ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี! - ตอนที่ 724
บทที่ 724 ผมติดค้างคุณอยู่สองอย่าง
“อะไรนะ?คุณว่าคุณคือใครนะ?”
รปภ.กล่าวด้วยความหวาดกลัว
ไม่ว่าจะอย่างไรเขาคิดไม่ถึงว่าชายหนุ่มที่ยากจนคนนี้จะกล้าบอกว่าตนคือคุณชายเฉิน
แน่นอน เพียงแค่มองภายนอก เขาต้องไม่เชื่อแน่นอน
แต่สิ่งที่ทำให้เขาเกรงกลัวก็คือ
แววตาของชายหนุ่มคนนี้
เมื่อกี้เขาไม่ได้สังเกตดูดีๆ
บัดนี้เมื่อเห็นแววตาของเฉินเกอ และได้ประสานตากับเฉินเกอ จู่ๆเขาก็รู้สึกมีอะไรบางอย่างกำลังพุ่งมากดขี่ข่มเหงตน
ซึ่งสิ่งนี้ทำให้เขาเสียวสันหลังมาก บวกกับกำลังแรงที่น่าเกรงกลัวของชายหนุ่มคนนี้
จึงไม่มีเหตุผลที่เขาจะไม่เชื่อ หรืออาจจะพูดว่าไม่กล้าที่จะไม่เชื่อก็ได้
บัดนี้ เขาหยุดชะงัก
ส่วนพวกหยางเสว่ก็ต้องหยุดชะงักไปด้วยเช่นกัน
“ฮ่าๆๆ เฉินเกอ ฉันได้ยินไม่ผิดใช่ไหม?นายว่านายเป็นใครนะ?”
หยางเสว่กล่าวด้วยน้ำเสียงหัวเราะ
เมื่อกี้หยางเสว่คิดว่าเฉินเกอจะถูกซ้อนจนน่าอนาถ คิดไม่ถึงว่าเขาจะมีความสามารถอย่างนี้ด้วย
เมื่อเทียบกันแล้ว เธอพุ่งประเด็นไปที่คำพูดของเฉินเกอที่บอกว่าเขาเป็นคุณชายเฉินมากว่า
คุณชายเฉินคือใคร?คือเศรษฐีอันดับหนึ่งในเมืองจินหลิงเชียวนะ และเป็นผู้มีชื่อเสียงเกรียงไกร
ถ้าเขาเป็นคุณชายเฉิน ตัวเองก็จะเป็นคุณนายของคุณชายเฉินแล้วสิ?ไม่ถูก ต้องเป็นอดีตคุณนายต่างหาก มันเป็นไปได้อย่างไรกัน
โดยเฉพาะเฉินเกอบอกว่าตนเป็นคุณชายเฉิน หยางเสว่ก็รู้สึกตื่นตระหนกอย่างบอกไม่ถูก ไม่ได้มีความเกี่ยวพันกับคนนี้แล้วแท้ๆ แต่ทำไมตนถึงได้กลัวอย่างนี้
ชั่วพริบตาเดียว หลี่เจิ้นกั๋วก็มาถึงที่ประตูทางเข้า
คิดว่าบัดนี้พี่สาวคงจะบอกอะไรเขาแล้ว และคงให้เขาดูรูปถ่ายของตนแล้วด้วย
เจิ้นกั๋ววิ่งมาหาตนอย่างดีอกดีใจ
“คุณชายเฉิน!”
เขาโค้งคำนับเก้าสิบองศา。
“คุณชายเฉิน!!!”
และผู้บริหารระดับสูงของบริษัทต่างก็ขานเป็นเสียงเดียวกัน
ใช่แล้ว ชายหนุ่มตรงหน้าคนนี้ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นคุณชายเฉิน ชื่อเฉินเกอที่ถูกตระกูลชุบเลี้ยงมาในสิ่งแวดล้อมที่ยากจนแสนเข็ญ
“อะไรนะ?”
บัดนี้ หยางเสว่กับพวกลู่หยางตกตะลึงจนเอ๋อไปเลย
โดยเฉพาะลู่หยางที่สีหน้าเปลี่ยนเป็นเขียวขึ้นมาทันที
คนยากไร้ในสายตาของตน ที่แท้แล้วเป็นคุณชายอย่างนั้นหรือ แม้กระทั่งประธานหลี่ก็ต้องโค้งคำนับด้วย?
พวกเขาเริ่มค่อยๆหายใจเร็วขึ้น แทบอยากจะมุดแผ่นดินหนีเลยทีเดียว
“อืม ประธานหลี่ผมมีเรื่องสำคัญจะหารือกับคุณ พวกเราเข้าไปคุยกับในห้องทำงานกันเถอะ!”
เฉินเกอพยักหน้า
“ครับ คุณชายเฉิน!”
หลี่เจิ้นกั๋วกล่าว
เมื่อกำลังจะเดินเข้าไป
“รอเดี๋ยว!”
หยางเสว่อดไม่ได้ที่จะตวาดเสียงออกมา
“หืม?ท่านสุภาพสตรีท่านนี้ไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไรหรือครับ?”
