ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี! - ตอนที่ 683
บทที่ 683 ไม่ต้องเกรงใจกับผม
“ฉันก็ไม่รู้จักเหมือนกัน คุณเฉินวันนี้ฉันยังมีธุระอีกหลายอย่าง ต้องขออภัยด้วยสำหรับเรื่องที่คุณพูด ฉันเองก็คงช่วยไม่ได้ ฉันยังต้องดูแลแม่ของฉันอยู่!”ซูโร่ซีกล่าว
ถ้าเกิดวันนี้ไม่ใช่สุ่ยเสียเป็นคนพาเฉินเกอมา ตัวเองก็คงไล่เขาให้กลับไปนานแล้ว ไม่มีทางที่จะเสียเวลาคุยกับเฉินเกอนานขนาดนี้
“ประธานซู คุณจะไม่พิจารณาเลยจริงๆหรอครับ ผมเสนอข้อตกลงที่เหมาะสมที่สุดให้แล้ว เงินพวกนี้ก็เหมือนกับคุณได้ไปอย่างฟรีๆเลยนะ แถมขอเพียงแค่คุณตอบตกลง ผมก็ยังสามารถเสนอตัวรักษาอาการป่วยของแม่คุณด้วย!”เฉินเกอพูดต่อ
“ใช่ค่ะประธานซู เฉินเกอเขา……”หลี่สุ่ยเสียเองก็รีบพูดออกมา
หากพูดตามตรงสาเหตุที่หลี่สุ่ยเสียพยายามแนะนำเฉินเกอให้กับประธานซูนั้น นอกจากเฉินเกอจะช่วยรักษาปู่ของเธอจนหายแล้ว ก็ยังมีอีกเหตุผลหลักก็คือเธออยากขอให้เฉินเกอมาช่วยรักษาอาการป่วยให้กับแม่ของประธานซู
แม่ของประธานซูเป็นปัญหาอันใหญ่หลวงที่อยู่ในใจของประธานซูมาโดยตลอด
สำหรับทักษะทางการแพทย์อันมหัศจรรย์ของเฉินเกอ หลี่สุ่ยเสียก็ถือได้ว่าเคยพบเห็นมาแล้ว เพราะหลังจากที่ใช้ยายาเลือดลมไม่ถึงครึ่งชั่วโมง สีหน้าของคุณปู่ก็กลับมาแดงระเรื่ออีกครั้ง ทั้งยังสามารถเดินได้อีกด้วย
ซึ่งมันก็ถือว่าไม่ดูเกินไปที่จะเรียกเฉินเกอว่าหมอเทวดา
“คุณสามารถรักษาโรคได้ด้วย?”
ซูโร่ซีแสดงสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อ
และแล้วคนๆนี้ในใจของเธอเขาก็เป็นคนที่ไม่น่าเชื่อถือ เดี๋ยวก็บอกว่าจะช่วยเหลือเรื่องปัญหาเรื่องการเงิน เดี๋ยวก็บอกว่าจะช่วยรักษาโรคให้กับแม่ ใครเชื่อก็แปลกแล้ว
“ได้ครับ!”
“ขอบคุณมากนะคะคุณเฉิน แต่ฉันกลับยอมเชื่ออัจฉริยะเจินท่านนี้มากกว่า!”
