ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี! - ตอนที่ 779
บทที่ 779 พูดจาจองหองยิ่งนัก
“นายคือใครกัน?”
เด็กรับใช้คนหนึ่ง เห็นเฉินเกอลงมือหนักขนาดนี้ ก็โกรธในทันที
รีบเข้ามาตะโกนถามโดยตรง
และจูหยุนเฟยที่หรี่ตาไว้ ก็ลืมตาขึ้นทันที
แล้วมองไปทางเฉินเกอ
“นี่คือเพื่อนรักของฉัน พวกนายกล้าเหยียดหยามเพื่อนรักฉัน บัญชีนี้จะชำระยังไง? เมื่อกี้ ใครลงมือบ้าง?”
เฉินเกอถามด้วยเสียงเคร่ง
“หืม ไอ้สารเลว นายคิดว่านายเป็นใคร? ฉันลงมือด้วย แล้วจะทำไม?”
เด็กรับใช้คนหนึ่งพูดขึ้น
“บัดซบ ฉันก็ลงมือด้วย!”
ในขณะนี้ มีสิบกว่าคนเต็มๆ ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเฉินเกอ
แต่ละคนมือกอดอกไว้ ยิ่งไปกว่านั้น บางคนยังถืออาวุธไว้ด้วย
พวกเขาคิดจะใช้อำนาจขู่เฉินเกอ
“จริงเหรอ? ดูเหมือนว่าจนถึงตอนนี้ พวกนายยังไม่มีความคิดที่จะรู้สึกผิดเลยหรือ?”
เฉินเกอยิ้มเบาๆ
“ฮ่าๆ? รู้สึกผิด ถ้านายกล้าพอ ก็ต่อสู้กับพวกเราสิบกว่าคน ไม่เช่นนั้นฉันก็จะออกหน้าแทนเพื่อนของฉันแล้วนะ!”
เด็กรับใช้คนหนึ่งยืนออกมายิ้มพูด
เรื่องตลก ไอ้หมอนี่ก็ไม่ดูเลยว่า ที่นี่เป็นพื้นที่ของใคร
ทั้งแกงค์ดากอนมีใครไม่รู้บ้าง จู หลง สองตระกูล เป็นตระกูลใหญ่
ไอ้หมอนี่ กล้ามาเหยียบจมูกของผู้มีอำนาจหรือ?
“ออกหน้าแทน? พวกนายคิดจะออกหน้าแทนอย่างไร?”
เฉินเกอยิ้มเยาะอย่างเย็นชา
“ง่ายนิดเดียว นั่นก็คือตัดแขนขานายออก แล้วทุบฟันในปากของนายออกทั้งหมด! แน่นอนว่า นายสามารถต่อสู้กลับได้ เพียงแค่นายมั่นใจ ว่านายสามารถรับมือกับพวกเราสิบกว่าคนได้ทั้งหมด!”
เด็กรับใช้เย้ยหยันเฉินเกอ
“ก็ได้ ในเมื่อพวกนายได้ลงมือหมด นั้นฉันก็ไม่ถือสา ที่จะให้พวกนายกลายเป็นสภาพเหมือนเขา!”
น้ำเสียงเพิ่งสิ้นลง
เด็กหนุ่มพวกนั้น เริ่มโจมตีทันที
ราวกับฝูงหมาป่า พุ่งตรงมาที่เฉินเกอ
และเฉินเกอก็ไม่เกรงใจเลย
ในขณะนี้ ทั้งร่างกลายเป็นภาพเงา
เคลื่อนไหวในฝูงชน
เพี้ยะๆๆๆๆๆ!
เสียงตบหน้าที่ดังสนั่นหู ดังก้องในโรงอาหาร
ทันทีหลังจากนั้น ก็เป็นเสียงกรีดร้องโหยหวนเหมือนฆ่าหมู
ในไม่ช้า คนพวกนี้ก็ได้หาฟันทั่วพื้นจริงๆ
และตั้งแต่เฉินเกอลงมือจนถึงสิ้นสุด เป็นเพียงไม่กี่ลมหายใจสั้นๆเท่านั้น
ในเวลานี้ ทุกคนมองจนนิ่งอึ้ง
หยุนเห้าเทียนก็กลืนน้ำลายลงคอ
โหดเหี้ยมมาก นี่มันโหดเหี้ยมมากจริงๆ!
และจูหยุนเฟยที่อยู่ด้านข้าง ในที่สุดก็ลืมตาขึ้นอย่างสิ้นเชิง
ฉากตรงหน้า ทำให้เขารู้สึกเหลือเชื่อจริงๆ
นายคนนี้คือใครกันแน่?
ทำไมถึงเก่งกล้าเช่นนี้?
