ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี! - ตอนที่ 972
บทที่ 972 เทพมารโบราณ
“ฮึก!” เฉินเกอส่งเสียฮึก ในเวลาเดียวกันกระบี่ซิงหยวนก็ได้แกว่งไปข้างหน้า หมาป่าผีถูกฟันขาดเป็นสองท่อนโดยตรง ได้ฟันจากบนลงล่าง กระบี่ซิงหยวนเอาแต่มุ่งไปข้างหน้า จากทางที่เฉินเกอจะไปถึงประตูที่บิดเบี้ยวสัตว์ประหลาดเหล่านั้นต่างถูกฆ่าในพริบตา แต่ก็มีผู้รอดชีวิต ไปสู้รบกับนักรบที่อยู่ทิศทางอื่น หมาป่าผีนั้นดุร้ายมาก นักรบที่ท่าทางชักช้าก็จะถูกกัดจนล้มลงทันที ยังมีฮู้บางส่วนที่ยังไม่ได้ได้วาดเสร็จก็ถูกโจมตีจนพังเสียแล้ว เริ่มมีผู้บาดเจ็บ เจินจีได้เริ่มพาเจินเหมยรักษาผู้บาดเจ็บ
“หรือว่าฝีมือของลูกน้องเทพมารระดับนี้เอง?” เล๋ยเล่ยังฆ่าไม่สะ แต่ก็ไม่สามารถออกจากสนามรบได้ รู้สึกกระวนกระวาย
เพิ่งจะสิ้นเสียงพูด ท้องฟ้าก็มืดมิดขึ้นมา ท้องฟ้ากลายเป็นสีแดง เวทมนตร์ที่น่ากลัวกวาดไปทั่วโลก ชั่วพริบตาเดียวลมเมฆได้เปลี่ยนสี ปีศาจนักรบหลายตนที่สูงราวสิบกว่าเมตรได้ทยอยเดินออกมา เฉินเกอขมวดคิ้ว รุกไปข้างหน้า เล๋ยเล่ตามอยู่ด้านหลัง แขนของปีศาจนักรบยาวประมาณสิบเมตร ท่าทางการต่อสู้ก็ว่องไวมาก นักรบมากมายวิ่งเข้ามายังไม่ทันได้เข้าใกล้ปีศาจก็ถูกจับตัวขึ้นมาโยนลงบนพื้นโดยไม่สามารถขยับได้อีก ถึงแม้เฉินเกอจะใช้กระบี่ แทงทหารปีศาจไปหลายสิบตน แต่เล๋ยเล่ฆ่าได้สะใจมากกว่าได้สับนักรบปีศาจออกเป็นท่อนๆ จากนั้นก็ใช้วิชาดูดวิญญาณ ดูดพลังจากร่างของนักรบปีศาจ นักรบปีศาจที่ยิ่งอยู่ยิ่งเยอะได้พุ่งเข้ามาเหมือนฝูงวัวเพื่อมาชนกลุ่มคน ใช้ร่างที่สูงใหญ่ทำลายล้างกลุ่มคน
“ใช้ฮู้ถ่วงเวลา!” เหอเฉิงตะโกนเรียกนักรบที่ถือฮู้ สั่งการจัดแจงให้ปรมาจารย์ฮู้แต่ละจุดในสนามรบเริ่มวาดฮู้ นักรบปีศาจว่องไวมากแทบไม่สามารถเข้าใกล้ตัวมันได้ แต่ร่างที่ใหญ่เทอะทะคือจุดอ่อนของพวกมัน
ไม่นานนักปีศาจนักรบก็ได้ถูกลดความว่องไวลง ปีศาจนักรบตนหนึ่งที่ยังไม่โดนฟันแม้แต่ครั้งเดียว ก็ได้ถูกผู้ฝึกตนแทงทะลุนับสิบๆ ครั้ง หลินจื่อหลันและเกาจื่อเฉิงทั้งสองคนก็ฆ่าจนหดหู่ใจ กระบี่ของทั้งสองต่างก็เป็นหนึ่งในสิบกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ ได้ตัดอาวุธป้องกันตัวของพวกเขาขาดอย่างง่ายดาย จากนั้นก็ตัดเอ็นถลอกหนัง คนของทั้งสองตระกูลจ้องมองคุณชายของพวกเขาอาบเลือดต่อสู้กับมารปีศาจโดยไม่ถอย ต่างยิ่งสู้ยิ่งกล้าหาญ
ขณะที่ปีศาจนักรบค่อยๆ อ่อนกำลังลง เหล่านักรบยิ่งสู้ก็ยิ่งไหลลื่น จู่ๆ เสียงคำรามได้ถูกถ่ายทอดออกมาจากประตูที่บิดเบี้ยว เสียงนั้นทำให้ขุนเขาและแผ่นดินสั่นสะท้าน คนบางส่วนตกใจจนช็อก
“นี่มัน………” ตาทิพย์ของเฉินเกอหดลง มองไปทางประตูที่บิดเบี้ยว ดูเหมือนเขาจะตกอยู่ในภาพลวงตา เทพมารในความมืด กำลังจ้องมองหัวเราะเขาอยู่ ทำให้เขารู้สึกถึงความน่ากลัวที่แท้จริง ไม่เพียงแต่ร่างที่สูงใหญ่ราวสามสิบกว่าเมตรของมัน แต่เพราะความดูถูกในแววตาของมัน ราวกับว่าอ่านเกมของเฉินเกอออกทั้งหมด
