ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี! - ตอนที่ 820
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่ 820 วิหารฮู้
เฉินเกอค่อยๆเดินไปข้างกายของหลินื่อเจ๋
“คุณชายหลิน นายแพ้แล้ว เงินหนึ่งร้อยล้าน!”
เฉินเกอโน้มตัวลง พลันเอื้อมมือออกไปแล้วพูดกับหลินจื่อเจ๋ที่กำลังกองอยู่กับพื้น
หลินจื่อเจ๋ที่คิดว่าเฉินเกอจะเข้ามาสั่งสอนตนอีกครั้ง กำลังจะปิดตายอมรับการสั่งสอน แต่พอได้ยินคำพูดของเฉินเกอ ทันใดนั้นหลินจื่อเจ๋ก็ถอนหายใจออกมา
เมื่อแพ้การพนัน หลินจื่อเจ๋จึงต้องมอบเงินหนึ่งร้อยล้านให้กับเฉินเกออย่างเลี่ยงไม่ได้
เงินทองเป็นของนอกกาย ถึงยังไงเงินเล็กน้อยแค่นี้สำหรับหลินจื่อเจ๋ก็ไม่ได้ถือเป็นปัญหาอะไร ในเมื่อแพ้ก็คือแพ้
แต่หลินจื่อเจ๋ไม่สูญเสียแค่เงิน เขายังสูญเสียศักดิ์ศรีของตัวเอง สูญเสียศักดิ์ศรีของคุณชายแห่งตระกูลหลิน สิ่งนี้จึงทำให้หลินจื่อเจ๋ยอมรับไม่ได้
เฉินเกอที่พอได้เงินหนึ่งร้อยล้านก็พาโจวโน่เดินจากไป โดยที่ทั้งทั้งสองไม่ได้สนใจว่าหลินจื่อเจ๋จะเป็นหรือตาย ปล่อยหลินจื่อเจ๋นอนกองอยู่กับที่ ผ่านไปสักระยะ หลินจื่อเจ๋ก็ลุกขึ้นมาจากพื้นแล้วเดินจากไปอย่างโซซัดโซเซ
แต่เรื่องนี้กลับยังไม่จบ….
อีกฝั่งหนึ่ง เฉินเกอก็พาโจวโน่มายังร้านกาแฟแห่งหนึ่ง แล้วทั้งสองก็นั่งลง
“เฉินเกอ ทำไมอยู่ๆคุณถึงมาหาฉันล่ะ?คิดถึงฉันแล้วใช่ไหม?”
ทันทีที่ทั้งสองนั่งลง โจวโน่ก็เอ่ยปากถามมองไปยังเฉินเกอด้วยสีหน้าที่คาดหวัง
เฉินเกอหันไปมองโจวโน่ พลันคิดในใจว่ายัยติ๊งต๊องนี่ชอบเขาจริงๆงั้นหรอ?ถึงได้ถามคำถามนี้
“ผมมาหาเพราะมีเรื่อง!”
เฉินเกอตอบด้วยใบหน้าที่จริงจัง
“ชิ คุณนี่ไร้อารมณ์จริงๆ คนเขาอุตส่าห์ถามแบบนี้ จะเล่นด้วยสักหน่อยก็ไม่ได้ หื้ม ซื่อบื้อจริงๆ!”
เมื่อได้ยินคำพูดของเฉินเกอ โจวโน่ก็ทำเสียงบ่นพร้อมกับทำปากมุ่ย ด้วยท่าทางที่สุดแสนจะน่าเอ็นดู
ไม่ใช่ว่าเฉินเกอไม่อยากตอบ แต่เป็นเพราะเขานั้นแต่งงานมีครอบครัวแล้ว แน่นอนว่าไม่สามารถทำเรื่องที่ผิดต่อซูมู่หานได้ จำเป็นต้องมีขอบเขตของตัวเอง ส่วนเมื่อกี้ที่ปลอมเป็นแฟนของโจวโน่นั้นถือเป็นข้อยกเว้นไปแล้วสำหรับเฉินเกอ ถ้าเกิดสมมุติว่าเขาไม่ได้คบกับซูมู่หาน อย่างนั้นเฉินเกอก็ไม่แน่ใจแล้วว่าอาจจะมีความรู้สึกบางอย่างกับโจวโน่ แต่นั่นก็เป็นแค่การสมมุติเท่านั้น
“โจวโน่ คุณรู้จัดราชเทพหรือเปล่า?”
จากนั้น เฉินเกอก็หันไปถามโจวโน่
“ไม่รู้จัก!”