ซูโร่ซีไม่มีอะไรต้องปิดบังจึงพูดความคิดที่อยู่ในใจออกมา และเปลี่ยนเป็นคำผลักไสไล่ส่งเขาด้วย
“ถ้าอย่างนั้นประธานซู คุณอย่าเสียดายทีหลังนะครับ!”เฉินเกอยิ้มออกมาด้วยความเฉยชา
ซูโร่ซีไม่พูดอะไร
แล้วเฉินเถียหลินที่ยืนอยู่ข้างก็หมดความอดทน
“เจ้าเด็กจอมปัญหา ไม่เข้าใจความหมายของโร่ซีหรือไง นายเป็นแค่เด็กที่ยังไม่เอาไหน ยังกล้ามาบอกว่าตัวเองรักษาโรคได้ ฉันว่าเด็กน้อยอย่างนายที่พยายามจะเข้าใกล้คู่หมั้นของฉัน คงเป็นเพราะมีความลับบางอย่างที่บอกใครไม่ได้แน่ๆ สวีไห่เอ๋อ! รีบลากตัวเขาออกไป!”เฉินเถียหลินเรียก
“คุณชายเฉิน ผมได้สาบานไว้แล้วว่าผมจะไม่ลงมือกับคนที่ไม่มีอาวุธ ถ้าตอนนี้คนๆนี้ถืออาวุธอยู่ แล้วยังจะทำร้ายคุณ ผมก็จะสั่งสอนเขา แต่เขาไม่มี ดูแล้วเขาก็แค่คนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น!”แล้วคนชื่อว่าสวีไห่เอ๋อก็เอามือกอดอกพร้อมกับหรี่ตาลงเล็กน้อยแล้วส่ายหน้าปฏิเสธ ก่อนจะมีลมปราณของนักสู้ผู้หยิ่งผยองแผ่ออกมาจากตัวเขา
“เห้อ ไม่ต้องสนคำสัญญาแล้ว สั่งสอนเขาสักตั้งสิ!”เฉินเถียหลินสั่ง
“คุณจะทำอะไร คุณเฉินคนนี้เขามาหาฉัน คุณกล้างั้นหรอ! อย่าคิดว่ามียอดฝีมือตามมาด้วยแล้วคุณจะทำอะไรตามใจก็ได้!”
ซูโร่ซีถึงแม้จะไม่ชอบเฉินเกอแต่สุ่ยเสียอยู่ด้วยตรงนี้ สุ่ยเสียที่เป็นดั่งเพื่อนสาวและพี่น้องไปแล้ว เพราะฉะนั้นสำหรับเรื่องแบบนี้เธอจะต้องออกปากห้าม
ทั้งที่แท้จริงแล้วซูโร่ซีเองก็หวังอยากจะให้เฉินเถียหลินสั่งสอนเจ้าเด็กที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงคนนี้สักหน่อย
“ได้ยินหรือยัง?นี่เป็นคำขอร้องของโร่ซี รีบไสหัวออกไปให้พ้นจากหน้าฉัน ไม่อย่างนั้นฉันจะให้นายได้รู้จักความสุดยอดของฉันคนนี้!”เฉินเถียหลินกล่าวเตือน
เฉินเกอได้แต่หัวเราะฝืดๆพลันส่ายหน้า
“นาย!ไอ้เด็กน้อย นายหัวเราะอะไร?”เฉินเถียหลินโมโห
“เห็นได้ชัดว่าเขากำลังดูถูกคุณชายเฉินอยู่นะครับ!”เจินเหย้าหมิงที่ยืนอยู่ข้างๆพูดขึ้นมา
“หัวเราะกับความหลงตัวเองของคุณไงครับ!”เฉินเกอตอบ
“คนอย่างคุณ……เป็นถึงคุณชายเฉิน?ไม่รู้หรอว่าตัวเองมีกำลังแค่ไหน?”เฉินเกอที่พูดจบก็กำลังจะออกไป
แต่บอดี้การ์ดที่ชื่อว่าสวีไห่เอ๋อก็เดินมาขวางหน้าเฉินเกอเอาไว้
“กล้าดูถูกคุณชายเฉิน จะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น จะต้องอยู่นี่รับการสั่งสอนซะก่อน!”
