ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี! - ตอนที่ 800
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่ 800 ลุกโชนด้วยไฟโกรธ
ตู้ม!
เสียงที่ดังมาก ในที่สุดประตูหินก็เปิดออก
และเฉินเกอ ค่อยๆเดินออกมาจากด้านใน
เวลาห้าปี รูปร่างหน้าตาของเฉินเกอเหมือนจะไม่เปลี่ยนแปลงเลย
หากจะพูดถึงเปลี่ยนแปลง นั่นก็คือสง่าราศีของเฉินเกอ
ตอนนี้เขามีสง่าราศีของผู้นำที่เหนือกว่า
“คุณผู้ชาย!”
ทุกคนต่างก้มตัวเก้าสิบองศา โค้งคำนับไปทางเฉินเกอ
“อืม!”
เฉินเกอพยักหน้าด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย มองไปทางซูมู่หาน
“เสี่ยวเกอ ในที่สุดนายก็ออกมาแล้ว!” ซูมู่หานกล่าวอย่างตื่นเต้น
“ใช่ ฉันเพิ่มความเร็วในการฝึกฝน ไม่อย่างนั้น ช่วงเวลาสั้นๆไม่มีทางที่จะจัดการกับการก่อกวนซ้ำแล้วซ้ำเล่าของสำนักจ้งโล๋และพวกหลุนหวางได้
เฉินเกอกล่าว
“คุณผู้ชาย ตอนนี้พละกำลังของคุณดูไม่ธรรมดา การฝึกฝนครั้งนี้ นอกเสียว่าได้สำเร็จถึงชั้นแปดแล้ว? กลายเป็นหลุนหวางชั้นแปดแล้ว?”
เสี้ยวชางเซิงมองดูการเปลี่ยนแปลงของเฉินเกอ ขณะนั้นจึงพูดอย่างประหลาดใจ
“ไม่ผิด ได้รับความช่วยเหลือจากต้นกำเนิดพลังทิพย์ ที่จริงเมื่อครึ่งปีที่แล้วฉันก็สำเร็จมาถึงชั้นแปดแล้ว เพียงแต่แปดปีที่เหลือ มันจะไม่สามารถก้าวหน้าไปกว่านี้แล้ว!”
ชั้นเก้า มันเป็นระดับที่สูงที่สุด อยากจะถึงจุดสูงสุด พูดมันง่าย แม้กระทั่งเฉินเกอที่อยากสำเร็จไปถึงชั้นเก้า ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
อีกอย่างการฝึกอย่างลำบากของครึ่งปีหลัง ทำให้เฉินเกอเข้าใจถ่องแท้ จะถึงหลุนหวางชั้นเก้านั้นไม่ง่าย
บ่อยครั้งที่เฉินเกอมีหัวใจของปีศาจ
สงสัยตัวเองอย่างมากแล้ว
เพราะเมื่อก่อนฝึกฝน ไม่ว่าจะสำเร็จได้หรือไม่ ก็จะเกิดปฏิกิริยาเพียงเล็กน้อย
แต่ในขึ้นตอนชั้นแปดไปชั้นเก้านั้น ทุกครั้งที่ฝึกฝน เหมือนกับว่าเอาหินโยนลงทะเล ไม่ได้ผลอะไรเลย
ทำให้เฉินเกอร้อนใจ
เห่อๆ คิดถึงเมื่อก่อน เฉินเกอได้แผนที่ของหญ้าหยวนซิน คิดว่าต้องมีสักวันที่จะสำเร็จไปถึงชั้นเก้า ไปตามหาหญ้าหยวนซิน สักวันหนึ่ง สามารถถึงขึ้นขอบเขตเจินเหรินในตำนาน
เฉินเกอในเวลานั้น หากอยู่ตรงหน้าสำนักจ้งโล๋ ถึงจะถือได้ว่ามีอำนาจในการพูดจริงๆ
แต่การฝึกฝนของปีนี้ ทำให้เฉินเกอกลับมาอยู่ในความเป็นจริง
สำเร็จไปชั้นเก้านั้น มันยากมากพอแล้ว ไม่เห็นแม้แต่ความหวัง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเจินเหรินในตำนานเลย!
“ช่วงเวลาที่ผมเก็บตัว มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า?”
เฉินเกอถาม
ตอนนี้ ผู้อาวุโสสิบท่านต่างก้มหัวกันหมด
ยังคงเป็นท่านซินแสกุ่ยที่พูด: “คุณผู้ชาย หนึ่งปีก่อนนั้น ตระกูลฉินจากโลกยู่ เคยได้ส่งคนมาจับตัวคุณซูกลับไป ยังพูดอีกว่า หากคุณผู้ชาย………”
ท่านซินแสกุ่ยพูดถึงสุดท้ายก็ลังเลขึ้นมา
“อะไรอีก?”
