ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี! - ตอนที่ 944
บทที่ 944 บริษัทลี่ยุ่น
“อืม ถ้าอย่างนั้นผมจะไปหาหวางหยุ่นแล้ว มีอะไรก็โทรมาหาผมก็แล้วกัน!”
เฉินเกอกล่าวกับเจินจีหนึ่งประโยค จากนั้นก็ออกจากสำนักงาน
หลังจากที่ออกจากสำนักงานแล้ว เฉินเกอก็ขับรถไปยังที่พักของหวางหยุ่นทันที
ระหว่างทาง เฉินเกอยังไม่ลืมโทรศัพท์ไปหาหวางหยุ่น
อีกฝ่ายรับสายอย่างรวดเร็ว
“ฮัลโหล หวางหยุ่น คุณหาผมมีเรื่องอะไรเหรอ?”
เฉินเกอถามหวางหยุ่นอย่างอยากรู้อยากเห็น
“คุณพี่เฉิน มีเรื่องเจ๋งเรื่องหนึ่ง อยากจะชวนคุณไปทำด้วยกันหน่ะ!”
อีกฝั่งหนึ่งของสายหวางหยุ่นพูดกับเฉินเกอด้วยความตื่นเต้น
“เรื่องดี?เรื่องดีอะไร?”
เฉินเกอถามด้วยความสงสัย
“ฮ่าๆๆ คุณมาถึงแล้วผมจะบอกพี่เองนะ!”
หวางหยุ่นพูดอย่างมีปริศนา
พอฟังมาถึงตรงนี้ เฉินเกออดไม่ได้ที่จะต้องทำตาขาวใส่ ไอ้หนุ่มน้อยนี้คิดจะมีความลี้ลับขึ้นมาสักแล้วเหรอ
แต่เฉินเกอก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เขารู้ว่าหวางหยุ่นเป็นคนลักษณะนี้อยู่แล้ว
“ได้ ตอนนี้คุณอยู่ที่บ้านใช่ไหม?ตอนนี้ผมอยู่ระหว่างทางไปบ้านคุณ ประมาณสิบนาทีก็จะถึงแล้ว!”
เฉินเกอถามหวางหยุ่นหนึ่งประโยค จากนั้นก็แจ้งเขาให้ทราบ
“เร็วจังเลย?ใช่ ผมอยู่ที่บ้าน”
หวางหยุ่นได้ยินก็รู้สึกประหลาดใจ จากนั้นก็รีบตอบทันที
“ได้ ดีเลย เดี๋ยวเจอกัน!”
เฉินเกอตอบหนึ่งประโยคแล้วก็วางสายเลย
สำหรับลูกเศรษฐีอย่างหวางหยุ่น เฉินเกอฟังจากน้ำเสียงของหวางหยุ่นก็รู้ว่ากำลังเล่นผีผ้าห่มอยู่ที่บ้าน
แต่เฉินเกอก็ไม่อยากไปยุ่งอะไรมาก เพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัวของหวางหยุ่น
ทุกคนล้วนมีวิถีชีวิตที่แตกต่างกันออกไป
สิบนาทีผ่านไป เฉินเกอเดินทางมาถึงที่พักของหวางหยุ่นแล้ว ซึ่งเป็นคฤหาสน์หรูแห่งหนึ่ง
หลังจากจอดรถเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เฉินเกอก็เดินมาถึงที่หน้าประตู พอดีกับเห็นหวางหยุ่นเปิดประตูแล้วโอบหญิงสาวคนหนึ่งเดินออกมา
เมื่อเห็นภาพนี้ ในใจเฉินเกอก็ยิ้มอย่างเบื่อหน่าย เป็นไปอย่างที่เฉินเกอคาดการณ์ไว้ไม่มีผิด หวางหยุ่นกำลังทำเรื่องอย่างนั้นอยู่จริงๆ
หวางหยุ่นส่งหญิงสาวข้างกายออกไปแล้ว จากนั้นก็มองเฉินเกอ
“อุ๊ย เฉินเกอคุณมาแล้วเหรอ”
หลังจากที่เห็นเฉินเกอ หวางหยุ่นก็เกิดความตื่นเต้นดีใจ เดินไปด้านหน้าพลางยื่นมือทั้งสองข้างออกไป
เฉินเกอกับหวางหยุ่นต่างโอบกอดกัน
“คุณทำแต่เรื่องพวกนี้ทุกวัน ระวังร่างกายจะพังเอานะ!”
