ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี! - ตอนที่ 862
บทที่ 862 อูฉวน
“โอ้ นี่คุณหนูเจินไม่ใช่เหรอ!”
หลังจากเดินไปได้สักพัก ได้ยินเสียงของชายหนุ่มดังขึ้นจากด้านหลัง
พวกเฉินเกอทั้งห้าและหญิงสาวหยุดเดินทันที ค่อยๆ หันไปมอง
“ฉันก็นึกว่าใคร เป็นคุณชายอูของพวกเรานี่เอง!”
เมื่อเห็นผู้มาเยือน หญิงสาวก็อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยในทันที
เฉินเกอมองไปที่ท่าทางที่แสดงออกของหญิงสาวก็รู้ว่าเธอต้องไม่ประทับใจชายหนุ่มคนนี้เท่าไหร่
แค่มองชายหนุ่มคนนี้ก็รู้เลยว่าเขาเป็นลูกผู้ดีมีเงิน
ชายหนุ่มชื่อว่าอูฉวน เป็นคุณชายของตระกูลอูแห่งเมืองมังกรแดง
ตระกูลอูอยู่ที่เมืองมังกรแดงถือว่าอยู่อย่างมีชื่อเสียงและทรงพลังอำนาจ ถือว่าเป็นตระกูลหนึ่งที่มีชื่อเสียง
มองไปที่อูฉวนที่อยู่ตรงหน้า เฉินเกอรู้ว่าเขาเป็นผู้ฝึกตนเช่นกัน ความแข็งแกร่งอยู่ในขั้นการบำเพ็ญจิตชั้นสามของขอบเขตเจินเหริน
“คุณหนูเจิน ได้ยินมาว่าพี่สาวของเธอแพ้การแข่งขันวิทยายุทธในเมืองครั้งนี้ ดูเหมือนว่าตระกูลเจินของเธอตอนนี้ทำได้ไม่ดีเท่าไร เธอที่เป็นน้องสาวก็ไม่มีทักษะในด้านวิทยายุทธ ช่างเสียหน้าตระกูลเจินจริงๆ!”
อูฉวนอดไม่ได้ที่จะพูดหัวเราะเยาะหญิงสาว น้ำเสียงของเขาเผยให้เห็นถึงความดูถูก
ชื่อจริงของหญิงสาวคือเจินเหมย เป็นลูกสาวคนที่สองของตระกูลเจินในเมืองมังกรแดง พี่สาวของเธอชื่อเจินจี เป็นผู้ฝึกตนเช่นกัน ความแข็งแกร่งอยู่ในขั้นการบำเพ็ญจิตชั้นสองของขอบเขตเจินเหริน
แต่ในสองพี่น้อง เจินเหมยไม่มีความสามารถในด้านวิทยายุทธเลย มีเพียงพี่สาวเท่านั้นที่มี ดังนั้นเจินเหมยจึงไม่มีสถานะมีสิทธิ์ในตระกูลเจินมากนัก ทุกอย่างว่าไปตามพี่สาวเป็นของเธอ
“อูฉวน นายมาที่นี่เพื่อตั้งใจล้อเลียนฉันเหรอ? ฉันคิดว่านายน่าจะไม่ได้ถูกพี่สาวฉันสั่งสอนมานานแล้วล่ะสิ!”
เจินเหมยหน้าบูดบึ้งทันที จ้องไปที่อูฉวนและถาม
“ฮ่าๆๆ!”
“ไม่ๆๆ เจินเหมยเธอเข้าใจฉันผิดแล้ว ฉันจะเยาะเย้ยเธอได้ยังไง ฉันก็แค่มาเทคแคร์เธอสักหน่อย และไม่รู้ว่าไอ้หมอนั่นที่เอาชนะพี่สาวของเธอเป็นคนยังไง ถ้าฉันเจอ ฉันจะช่วยพี่สาวเธอสั่งสอนเขาอย่างแน่นอน ระบายความโกรธให้เธอ!”
อูฉวนรีบยิ้มและพูดอธิบายกับเจินเหมย เฉินเกอที่อยู่ข้างกายเจินเหมยไม่อยู่ในสายตาเลยแม้แต่นิด คุยโวโอ้อวดอย่างไม่รู้สึกกระดากอาย
หลังจากเฉินเกอฟังแล้ว ก็แอบขำในใจ อูฉวนคนนี้ไร้เดียงสาและทำให้คนตลกจริงๆ ต้องรู้ไว้ว่ามีพลังแค่ขั้นการบำเพ็ญจิตชั้นสามของขอบเขตเจินเหรินเท่านั้นเอง พูดจาคุยโวโอ้อวดแบบนี้ได้ยังไง
“งั้นเหรอ? นายแน่ใจ?”