เฉินเกอคิ้วขมวดถาม
ตระกูลเฉินจากโลกยู่ ก็คือตระกูลที่รับมู่หานไว้ตอนแรก
ตระกูลฉินอยู่ในโลกยู่มีพลังอำนาจมหาศาล หลายปีมานี้ สนับสนุนกองกำลังมากมายบนโลก
หากไม่ใช่เฉินเตี๋ยนชางสมคบคิดกับเขาอย่างลับๆ เกรงว่าตัวเองก็คงไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะตามหามู่หานเจอ
เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว หลายปีมานี้ หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องไปมาหาสู่กับพวกเขา
และเบื้องหลังของตระกูลฉิน ก็คือไท่หยางเหมิง
และก็เป็นจุดที่ทำให้เฉินเกอกลัว
ดังนั้นจึงได้รีบฝึกฝน
ถึงอย่างไรตัวเองอยู่ต่อหน้าพวกเขา ยังถึงว่าอ่อนกว่าอยู่เล็กน้อย
“พวกเขาบอกว่า หากคุณยังดื้อดึงอีก คนที่จะมาจัดการกับคุณ ไม่ใช่ตระกูลฉินที่อยู่บนโลกนี้ แต่จะเป็นสุดยอดฝีมือที่ตระกูลฉินส่งมาจากโลกยู่ เพื่อมาฆ่าคุณผู้ชาย!”
ท่านซินแสกุ่ยพูดตามความจริง
“ฉันรู้แล้ว!”
เฉินเกอขมวดคิ้ว
เห็นสีหน้าของเฉินเกอแล้ว ท่านซินแสกุ่ยอยากจะพูดแต่แล้วก็ไม่พูด ได้กลืนคำพูดที่เหลือลงไปในคอ
และซูมู่หานก็รู้สึกโทษตัวเองมากจนต้องก้มหน้าลง
อาการเล็กๆน้อยๆเหล่านี้ของพวกเขา ได้ดึงดูดความสนใจของเฉินเกอแล้ว
“คนพวกนั้นของสำนักจ้งโล๋มาก่อกวนอีกแล้วใช่มั้ย?”
เฉินเกอกล่าว
“พวกเขามาก่อกวนเป็นประจำ พวกเราก็เห็นว่าเป็นเรื่องปกติ!”
“แล้วพ่อแม่และพี่สาวของฉันล่ะ?”
เฉินเกอคิ้วขมวดถาม
“เออ……….”
ท่านซินแสกุ่ยหน้าชาทันที หน้าซีดในพริบตา
และผู้อาวุโสสิบท่าน ถึงกับงอตัวก้มหน้า ถึงกระทั่งไม่กล้าหายใจแรง
สำหรับซูมู่หาน เวลานี้น้ำตาได้ไหลลงมาจากตาคู่นั้น
เอามือกุมปากแล้วร้องไห้ขึ้นมา
“เป็นอะไร? เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
เฉินเกอตะคอก
ผู้อาวุโสทั้งสิบคุกเข่าลงทันที
ซูมู่หานได้ร้องไห้ดังกว่าเก่า
ท่านซินแสกุ่ยกลืนน้ำลาย แล้วกล่าวต่อ:
“หนึ่งปีก่อนนั้น พวกเราเคยต่อสู้ครั้งใหญ่กับตระกูลฉินที่อยู่บนโลก เวลานั้น แม้กระทั่งตระกูลฉินจากโลกยู่ก็หลั่งไหลเข้ามาร่วมด้วย พวกเราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขาเลย พวกเขาจะจับตัวคุณมู่หาน จะตัดหัวคุณผู้ชาย ให้เวลาเราสามวันส่งคุณมู่หานให้เขา ไม่อย่างนั้นก็จะฆ่าคนทั้งเมือง!”
“แล้วไงต่อ?” ตาของเฉินเกอเริ่มแดงแล้ว
“ตระกูลฉินจากโลกยู่ พวกมันไม่ได้สนใจเกี่ยวกับข้อตกลงที่พวกมันลงนามกับสำนักจ้งโล๋ไว้ก่อนเลย ฆ่าคนตระกูลเฉินไปไม่น้อย คุณชายหยงหาวเพราะไปคุยเหตุผลกับพวกมัน ถูกควักลูกตาสองข้าง แล้วยังถูกตัดลิ้นด้วย!”
“ผู้อาวุโสจิ่วหลิน แขนหนึ่งข้างถูกตัดไปอย่างเลือดเย็น!”