โจวโน่หันหน้าหนีและตอบอย่างเด็ดขาดด้วยความโกรธเล็กน้อย
เฉินเกอที่เห็นอย่างนั้นก็รู้สึกเอือระอา ผู้หญิงสมัยนี้ต่อกรได้ยากขนาดนี้เลยหรือไงนะ
“อืม ในเมื่อคุณไม่รู้จัก อย่างนั้นก็ไม่เป็นไร รบกวนคุณแล้ว ผมขอตัวก่อน!”
เฉินเกอไม่ใช่คนประเภทที่ชอบดื้อดึง ดังนั้นเขาจึงลุกขึ้นแล้วกล่าวลากับโจวโน่ เตรียมตัวจะออกไป
ตอนนี้โจวโน่ถึงกับร้อนรน เพราะถ้าเกิดเฉินเกอไปจริงๆ งั้นที่เธอตั้งใจแกล้งก็ไม่มีความหมายหน่ะสิ
แต่ก็พูดได้เพียงว่าเฉินเกอเองไม่อยากรับมุกจากโจวโน่ ยิ่งไปกว่านั้นเฉินเกอก็ไม่รู้ด้วยว่าโจวโน่ไม่ได้โกรธเขาจริงๆหรอก แต่เพียงแสร้งทำให้เขาดูเท่านั้น เพื่อให้เขาเล่นกับเธอก็เท่านั้นเอง
แต่น่าเสียดายที่เฉินเกอไม่สุนัข จึงไม่ชอบประจบสอพลอเอาอกเอาใจ
“ก็ได้ๆ ฉันแค่แกล้งคุณหน่อยไม่ได้หรือไง ช่างไม่รู้เรื่องเอาซะเลย!”
โจวโน่รีบคว้าเฉินเกอเอาไว้แล้วพูดขึ้น
เฉินเกอถึงได้นั่งลงแล้วไปยังโจวโน่เพื่อรอฟังคำตอบ
“ราชเทพคือผู้ปกครองสูงสุดของโลกยู่ของพวกเรา ชื่อจริงของเขาคืออพอลโล เขาอาศัยอยู่บนพระตำหนักเทพ!”
จากนั้นโจวโน่ก็อธิบายสั้นๆเกี่ยวกับเรื่องของท่านราชเทพให้เฉินเกอฟัง
เฉินเกอที่ได้ยิน ก็เข้าใจว่าทุกอย่างเป็นแบบนี้นี่เอง ดูเหมือนเขาจะไปล่อความสนใจของผู้ปกครองสูงสุดแห่งโลกยู่เข้าซะแล้ว
“ทำไม?ทำไมอยู่ๆถึงได้มาถามเรื่องนี้?ฉันขอบอกคุณไว้เลยนะ เฉินเกอ ราชเทพไม่ใช่ได้อ่อนหัดอย่างที่นายคิดหรอกนะ นั่นคือสิ่งที่น่ากลัวที่สุดที่เคยมีมา!”
โจวโน่ถามเฉินเกอด้วยความสงสัย ก่อนจะเตือนเฉินเกออย่างจริงใจ เพราะเธอไม่อยากให้เฉินเกอไปยั่วโมโหท่านราชเทพอพอลโล
ผู้มีพลังการบำเพ็ญจิตชั้นเจ็ดของขอบเขตเจินเหริน
เฉินเกออดตกใจไม่ได้ ว่าเขาจะมีพลังที่น่าเกรงขามขนาดนี้
ตอนนี้ตัวเขามีพลังเพียงการบำเพ็ญจิตชั้นสองของขอบเขตเจินเหรินเท่านั้น ช่องว่างระหว่างราชเทพนั้นยังห่างไกลกันมาก
ถ้าเกิดบังเอิญเจอเข้ากับอพอลโลจริงๆ เกรงว่าเขาคงจะไร้หนทางจะต้านทานได้ ความเป็นไปได้ที่เขาจะตายมีสูงมาก
“จริงด้วย แล้วคุณรู้จักลูกน้องของราชเทพที่เป็นผู้ชายสวมชุดคลุมสีดำหรือเปล่า?”
