ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี! - ตอนที่ 814
บทที่ 814 พลังพุ่งทะยาน
หลังจากผ่านไปครึ่งวัน
หลังจากผ่านไปครึ่งวันอาการบาดเจ็บของเฉินเกอก็หายเป็นปกติด้วยความช่วยเหลือของเฟิงหรูเฉิน ยิ่งไปกว่านั้นเฟงหรูเฉินก็ยังถ่ายทอดวิชาห้ามังกรไฟเคล็ดลับวิชาที่เขาฝึกฝนมาทั้งชีวิตให้กับเฉินเกออีกด้วย แต่เฟิงหรูเฉินนั้นเพียงขอเฉินเกอเพียงอย่างเดียว แถมคำขอของเขาก็คือสิ่งที่เฉินเกอกำลังจะไปทำ นั่นก็คือฆ่าฉินเหิน
เฉินเกอนั้นไม่จำเป็นต้องฝึกฝนวิธีการใช้ห้ามังกรไฟเลย เพราะหลังจากที่เฟิงหรูเฉินถ่ายทอดวิชาให้กับเฉินเกอเสร็จ เฉินเกอก็สามารถใช้มันได้เองโดยอัตโนมัติ หรือจะพูดว่าพลังทั้งหมดเฟิงหรูเฉิน เฉินเกอสามารถใช้ได้หมดเลย
“เฉินเกอ ทุกอย่างฉันได้ถ่ายทอดให้เธอจนหมดแล้ว ในที่สุดฉันก็ปลดทุกอย่างไปได้สักที ที่เหลือคงต้องรบกวนเธอแล้ว!”
หลังจากถ่ายทอดวิชาเสร็จเฟิงหรูเฉินก็ทิ้งคำเอาไว้ก่อนที่จะหายวาบเข้าไปในโพรงไม้แล้วทุกอย่างก็นิ่งสงบ
เขาหายไปดังชื่อของเขา เฟิงหรูเฉินเปลี่ยนกลายเป็นดังฝุ่นละออง แล้วได้จากไปอย่างสงบเสียที
แต่ก่อนสิ่งอื่นใด เฉินเกอจะต้องฆ่าฉินเหินให้ตาย นี่ถึงจะทำให้คำขอสุดท้ายของเฟิงหรูเฉินสำเร็จ
“ท่านอาวุโสเฟิงหรูเฉิน ผมเฉินเกอจะไม่ทำให้ท่านผิดหวังแน่นอน!”
เฉินเกอยืนอยู่ด้านนอกโพรงไม้ มองไม้ยังต้นไม้ที่สูงตระหง่านที่อยู่ตรงหน้าของเขา ด้วยท่าทางจริงจัง และพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น หลังจากพูดจบ เฉินเกอก้มหัวคำนับให้ต้นไม้อย่างสุดซึ้งและหันหลังจากไป
“นายท่าน ยินดีด้วย ในที่สุดท่านก็เข้าสู่ขอบเขตเจินเหรินได้แล้ว!”
หลังจากที่ออกมา ญาณกระบี่ที่ในร่างก็กล่าวยินดีกับเฉินเกอ
หลังจากที่ได้รับวิชาเคล็ดลับจากเฟิงหรูเฉิน ก็ทำให้ เทพจิตเก้าภพในร่างของเฉินเกอเพิ่มระดับพลังมากขึ้น พลังพุ่งทะยานเป็นเท่าตัวทันที ส่งเสริมให้ตัวเขาเข้าสู่ขอบเขตเจินเหรินอย่างเต็มตัว
และเมื่อเข้าสู่ขอบเขตเจินเหรินอย่างเต็มตัวแล้ว เขาก็ไม่จำเป็นต้องบินข้ามกำแพงหลบหนีอีกต่อไป เฉินเกอกระโดดขึ้นกำแพงแล้วเหยียบบินบนนั้นก่อนจะบินขึ้นไปอย่างไม่หยุดหย่อน
คราวนี้เฉินเกอจะต้องฆ่าฉินเหินให้ได้
แต่ก่อนจะไป เฉินเกอต้องกลับไปบอกโจวโน่กับเฉินเสี่ยวพี่สาวของเขาก่อน ตามที่ได้ตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งโจวโน่ได้พาเฉินเสี่ยวไปหลบพักผ่อนอยู่ในเมืองเล็กๆแห่งหนึ่งไม่ไกลจากหุบเขาโยวหมิง รอให้เฉินเกอไปหา
หลังจากผ่านไปไม่นาน เฉินเกอก็มาถึงเมืองแห่งนี้
ทันทีที่ได้เห็นเฉินเกอกลับมาอย่างปลอดภัย ทั้งโจวโน่และเฉินเสี่ยวก็เหมือนได้ยกหินก้อนใหญ่ในใจออกไป
เพราะพวกเธอที่รอมาหนึ่งวันแล้ว ก็ยังไม่เห็นเฉินเกอกลับมาสักที จึงพากันเป็นห่วงเขาอย่างมาก
“เสี่ยวเกอ ดีจริงๆที่เธอไม่เป็นอะไร!”