เฉินเกอหลับตาลง จากนั้นก็ได้ลืมตาขึ้นอีกครั้ง เขาเห็นร่างของเทพมารโบราณ กำลังเดินมาทางเขา ในเวลาเดียวกัน รอบๆ ตัวเทพมารยังล้อมรอบด้วยวิญญาณมากมาย ทั้งหมดแสดงให้เห็นถึง “การมีส่วนร่วม” ที่เทพมารประสบความสำเร็จในโลกอื่น
เทพมารยิ่งอยู่ยิ่งเข้ามาใกล้ สนามรบยิ่งสั่นสะเทือน ในขณะที่ขาข้างหนึ่งของเขาก้าวออกมาจากประตู ทุกคนต่างตื่นตระหนก! ขาที่ยาวสิบกว่าเมตร ผู้ฝึกตนธรรมดาไม่อาจแตะเข่าของเขาถึงด้วยซ้ำ ยิ่งไปกว่านั้นผิวหนังของเทพมารแข็งราวกับเหล็กไหล ผิวเปล่งประกายด้วยแสงโลหะ เขาเหมือนกับเฉินเกอ บนร่างเต็มไปด้วยพลังทิพย์ สัตว์ประหลาดที่น่าเกลียดตัวนี้ มีมือสี่มือ ร่างกายเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ บนหลังและบนหัวมีหน่อกระดูก
นักรบที่ไม่ได้เตรียมใจมาก่อน อยากที่จะหนีจากฝันร้ายนี้ อยากจะหนีกลับก้าวขาไม่ออก สองขาอ่อนแรงได้ล้มลงบนพื้น
“ตาย” แท่งหอกสีดำแทงทะลุหัวใจของเฉินเกอ ทั้งหมดเกิดขึ้นเพียงชั่วพริบตาเดียว เทพมารโบราณลงมือ ก็เปิดฉากโจมตีสังหารทันที ต้องการทำให้เฉินเกอล้มลงด้วยกันจู่โจมเพียงครั้งเดียว สายตาของเฉินเกอจ้องมองเทพมารโบราณที่อยู่ด้านหน้า ลืมความเจ็บปวดของหัวใจ ลืมความเจ็บปวดของเสียงหอนที่จู่โจมมาครั้งที่สอง ในสายตาเขา มีเพียงเทพมารโบราณ
“วิญญาณออกจากร่าง!” เฉินเกอสละร่างที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสออก ให้จิตวิญญาณล่องลอยอยู่ในอากาศ เขากระโดดไปตรงหน้าของเทพมารโบราณ ใช้แรงจับกระบี่ซิงหยวนอย่างแน่นหนาแล้วใช้พลังแห่งดวงดาวเพื่อเฉือนไปที่ศีรษะของเทพมารโบราณ จู่ๆ ก็มีแสงปรากฏขึ้น วิญญาณที่ล้อมรอบอยู่รอบกายเทพมารโบราณออกมาสละชีพเพื่อเขา วิญญาณเหล่านี้ล้วนเคยเป็นผู้ฝึกตนมาก่อน ต่างเป็นตัวแทนยอดฝีมือของโลกอื่น บัดนี้ได้กลายเป็นหุ่นเชิดของเทพมารโบราณ
เฉินเกอไม่ได้ไร้เดียงสาพอที่จะคิดว่าเขาสามารถสังหารเทพมารโบราณได้ด้วยการสับเพียงครั้งเดียว เขายังคงรักษาความแข็งแกร่งเอาไว้ อย่างไรเสียการแปรเทพก็ใช้ได้เพียงครั้งเดียว
ขณะที่เทพมารโบราณตั้งใจต่อสู้กับเฉินเกอนั้น เล๋ยเล่ได้กระโดดขึ้นมาบนไหล่ของเทพมารโบราณ เผชิญกับเหล่าวิญญาณโดยใช้วิชาดูดวิญญาณ วิญญาณบางส่วนไม่สามารถทนแรงดึงทั้งสองด้านได้ ก็ได้สลายไปโดยตรง ยังมีบางส่วนที่ถูกเล๋ยเล่ดูดเข้าไปในร่างกาย ร่างกายของเล๋ยเล่ยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะดูดวิญญาณที่แก่กล้าแบบนี้ ดวงตาแดงจนเหมือนจะถลนออกมา
เทพมารโบราณรู้ตัวแล้วจึงได้ปัดเล๋ยเล่ตกลงไปบนพื้น เล๋อเล่กระอักเลือดออกมาสามที “เล๋ยเล่!” เฉินเกออาศัยจังหวะนี้ใช้พลังดวงดาวอีกครั้ง ได้ฟันลงบนหน้าของเทพมารโบราณหนึ่งทีจนใบหน้าเกิดรอยเลือดเป็นทาง
