ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี! - ตอนที่ 889
บทที่ 889 เบาะแสของเผ่าผี
ไม่นานนัก เฉินเกอก็ได้พาท่านฟ่านมาถึงตรงบ่อน้ำ
“ท่านฟ่าน คุณดูหน่อย ไม่รู้ว่าเขาถูกอะไรทำร้าย เมื่อคืนได้เสียชีวิตอยู่ในบ่อน้ำแห่งนี้!”
เฉินเกอชี้ไปศพของฝูโม๋ที่อยู่บนพื้นแล้วถามท่านฟ่าน
เห็นภาพนี้แล้ว เล๋ยเล่ก็แสดงสีหน้าที่ตกใจออกมา
“พี่เฉิน คนนี้มันฝูโม๋ที่เราเจอเมื่อวานไม่ใช่เหรอ เขา เขาทำไมถึงตาย!”
เล๋ยเล่จู่ๆก็อุทานออกมา สีหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
ใครจะไปคิดเมื่อวานเพิ่งจะเจอกัน ผ่านไปหนึ่งคืนฝูโม๋ก็ตายเสียแล้ว แบบนี้มันช่างแปลกประหลาดและน่าสงสัย
เฉินเกอไม่ได้สนใจคำพูดของเล๋ยเล่ สายตาของเขาได้หยุดอยู่บนร่างของท่านฟ่าน
ท่านฟ่านจ้องมองศพที่อยู่ด้านหน้าสักพัก เขาก็ได้พูดออกมาหนึ่งประโยค
“นี่เป็นฝีมือของคนในเผ่าผี!”
“คนในเผ่าผี?”
เฉินเกอฟังแล้ว ก็อึ้งไปทันที
“ใช่ มีเพียงแต่คนในเผ่าผีถึงจะมีกรงเล็บที่แหลมคมเช่นนี้ ฆ่าคนไร้ร่องรอย อีกอย่างคุณดูนี่ ลำคอของศพมีรอยฟัน นั่นก็หมายความว่าเลือดนั้นได้ถูกดูดกินไปแล้ว!”
ท่านฟ่านอธิบายต่อ
“ท่านฟ่าน ความหมายของคุณก็คือคนของเผ่าผีเป็นไปได้ว่าจะอยู่รอบๆของป่าแห่งนี้ แล้วทำไมเมื่อคืนพวกเราถึงไม่ถูกโจมตีล่ะ?” เฉินเกอสงสัยมากมองท่านฟ่านแล้วถาม
ฟังความสงสัยของเฉินเกอแล้ว ท่านฟ่านก็ได้อธิบายขึ้นมาทันที: “นั่นเป็นเพราะว่าเผ่าผีนั้นกลัวไฟ เมื่อคืนพวกเรามีกองไฟ ดังนั้นคนของเผ่าผีไม่กล้าเข้ามา คาดว่าคนเหล่านี้ต้องออกมาช่วงกลางดึก จากนั้นได้ถูกคนเผ่าผีจับจ้อง จึงได้ถูกทำร้าย!” ฟังท่านฟ่านพูดแล้ว เฉินเกอก็เข้าในทันที ดูเหมือนทั้งหมดนี้จะเป็นฝีมือของคนในเผ่าผี
“สถานที่ตรงนี้อยู่นานไม่ได้ พวกเราต้องรีบออกเดินทาง!”
เวลานี้ได้ยินเพียงท่านฟ่านพูดเตือนกับเฉินเกออีกแล้ว
พูดจบ ท่านฟ่านก็หันหลังจากไป
เฉินเกอก็ได้มองศพที่อยู่บนพื้นของฝูโม๋อีกครั้ง จากนั้นก็พาเล๋ยเล่กลับไป
กลับไปแล้ว หลังจากกี่พวกเขาได้เก็บข้าวของกันสักพัก เฉินเกอก็ได้พาพวกเขาทั้งสี่คนไปจากที่นี่ จากนั้นก็มุ่งหน้าไปทางภูเขาลึกในป่าเก่าแก่
ก่อนที่จะจากไป เฉินเกอและพวกไม่กล้ามีพิรุธแม้แต่นิดเดียว ไม่กล้าให้คนในหมู่บ้านพบเห็น ไม่อย่างนั้นพวกเขาทั้งห้าคนคงจะออกไปจากที่นี่ไม่ได้
ไม่นานนักเฉินเกอและพวกก็ได้มาถึงในภูเขาลึกในป่าเก่าแก่
ตลอดทาง ทั้งห้าคนต่างคอยระมัดระวังสังเกตรอบๆป่า
“พี่เฉิน พี่ว่าคนเผ่าผีจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร?”