เฉินเกอถามโจวโน่อีกครั้ง
โจวโน่คิดแล้วคิดอีก ก่อนจะตอบ
“พอนึกดูแล้ว ก็มีคนแบบนั้นอยู่คนหนึ่งจริงๆ ฉันจำได้ว่าเหมือนเขาจะชื่อว่าเฮย… เฮยส้า เขาเป็นองครักษ์ของท่านราชเทพ รับผิดชอบในการช่วยท่านราชเทพจัดการกับบางเรื่องในโลกยู่ เหมือนว่าท่านราชเทพแทบจะไม่ปรากฏตัวเลย ส่วนมากล้วนเป็นเฮยส้านี่แหละที่ออกหน้าแทน”
เฉินเกอที่ได้ยินอย่างนั้น ก็เข้าใจ
ดูเหมือนว่าผู้ที่มาเยือนเขาเมื่อสองสามวันก่อนน่าจะเป็นเฮยส้าคนนี้ แต่เรื่องที่สั่งให้เฮยส้าวงมือเพียงลำพัง ในความคิดของราชเทพอพอลโลคงไม่ได้คิดจะทำอะไรกับเขา เพียงแค่มาทดสอบเขาก็เท่านั้น
“เฉินเกอ คุณไม่ได้ผิดใจกับท่านราชเทพหรอกนะ?”
เมื่อมองดูท่าทางของเฉินเกอ โจวโน่ก็ถามด้วยความเป็นห่วง
เฉินเกอส่ายหน้า พร้อมกับพูดอธิบาย
“วางใจเถอะ ผมคงไม่โง่ที่จะไปผิดใจกับผู้ที่พลังการบำเพ็ญจิตชั้นเจ็ดของขอบเขตเจินเหรินหรอก!”
เมื่อได้ยินแบบนี้ โจวโน่ก็โล่งใจ
“เอ๊ะ จริงด้วย ทำไมคุณถึงได้เรียกเงินจากหลินจื่อเจ๋เยอะขนาดนั้น?คุณขาดเงินหรอ?”
โจวโน่ที่เพิ่งนึกได้ถึงเรื่องนี้ ก็หันไปถามเฉินเกอ เงินหนึ่งร้อยล้าน สำหรับโจวโน่แล้วก็ไม่ได้ถือว่าเยอะอะไร แต่สำหรับคนธรรมดาคนหนึ่งมันก็เพียงพอที่จะใช้จ่ายทั้งชีวิต
“เหอะๆ ใช้เงินของตัวเองซื้อของ มันไม่สนุกเท่ากับใช้เงินของคนอื่นไง!”
เฉินเกอหัวเราะเบาๆ ก่อนจะพูดอธิบาย
“โจวโน่ ได้ยินว่าฮู้เวทย์ในโลกยู่ของพวกคุณนั้นโด่งดังมากที่สุด คุณสามารถผมไปดูหน่อยได้ไหม ผมอยากจะซื้อฮู้เวทย์สักหน่อย !”เฉินเกอพูดกับโจวโน่ต่อ
ตอนนี้โจวโน่ถึงได้รู้ถึงวัตถุประสงค์การมาที่แท้จริงของเขาครั้งนี้ และก็เพิ่งได้เข้าสาเหตุที่เขาเรียกเงินเยอะขนาดนั้นจากหลินจื่อเจ๋ เพราะเขาจากเอาไปซื้อฮู้เวทย์มาใช้นี่เอง
“ได้สิ ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว แต่ว่าคุณแน่ใจว่าเงินหนึ่งร้อยล้านจะพอหรอ?”
โจวโน่ตอบตกลง ก่อนจะหันไปถามเฉินเกอด้วยความสงสัยอีกครั้ง
ในโลกยู่ ฮู้เวทย์ถือเป็นเคล็ดลับวิชาที่หายากมา และราคาของมันก็แพงอย่างมหาศาล ฮู้เวทย์ธรรมดาอันหนึ่งราคาของมันก็เริ่มมากกว่าพันหรือมากกว่าหมื่นแล้ว ยิ่งอย่าไปพูดถึงฮู้เวทย์ระดับสูงเลย
“ไม่เป็นไร คงน่าจะพอแล้ว ถ้าไม่พอผมก็มีอยู่ ลองไปดูก่อนแล้วค่อยว่ากันทีหลัง!”
เฉินเกอยิ้มออกมาอย่างเรียบเฉย สำหรับเรื่องเงินมันไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับเขา ดังนั้นเขาจึงไม่กลัวว่าจะไม่มี เงิน
พอพูดจบ ทั้งสองคนก็รีบดื่มกาแฟของตัวเองจนหมด แล้วพากันเดินออกจากร้านกาแฟไป แล้วตรงไปยังวิหารฮู้ศูนย์การค้าฮู้เวทย์ที่ใหญ่ที่สุดใจกลางเมือง ฮู้เวทย์ทั้งหมดในโลกยู่ล้วนออกมาจากวิหารฮู้ทั้งนั้น ซึ่งพวกมันจะถูกสร้างขึ้นมาโดยเหล่าปรมาจารย์ฮู้ผู้เก่งกาจ แล้วนำมาวางขายหรือประมูลในวิหารฮู้