เฉินเกอพูดหยอกล้อหวางหยุ่นหนึ่งประโยค
“เป็นไปไม่ได้ ร่างกายผมแข็งแรงอยู่แล้ว!มาเพิ่มอีกสองคนพร้อมกันผมยังไม่หวั่นเลย!”
หวางหยุ่นมองเฉินเกอพลางพูดอย่างมั่นใจ
เฉินเกอรู้สึกขำในใจ หวางหยุ่นยังเป็นเหมือนเมื่อก่อน สันดานไม่เปลี่ยนจริงๆ
จากนั้นทั้งสองคนก็เข้าไปภายในคฤหาสน์ แล้วไปนั่งอยู่ที่ห้องรับแขก
หลังจากที่หวางหยุ่นเทไวน์ให้เฉินเกอแก้วหนึ่ง ทั้งสองก็นั่งลงไป ดื่มไปด้วยคุยไปด้วย
“หวางหยุ่น พูดสิ หาผมมีเรื่องอะไรเหรอ?ถึงได้ทำตัวลี้ลับเช่นนี้?”
เฉินเกอพูดตรงไปตรงมาแบบเปิดอกถามหวางหยุ่น
ความสัมพันธ์ของเขากับหวางหยุ่นนั้นดีมาก ดังนั้นไม่จำเป็นต้องพูดจาอ้อนค้อน สามารถพูดตรงไปตรงมาได้เลย
“คุณพี่เฉิน คืออย่างนี้ครับ ผมพบว่ามีที่แห่งหนึ่งด้านในมีแต่ของล้ำค่ามากมาย ผมหวังว่าคุณจะไปร่วมค้นหาพร้อมกับผม ไม่แน่ว่าอาจจะได้ของดีๆ บางอย่างก็เป็นได้”
หวางหยุ่นก็ไม่ได้ลังเล เล่าถึงเรื่องราวโดยตรง
เฉินเกอได้ยินก็เกิดความสงสัยเล็กน้อย กำลังคิดอยู่ว่าสิ่งที่หวางหยุ่นพูดมานั้นจะเป็นสถานที่แห่งไหนกัน
“ที่ไหน?”
เฉินเกอกล่าวถามหวางหยุ่นทันที
“ฮาๆ คุณพี่เฉินรู้จักเขาตงอูไหม?”
หวางหยุ่นจงใจพูดอ้อนค้อน มองเฉินเกออย่างยิ้มแย้มพลางถามขึ้นมา
เฉินเกอได้ยิน แรกเริ่มก็รู้สึกสงสัย จากนั้นก็พยักหน้า
“รู้จักสิ ตรงนั้นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวไม่ใช่เหรอ?ทำไมเหรอ?”
เฉินเกอมองหวางหยุ่นอย่างสงสัยแล้วตอบคำถามของเขา ไม่เข้าใจว่าทำไมหวางหยุ่นต้องให้ความสนใจกับแห่งท่องเที่ยวแห่งนั้นด้วย
“หืม ไม่ใช่เสียหน่อย คุณพี่เฉินไม่รู้อะไรสักแล้ว ภูเขาตงอูถึงจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว แต่อันที่จริงด้านในได้ซ่อนถ้ำไว้แห่งหนึ่ง และภายในถ้ำก็มีสมบัติมากมายอยู่ตรงนั้น”
หวางหยุ่นพูดกับเฉินเกอด้วยสีหน้าตื่นเต้น
“ยังมีเรื่องอย่างนี้อีกเหรอ ห่ะ?ไม่ใช่สิ หวางหยุ่น คุณไปฟังใครมา?”
เฉินเกอก็รู้สึกคาดไม่ถึง จึงได้รีบตอบสนองกลับมาแล้วถามหวางหยุ่นให้กระจ่าง
ในเมื่อหวางหยุ่นรู้ความลับเรื่องนี้ คาดว่าคงต้องมีคนบอกเขา เรื่องนี้ต้องมีความลี้ลับอะไรแอบแฝงอยู่เป็นแน่
“เออ…”
หวางหยุ่นลังเลไปสักพัก แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ตอบ
“คุณพี่เฉิน คุณบอกมาสิว่าจะยินดีไปกับผมไหม ถ้าคุณยินดีที่จะไป ผมจะบอกเรื่องราวทุกอย่างให้คุณทราบ!”
หลังจากหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง หวางหยุ่นก็พูดเสนอให้เฉินเกอ
ได้ยินคำพูดเช่นนี้ของหวางหยุ่นก็ยิ่งทำให้เฉินเกอเกิดความสงสัย เขารู้สึกว่าหวางหยุ่นต้องมีอะไรบางอย่างแน่ๆ
ไม่ได้มาหาตนเป็นเวลานานแล้ว ครั้งนี้โทรหาตนกะทันหัน ยิ่งไปกว่านั้นยังรู้ความลับมากมายเช่นนี้ คงต้องมีเป้าหมายอะไรสักอย่างแน่นอน
“ถ้าคุณไม่บอกความจริงกับผม ผมจะไม่รับปากคุณ!”
เฉินเกอพูดอย่างตรงไปตรงมากับหวางหยุ่น
ถึงแม้เขากับหวางหยุ่นจะสนิทกันมาก แต่เรื่องบางเรื่องไม่ใช่เฉินเกอจะรับปากสุ่มสี่สุ่มห้าได้ ต้องทำการพิจารณาเสียก่อน
“เออ..”
“หวางหยุ่นคุณยังคิดว่าพวกเราเป็นพี่น้องกันอยู่ไหม?ถ้ายังเป็นพี่น้องกันอยู่ก็บอกความจริงผมมา คุณไปรู้เรื่องความลับนี้มาจากไหน?คุณกำลังร่วมมือกับใครอยู่?”
เฉินเกอมองหวางหยุ่นต่อแล้วถามทีละคำ
เฉินเกอรู้ว่าลำพังหวางหยุ่นคนเดียวคงไม่ทำอะไรเช่นนี้เด็ดขาด ต้องไปร่วมมือกับคนอื่นแน่นอน
เพียงแต่เฉินเกอไม่รู้ว่าการร่วมมือครั้งนี้จะดีหรือไม่ดี ซึ่งนี่คือปัญหาหลักของเรื่องเลยทีเดียว
“ปิ๊งป่อง!”
หวางหยุ่นยังไม่ทันได้ตอบคำถามของเฉินเกอก็ได้ยินเสียงกริ่งประตูดังขึ้นมา
หวางหยุ่นลุกขึ้นไปเปิดประตูทันที
พอประตูเปิดออกก็เห็นผู้ชายวัยกลางคนที่ถือไม้เท้าและมีหญิงสาวที่สวมใส่เสื้อแจ็คเก็ตหนังเดินเข้ามาด้วยกัน ด้านหลังพวกเขาสองคนยังมีบอดี้การ์ดอีกสองนายคอยปกป้องอยู่ด้วย ซึ่งดูท่าทางแล้วมีสถานะที่ไม่ธรรมดาเลย
“คุณพี่เฉิน ผมขอแนะนำให้คุณรู้จักนะ ท่านนี้คือประธานบริษัทลี่ยุ่นคุณหลินเทียนหยวน และนี้คือเลขาของเขาคุณเหอห้วย คนที่ผมจะร่วมมือด้วยก็คือพวกเขา”
จากนั้นหวางหยุ่นก็มองเฉินเกอพลางกล่าวขึ้นมา
ขณะนั้นเฉินเกอก็เกิดความสงสัยขึ้นมา
เฉินเกอรู้จักบริษัทลี่ยุ่นดี ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำเกี่ยวกับการขุดเจาะหาน้ำมันและแร่เหล็ก
แต่นี่เป็นเพียงการบังหน้าเท่านั้น เฉินเกอรู้ว่าอันที่จริงแล้วบริษัทลี่ยุ่นเบื้องหลังจะทำเรื่องการขุดหาขุมสมบัติล้ำค่าต่างหาก
เพียงแต่ทำให้เฉินเกอคาดไม่ถึงว่าหวางหยุ่นจะไปร่วมมือกับคนของบริษัทลี่ยุ่นได้
“ได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของคุณเฉินเกอตั้งนานแล้วครับ วันนี้มีโอกาสได้พบเจอ คุณช่างไม่เหมือนคนธรรมดาจริงๆ ครับ!”
หลินเทียนหยวนกล่าวทักทายเฉินเกออย่างยิ้มแย้มหนึ่งประโยค
“คิกคิก ท่านหลินเกรงใจแล้ว ผมก็เคยได้ยินชื่อเสียงของท่านกับบริษัทของท่านมาก่อนแล้ว”
เฉินเกอก็ตอบอย่างสุภาพหนึ่งประโยค
“เฉินเกอ ครั้งนี้ท่านหลินออกเงินสามสิบล้านเพื่อให้พวกเราไปช่วยพวกเขาที่ถ้ำลี้ลับบนภูเขาตงอู มันเป็นโอกาสทองเลยนะ”
บัดนี้หวางหยุ่นเดินกลับมาที่ข้างกายเฉินเกออีกครั้ง พลางพูดเสนอแนะ