เฉินเสี่ยวพูดพลันกอดเฉินเกอไว้แน่น
เฉินเกอจึงลูบหลังของเฉินเสี่ยวอย่างอ่อนโยนพร้อมกับปลอบโยน
“พี่ ฝีมือผมระดับไหนพี่ไม่รู้หรือไง ไม่ต้องเป็นห่วงนะ ไม่มีทางเกิดอะไรกับผมหรอก!”
“อย่างนั้นก็ไม่ได้อยู่ดี ถ้าเกิดเธอเป็นอะไรขึ้นมา ฉันจะอธิบายกับพ่อแม่ยังไงล่ะ”
เฉินเสี่ยวราวกับเด็กน้อยที่ส่ายหน้าพร้อมกับทำปากมุ่ย เพราะถ้าหากเฉินเกอน้องชายของตัวเองเป็นอะไรไปจริงๆ เธอเองก็ไม่อยากจะมีชีวิตต่อไปแล้ว
“โจวโน่ ขอบคุณมากที่ช่วยดูแลพี่สาวของผม!”
จากนั้น เฉินเกอก็หันไปยิ้มพร้อมกล่าวขอบคุณโจวโน่ด้วยความจริงใจ
“แล้วคุณจะทำอย่างไรเป็นการขอบคุณฉันล่ะ?”
โจวโน่แสดงรอยยิ้มขำขัน พลางขยิบตาให้เฉินเกอและถามอย่างล้อเลียน
เฉินเกอประหม่าอยู่ครู่หนึ่ง สำหรับสิ่งสวยงามอื่นๆเขานั้นไม่เคยหลงใหลเลย เพราะเขาเป็นผู้ชายที่แต่งงานแล้ว ที่บ้านยังมีหญิงงามผู้ล้ำเลิศอย่างซูมู่หาน ดังนั้นจึงไม่มีผู้หญิงคนไหนที่มาทำให้เฉินเกอรู้สึกใจเต้นได้อีก
“ถือว่าผมเป็นบุญคุณชีวิตของคุณ คุณอยากให้ผมตอบแทนยังไง คุณโปรดคิดให้ดี ผมสามารถทำตามคำขอของคุณได้หนึ่งอย่าง!”
เฉินเกอจึงรีบเสนอข้อเสนออย่างอื่นให้กับโจวโน่ทันที
“ก็ได้ นี่คุณเป็นคนพูดเองนะ อย่ามาเสียใจทีหลังแล้วกัน!”
เมื่อโจวโน่ได้ยินเช่นนั้นก็รีบตอบตกลงทันที ราวกับว่าได้จับเอาจุดสำคัญของเฉินเกอไว้ได้อย่างนั้น แล้วกลัวว่าเขาจะเสียจีหลัง
“เอ่อ วางใจได้ ผมเฉินเกอเป็นคนพูดแล้วไม่คืนคำ ใครกลับคำคนนั้นแพ้!”
เฉินเกอพูดยืนยันกับโจวโน่อย่างจริงจัง
“พี่ โจวโน่ ตอนนี้ผมยังมีเรื่องเรื่องหนึ่งที่ต้องไปจัดการ รอให้ผมจัดการเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็จะออกไปจากที่นี่ แต่ก่อนหน้านั้นพวกพี่ต้องอยู่ที่นี่รอผมไปก่อน ทางที่ดีห้ามออกไปข้างนอกเด็ดขาด ถ้าหากเกิดเรื่องอะไรก็ใช้เครื่องส่งเสียงติดต่อกับผม แล้วผมจะรีบกลับมาทันที!”เฉินเกอพูดกำชับโจวโน่และเฉินเสี่ยวอย่างจริงจังอีกครั้ง
“เสี่ยวเกอ เธอจะไปไหนอีก?”เฉินเสี่ยวมองเฉินเกอด้วยความกังวลพร้อมกับถาม นี่เพิ่งจะกลับมา ก็ต้องแยกกับน้องชายอีกแล้ว
“พี่ พี่วางใจเถอะ ผมจะกลับมาอย่างปลอดภัย เพราะเรื่องบางอย่างก็จำเป็นที่ต้องจัดการให้มันจบ!”