หลี่เจิ้นกั๋วมองเธอ
“ประธานหลี่ค่ะ คุณแน่ใจว่าไม่ได้จำคนผิดใช่ไหมคะ เขาชื่อเฉินเกอเป็นนักศึกษามหาลัยเดียวกัน ไม่ใช่คุณชายเฉินอะไรนั้น!เขาจะเป็นคุณชายเฉินได้ยังไงคะ?”
หยางเสว่รั้งหลี่เจิ้นกั๋วแล้วเอ่ยปากพูดขึ้นมา
“จำไม่ผิดแน่นอนครับ และคุณชายเฉินก็คือเฉินเกอครับ!”
หลี่เจิ้นกั๋วพูดด้วยเสียงเรียบเฉย
“เป็นไปไม่ได้ มันเป็นไปไม่ได้!”
หยางเสว่ล้มถอยหลังไปสองก้าว คำพูดเมื่อกี้ของหลี่เจิ้นกั๋วเหมือนไม่ใช่คำพูด แต่เป็นสายฟ้าที่เปี่ยมไปด้วยนักทำลายที่แข็งแกร่ง ทันใดนั้น มันได้ผ่าทำลายความหวังและความโหยหาของตนทั้งหมด
ทันใดนั้นรู้สึกว่าตนได้สูญเสียทุกอย่างไปแล้ว
“เสี่ยวเกอ!”
อย่าพูดถึงว่าตอนนี้หยางเสว่เสียใจกับการตัดสินใจเลือกแค่ไหน
“ช่างมันเถอะ ในเมื่อเลิกกันแล้วก็อย่าได้มาพัวพันกันอีกเลย ใช้ชีวิตต่อไปดีๆ ผมยังธุระที่ต้องจัดการ!”
เฉินเกอไม่ได้สนใจเธอต่อ เดินตรงเข้าไปด้านในของวิลล่าสปาทันที
เหลือไว้แต่เพียงผู้คนที่ตกตะลึงอย่างงุนงงและหยางเสว่ที่เสียใจภายหลังเป็นที่สุด
“คุณชายเฉินครับ คุณพูดถูกแล้วครับ ช่วงนี้วิลล่าที่หยุนติ่งเมาท์เทนแห่งหนึ่งจะทำการประมูลขายครับ คุณจะซื้อเหรอครับ?”
ในห้องทำงาน หลี่เจิ้นกั๋วกำลังถามอยู่
พูดตามความจริง นี่เป็นครั้งแรกที่หลี่เจิ้นกั่วได้พบหน้าคุณชายเฉิน คิดไม่ถึงว่าคุณชายเฉินจะไม่เป็นอย่างที่ตนคาดเดาเอาไว้
ตอนแรกเขาคิดว่าคุณชายเฉินเติบโตมาในฐานะที่ยากจนตั้งนาน ถึงแม้จะรู้สถานะที่แท้จริงของตัวเองแล้ว ยังไงก็คงต้องใช้เวลาสักพักหนึ่งในการปรับตัวถึงจะถูก
ควรจะปรากฏตัวในสภาพที่เขินอายทำตัวไม่ถูกและใสซื่อต่อหน้าทุกคน แต่สิ่งที่ทำให้หลี่เจิ้นกั๋วคาดไม่ถึงก็คือคุณชายเฉินท่านนี้มีความกล้าหาญชาญชัย และให้ความรู้สึกถูกบีบคั้นจนต้องสยบแทบเท้า
และความรู้สึกถูกบีบคั้นนี้ช่างรุนแรงเสียจริง มันทำให้เกือบจะหายใจไม่ออก
“อืม ไม่เพียงแต่จะซื้อเท่านั้น ผมยังจะให้คุณรีบจัดหาทีมวิศวกรทันที เพื่อจะให้ไปขุดเจาะบริเวณด้านล่างของคฤหาสน์หยุนติ่งเมาท์เทน ด้านในดินมีก้อนหินมหึมาอยู่ก้อนหนึ่ง ซึ่งมีประโยชน์ต่อผมมาก ให้เวลาคุณทำงานให้เสร็จภายในระยะเวลาหกวัน ควรทำยังไงคงไม่ต้องให้ผมพูดเยอะใช่ไหม?”
เฉินเกอกล่าว
“ผม……ผมเข้าใจครับ!”
ตอนแรกหลี่เจิ้นกั๋วอยากจะถามว่าทำไมถึงทำเช่นนี้ แต่พอจะเอ่ยปากพูดก็กลับกล้ำกลืนคำพูดเสียเอง
เขารู้ว่าบางอย่างตัวเองสมควรจะถาม และมีบางคำถามที่ตนถามไม่ได้
“คุณชายเฉิน ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้เลยครับ!”