สวีไห่เอ๋อที่ยังคงกอดอกอยู่นั้นก็หรี่ตาลงมองราวกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้สำหรับเขาแล้วมันก็เป็นแค่มด
ซึ่งสิ่งนี้ก็ถือเป็นความเย่อหยิ่งหนึ่งของเหล่านักสู้
“ดูไม่ออกเลยนะครับว่าคุณเองก็หลงตัวเองมาเหมือนกัน คนหนึ่งก็เอาแต่สั่งให้สั่งสอนคนนั้นที่สั่งสอนคนนี้ที อีกคนก็สุดแสนจะจองหอง ตอนนี้ผมชักจะรู้สึกแปลกใจแล้วสิว่าความหลงตัวเองของพวกคุณมันมาจากไหนกัน ?”เฉินเกอยิ้มอย่างเยาะเย้ย พลางมองไปยังซูโร่ซี
“ผมสามารถรักษาแม่ของคุณให้หายได้ และก็ยังสามารถที่จะช่วยให้คุณฝ่าวิกฤตของบริษัทไปได้ นี่ถือว่าเป็นมารยาท ถ้าคุณไม่ตกลง ถ้างั้นมันก็ถือว่าเป็นอีกเรื่องแล้ว!”เฉินเกอกล่าว
“แม่เจ้า นี่ยังกล้าขู่คู่หมั้นของฉันอีกงั้นหรอ สวีไห่เอ๋อจัดการมันให้หนักไปเลย!”เฉินเถียหลินออกคำสั่ง
“ดูเหมือนว่าวันนี้จะต้องเป็นการยกเว้นลงมือกับมดตัวน้อยซะแล้วสิ!”
สวีไห่เอ๋อราวกับกำลังดีใจ เขาส่ายหน้าไปมากำลังจะเดินเข้าไปข้างหน้า
ป๊าบ!เพียงแค่เฉินเกอตบด้วยหลังมือครั้งเดียวก็เห็นสวีไห่เอ๋อที่กำลังจะเข้าใกล้เขาเมื่อสักครู่นี้ลอยตัวหมุนไปถึงสองรอบก่อนจะเข้าไปกระแทกกับโต๊ะชาอย่างหนัก จนโต๊ะชาพังเละเทะ
แล้วฟันในปากของสวีไห่เอ๋อก็ร่วงลงมาเต็มพื้น สำหรับเฉินเกอนั้นเขาไม่ได้ออกแรงอะไรเลย เพียงแต่ใช้แรงจากการยกแขนขึ้นมาตบเท่านั้นแต่กลับทำให้หน้าของสวีไห่เอ๋อบวมช้ำขึ้นมา แล้วสวีไห่เอ๋อก็ถึงกับเบิกตากว้าง แววตาเต็มไปด้วยความตกใจ
อะไรกัน?ที่แท้เจ้าหมอนี่ก็แข็งแกร่งขนาดนี้เชียว!
ตัวเองไม่สามารถที่จะต้านทานแรงจากเขาได้เลย!
นี่มันเป็นได้อย่างไร?แล้วเฉินเถียหลินที่ตกใจไม่แพ้กัน ก็ถึงกับกลืนน้ำลายอย่างหนักพลันเดินถอยหลัง
ซูโร่ซีนั้นก็ได้แต่กะพริบตาปริบๆ
เห็นได้ชัดว่าทักษะของเฉินเกอ เกินความคาดหมายของเธอไปแล้ว
“นายรู้หรือเปล่าว่าฉันเป็นใคร ฉันเป็นถึงลูกเถ่าแก่บริษัทเฉินซื่อกรุ้ปเลยนะ!”เฉินเถียหลินรีบพูด
“ประโยคแบบนี้ ผมไม่รู้ว่าได้ยินมากี่รั้งแล้ว ค่อนข้างจะชินชาไปแล้ว นี่คุณกำลังขู่ผมด้วย บริษัทเฉินซื่อกรุ้ปของคุณอย่างนั้นหรอครับ?”เฉินเกอเหลือบไปมองเขาด้วยความเยือกเย็น
แล้วมันก็ทำให้ร่างกายของเฉินเถียหลินนิ่งทื่อ ราวกับโดนฟ้าผ่าเสียอย่างนั้น
เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าความกลัวนี้มาผุดขึ้นมาจากไหนกันแน่ แต่เขานั้นกลัวแล้วจริงๆ อย่างกับว่าชิตของเขากำลังจะไม่ใช่ของเขาอีก
“อืมๆ!”เขากลัวจนพยักหงึกๆ
“ขอร้องหล่ะ อย่าทำร้ายฉันเลย!”เฉินเถียหลินพูด
“ผมจะไม่ทำร้ายคุณหรอก!”เฉินเกอไม่แม้แต่จะชายตาไปมองเขาก็หันหน้าไปหาซูโร่ซี
“คุณซู ผมให้เวลาคุณพิจารณาหนึ่งนาที ถ้าเกิดคุณตอบตกลงผมก็จะช่วยรักษาอาการป่วยให้กับแม่ของคุณ แล้วก็ยังจ่ายเงินทุนให้คุณเป็นสิบเท่าเป็นการตอบแทนอีกด้วย!”ที่จริงเมื่อกี้ตอนที่เฉินเกอแสดงฝีมือ ออร่าของเขาก็ปรากฏขึ้นมา สำหรับคำพูดของเฉินเกอซูโร่ซีก็เชื่อไปแล้วเจ็ดถึงแปดเปอร์เซ็นต์
ดูแล้วเขาไม่เหมือนพวกที่ชอบฉ้อโกงแบบนั้น แต่ในทางกลับกันเขากลับทำให้คนรู้สึกกลัว กลัวแบบไหน?ความกลัวที่แท้จริง!
ซูโร่ซีอยากจะตอบตกลงข้อเสนอของเฉินเกอ แต่เธอกลับไม่คุ้นชินกับท่าทางที่ไร้ที่ติแบบนี้ของเฉินเกอ
“เหอะๆ คุณบอกว่าจะช่วยฉัน แต่ว่าคุณจะช่วยได้จริงๆงั้นหรอ?บริษัทของเราเกิดวิกฤติทางการเงิน ต้องการเงินตั้งหนึ่งร้อยล้าน คุณบอกจะจ่ายให้สิบเท่า? คุณล้อเล่นหรือยังไง?”ซูโร่ซีพูดอย่างไม่พอใจ
“แค่หนึ่งร้อยล้านงั้นหรอ?”เฉินเกอแสดงสีหน้าประหลาดใจ
ซูโร่ซีหายใจเข้าอย่างลึก เขาเป็นคนยังไงกันแน่นะ
“ใช่แล้ว อย่างน้อยก็หนึ่งร้อยล้าน จ่ายสิบกว่าเท่าตัว งั้นคุณก็ต้องจ่ายให้ฉันร้อยร้อยล้านเลยสิ!?”ซูโร่ซีพูดอย่างใช้อารมณ์
“ได้!”เฉินเกอพยักหน้า
“ถ้าเกิดเป็นเงินร้อยร้อยล้าน?คุณก็ต้องให้ฉันเป็นพันล้าน?”ซูโร่ซีเบิกตากว้าง
และเฉินเถียหลินเองที่ได้ยินก็ถึงกับอึ้ง
เฉินเกอส่ายหน้าทันที
เหอะๆ!ก็นึกว่าจะเป็นมหาเศรษฐีจริงซะอีก!
ในใจของซูโร่ซีก็เกิดการดูถูกแวบขึ้นมา
จนกระทั่งเห็นเฉินเกอหยิบเช็คออกมาจากกระเป๋าเสื้อของเขา
“นี่คือเช็คพิเศษที่ผมได้มาจากธนาคารก่อนที่จะมาที่นี่ วงเงินไม่จำกัด เพียงแค่คุณตอบตกลง ตัวเลขบนนั้นคุณสามารถเขียนได้ตามใจเลย!”เฉินเกอส่งเช็คให้กับเธอทั้งยังไม่ลืมที่จะพูดเสริม
“ใช่แล้ว คุณอยากเขียนเท่าไหร่ก็เขียนเท่านั้น เพียงแค่คุณสามารถเขียนตัวเลขออกมาได้ แล้วก็ไม่ต้องเกรงใจ!”
“คุณ!”ทันใดนั้น ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ต่างพากันเบิกตากว้าง…