เฉินเกอพูดพลางจ้องไปที่เฉินเสี่ยวอย่างจดจ่อ
หลังจากที่ได้ยินอย่างนั้นเฉินเสี่ยวก็พยักหน้ารับ เพราะเธอรู้ดีว่าไม่มีทางห้ามน้องชายของตัวเองเอาไว้ได้ ดังนั้นสิ่งที่ต้องการมากที่สุดก็คือขอให้เฉินเกอกลับมาอย่างปลอดภัยก็พอแล้ว
หลังจากที่กล่าวอำลา เฉินเกอก็กระโดดจากไป แล้วเขาก็บินไปยังเมืองไป๋ตี้ด้วยความรวดเร็ว
คืนนี้มันถูกกำหนดให้เป็นคืนแห่งการสังหาร และตระกูลฉินจะต้องถูกกวาดล้างจากเมืองไป๋ตี้
และตอนนี้ ณ เมืองไป๋ตี้ ตระกูลฉิน
มีไฟสว่างไสวเต็มไปหมดในบ้านตระกูลฉิน ผ้าสีเขาถูกแขวนไว้ และพวงหรีดดอกไม้ที่อยู่เต็มไปหมด ซึ่งตอนนี้ทุกคนในตระกูลฉินกำลังมายืนรวมตัวกันกลางลานเพื่อจัดงานศพให้กับฉินหยู่เฟย
“หยู่เฟย ตอนนี้พ่อได้แก้แค้นให้แกแล้วนะ พ่อฆ่าไอ้เด็กน้อยอย่างเฉินเกอแล้ว แกพักผ่อนให้สงบนะ!”
ฉินเหินที่สวมหมวกผ้าขาว ยืนอยู่หน้าป้ายวิญญาณของฉินหยู่เฟย พลางกล่าวด้วยน้ำตาที่คลอเบ้า
ข้างหลังของเขาล้วนเป็นคนในตระกูลฉิน ที่ต่างพากันร่ำไห้ เมื่อคนแก่ผมขาวต้องมาส่งชายหนุ่มผมดำ นี่ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าสลดเป็นอย่างมาก แต่น่าเสียดายที่อีกไม่นานฉินเหินและทุกคนในตระกูลฉินก็จะได้ตามไปอยู่กับฉินหยู่เฟยแล้ว
“ตาเฒ่า จากไปอย่างสงบแล้วก็ปล่อยมันไปเถอะ ผมว่าผมควรจะส่งคุณให้ไปอยู่กับลูกชายจะดีกว่า!”
ในขณะนั้นเอง รอบๆของคนตระกูลฉินก็มีเสียงของเฉินเกอดังแทรกขึ้นมา จากนั้นก็เห็นเฉินเกอปรากฏตัวขึ้นมาอยู่บนหลังคาบ้านของตระกูลฉิน พลันกอดอกอยู่ด้วยท่าที่ดูสบายๆ
นิ่งไปครู่หนึ่ง!
สีหน้าของฉินเหินก็เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความโกรธและความตกใจ
เขาคิดไม่ถึงเลยว่าเฉินเกอจะยังมีชีวิตรอดมาได้ ก็เห็นอยู่ว่าเขาถูกห้ามังกรไฟพุ่งใส่โดยตรง ทำไมถึงไม่ได้เป็นอะไรเลย
“แก แก แกยังไม่ตาย?”
ฉินเหินจ้องไปที่เฉินเกอและถาม
“เหอะ!”
เฉินเกอยิ้มอย่างเย็นชา ก่อนจะพูดอย่างดูถูกเหยียดหยาม
“ฉินเหินนะฉินเหิน คุณก็ช่างหลงตัวเองเกินไปแล้ว คุณคิดว่าจะใช้ห้ามังกรไฟที่ไร้ท่าไม้ตายจะมาฆ่าผมได้อย่างนั้นหรอ?”
คิ้วของฉินเหินย่นเป็นเส้น แล้วเขาก็ถึงกับสีหน้าตก
“แกรู้ได้ยังไง?”
ฉินเหินถามอย่างเย็นชา คิดไม่ถึงว่าเฉินเกอจะรู้ว่าเขาไม่ได้ฝึกฝนท่าไม้ตายของห้ามังกรไฟ และเรื่องที่ตัวเองไม่มีท่าไม้ตายของห้ามังกรไฟก็มีตัวเขาเองเท่านั้นที่รู้
“อันนี้คุณไม่จำเป็นต้องรู้หรอก เพราะอีกเดี๋ยวคุณก็จะเป็นแค่คนตายคนหนึ่ง ผมเคยบอกแล้วว่าตระกูลฉินต้องตาย!”
เฉินเกอไม่ได้ตอบกลับคำถามของฉินเหิน แต่กลับพูดด้วยน้ำเสียงที่เข้มขรึมออกมา
“ใช่หรอ?ฉันเคยเอาชนะแกไปแล้วครั้งหนึ่ง ก็สามารถชนะแกเป็นครั้งที่สองได้ หยุดพูดมากแล้วก็ไปตายซะ!”
ฉินเหินพูดอย่างเย้ยหยัน เพราะเขาไม่เคยมองเฉินเกออยู่ในสายตาอยู่แล้ว จากนั้นก็ตะโกนออกมาด้วยความโกรธก่อนจะบินขึ้นไป แล้วพุ่งไปโจมตีเฉินเกอด้วยความเร็ว แต่น่าเสียดายที่คราวนี้ฉินเหินประมาทเรื่องพลังของเฉินเกอเกินไป