ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี! - ตอนที่ 758
บทที่ 758 ผู้ฝึกตนชั้นสามเสี้ยวชางเซิง
“นายเป็นใคร?”
เฉินเกอเงยหน้าขึ้นมองเขา เมื่อเห็นใบหน้าที่ชั่วร้ายของเขา ก็อดไม่ได้เอ่ยถามอย่างสงสัย
บนตัวของคนๆ นี้ เต็มไปด้วยลมปราณของผู้ฝึกตน มองดูแล้ว ยังอยู่เหนือกว่าหลินจิ่ว
ดังนั้นจึงอดไม่ได้ที่เฉินเกอจะมองดูสักหน่อย
อันที่จริง ตั้งแต่ออกมาจากตระกูลว่าน เฉินเกอก็สังเกตเห็นแล้วว่าดูเหมือนจะมีผู้ฝึกตนอยู่รอบๆ ตัวเขา
แต่เทศกาลใต้ดินนี้ครั้งนี้ มีการหลั่งไหลเข้ามาของผู้ฝึกตนจำนวนไม่ใช่น้อย
เขาไม่ได้เปิดเผยตัว เฉินเกอเองก็ไม่ได้พูดอะไรมาก
จนกระทั่งถึงตอนนี้ เขาปลดปล่อยลมปราณที่แท้จริงออกมา และคิดจะล่อเฉินเกอให้มาที่นี่
เฉินเกิดจึงอยากรู้ว่าคนๆ ต้องการจะทำอะไรกันแน่
“ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่คาดคิดว่าคนชราอย่างฉัน จะได้เจอชายหนุ่มที่มีพรสวรรค์เช่นนี้ เมื่อเทียบกับหลี่เส้าจงแล้วยังแข็งแกร่งยิ่งกว่ามากนัก สวรรค์ช่างมีตา!”
ชายชราไม่ตอบคำถาม แต่เขากลับเอาแต่หัวเราะ
สิ่งนี้ทำให้ในใจของเฉินเกอรู้สึกหดหู่ยิ่งขึ้นกว่าเดิม
“สรุปแล้วคุณคือใคร? ”
เฉินเกอหมดความอดทน
“ฮ่าฮ่าฮ่า…..น้ำเสียงน่าทึ่ง ช็อกเหล่าชีวิตทั้งหลาย หนุ่มน้อย ก่อนที่นายจะตาย จงรับฟังให้ดีๆ ฉันชื่อเสี้ยวชางเซิง! หัวเราะเดียวเขย่าโลกา! ฮ่าฮ่าฮ่า … ”
เมื่อชายชราพูดจบ เขาก็เงยหน้าขึ้นและหัวเราะอีกครั้ง
คราวนี้เสียงหัวเราะดังลั่นของเขา มาพร้อมกับฝุ่นที่คละคลุ้งไปมารอบด้าน
“ไม่รู้จัก!”
เฉินเกอส่ายหัวและเอ่ยขึ้น
“หืม? ”
ในที่สุดเสี้ยวชางเซิงก็หยุดหัวเราะ คราวนี้เขาขมวดคิ้วแน่น ใบหน้าเต็มไปด้วยความโมโห
“ดีมาก เด็กน้อย นายมีดีมากกว่าที่ฉันคิด บนโลกนี้ ผู้ฝึกตนธรรมดาทั่วไป….”
“พอแล้วพอแล้ว เมื่อครู่คูณเพิ่งบอกว่าก่อนที่ฉันจะตาย ฟังความหายของคุณแล้ว คุณล่อผมมาที่นี่ เพราะอยากจะฆ่าผม?”