เขาตอบรับ
เมื่อสั่งการเรื่องนี้เสร็จแล้ว วันที่ต่อๆมาเฉินเกอก็แค่รอคอยเท่านั้น
แน่นอน การกลับมาในอดีตครั้งนี้ ไม่ใช่จะได้มาง่ายๆ
ดังนั้นเขาจะถือโอกาสนี้เพื่อชดใช้ให้กับมู่หานที่เคยมองข้ามไป
ตอนนั้นตนพูดอยู่ตลอดเวลาว่า รอให้พวกเราแต่งงานกันแล้ว จะทำให้คุณเป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุดในโลกเลย
แต่ตัวเองกลับทำอย่างนั้นไม่ได้
มู่หานก็เกิดเรื่องเสียก่อน สามารถพูดได้ว่าตนไม่เคยให้อะไรแก่เธอเลย
ครั้งนี้เฉินเกอไม่ได้ไปคิดถึงเรื่องจะอยู่ด้วยกันหรือไม่ เขาคิดว่าช่วงเวลาสั้นๆในหกวันนี้จะต้องทำให้มู่หานมีความสุขอย่างล้นพ้นแน่นอน
จากนั้นเฉินเกอก็กลับไปยังมหาวิทยาลัย
เขามาถึงร้านขายชานม
“เถ้าแก่ ขอชานมแก้วหนึ่งครับ!”
เฉินเกอกล่าว
“นายนาย นายยังไม่จบอีกเหรอ?ยังคิดจะมาก่อความวุ่นวายอีกเหรอ นายมีเงินไหมล่ะ?”
เถ้าแก่กลัวมาก
“ไม่ต้องทอน!”
ตอนนี้เฉินเกอล้วงธนบัตรหนึ่งร้อยหยวนให้แก่เขา
เถ้าแก่ตกตะลึง“ไม่ใช่ว่าไปขโมยมานะ?”
“ไอ้มารดาคุณเถอะ คุณทำชานมได้อร่อย แต่มีคำพูดที่ไร้สาระเกินไป รีบๆ!”
เฉินเกอพูดอย่างเบื่อหน่าย
“ได้ครับ!”
เถ้าแก่ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก ไม่ช้าก็ยื่นแก้วชานมให้เฉินเกอหนึ่งแก้ว
เฉินเกอรับมาแล้ว จากนั้นก็เดินไปยังอาคารเรียนสาขาวิชาวิทยุกระจายเสียง
ในห้องเรียนของซูมู่หาน
บัดนี้เป็นช่วงเวลาเรียนมีครูผู้ชายคนหนึ่งกำลังสอนอย่างไม่หยุดหย่อน
ทันใดนั้น ประตูห้องเรียนถูกเปิดออก
นักศึกษาทุกคนต่างเงยหน้าไปมองที่ประตู
เห็นเฉินเกอถือชานมเข้ามา ทุกคนต่างก็รู้สึกมึนงง
เพราะคนนี้เป็นที่รู้จักกับเกือบทั้งมหาวิทยาลัยแล้ว ซึ่งเป็นคนยากไร้ เขามาที่สาขาวิชาวิทยุกระจายเสียงทำไมกัน?
“มู่หานดูเร็ว คือเขา!”
มู่หานกำลังจดบันทึกอย่างใจจดใจจ่อ ถึงคนสะกิดจึงได้สติขึ้นมา
เงยหน้าขึ้นมาคนผู้นี้ ใบหน้าเธอก็เริ่มรู้สึกแดงขึ้นมา
“นักศึกษาคนนี้มีเรื่องอะไรเหรอครับ?มาทำอะไรที่ห้องของพวกเราครับ?”
คุณครูถอดแว่นออก
ถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา
เฉินเกอไม่ได้สนใจ มืออีกข้างล้วงเข้ากระเป๋ากางเกง จากนั้นก็เดินตรงไปยังด้านหน้าของซูมู่หาน
“นี่เป็นชานมที่ผมติดค้างคุณไว้ ตอนนี้คืนให้คุณครับ!”
เฉินเกอวางชานมไว้ตรงหน้ามู่หาน
“อ้าว!”
คนทั้งห้องต่างอุทานเป็นเสียงเดียวกัน
เด็กยากจนคิดจะจีบหงส์ขาว?โอ้โห เหมือนจู่ๆก็มีละครมาฉายอยู่ตรงหน้า ดังนั้นทุกคนจึงรู้สึกว่ามันไม่ใช่ความจริง!
“ไม่……ไม่ต้องคืน คุณรีบกลับไปเถอะ!”
ซูมู่หานก็คิดไม่ถึงว่าจะมากะทันหันเช่นนี้ ขณะนี้จึงตกตะลึงพรึงเพริด และมีผู้ชายจำนวนมากกำลังส่งสายตาพิฆาตมายังเฉินเกอ
“อันที่จริงผมยังติดค้างทุกอีกสองอย่าง ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะชดใช้คืนให้คุณได้!”
เฉินเกอมองเธอแล้วพูดอยากตั้งใจ
“สองอย่างอะไรเหรอคะ?”
ซูมู่หานถามอย่างเขินอาย
“อันแรกคือคำมั่นสัญญา และอีกอันคือดวงใจ!