“แน่นอนสิ ฉันอูฉวนพูดได้ก็ต้องทำได้ อย่าให้ฉันเจอไอ้หมอนั่น ไม่อย่างงั้นฉันจะให้เขาได้เห็นดีแน่!”
อูฉวนตบที่หน้าอกตัวเอง มองไปที่เจินเหมยและพูดด้วยวาทะเต็มไปความชอบธรรม
เจินเหมยมองไปยังเฉินเกอที่อยู่ข้างกายทันที
“ก็ดีนี่ คนก็อยู่ที่นี่ เขาก็คือคนที่นายต้องการหา!”
จากนั้น เจินเหมยก็ชี้ไปที่เฉินเกอซึ่งยืนอยู่ข้างๆ และพูดกับอูฉวน
อูฉวนได้ยินแล้ว ก็ตะลึงครู่หนึ่ง สายตามองไปที่ร่างเฉินเกอ เขาคิดไม่ถึงว่าจะเป็นเฉินเกอที่ดูไม่อยู่ในสายตาแบบนี้
เฉินเกอถึงกับผงะ นึกถึงตอนที่ตัวเองเคยเอาชนะพี่สาวของเจินเหมย นี่คือการใช้ตัวเองเป็นเกราะกำบังอย่างเห็นได้ชัด
“เจินเหมย เธอไม่ได้ล้อฉันเล่นใช่ไหม? ไอ้หมอนี่ดูตัวเล็กผอมแค่นี้ เธอต้องล้อฉันเล่นแน่ๆ!”
อูฉวนไม่เชื่อคำพูดของเจินเหมย หลังจากชำเลืองมองเฉินเกอด้วยความรังเกียจเขาก็คุยกับเจินเหมยต่อ
“เหอะ! อูฉวน ฉันจะบอกนายให้ ฉันเจินเหมยจำเป็นต้องล้อเล่นกับนายด้วยเหรอ? ฉันว่านายคงกลัวแล้วสินะ?”
เจินเหมยใช้วิธีกวนประสาทเพื่อกระตุ้นอูฉวน
อูฉวนผู้ไร้เดียงสาก็ถูกเจินเหมยกระตุ้นด้วยวิธีแบบนี้สำเร็จจริงๆ
“นาย เราสองคนมาประลองกัน นายกล้าไหม?”
จากนั้นอูฉวนก็ชี้ไปที่เฉินเกอถามด้วยความโกรธ
“นายแน่ใจนะ?”
เฉินเกอถามเบา ๆ
“หึ แน่นอน ทำไม? นายกลัวเหรอ?”
อูฉวนเหน็บแนม
“ไม่ ฉันไม่ได้กลัว ฉันกลัวว่านายจะแพ้อย่างอนาถเกินไป!”
เฉินเกอนิ่งสงบมาก มองอูฉวนด้วยความมั่นใจและเหน็บแนมกลับ
เขาไม่คิดไม่ถึงเลยว่าเจินเหมยจะทำให้ตัวเองเดือดร้อน
ดูเหมือนว่าตอนนี้ตัวเขาเองคงหนีไม่พ้นแล้ว
เจินเหมยขยิบตาให้เฉินเกอ ขยับเข้าใกล้กับหูของเฉินเกอพูดกระซิบ
“เฉินเกอ ช่วยฉันสั่งสอนเขา ไอ้หมอนี่ชอบกวนประสาทฉันทุกที!”
เจินเหมยบอกกับเฉินเกอ
“นี่ ฉันไม่ใช่ลูกจ้างอันธพาลของเธอนะ!”
เฉินเกอเตือนสติเจินเหมยอย่างรวดเร็ว
“อัยยา นายก็ช่วยฉันสิ ไม่ต้องกังวล ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นฉันจะแบกมันไว้เอง!”
เจินเหมยทำตัวออดอ้อนเฉินเกอทันที
เฉินเกอทำอะไรไม่ได้ จึงทำได้แค่ตอบตกลง
“ไอ้นี่ ฉันไม่เชื่อว่านายจะเอาชนะเจินจีได้ ต้องขี้โกงแน่นอน คอยดูฉันจะสั่งสอนนายยังไง!”