ไม่มีวิญญาณมาคุ้มครอง ในที่สุดเทพมารโบราณก็ได้รับบาดเจ็บ ถึงแม้จะเป็นเพียงแผลเล็กน้อย ก็ทำให้มันโกรธแค้นมาก พลังในร่างก็เพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ดูเหมือนเขาไม่อยากจะเล่นอีกแล้ว
เจินจีเห็นเล๋ยเล่ถูกปัดตกลงพื้น รีบวิ่งเข้าไปในสนามรบ เสี่ยงอันตรายไปช่วยเขาออกมา ตรวจดูบาดแผลแล้วเริ่มรักษาเขาทันที
ตอนนี้ไม่มีคนคุ้มกันเฉินเกอ ร่างของเขาก็ยังได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก อยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวังแบบนี้ ควรทำยังไงดี เฉินเกอรีบคิดหาวิธี
เขาได้หลับตาลงอีกครั้ง จากนั้นได้เปิดตาทิพย์ อยากที่จะหาจุดอ่อนบนตัวของเทพมารโบราณ ขณะที่เขาใช้สมาธิทั้งหมดในการใคร่คิดนั้น เวลา เวลาบนร่างกายของเฉินเกอได้เพิ่มความเร็วขึ้นมาทันที หมายความว่าเขาผ่านไปแปดวินาที แต่ในพื้นที่อื่นๆ จะผ่านไปเพียงหนึ่งวินาที หมายถึงหนึ่งวินาทีของโลกภายนอก เขาสามารถทำสิ่งต่างๆ ได้ในแปดวินาที
“ไม่ว่าจะเป็นคนหรือเทพหรือมาร ล้วนมีจุดอ่อนด้วยกันทั้งนั้น ฉันกับเขาไม่ใช่ระดับเดียวกัน สู้ต่อไปก็มีแต่ตายสถานเดียว ทำได้เพียงรวบรวมพลังทั้งหมดเพื่อจู่โจมปลิดชีวิต” เฉินเกอคิดในใจ เมื่อเขาเห็นโม๋ตันส่องแสงสีแดงในหัวใจของเทพมารโบราณ ในใจเขาก็มีแผนแล้ว
“ฉันต้องการคนคุ้มกัน!” เฉินเกอพูดตะโกนบอกทุกคน
สนามรบในตอนนี้มีศัตรูร่อยหรอ หลินจื่อหลันและเกาจื่อเฉิงได้ยินเสียงเรียกของเฉินเกอ ก็วิ่งมาทางเทพมารโบราณ โจวโน่ยิ่งไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ทิ้งคนไข้ไว้แล้ววิ่งไปทางเฉินเกอทันที
เจินจีเห็นภาพแบบนี้ ก็ได้วางเล๋อเล่ที่รอดพ้นขีดอันตราย แล้วก็จู่โจมไปทางเทพมารโบราณ
ชั่วพริบตาเดียวก็มีผู้ช่วยถึงสี่คน เฉินเกอ เป้าหมายของเขาในตอนนี้มีแค่อันเดียว ก็คือหลังจากที่แปรเทพแล้วใช้พลังทั้งหมดที่มี แทงทะลุหัวใจของเทพมารโบราณ ทำลายโม๋ตัน
“เฉินเกอ พวกเราผลัดกันสู้กับมัน แต่ว่าพวกเราก็คงต้านได้ไม่นานนัก นายรีบคว้าโอกาสไว้” เจินจีต่อสู้กับเทพมารโบราณไป ก็ได้พูดกับเฉินเกอไปด้วย
นี่เป็นโอกาสครั้งสุดท้ายของเขา เฉินเกออาศัยจังหวะที่เทพมารโบราณกำลังต่อสู้กับพวกเจินจีนั้น ได้อ้อมไปด้านหลังของเทพมารโบราณ อยู่ในสภาพจิตวิญญาณตะโกนเรียกแปรเทพ
กลายเป็นร่างปรมาจารย์ พริบตาเดียวพลังเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล พลังทิพย์ได้พุ่งกระจายไปทั่วร่าง ดวงดาวทั้งเจ็ดบนกระบี่ซิงหยวนก็เปล่งแสงสีทองออกมา มาบรรจบกับแสงสลัวของดวงดาว รอบตัวเขาและเทพมารโบราณกลายเป็นดวงดาวในจักรวาล พลังของท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวกำลังรวมตัวกันอย่างต่อเนื่องอยู่บนกระบี่ซิงหยวน “วิชาสยบสรรพสิ่ง” เฉินเกอจู่โจมอย่างแน่วแน่ ใช้ทักษะกระบี่ที่แข็งแกร่งที่สุดที่อาจารย์ถ่ายทอดให้เขา แทงไปที่ตำแหน่งหัวใจของเทพมารโบราณ