ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี! - ตอนที่ 815
บทที่ 815 เคล็ดลับห้ามังกรไฟที่แท้จริง
“เพลงกระบี่สิ้นธุลีกระบวนแรก ลืมตัวตน!”
เมื่อเห็นฉินเหินพุ่งมาหาตัวเอง เฉินเกอไม่ได้ตระหนกเลยแม้แต่น้อย แล้วจึงตะโกนออกมาเสียงดัง
หลังสิ้นเสียง ญาณกระบี่ที่อยู่ในตัวก็เปลี่ยนกลายเป็นกระบี่ออกมาอยู่ในมือของเฉินเกอ
กระบี่ถูกดึงออกจากฝัก แล้วแสงขาวก็ประกายขึ้นมา แล้วเขาก็ฟาดกระบี่ขึ้นผ่านมากลางอากาศ
ฉินเหินที่เห็นสถานการณ์ ก็แสดงสีหน้าออกมาอย่างตกใจ ก่อนจะรีบปล่อยพลังเจินชี่ของตัวเองออกมาต้านไว้
“บูม!”
แต่ถึงแม้ว่าฉินเหินจะต้านทานเอาไว้ แต่ก็ถูกพลังของตัวเองสะท้อนกลับจนลอย แล้วฉินเหินก็กระแทกล้มลงไปกับพื้น แล้วเลือดก็พุ่งออกมาจากปาก
“แก แค่กๆๆ ทำไมแกถึงได้รู้วิชาเพลงกระบี่สิ้นธุลี!”
ฉินเหินไอออกมาอย่างหนักพลัน จ้องไปยังเฉินเกอด้วยความไม่อยากจะเชื่อและพูดออกมาอย่างตกใจ
จากความทรงจำของเขา เพลงกระบี่สิ้นธุลีก็มีเพียงคนคนเดียวที่มีเท่านั้น ซึ่งคนคนนั้นก็คือศิษย์พี่ของเขา เฟิงหรูเฉิน
วิชาเพลงกระบี่สิ้นธุลีคือเคล็ดลับที่สุดยอดของเฟิงหรูเฉิน ที่นอกเหนือจากห้ามังกรไฟ นี่ก็เป็นวิชากระบี่ที่เฟิงหรูเฉินสร้างขึ้นมาเองซึ่งทั้งหมดแบ่งออกเป็นสามกระบวนท่า
กระบวนแรก ลืมตัวตน
กระบวนที่สอง เศษดาว
กระบวนที่สาม สิ้นธุลี
แต่หลังจากที่เฟิงหรูเฉินศิษย์พี่ถึงเขาทำร้ายจนตกไปยังหุบเขาโยวหมิง เพลงกระบี่สิ้นธุลีที่ไม่มีใครเทียบได้ก็ไม่มีใครได้เห็นอีกเลย ดังนั้นฉินเหินจึงคิดว่าเฟิงหรูเฉินศิษย์พี่ของตัวเองได้ตายในหุบเหวลึกแห่งหุบเขาโหยวหมิงแล้ว แต่ว่าตอนนี้เพลงกระบี่สิ้นธุลีกลับมารากกอีกครั้ง จึงให้ฉินเหินตะลึงเป็นอย่างมาก
“เหอะ!”
“ฉินเหิน ชาตินี้ทั้งชาติคุณเอาแก่ก่อกรรมทำชั่ว แม้แต่ศิษย์พี่ของตัวเองก็ยังไม่เว้น วันนี้ผมจะเป็นตัวแทนของผู้อาวุโสเฟิงหรูเฉินที่เป็นศิษย์พี่ของคุณในการลงโทษคุณด้วยกฎของสำนักเอง!”
เฉินเกอยิ้มออกมาอย่างดูถูก แล้วชี้กระบี่ไปที่ฉินเหินที่อยู่บนพื้นอย่างเยือกเย็น
ฉินเหินมองไปที่เฉินเกอ แล้วในขณะนั้นเองเขาก็ราวกับได้เห็นเงาร่างของเฟิงหรูเฉินบนตัวของเฉินเกอ
“ศิษย์พี่ คิดไม่ถึงว่าที่จริงแล้วพี่ยังมีชีวิตอยู่ แถมยังมอบทุกอย่างให้กับเด็กคนนี้อีก แต่อย่าลืมไปว่าฉันไม่ใช่ฉินเหินคนเดิมในตอนนั้นอีกแล้ว!”
หลังจากนั้น ฉินเหินก็ลุกขึ้นยืนพร้อมกับพูดด้วยสีหน้าที่มัวหมอง
หลังจากสิ้นเสียง ฉินเหินก็กระจายแขนทั้งสองออกแล้วไฟก็ลุกโชนขึ้นบนตัวเขา แล้วมังกรไฟตัวหนึ่งก็บินล้อมตัวเขาไว้ ฉินเหินกำลังคิดจะใช้ห้ามังกรไฟอีกครั้ง
“ฉินเหิน คุณเองก็อย่าลืมไปว่า ห้ามังกรไฟของคุณนั้นยังไม่สมบูรณ์!”