อูฉวนชี้ไปที่เฉินเกออย่างมั่นใจและพูดกล่าว เหมือนเฉินเกอไม่อยู่ในสายตาสักนิด
พูดจบ อูฉวนก็รับพุ่งเข้าหาเฉินเกอ
เมื่อเทียบกับเจินเหมย ความเร็วของอูฉวนช้ามาก ไม่ถึงครึ่งหนึ่งของความเร็วของเจินเหมยด้วยซ้ำ
ความสามารถแค่นี้ ทำให้เฉินเกอดูถูกที่จะลงมือจริงๆ
อย่างไรก็ตามเฉินเกอต้องเล่นกับเขาก่อนที่จะเอาชนะอูฉวน จะจบเกมได้เร็วขนาดนี้ไม่ได้
หมัดที่หนักหน่วงอูฉวนก็พุ่งเข้าหาเฉินเกอ
เฉินเกอเอียงข้างเล็กน้อย ทำให้หมัดของอูฉวนต่อยไปที่อากาศ ผ่านตรงหน้าตัวเองไป
อูฉวนตอบสนองในทันใด เปลี่ยนหมัดเป็นกรงเล็บโดยตรง คว้าจับไปที่เฉินเกอ
เฉินเกอตอบสนองอย่างรวดเร็ว รีบยกมือขึ้นทันทีเพื่อเป็นเกราะกันบัง บังกั้นกรงเล็บของอูฉวนไว้
“ฉว๊าบ!”
อูฉวนฉวยโอกาสฉีกเสื้อผ้าที่แขนของเฉินเกอ
สิ่งนี้ทำให้เฉินเกอประหลาดใจเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าอูฉวนคนนี้จะสามารถใช้กรงเล็บมังกรได้
“กรงเล็บมังกร ไม่เลวนี่ น่าสนใจหน่อย!”
เฉินเกอถอยหลังก้าวหนึ่ง มองอูฉวน แสดงรอยยิ้มของความสนุกสนานแล้วกล่าว
“เหอะ!”
“ไอ้นี่ ฉันก็เห็นความสามารถของนายมีแค่นี้ ไม่รู้จริงๆ ว่านายใช้วิธีอะไรในการเอาชนะเจินจีได้!”
อูฉวนจ้องไปที่เฉินเกอด้วยความมั่นใจและเยาะเย้ย
ในใจของเขา เฉินเกอไม่ใช่คู่ต่อสู้ของตัวเขาเองเลย
เจินเหมยซึ่งกำลังดูความสนุกอยู่อีกฝั่งก็คาดเดาความคิดอย่างรอบคอบของเฉินเกอได้อยู่แล้ว
เห็นได้ชัดว่าเมื่อกี้นี้เฉินเกอตั้งใจยอม ไม่ได้ไปเผชิญหน้าสู้กับอูฉวนตรงๆ
ตลกแล้ว ด้วยความสามารถของเฉินเกอ แค่ท่าธรรมดาง่ายๆ ก็สามารถสู้เอาชนะอูฉวนได้แล้ว จำเป็นต้องทำอะไรที่มากเกินความจำเป็นด้วยเหรอ?
“นายยังเอาชนะฉันไม่ได้เลย มั่นใจขนาดนี้คงไม่ใช่เรื่องดี!”
เฉินเกอไม่ได้อารมณ์เสียเพราะคำพูดของอูฉวน แต่กลับเย้ยหยันอูฉวนกลับไป
สำหรับคนอย่างอูฉวน เฉินเกอไม่จำเป็นต้องอารมณ์เสีย
“หึ ไอ้นี่ ดูท่านี้ของฉันจะโจมตีให้นายพ่ายแพ้ได้!”
อูฉวนตะคอกอย่างเย็นชา
เมื่อพูดจบ อูฉวนเตะนิ้วเท้ากับพื้น กระโดดขึ้น เหวี่ยงขาบินไปที่เฉินเกออย่างรวดเร็ว
เฉินเกอไม่ได้ตกใจแต่อย่างใด หมุนตัวและเตะขาออกไปด้านข้าง
“ตูม!”
วินาทีถัดมา อูฉวนทั้งคนก็ถูกเตะบินออกไป
การบินออกไปนี้เป็นระยะทางมากกว่าสิบเมตร
อูฉวนล้มกระแทกลงพื้นอย่างแรง ไม่สามารถลุกขึ้นได้เป็นเวลานาน เพียงพอที่จะเห็นว่าเท้านี้มีทรงพลังมากขนาดไหน