ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี! - ตอนที่ 755
บทที่ 755 การปรากฏตัวของคุณชายหลี่
สิ่งที่ในใจของเฉินเกอคิดถึงมาตลอด ก็คือเรื่องของปีศาจวัวที่เขาเห็นในวันนี้
เขาเล่าเรื่องที่พบบนหมู่ตึกหู้หลงให้หลินจิ่วฟังอย่างละเอียด
นั่นเพราะสำหรับอสูรบางตัว เฉินเกอไม่เคยเจอกับพวกมันมาก่อน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อสูรที่สามารถใช้วิชาอสูรได้
ความเข้าใจในต่อเรื่องนี้ของเฉินเกอ ยังคงจำกัดอยู่แค่จิตอสูรที่ติดอยู่กับร่างกายเท่านั้น
และเนื่องจากอีกไม่นานก็ใกล้ค่ำแล้ว เฉินเกอจึงยังต้องรีบไปร่วมงานวันเกิดของว่านเสว่
ดังนั้นจึงให้หลินจิ่วติดตามตนไปด้วยกัน และพูดคุยระหว่างเดินทาง
ที่แท้ ในโลกนี้ นอกจากผู้ฝึกตนจำนวนน้อยนิดแล้ว ยังมีอสูรวิเศษอยู่อีกด้วยเช่นกัน
เพียงแต่ว่าส่วนใหญ่แล้วพวกมันมักจะอาศัยอยู่ใต้ดินหรือในถ้ำ
ยากนักที่คนธรรมดาจะได้พบเจอ
ถึงกับเอ่ยได้ว่า ต่อให้พบเจอเข้าแล้ว ก็ยากที่จะรอดชีวิตออกมา
ดังนั้น ข้อมูลเกี่ยวกับอสูรจึงมีน้อยอย่างยิ่ง
ส่วนอสูรเอง ก็มีการแบ่งระดับโลกการฝึกตกไม่ต่างจากผู้ฝึกตน
อสูรที่สามารถควบคุมเจินชี่จองตนเองได้ ก็ถูกเรียกว่าผู้ฝึกตนเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เป็นเพราะการที่อสูรสามารถก้าวไปถึงขั้นดังกล่าวนั้นเป็นเรื่องที่ยากเสียยิ่งกว่ายาก แน่นอนว่า หลังจากที่พวกมันสามารถฝึกตนได้แล้ว ความแข็งแกร่งของพวกมันย่อมเหนือกว่ามนุษย์หลายเท่านัก
หากนักพรตชั้นหนึ่งเจอเข้ากับอสูรนักพรตชั้นหนึ่ง
ก็คงจะต้องถูกอสูรบดขยี้ลงแน่
หลังจากฟังคำอธิบายของหลิยจิ่ว
เฉินเกอก็เกือบจะเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดขึ้นแล้ว
ไม่น่าแปลกใจเลยที่หลี่เส้าจงและชายที่ชื่อลุงโม่นั่น เมื่อสังเกตลมปราณของปีศาจวัวแล้วถึงได้ประเมินปีศาจวัวต่ำเกินไป
แต่เพียงแค่พริบตาเดียว ก็กลับถูกปีศาจวัวเล่นงานจนยับเยิน
เห็นได้ชัดว่า เป็นเพราะเหตุผลนี้นั่นเอง
จากนั้น เฉินเกอได้คุยกับหลินจิ่วเกี่ยวกับเรื่องของตระกูลว่าน
ในขณะเดียวกัน
ทางด้านตระกูลว่าน
เมื่อถึงเวลาพลบค่ำ ภายในสวนแห่งนี้ก็ประดับประดาไปด้วยแสงไฟ
เนื่องจากวันนี้ เป็นวันเกิดของว่านเสว่คุณหนูใหญ่ของตระกูลว่าน
“เสว่เสว่ วันนี้เธอสวยมาก! ”
“เสว่เสว่สุขสันต์วันเกิด! ”
เพียงชั่วขณะหนึ่ง คนตระกูลร่ำรวยมากมายในเมืองจี้โจวก็มาเพื่อพร้อมของขวัญเพื่อแสดงความยินดี
แน่นอนว่า คนรวยเหล่านี้มีมากมายหลายคนที่มีจุดประสงค์อื่น
ต่อหน้าว่านเสว่ จึงต้องแสดงความสง่าหล่อเหล่าและยอดเยี่ยมออกมา
ท้ายที่สุดแล้ว การได้เป็นลูกเขยของตระกูลว่าน ถือได้ว่าเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เรื่องหนึ่ง
แต่เห็นได้ชัดว่า ว่านเสว่กลับทำแค่ตอบรับอย่างสุภาพตามมารยาทกลับไปเท่านั้น คุณชายเหล่านั้นต่อให้จะหล่อมากกว่านี้อีกสักแค่ไหน ก็ไม่อยู่ในสายตาของเธอ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหัวใจของเธอ
“เสว่เสว่ วันนี้ดูเหมือนเธอจะมีบางอย่างอยู่ในใจนะ! ”
ซิ่วซิ่วที่ด้านหนึ่งกำลังมองว่านเสว่ทักทายคนอื่นและก็ท่าทางเหม่อลอยอยู่ เมื่อเห็นเช่นนี้ก็อดไม่ได้ที่จะถาม
“ไม่…..ไม่มีนี่”
ใบหน้างดงามของว่านเสว่เปลี่ยนเป็นสีแดง อีกทั้งยังไม่สามารถปกปิดร่องรอยแห่งความผิดหวังได้
“หึ ยังบอกว่าไม่มีอีก ให้ฉันเดา ฉันว่า เธอกำลังผิดหวังใช่ไหม ที่วันนี้หลี่เส้าจงคนนั้นทำไมถึงทิ้งเธอไป นอกจากนี้ เขาก็รู้ว่าวันนี้เป็นวันเกิดของเธอ วันนี้เขาจะมาหรือไม่ อย่างน้อยๆ เขาก็น่าจะมาแน่ เธอกำลังให้คำอธิบายกับตัวเอง ใช่ไหม? ”
ซิ่วซิ่ว กล่าว
“เธอ….เธอกำลังพูดถึงอะไร! ”
ว่านเสว่ราวกับกระต่ายขาวตัวน้อยที่ถูกเหยียบหางเอาไว้ เธอเอ่ยอย่างลนลาน
“ฮ่าฮ่าฮ่า ถูกฉันจี้ใจดำล่ะสิ ฉันยังรู้มากกว่านี้อีกนะ?”
“เธอยังรู้อะไรอีก?”
ว่านเสว่เอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์
“ฉันยังรู้ด้วยว่า ถ้าหลี่เส้าจงเต็มใจมาในคืนนี้และให้คำอธิบายกับเธอ เธอก็จะให้อภัยเขาอย่างแน่นอน แม้ว่าเขาจะทิ้งเธอไปในตอนนั้น แต่ฉันก็รู้จักนิสัยของเธอดี หากเธอเห็นใครสักคนเป็นคนในดวงใจเข้าให้แล้ว ไม่ว่าเขาจะทำอย่างไรกับเธอ เธอก็จะยังรักเขาคนนั้นเสมอ!”
“แต่ฉันแต่อยากจะเตือนเธอไว้นิดหน่อยเสว่เสว่ นิสัยของหลี่เส้าจงฉันไม่ชอบเท่าไหร่ เขาเย่อหยิ่งเกินไป อีกทั้งฉันยังรู้สึกได้ว่า ต่อให้เธอกับเขาคบหากัน เขาจะต้องโลภอยากได้บางอย่างที่เป็นสมบัติของตระกูลว่านของพวกเธอแน่ ประโยคนี้ที่ฉันเอ่ยเธออาจจะไม่ชอบใจที่ได้ฟัง แต่เพราะพวกเราเป็นเพื่อนกัน ฉันจึงต้องเอ่ยออกมา!”
ซิ่วซิ่วเอ่ย
ว่านเสว่ขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ยังคงดึงมือของซิ่วซิ่วเข้ามาและพยักหน้าอย่างขอบคุณ
“แล้ว….แล้วเฉินเกอคนนั้นล่ะ? ในเมื่อเธอได้เลือกหลี่เซ้าจงเป็นคนในดวงใจของเธอแล้ว แล้วทำไมถึงได้เชิญเฉินเกอด้วย?”
ซิ่วซิ่วถามด้วยรอยยิ้ม
ว่านเสว่ครุ่นคิดอยู่นานแล้วค่อยพูดขึ้น “ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน แต่ฉันรู้สึกมีความสงสัยต่อเฉินเกอคนนั้น ไม่เพียงแต่เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อตอนกลางวันเท่านั้น ดังนั้น ฉันอยากพบเขาอีกสักครั้ง และลองติดต่อกับเขาสักหน่อย เพื่อดูว่าเขาเป็นคนแบบไหน ในช่วงแรกๆ ฉันถึงกับมีความคิดที่จะจับคู่เธอกับเขา ฮ่า ๆ แต่หลังจากคิดดูแล้วก็แล้วไปยังจะดีกว่า เพราะเขาไม่ได้อยู่ในโลกเดียวกับเรา ดังนั้นการเชิญเขามาทานอาหารสักมื้อ ก็เพื่อตอบแทนน้ำใจในวันนี้!”
ว่านเสว่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ และหัวเราะ
“เธอนี่น้า ร้ายกาจจริงๆ เลย หึ คนที่เสว่เสว่ไม่ชายตามอง คิดจะโยนให้ฉันก็โยนมาง่ายๆ งั้นหรือ? ฉันไม่ได้อยากได้สักหน่อย หึ!”