เมื่อมองเห็นฉินเหินที่กำลังจะใช้ห้ามังกรไฟ เฉินเกอก็แสร้งทำเป็นพูดเตือนสติเขา
“เหอะ แล้วจะทำไม ยังไงซะเคล็ดลับวิชาห้ามังกรไฟก็มีอยู่ที่ฉันคนเดียว ถึงแม้ฉันจะยังฝึกไม่สมบูรณ์ ก็ยังสามารถฆ่าแกได้อย่างง่ายดาย!”
ฉินเหินพูดออกไปอย่างมั่นใจ โดยที่ไม่รู้ว่าที่จริงแล้วเฉินเกอได้รับถ่ายทอดวิชาห้ามังกรไฟแล้ว และก็มีท่าไม้ตายเสียด้วย
“ในเมื่อคุณยังเอาแต่ดื้อดึง งั้นผมก็จะทำให้คุณเข้าใจซะ!”
เฉินเกอเองก็ไม่เสียเวลาพูดกับเขามากมาย พูดจบ เฉินเกอเองก็ทำท่าเดียวกันกับฉินเหิน ทันใดนั้นไฟก็ลุกขึ้นโชกโชนไปตามตัวเขา โดยในเปลวไฟก็ประกายไปด้วยแสงสีทองวิบวับ แล้วก็ปรากฏมังกรไฟ มังกรทอง และมังกรคู่ ซึ่งพวกมันดูแพรวพราวกว่ามังกรของฉินเหินเป็นอย่างมาก เพราะว่าเฉินเกอเป็นผู้มีเคล็ดลับวิชาห้ามังกรไฟที่แท้จริง!
“อะไรกัน!”
ฉินเหินตะลึง ดวงตาทั้งสองเบิกกว้างขึ้น
“ฉินเหิน เปิดตาของคุณดูให้ดีๆ!นี่ถึงเรียกว่าห้ามังกรไฟที่แท้จริง!”
เฉินเกอคำรามใสฉินเหินด้วยความดุเดือด
หลังจากที่เสียงคำรามดังขึ้นมาเฉินเกอก็ปล่อยมังกรไฟห้าตัวออกไป แล้วทุกตัวก็ประกายด้วยแสงสีทอง จนในที่สุดมังกรไฟทองทั้งห้าตัวก็พุ่งไปปะทะกับร่างของฉินเหิน
“บูม!”
เปลวไฟกลืนกินฉินเหินลงไปแล้วทันใดนั้นเขาก็เถ้าถ่านทันที
แล้วจากนั้น ทุกคนในตระกูลฉินก็ถูกปกคลุมไปด้วยเปลวไฟ จนสุดท้ายตระกูลฉินทุกคนที่อยู่รอบๆก็กลายเป็นเถ้าถ่านไปด้วยเช่นกัน ซึ่งนี่คือพลังของห้ามังกรไฟ ที่มันสามารถทำลายล้างที่อยู่ในระยะสิบเมตรให้สิ้นซากได้
ตระกูลฉินแห่งโลกยู่ ดับสูญลงแล้ว!
พอมองเห็นคนตระกูลฉินถูกเผาจนสิ้นซากจนไม่เหลือ ในที่สุดเฉินเกอก็ยกหินก้อนใหญ่ในใจออกไปได้สักที ทั้งยังสามารถทำให้คำขอสุดท้ายของเฟิงหรูเฉินสำเร็จอีกด้วย
หลังจากสะสางปัญหาของตระกูลฉินเสร็จ เฉินเกอก็รีบออกจากเมืองไป๋ตี้
เฉินเกอเชื่อว่าการตายตระกูลฉินแห่งเมืองไป๋ตี้ต้องแพร่ออกไปในไม่ช้าแน่นอน พอถึงเวลานั้นก็คงต้องมีการเคลื่อนไหวอีกครั้งแน่
แม้ว่าตระกูลฉินจะถูกทำลาย แต่กองกำลังทั้งหมดที่อยู่เบื้องหลังตระกูลฉินก็ต้องมาทวงความยุติธรรมแก่พวกเขาแน่ ดังนั้นเฉินเกอจึงใช้โอกาสนี้ในการพาพี่สาวออกจากโลกยู่แล้วค่อยว่ากันอีกที
ถึงแม้เฉินเกอจะเข้าสู่ขอบเขตเจินเหรินแล้ว แต่เหล่านักสู้ที่แข็งแกร่งในโลกยู่ก็มีไม่น้อย หากยังอยู่นานก็มีแต่จะหาเรื่องใส่ตัวเอง
ในเช้าวันถัดมา เฉินเกอก็พาเฉินเสี่ยวพี่สาวของเขาหนีออกจากโลกยู่ ส่วนตัวโจวโน่ก็ขอแยกตัวกลับไปยังตี้ตูคนเดียว
ก่อนที่จะจากกัน โจวโน่ก็ยังไม่ลืมที่จะพูดเตือนเฉินเกอว่าเฉินเกอยังติดหนี้บุญคุณเธอ เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมเธอจะเรียกให้เขากลับมา