ระหว่างที่เดินอยู่ เล๋ยเล่รู้สึกสงสัยเล็กน้อยจึงได้ถามเฉินเกอ
สำหรับจุดนี้ เฉินเกอก็ไม่ค่อยแน่ใจ เขาไม่เคยเห็นหน้าตาของคนในเผ่าผี
“ท่านฟ่าน คุณว่าไง?”
เฉินเกอได้ถามไปทางท่านฟ่าน
“เล็บมือของคนเผ่าผีนั้นแหลมคมมาก เหมือนกับเล็บมือของสัตว์เลย สามารถฉีกผิวหนังของมนุษย์ได้อย่างง่ายดาย สิ่งที่พวกเขาชอบที่สุดก็คือดื่มเลือด ประสาทสัมผัสจะไวต่อกลิ่นคาวของเลือดอย่างมาก!”
ได้ยินท่านฟ่านหันหน้ามาบรรยายให้เฉินเกอฟัง
พูดให้ชัด เผ่าผีก็คือคนที่ดูดเลือด อาศัยเลือดมาหล่อเลี้ยงชีวิต
“ในเมื่อเป็นสัตว์ประหลาดที่น่ากลัวเช่นนี้ พวกเราทำไมต้องไปหาพวกเขาอีกล่ะ?”
เล๋ยเล่ไม่เข้าในอย่างมากก็เลยมองไปถามท่านฟ่านและเฉินเกอ
ได้ยินคำพูดของเล๋ยเล่ เฉินเกอกับท่านฟ่านต่างไม่ตอบเขา เพราะเรื่องนี้ตอนนี้มีเพียงท่านฟ่านกับตัวเฉินเกอเท่านั้นที่รู้ ยังไม่สามารถที่จะบอกสาเหตุกับเขาทั้งสาม จนกว่าจะหาแดนเผ่าผีเจอแล้วถึงจะรู้สถานการณ์ทุกอย่าง
เพียงแต่ก่อนจะถึงตอนนั้น พวกเขาทั้งห้าคนต้องระวังการจู่โจมของคนเผ่าผีให้ดี
หลังจากที่เดินทางไปสักพัก
เห็นเพียงแต่ต้นไม้ในรอบๆด้านเริ่มที่จะมีเสียงกรอบแกรบ มีการเคลื่อนไหวที่รุนแรง
เฉินเกอและพวกรีบหยุดฝีเท้าลงทันที มองต้นไม่ในรอบๆป่าอย่างระมัดระวัง
วินาทีต่อมา คนกลุ่มหนึ่งที่สวมใส่ชุดลายพรางทยอยพุ่งออกมาจากต้นไม้ในป่า ได้ล้อมรอบพวกเขาห้าคนเอาไว้
“พี่เฉิน คนเหล่านี้เป็นใครกัน?”
เล๋ยเล่รีบกระซิบถามเฉินเกอ
เฉินเกอส่ายหัวเล็กน้อย ขมวดคิ้วเอาไว้ พูดตามตรง เขาก็ไม่รู้ว่าคนพวกนี้คือคนอะไร
แต่ว่าดูจากการแต่งตัวแล้ว คนเหล่านี้ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
ตามมาด้วย ผู้ชายผมสกินเฮดเดินออกมาจากกลุ่มคน ได้เดินมาถึงด้านหน้าของเฉินเกอกับพวก
“พวกคุณเป็นใคร?”
ผู้ชายผมสกินเฮดถามเฉินเกอกับพวก
“พวกเราเป็นพ่อค้าที่มาเที่ยวที่นี่!”
เฉินเกอรีบตอบทันที
“พ่อค้า?”
ได้ฟังคำตอบของเฉินเกอ ก็ทำให้ผู้ชายผมสกินเฮดสงสัยทันที
“เป็นไปไม่ได้ พวกคุณไม่ใช่พ่อค้าอย่างแน่นอน พ่อค้าไม่มีทางที่จะมาสถานที่แห่งนี้!”