โดยไม่ทันรอให้เสี้ยวชางเซิงพูดจบ เฉินเกอขัดจังหวะเขาอย่างหมดความอดทน
เห็นได้ชัดว่า เสี้ยวชางเซิงไม่พอใจอย่างยิ่งกับท่าทีหยิ่งผยองของเฉินเกอ
ส่วนใหญ่เมื่อผู้ฝึกตนธรรมดาทั่วไปเห็นเขาแล้ว ไหนเลยจะกล้าไร้มารยาทขนาดนี้
แต่ชายหนุ่มคนนี้ กลับหยิ่งผยองเสียจริง แต่ท่าทีไม่เกรงกลัวเช่นนี้ อีกไม่นานก็จะต้องชดใช้ค่าตอบแทนออกมาแล้ว
จากนั้นเสี้ยวชางเซิงก็ระงับความโกรธภายในใจลง
เขายิ้มเย็นเอ่ย “นับว่านายยังฉลาด แน่นอน นายเองช่างโง่อย่ายิ่ง โง่ที่ไปพบเข้าให้กับการดำรงอยู่ของราชาปีศาจ แต่กลับยังทำตัวไม่รู้ร้อนรู้หนาวเช่นเดิม ถึงนายจะไม่รู้จักฉัน อย่างนั้นก่อนที่นายจะตาย ฉันจะให้นายได้รู้เอง!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า …”
พูดจบ เขาก็หัวเราะดังลั่นอีกครั้ง คราวนี้ต้นไม้รอบๆ ตัวเขาแยกออกโดยตรง อีกทั้งน้ำในแม่น้ำก็พลุ่งพล่านราวกับกำลังถูกต้มจนเดือด
“มารดาเถอะ มาอีกแล้ว! ”
ความคิดของเฉินเกอจะถูกทำลายด้วยเสียงหัวเราะของเขา
ถ้าไม่ใช่เพราะบนตัวของชายชราผู้นี้มีลมปราณอันแข็งแกร่ง เกรงว่าเฉินเกอคงคิดไปแล้วว่าชายคนนี้หนีออกมาจากโรงพยาบาลบ้า!
“ฉันเสี้ยวชางเซิง เข้าสู่โลกแห่งการฝึกตนมานานแล้ว อีกทั้งยังดื่มเลือดทิพย์เป็นอาหาร พูดได้ว่า ฉันคือฝันร้ายของผู้ฝึกตนหลายคน แน่นอนว่า ตอนนี้ก็เป็นฝันร้ายของนายเช่นกัน…..ฮ่าฮ่าฮ่า!”
เสี้ยวชางเซิงด้านหนึ่งเอ่ย ด้านหนึ่งก็แสยะยิ้มอย่างตะกละ
“ฉันเข้าใจแล้ว … ” จู่ๆ เฉินเกอก็เข้าใจแล้ว “คุณอาศัยการดูดเลือดทิพย์ในการฝึกตน ฉันว่า คุณรู้ว่าเทศกาลใต้ดินจะต้องมีผู้ฝึกตนจำนวนไม่น้อยมาเข้าร่วม ดังนั้นจึงเข้ามาแฝงตัวอยู่ในความมืด เพื่อมองหาผู้ฝึกตน จากนั้นจึงหลอกพวกเขามาดูดเลือดใช่ไหม?”
“ช่างฉลาดจริงๆ แต่เดิม เป้าหมายของฉันไม่ใช่นายแต่เป็นหลี่เส้าจง อย่างไรก็ตาม ในภายหลังฉันพบว่าพรสวรรค์ของนาย อีกทั้งคุณภาพของเลือดทิพย์ของนายนั้น หลี่เส้าจงเทียบไม่ติดเลยสักนิด ดังนั้นนายจึงกลายเป็นสมบัติก้อนหนึ่ง หลังจากดูดเลือดนายแล้ว การบำเพ็ญพลังของฉันก็จะยิ่งพุ่งสูงขึ้นไปอีก!”
เสี้ยวชางเซิงหัวเราะดังลั่นอีกครั้ง
“แต่ไม่ต้องห่วงหรอกเด็กน้อย ฉันไม่ใช่คนโหดร้ายขนาดนั้น ก่อนที่ฉันจะดูดเลือดนาย ฉันจะทำให้นายตื่นตะลึงจนโง่เง่า อีกทั้งคนโง่เง่าอย่างนายยังไม่รู้ว่าความเจ็บปวดคืออะไร!”