แม้กระทั่งหน้าผากของเขา ยังมีเหงื่อแตกด้วย
ขาก็เริ่มสั่นเล็กน้อย
เก่งมากจริงๆ!
ที่น่าสยองมากที่สุดก็คือ ในตอนนี้ เฉินเกอกำลังเดินเข้ามาหาจูหยุนเฟยอย่างช้าๆ
“นายเป็นหัวหน้าของพวกเขา?”
เฉินเกอถามอย่างใจเย็น
“ไม่……ไม่ใช่!”
จูหยุนเฟยส่ายหัวอัตโนมัติ
เพี้ยะ!
เฉินเกอยกมือขึ้นตบไปที่หน้าโดยตรง
“คุณชายจูที่พวกเขาพูดถึง ไม่ใช่นายหรือ?”
เฉินเกอถามอย่างเย็นชา
“ใช่ใช่ใช่!”
จูหยุนเฟยพยักหน้าทันที
“แล้วเพื่อนรักของฉันทำยังไง?”
เฉินเกอมองไปที่เขา
“ต่อไปนี้ ทุกคนอยู่อย่างสมานฉันท์กัน!”
วันนี้จูหยุนเฟยได้อับอายขายหน้าจนไม่เหลืออะไรแล้วจริงๆ
เพราะเมื่อกี้ สายตาของทุกคนต่างก็มองไปที่เขา หวังว่าเขาจะสู้กลับ ต่อสู้กับยอดฝีมือนี้
แต่ไม่คาดคิดว่า เขาจะขี้ขลาดในทันที
สิ่งนี้ ก็ทำให้จูหยุนเฟยเจ็บปวดยิ่งนัก
แต่ว่า ไม่มีวิธีอื่น เขาไม่อยากหาฟันไปทั่ว
“ฉันไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้ ดูเหมือนว่านายจะรังแกเหยียดหยามเพื่อนรักฉันมาไม่น้อย ตอนนี้นายควรจะให้เพื่อนรักฉันดับไฟแค้นอย่างไรดี? ไม่เช่นนั้น ฉันไม่สนว่านายจะเป็นใคร แล้วก็ไม่สนว่านายมีภูมิหลังอย่างไร ฉันจะจัดการนายทันที!”
เฉินเกอจ้องมองเขาอย่างเย็นชา
ทำให้จูหยุนเฟยเหงื่อแตกไหลทั้งตัว
“พี่ใหญ่ หรือไม่ก็ช่างมันเถอะ!”
ส่วนไป๋เสี่ยวเฟยนั้น รู้ภูมิหลังของจูหยุนเฟย ก็อดไม่ได้ที่จะเดินไปหาเฉินเกอ
เฉินเกอตบไหล่ของเสี่ยวเฟยเบาๆ ยิ้มแล้วพูดว่า
“เสี่ยวเฟย ทำไมนายลืมไปแล้ว จำไว้ว่าเมื่อก่อน นายเคยบอกกับฉันว่า ใครก็ตามที่ล่วงเกินนาย นายจะเอาคืนเป็นร้อนเท่าพันเท่า ยังบอกฉันว่า ไม่ต้องกลัวคนพวกนั้น ข้างหลังฉัน มีกลุ่มเพื่อนอย่างพวกนาย! ประโยคนี้ยังจำได้ไหม?”
เฉินเกอถามขึ้น
“จำได้แน่นอน!”
ไป๋เสี่ยวเฟยกัดริมฝีปากเบาๆ
“หยงหาวเป็นเพื่อนรักฉัน นายก็เป็นเพื่อนรักฉัน ในตอนนั้นพวกนายเพื่อนฉัน เกือบจะทำให้บ้านแตกสาแหรกขาด น้ำใจนี้ฉันจำไว้เสมอ ฉันก็เคยสาบานว่า จะไม่ให้คนรอบข้างของฉัน ได้โดนทำร้ายอีก ดังนั้นเสี่ยวเฟย นายไม่ต้องกังวลอะไร ข้างหลังของนาย มีฉันอยู่!”
เฉินเกอบอกเขา
นี่ทำให้ไป๋เสี่ยวเฟย พยักหน้าอย่างแรง
“ดังนั้น ไอ้พวกนี้ วันนี้ต้องชดใช้อะไรบ้าง!”
“ตอนนี้ ฉันให้นายสองทาง ทางแรก คือฉันทำนายพิการ ทางที่สอง นั้น ก็คือนายต้องคลานลอดหว่างขาของเพื่อนรักฉัน ต่อไปเจอเพื่อนรักฉัน ก็จะต้องเรียกว่าทั้งปู่ นายทำไม่ได้ เจอกันครั้งหน้า ฉันก็จะฆ่านายทิ้ง!”