ผู้ชายผมสกินเฮดปฏิเสธสิ่งที่เฉินเกอพูดทันที จ้องมองเฉินเกออย่างเยือกเย็นแล้วกล่าว
“แล้วพวกคุณเป็นคนอะไรกันล่ะ? ทำไมถึงมาปรากฏตัวตรงนี้?”
เฉินเกอได้ย้อนถามผู้ชายผมสกินเฮด
“พวกเราเป็นคนที่จะมุ่งหน้าไปสืบหาแดนเผ่าผี!”
ผู้ชายผมสกินเฮดไม่ได้ปิดบัง แต่ได้ตอบกลับเฉินเกอโดยตรง
“พวกคุณก็มาตามหาแดนเผ่าผีเหมือนกันเหรอ?”
เฉินเกอได้ฟังสิ่งนี้แล้ว ก็ได้อุทานออกมา เขาคิดไม่ถึงว่าคนเหล่านี้ก็มีจุดมุ่งหมายเดียวกับพวกเขา
“พวกคุณก็เหมือนกันเหรอ?”
ผู้ชายผมสกินเฮดได้จ้องมองไปที่เฉินเกอด้วยความประหลาดใจแล้วถาม
พูดจบ ชายผมสกินเฮดก็ได้ส่งสัญญาณให้ลูกน้องวางอาวุธลง
“ขอแนะนำตัวเองหน่อย ผมชื่อจางเล่ เป็นหัวหน้าทีมของทีมนี้!” ผู้ชายผมสกินเฮดได้ยื่นมือออกไปแนะนำตัวเอง
เฉินเกอได้ฟังแล้ว ก็รีบตอบสนองทันที ยื่นมือไปจับมือของจางเล่ทันที
“เฉินเกอ!”
“คิดไม่ถึงว่าพวกคุณก็มาตามหาแดนเผ่าผีเหมือนกัน!”
หลังจากที่ทำความรู้จักอย่างเรียบง่ายกันแล้ว จางเล่กับเฉินเกอก็ได้สนทนากันขึ้นมา
เฉินเกอพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็มองท่านฟ่านที่อยู่ด้านหลัง พบว่าท่านฟ่านไม่ได้มีปฏิกิริยาใดๆ มันก็ทำให้เฉินเกอเบาใจขึ้นมา นั่นก็หมายความว่าท่านฟ่านไม่ได้เห็นจางเล่และเป็นศัตรู
“พวกคุณรู้ตำแหน่งที่แน่ชัดของแดนเผ่าผีมั้ย?”
เฉินเกอเวลานี้ได้ถามกับจางเล่
จางเล่ได้หยิบแผนที่จากกระเป๋าเสื้อของตัวเองออกมาหนึ่งแผ่น เปิดออกให้เฉินเกอดู
“ตอนนี้ตำแหน่งที่พวกเราอยู่คือตรงนี้ และแดนเผ่าผีอยู่ด้านในกลางภูเขาลูกนี้ ดังนั้นถึงเวลาพวกเราจำเป็นที่จะต้องขุดช่องทางเดินในภูเขานี้เพิ่งที่จะเข้าไปแดนเผ่าผี มีเพียงวิธีนี้ถึงจะสามารถเข้าไปในแดนเผ่าผีได้!”
จางเล่ได้เล่ารายละเอียดของแผนการให้เฉินเกอฟัง
เฉินเกอฟังแล้ว ก็เข้าใจทันที ดูออก จางเล่และพวกได้เตรียมตัวมาอย่างดี ได้วางแผนทุกอย่างไว้ล่วงหน้าแล้ว
แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน พวกเขาทั้งสองฝ่ายต่างก็ตามหาแดนเผ่าผี แบบนี้แล้วพวกเขาสามารถที่จะร่วมมือกัน
หลังจากพักผ่อนไปสักพัก เฉินเกอกับจางเล่และพวกก็ได้เร่งเดินทางต่อ
การเร่งเดินทางนี้ ก็เดินติดต่อกันเป็นเวลาสองถึงสามชั่วโมง
ถือว่าการเสียแรงนี้ไม่เปล่าประโยชน์เลย ทุกคนก็ได้มาถึงตำแหน่งที่กำหนดไว้แล้ว
“เฉินเกอ ที่ตรงนี้แหละ!”
จางเล่มองเฉินเกอแล้วกล่าวเตือน
พูดจบ จางเล่ก็ได้ส่งสัญญาณมือให้กับลูกทีมที่อยู่ด้านหลัง