เสี้ยวชางเซิงกล่าว
“เดี๋ยวก่อน … ” เฉินเกอพูดอย่างรีบร้อน
“ฮ่าฮ่าฮ่า!”
ไม่ทันให้เฉินเกอพูดจบ จู่ๆ เสี้ยวชางเซิงก็หัวเราะขึ้นดังลั่น
คราวนี้ มันรุนแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ตูม! ตูม!
แม่น้ำระเบิดราวกับได้มีการจัดเตรียมระเบิดเอาไว้ล่วงหน้า
พื้นที่โดยรอบตอนนี้กำลังสั่นไหวอย่างรุนแรง
ต้นไม้ค่อยๆ หักโค่นลงมา
เพียงชั่วครู่ ทั้งป่าก็มีเสียงหัวเราะจนเขย่าจิตวิญญาณของผู้คนดังลั่นขึ้น
จากนั้น เสี้ยวชางเซิงที่กำลังอ้าแขนกว้างหัวเราะลั่นก็หยุดลงอย่างพอใจ และเตรียมที่จะดูดดื่มกับอาหารตรงหน้า
แต่ทันใดนั้น ทั้งตัวของเขาก็ต้องสั่นสะท้าน
นั่นเพราะภายใต้พลังการหัวเราะข่มขวัญของเขา เดิมเขานึกว่าทุกอย่างจะจบลง และเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเขาก็คงจะกลายเป็นคนเสียสติไปแล้ว
แต่ว่า เขากลับไม่เป็นอะไรเลยสักนิด อีกทั้งยังยืนเอามือล้วงกระเป๋าอยู่ตรงหน้าเขาเช่นเดิม
“เป็นไปได้อย่างไร?” เขาแทบไม่อยากจะเชื่อ
“นายท่านเสี้ยวชางเซิง คุณอย่าเพิ่งหัวเราะ ผมอยากจะถาม…..” เฉินเกอมองเขาอย่างอ่อนใจ และกำลังจะเอ่ยถามคำถามภายในใจออกมา
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ! ”
แต่เสี้ยวชางเซิงกลับหัวเราะขึ้นอีกครั้ง
ครั้งนี้ เห็นชัดว่ารุนแรงยิ่งกว่าเมื่อครู่
“ดูประสาทไม่น้อยเลย!”
เฉินเกอถูกทำให้โกรธขึ้นแล้วจริงๆ
จากนั้น เขาก็สะบัดลมปราณออกจากนิ้วไปจากนั้นมันจึงแล่นออกไปโดยตรง
รัศมีแรงลมสายหนึ่งเข้าปกคลุมทั้งตัวของเสี้ยวชางเซิงทันที
ตูม!
ภายใต้แรงลมที่แข็งแกร่งนี้ เสียงหัวเราะของเสี้ยวชางเซิงถึงได้หยุดลงอย่างกะทันหัน
กว่าที่เขาจะตอบสนองกลับมาและคิดจะป้องกัน ก็สายไปเสียแล้ว
เสียง ตุ๊บ ดังขึ้น
เสี้ยวชางเซิงถูกโจมตี จนตกลงมาจากยอดไม้โดยตรง
เมื่อเขาตกลงมายังด้านล่าง เขาก็มองไปที่เฉินเกออีกครั้ง และเพิ่มเติมด้วยความตื่นตะลึง
“นี่ นี่มันเป็นการโจมตีที่รุนแรงอย่างยิ่ง! ”
เขาตกใจจนตะลึงไป
อันที่จริง การโจมตีของเฉินเกอเมื่อครู่ ก็แค่ต้องการหยุดเขาเอาไว้ ดังนั้นจึงใช้พลังไปน้อยยิ่งกว่าหนึ่งในพันของเขาเสียอีก
ราวกับว่ากลัวเขาจะหัวเราะอีกครั้ง คราวนี้เฉินเกอเอ่ยอย่างรีบร้อน
“คุณอย่าเพิ่งรีบร้อน ผมแค่อยากถาม แต่คุณกลับเอาแต่หัวเราะ ทักษะประเภทนี้คล้ายกับทักษะสิงโตคำรามใช่หรือไม่? ”
เฉินเกอถามอย่างสงสัย
“ใช่!”