หลังจากที่เฉินเกอพาเฉินเสี่ยวจากไปไม่นาน โลกยู่ก็เกิดความวุ่นวาย
ข่าวคราวเรื่องตระกูลฉินถูกทำลายแพร่สะพัดไปทั่วโลกยู่ ทำให้กองกำลังและคนในตระกูลต่างพากันตื่นตระหนก
ตระกูลฉินแห่งเมืองไป๋ตี้ ถือเป็นตระกูลที่มีอำนาจโด่งดังไปทั่วโลกยู่ แถมพลังของพวกเขาก็มีมากเกินต้าน แต่เพียงค่ำคืนเดียวพวกเขากลับถูกทำลายลงได้อย่างง่ายดาย จึงทำให้ผู้คนอดไม่ได้ที่จะตกใจ
ณ พระตำหนักเทพแห่งโลกยู่
ชายคนหนึ่งที่สวมเสื้อคลุมฟีนิกซ์ สวมมงกุฎสีทอง ในมือถือคทามังกรทอง กำลังนั่งอยู่บนบัลลังก์ของพระตำหนัก
เขาคนนี้คือท่าราชเทพของโลกยู่ นามว่าอพอลโล เป็นผู้ที่มีการบำเพ็ญจิตชั้นเจ็ดของขอบเขตเจินเหริน และเป็นผู้ปกครองโลกยู่
“ท่านราชเทพ ตระกูลถูกทำลายแล้ว ผมเกรงว่าจะมีกองกำลังที่อยู่ในโลกยู่ทำการเคลื่อนไหว เพื่อไปต่อสู้ให้กับตระกูลฉินนี้!”
ชายในชุดคลุมสีดำยืนอยู่ด้านล่างบัลลังก์ พูดกับราชเทพอพอลโลอย่างเคารพนับถือ
เขาเป็นองครักษ์ของราชเทพ นามว่าเฮยส้า ผู้ที่มีพลังการบำเพ็ญจิตชั้นสองของขอบเขตเจินเหริน
“อืม…..แล้วรู้หรือเปล่าว่าใครเป็นคนทำ?”
อพอลโลค่อยๆเอ่ยถามกลับด้วยเสียงทุ้มต่ำ แต่เพียงเสียงคำพูดธรรมดาของเขาก็ทำให้คนรับรู้ถึงแรงกดดันอันทรงพลังแล้ว
“เป็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ชื่อว่าเฉินเกอ ตามที่ได้ยินมาเขาเป็นคนจากโลกที่อยู่นอกเขตโลกยู่”เฮยส้ารีบกล่าวตอบกับอพอลโล
“คนจากโลก อืม เฮยส้า แกออกไปทดลองพลังของคนคนนั้น แล้วกลับมารายงานให้กับฉันอีกที!”
อพอลโลหลับตาทั้งสองลง ถอนหายใจออกมาก่อนจะสั่งเฮยส้า
“ครับ ท่านราชเทพ!”เฮยส้ารีบตอบกับ จากนั้นก็ยกมือขึ้นประสานแล้วถอยออกไปจากพระตำหนัก
ตั้งแต่นั้น อพอลโลก็ไม่ได้ลืมตาขึ้นมามองอีกเลย เพราะเขาไม่ได้มีความสนใจในตัวของเฉินเกอคนนี้เลยแม้แต่น้อย
แต่ในอีกไม่ช้า พื้นที่ของหนึ่งในสามของตระกูลฉินทั้งหมดก็ต้องถูกแบ่งแยกโดยกองกำลังและวงศ์ตระกูลในโลกยู่ ตระกูลจะต้องถูกกำจัดออกไปจากโลกยู่จนสิ้นซาก
ในอีกฝั่งหนึ่ง เฉินเกอได้พาเฉินเสี่ยวกลับมายังโลก พร้อมกับพาเฉินเสี่ยวไปหาพอแม่และน้องชายของตัวเอง พอเห็นเฉินเสี่ยวกลับมา พ่อแม่ของเฉินเกอก็รู้สึกมีความสุขอย่างมาก เพราะในที่สุดทุกคนก็ได้มาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันสักที แต่สำหรับตัวเฉินเกอ เรื่องนี้มันยังไม่จบ ถึงตระกูลฉินจากโลกยู่จะถูกทำลายลงแล้ว แต่ตระกูลฉินแห่งเมืองส้งก็ยังมีชีวิตอยู่ ตระกูลฉินทั้งสองนี้อยู่ในตระกูลเดียวกัน และเหตุการณ์ก็เริ่มมาจากตระกูลฉินแห่งเมืองส้ง ซึ่งก็เป็นพวกเขาเองที่ส่งพี่สาวของเขาไปยังตระกูลฉินแห่งโลกยู่กับมือด้วย ดังนั้นเฉินเกอจะต้องทำลายตระกูลฉินแห่งเมืองส้งด้วยเช่นกัน