหดเหี้ยมและชั่วร้ายในตอนนั้น ก็มีบุปผาผี และหญิงชราคนนั้นยังใช้มันเป็นอีกด้วย! ภายในวังราชาสมุทรยังมีบุปผาผีอีกจำนวนมาก!”
สิ่งนี้ทำให้เฉินเกอปวดหัวเล็กน้อย
หรือว่ามีความลับอะไรซ่อนอยู่ภายในบุปผาผีนี่?