เฉินเกอมองไปที่จูหยุนเฟย แล้วพูดขึ้น
“อะไรนะ ให้ฉันได้มีความอัปยศอายคลานลอดหว่างขา?”
ดวงตาของจูหยุนเฟย แดงขึ้นมาในทันที
ตอนนี้เขาอยากจะให้ อยากจะให้อาของตัวเองได้อยู่เคียงข้างตัวเองเหลือเกิน
จ้องมองแววตาของทุกคนที่มองตัวเอง จูหยุนเฟยรู้สึกอับอายมากจนแทบอยากจะตาย
“ฉัน……ฉันเป็นทายาทรุ่นที่สามร้อยห้าสิบเจ็ดของสำนักหวูจี๋ฉัน……ฉันคลานลอดไม่ได้!”
จูหยุนเฟยพูดวิงวอน
ตูม!
เขาเพิ่งพูดจบ
ก็โดนเฉินเกอจับหัวไว้ กดลงกับพื้น
ตัวเขาไม่มีแรงขัดขืนเลยสักนิด ใบหน้ากระแทกกับพื้นอย่างรุนแรง
เลือดไหลทั่วใบหน้าในทันที
เฉินเกอเหยียบหัวของเขาไว้
“ตอนนี้ฉันไม่เพียงจะให้นายคลานลอดหว่างขาของเพื่อนฉันเท่านั้น ยังจะให้นายคลานลอดไป พร้อมกับตะโกนเรียกคุณปู่ไปด้วย ถ้าทำไม่ได้ ฉันจะทำให้นายพิการเดี๋ยวนี้เลย!”
เฉินเกอใช้กำลังเพียงเล็กน้อย
“อ้าก!”
จูหยุนเฟยกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด
“ฉัน……ฉันเรียก! ฉันเรียก อย่าลงมือเด็ดขาด!”
จูหยุนเฟยกำหมัดไว้แน่น เพราะมีแรงมาก เลยทำให้เล็บอันแหลมคมทิ่มแทงลงบนฝ่ามือ ทำให้เจ็บเสียวสู่หัวใจ
ในวินาทีนี้ เขาเจ็บปวดเกินไป
เมื่อก่อน เขาปฏิบัติต่อคนอื่นเช่นนี้มาโดยตลอด แต่ไม่คาดคิดว่า วันนี้ที่ได้รับความอัปยศ กลับเป็นตัวเอง
ยิ่งไปกว่านั้น เอาสำนักหวูจี๋มาอ้าง คนที่อยู่ตรงหน้า ก็ไม่ได้มองอยู่ในสายตาเลย
“ฉันคลาน!”
จูหยุนเฟยคลานอยู่บนพื้นด้วยความยากลำบาก
และไป๋เสี่ยวเฟยนั้น ก็ได้เจอฟ้าหลังฝนแล้ว หยุนเฟยนี่ ดูถูกเหยียดหยามตัวเองมากเช่นนี้ จนในที่สุด ตัวเองก็สามารถเหยียบบนหัวของเขาได้แล้ว
การเคลื่อนตัวของเขาช้ามาก กระทั่งในใจยังคงคิดว่า คุณอา อารีบมาเถอะ!
ฉันได้แจ้งข่าวให้คุณทราบแล้ว คุณรีบมาเร็วๆ สิ!
ถ้ายังไม่มา หลานชายของคุณจะได้รับความอัปยศแล้ว ถ้าอย่างนั้น ต่อไปก็ไม่มีหน้าเจอผู้คนแล้วจริงๆ
อีกอย่าง หากเรื่องนี้ไปถึงหูของหลงเฟยเฟย ตัวเองก็จะไม่ได้กลายเป็นหลานเขยของตระกูลหลงแน่นอน
เมื่อถึงเวลานั้น แผนของคุณก็แพ้ทั้งเกม
คุณอา! รีบมา!
เขาตะโกนร้องหา
และในตอนที่เขาก้มหน้าคลานเข้าไป
“หัวหน้าหยุน ผู้ช่วยที่คุณเชิญมาในครั้งนี้ ช่างจองหองยิ่งนัก? ฉันอยากเห็นเหมือนกัน คุณเฉินที่คุณว่า จะมีความเก่งกล้าเหนือกว่ายังไง?”
ในขณะนี้ เสียงหยอกเย้าดังขึ้นหน้าประตู
ตึกๆๆ!
เป็นเสียงฝีเท้าที่เร่งรีบ
มียอดฝีมือทะลักเข้ามาจำนวนมาก เข้ามารุมล้อมพวกเฉินเกอทันที จูเป่าชิ่ง ที่เป็นผู้นำ มือไขว้หลังไว้ เดินเข้ามาอย่างเย็นชา…..