เฉินเกอในใจร้อนรุ่ม
“หยงหาว………”
คิดถึงน้องชายบุญธรรมของตัวเองขึ้นมา ลำบากยากเข็ญกับตัวเองมามากมาย วันนี้ถึงเวลาที่เขาจะเสวยสุข แต่เพราะตัวเอง กลับกลายเป็นแบบนี้
และหลินจิ่ว………
เฉินเกอมองไปทางหลินจิ่ว
เพิ่งจะพบว่า ที่จริงแล้วแขนข้างหนึ่งของหลิ่นจิ่ว ไม่มีแล้ว
ดวงตาของเฉินเกอเต็มไปด้วยน้ำตาจับแขนเสื้อที่ว่างเปล่าของหลินจิ่ว
มองหลินจิ่วอย่างเหม่อลอย
“เห่อๆ คุณผู้ชาย คุณอยากลืมสิ ผมถนัดซ้าย แขนขวาโดนมันก็ตัดไปแล้ว แบบนี้ผม กลับทำให้ผมรู้สึกสบายยิ่งขึ้น!”
หลินจิ่วน้ำตาเต็มเบ้าตากล่าว
เฉินเกออดกลั้นไว้ทันที
เขาหันกลับไปมองซินแสกุ่ยอย่างเยือกเย็น: “แล้วไงต่อ?”
“ตอนนั้น พวกเราก็ได้ซ่อนคุณซูเอาไว้ คุณซูไม่รู้เรื่องอะไรเลย ผมรู้ว่า พวกมันมาครั้งนี้ ไม่เพียงแต่จะจับตัวคุณซูเท่านั้น แต่ยังอยากจะแย่งชิงต้นกำเนิดพลังทิพย์ของพวกเรา สนับสนุนตระกูลฉิน ให้กลายเป็นราชาเป่ยจิ้ง จะฆ่าคุณผู้ชาย ดังนั้น คนในสำนักสวนหยางเตี้ยนตายก็ไม่ยอมบอกที่อยู่ของคุณกับพวกมัน!”
“พวกมันต้องการที่จะเตือนคุณผู้ชาย ได้ลงมือกับคุณชายหยงหาวก่อน ตามมาด้วยลงมือกับในบ้านของคุณ พวกมันตีขาของนายท่านและนายหญิงจนหัก แล้วใช้โซ่เหล็กมัดไว้ แล้วยังจับคุณเฉินเสี่ยวไปอีกด้วย ยังพูดอีกว่าจะให้คุณเฉินเสี่ยว ไปเป็นทาสรับใช้ ให้กับตระกูลฉินของพวกมันในโลกยู่
ท่านซินแสกุ่ยกล่าว
“ท่านพูดอะไรนะ!!!!”
เฉินเกอโกรธจนคำรามออกมา
เจินชี่โผล่ออกมา สายตาเต็มไปด้วยแรงอาฆาต
“คุณผู้ชาย นี่เป็นความคิดของผมคนเดียว ที่ปิดบังคุณชั่วคราว เพราะว่าหากคุณออกมา พวกมันต้องฆ่าคุณแน่ ถึงเวลานั้นทุกอย่างก็จะจบ ทุกคนก็จะถูกตระกูลฉินฆ่าล้าง จากนั้นพวกมันก็จะขึ้นเป็นราชาเป่ยจิ้ง หลายปีมานี้ พวกเราได้ช่วยเหลือสำนักจ้งโล๋มาไม่น้อย ถึงจะมีความขัดแย้งกันบ้าง แต่สุดท้ายพวกเขาก็ทนดูต่อไปไม่ไหว จึงได้ออกหน้าเจรจา ให้เวลาเราหนึ่งปี หนึ่งปีผ่านไปให้ท่านพาคุณซูกลับไปด้วยตัวเอง แล้วไปรับโทษตาย! ถึงจะให้คนในตระกูลเฉินมีชีวิตอยู่ต่อ!”
ท่านซินแสกุ่ยคุกเข่าลงบนพื้น ร้องไห้อย่างเจ็บปวด
แม้ว่าเฉินเกอจะโกรธ แต่เขาก็รู้ดี แบบนี้ คงจะเป็นผลสรุปที่ดีที่สุด ไม่อย่างนั้น ก็จะถูกตระกูลฉินฆ่าล้าง
หากเป็นแบบนั้น คนที่ต้องตายเพราะตัวเอง ไม่รู้ว่าเท่าไหร่
เพียงแต่พี่สาว……..ยังมีคนในตระกูลอีก!
คิดถึงตรงนี้ เฉินกำหมัดแน่นทั้งสองมือ……..