เสี้ยวชางเซิงปกปิดหน้าอกของเขาเอาไว้ จากนั้นจึงมองไปที่เฉินเกออย่างประเมินจากบนลงล่าง
“ฉันก็ว่า คุณดูเหมือนคนโรคจิตก็ไม่ปาน เอาแต่หัวเราะอยู่ได้ ที่แท้เมื่อครู่ คุณกำลังใช้เสียงหัวเราะเพื่อทำให้ผมเป็นลมนี่เอง!”
เฉินเกอราวกับพยักหน้าให้
“อ้อใช่ คุณมีพลังขั้นอะไร?”
เฉินเกอมองไปที่เขาอีกครั้งและเอ่ยถาม
“ฉันเป็นผู้ฝึกตนขั้นสาม ถูกคนเรียกว่านักพรตเสี้ยวเทียน แล้วนายมีพลังขั้นอะไรกัน?”
เสี้ยวชางเซิงถามอย่างระมัดระวัง
นั่นเพราะการโจมตีเพียงครั้งเดียวเมื่อครู่นี้ บ่งบอกได้ชัดเจนแล้วว่า คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าตน เป็นผู้แข็งแกร่งผู้หนึ่ง
อีกทั้งยังไม่อ่อนแอไปกว่าตนเองด้วย
และท่าทีที่สงบของเขา ก็ยิ่งทำให้เสี้ยวชางเซิงรู้สึกหวั่นเกรงขึ้นมา
“พูดตามตรง ผมเองก็ไม่รู้ แต่ว่าคุณเป็นผู้ฝึกตนชั้นสาม เช่นนั้นในการจัดอันดับของผู้ฝึกตน ก็สมควรจะเป็นยอดฝีมือใช่ไหม?”
เฉินเกอถามอย่างสงสัย
“เป็น…..เป็นยอดฝีมือใช่ไหม?”
เมื่อได้ยินคำนี้ หัวใจของเสี้ยวชางเซิงก็กระตุกขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
พูดจาไร้สาระหรือไง ไม่อย่างนั้นนักพรตเสี้ยวเทียน จะถูกเรียกว่าเป็นฝันร้ายของผู้ฝึกตนได้ยังไงกัน!
ชายหนุ่มคนนี้ ที่แท้เป็นใครกันแน่?
เสี้ยวชางเซิงรู้สึกว่าเฉินเกอแปลกอย่างยิ่ง
อย่างไรก็ตาม หากให้เสี้ยวชางเซิงหลบหนีออกไป อีกทั้งตรงหน้าก็เป็นเพียงเด็กหนุ่มหน้าเหม็นคนหนึ่ง เขาไม่สามารถทำได้เช่นกัน
ในขณะที่เฉินเกอกำลังคิดถึงเรื่องที่หลินจิ่วบอกกับตน ผู้ฝึกตนชั้นสาม นับว่าเป็นผู้ที่เก่งกาจที่สุดแล้ว
ทันใดนั้น ใบหน้าของเสี้ยวชางเซิงก็ถูกปกคลุมด้วยลมปราณสีดำ ดวงตาของเขาก็แปรเปลี่ยนไปเป็นสีแดงก่ำ
อาศัยช่วงที่ไม่ได้เตรียมตัว เสี้ยวชางเซิงเอ่ยคำราม จากนั้นจึงพุ่งตรงเข้าใส่เฉินเกออีกครั้ง