ซิ่วซิ่วถกเถียงกับว่านเสว่ขึ้นมา
ในขณะที่กำลังพูดคุยกันอยู่
ซิ่วซิ่วก็ชี้ไปที่ด้านหน้า
“ว่านเสว่รีบดูเร็ว เฉินเกอมาแล้ว! ”
ซิ่วซิ่วเอ่ยตะโกน
จากนั้น ว่านเสว่จึงเหลือบมองไปที่ประตู
เธอเห็นเฉินเกอกำลังเดินมาทางด้านนี้พร้อมกับของขวัญ
ในใจกลางของว่านเสว่ จู่ๆ ก็กระโดดโลดเต้นขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผลอีกครั้ง
“คุณหนูว่านเสว่ ขอบคุณสำหรับคำเชิญ สุขสันต์วันเกิด!”
เฉินเกอกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“อืม ขอบคุณ! ยังมี ขอบคุณที่พวกคุณช่วยชีวิตของฉันเอาไว้ที่หมู่ตึกหู้หลง คืนนี้ จะต้องกินดื่มให้เต็มที่!”
แม้ว่าในใจของว่านเสว่จะรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยกับเฉินเกอ
แต่แค่เห็นท่าทางน่าเกรงขามจนทำให้ใจเต้นของเขา ก็ทำให้ว่านเสว่จะต้องมองเขามากขึ้นอีกหน่อยอย่างห้ามไม่ได้
นั่นเพราะเธอไม่แน่ใจว่า ความรู้สึกนี้ใช่หัวใจที่กำลังเต้นแรงหรือไม่
“อืม! ”
เฉินเกอพยักหน้า
ทั้งสองคนสบตากัน
ณ ตอนนี้
ทันใดนั้นท้องฟ้าก็สว่างไสวขึ้นด้วยดอกไม้ไฟหลากสี ปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า ราวกับว่ามันแผ่ออกไปทั่วเมืองจี้โจว
“ว้าว!”
หลายคนเริ่มกรีดร้องขึ้นมา
ในท้ายสุด ดอกไม้ไฟก็ปะทุออกเป็นตัวอักษรสองสามคำในอากาศ
“ว่านเสว่ สุขสันต์วันเกิด! ”
คำทั้งหกนี้ ช่างน่าตื่นตาอย่างยิ่งในอากาศ
ว่านเสว่เองก็ตื่นเต้นเช่นกัน
ที่น่าแปลกใจยิ่งกว่านั้นยังอยู่ในหลังสุด
ในเวลานั้นเอง ก็มองเห็นผ้าสีแดงผืนหนึ่งลอยมาจากอากาศ
จากนั้นมันจึงค่อยๆ ตกลงมาต่อหน้าว่านเสว่
ตูม!
ผ้าสีแดงระเบิดขึ้น พร้อมกับริบบิ้นหลากสีที่กระจายออกต่อหน้า
เมื่อริบบิ้นถูกเปิดออก
ก็มีแท่นวงกลมปรากฏขึ้นที่พื้น
บนเวที เป็นหลี่เส้าจงที่ปล่อยผมยาว และสวมชุดทักซิโด้ กำลังยืนล้วงกระเป๋าด้วยมือข้างหนึ่ง
ฉากตรงหน้า เต็มไปด้วยความแฟนตาซีและโรแมนติก
จนทำเอาแทบทั้งงานแตกตื่นขึ้นมา
อารมณ์ของทุกคนในงานพุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุดทันที
อีกทั้งว่านเสว่เอง ก็รู้สึกประหลาดใจและประทับใจอย่ายิ่งเช่นกัน
นั่นเพราะในตอนนี้ ราวกับว่าเธอได้เห็นการมาถึงของฮีโร่ก็มิปาน
ฮีโร่ในดวงใจของเธอ
อย่างไรก็ตาม หลี่เส้าซงยังคงหลับตา ราวกับเพลิดเพลินไปกับเสียงเชียร์ของฝูงชน
ในสายตาของเขา หากคนธรรมดาเหล่านี้ตรงหน้าเขา นอกจากการกินและนอนแล้ว หน้าที่เดียวที่มีประโยชน์ก็คือ สามารถมองเห็นเขาเป็นเทพเจ้า และส่งเสียงเชียร์ให้ มีแค่นั้นจริงๆ !
หลังจากนั้นไม่นาน หลี่เส้าจงก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น
มันเป็นดวงตา
นั่นเพราะเขาสาบานไว้ว่า นอกจากจะเจออาจารย์ที่ยอดเยี่ยม ไม่งั้น เขาจะไม่มีทางลืมตาขึ้นมาอย่างสมบูรณ์
นั่นเป็นเพราะเขาไม่ต้องการให้มนุษย์บางคนต้องทำให้ดวงตาของเขาแปดเปื้อน