ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก - บทที่ 338 ลูกในท้องไม่เป็นไร
ชางหลิงจึงรีบโทรหาป๋ายจื๋อในทันที ” ป๋ายจื๋อ ฉันอยู่ห้องนอนในห้องพักของเจ้าสาว คุณช่วยพาฉันไปโรงพยาบาลที เหมือนลูกในท้องจะมีปัญหา แล้วอย่าให้ซูเสี่ยวเฉิงรู้เรื่องนี้นะ ”
” ได้ครับ ผมจะรีบไป ”
ป๋ายจื๋อยืนเฝ้าอยู่ด้านข้างตลอด เมื่อได้รับสายก็รีบเคาะประตูห้องเจ้าสาว เพื่อนของซูเสี่ยวเฉิงคนหนึ่งเปิดประตูออกมา ก็มองป๋ายจื๋ออย่างแปลกใจแล้วถามว่า ” มาหาใครคะ ”
” ซูเสี่ยวเฉิง ผมมาพาตัวชางหลิงไปครับ ” ป๋ายจื๋อเดินผ่านหญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงประตูไป และตรงไปพูดกับซูเสี่ยวเฉิงโดยตรง
จนเขาเดินไปยังห้องนอนในห้องพักเจ้าสาว ชางหลิงก็จัดแจงเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วจึงออกมา เธอขอโทษขอโพยซูเสี่ยวเฉิงแล้วยิ้ม” ขอโทษนะซูเสี่ยวเฉิง พอดีมีเรื่องกะทันหัน เดี๋ยวสักพักฉันจะกลับมาร่วมงานนะ ”
” เธอระวังหน่อยก็แล้วกัน ดูแลตัวเองดีๆนะ ” สีหน้าของซูเสี่ยวเฉิงแสดงถึงความเป็นห่วง เลยบอกเธอไปว่ามีเรื่องสำคัญ ไม่งั้นชางหลิงคงออกมาจากงานแต่งของเธอไม่ได้อย่างแน่นอน
เมื่อเดินไปถึงประตูทางออก ซูเสี่ยวเฉิงก็พูดอะไรบางอย่างเพื่อแซวชางหลิง ” หรือว่าโหมวยู่กำลังรอขอเธอแต่งงานกันนะ ” พูดจบก็ยังขยิบตาทำหน้าทะเล้น
น้ำตาของชางหลิงแทบจะไหลออกมา เธอก็หวังว่าเมื่อออกไปแล้วจะได้เห็นโหมวยู่มาขอเธอแต่งงาน แต่ในความเป็นจริงเธอต้องไปโรงพยาบาลด้วยความเดียวดาย เหมือนกับว่าตอนนี้ลูกของเธอจะมีปัญหาเสียแล้ว
” เป็นความลับจ้ะ ”
ชางหลิงพยายามที่จะฝืนยิ้มออกมา เธอไม่ค่อยอยากให้ซูเสี่ยวเฉิงเห็นสีหน้าของเธอเท่าไหร่ จึงรีบนำตัวหญิงสาวเข้าไปในห้อง
เมื่อเดินออกมาตรงแถวทางเดินแล้ว ชางหลิงก็ฝืนไม่ไหวอีกต่อไป ก่อนจะล้มตัวลงไปในอ้อมอกของป๋ายจื๋อ ป๋ายจื๋อจึงอุ้มเธอขึ้นมา แล้วรีบวิ่งไปยังรถของพวกเขา เขาเหยียบคันเร่งอย่างบ้าคลั่ง เพื่อที่จะส่งชางหลิงไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด
ช่วงเวลารอคอยนั้นคือสิ่งที่ทำให้คนเราไม่สบายใจมากที่สุด ขณะที่อยู่โรงพยาบาล ไม่ว่าชางหลิงจะเดินรอหรือนั่งรอผลตรวจที่กำลังจะออกมา เธอก็ยังคงลูบท้องของตัวเองอยู่เสมอ เธอคิดว่าหากทำแบบนี้แล้วจะทำให้ลูกในท้องของเธอรู้สึกปลอดภัยขึ้นมาอีกหน่อย
ป๋ายจื๋อที่อยู่ข้างเธอก็จะยุ่งอยู่เสมอ เขาทั้งช่วยเธอชำระค่าใช้จ่ายที่จำเป็น จัดแจงทุกอย่าง อีกทั้งยังเตรียมน้ำอุ่นกับของกินให้กับเธอด้วย ชางหลิงดูออกว่าเขาก็เป็นกังวลเช่นกัน เพียงแค่เขาพยายามทำตัวให้ยุ่งเพื่อให้ตัวเองกังวลน้อยลง
” หมายเลข 83 คุณชางหลิง ”
ในที่สุดก็ถึงเวลารู้ผลแล้ว หลังจากที่ชางหลิงเข้าไปข้างใน ก็มีหมอหญิงอาวุโสอายุราวๆ ห้าสิบหกสิบปี จรผมสองข้างเริ่มเปลี่ยนเป็นสีขาว แต่มีใบหน้าที่ดูอ่อนโยนและใจดี คุณหมอท่านนั้นพูดกับเธอว่า ” สาวน้อย นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เป็นแม่คนใช่ไหมจ๊ะ อย่าตกใจไปเลย อาการของเธอตอนนี้ที่เจ็บบริเวณท้องเป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงของอารมณ์น่ะ มันเลยกระทบถึงตัวเด็กเลยปวดขึ้นมาแบบนี้ กลับไปก็พักผ่อนให้ดีๆ ไม่ต้องคิดอะไรมากแล้ว ทำจิตใจให้สงบก็ไม่เป็นไรแล้วจ้ะ สารอาหารและวิตามินในร่างกายเธอค่อนข้างดีเลยนะ ไม่จำเป็นต้องกินยาเสริมเยอะขนาดนั้นแล้วล่ะ ”
เสียงที่คุณหมอใช้พูดนั้นฟังดูช่างอ่อนโยน คำพูดของหล่อนทำให้เธอน้ำตารื้น เธอรีบพูดขอบคุณไม่หยุด
” เป็นยังไงบ้าง ”
เท้าของชางหลิงเพิ่งจะเหยียบออกมานอกห้องทำงานของคุณหมอ ป๋ายจื๋อที่รออยู่ข้างนอกก็รีบพุ่งตัวออกมาถามความเป็นไปทันที
” เด็กไม่เป็นไรนะ มันเป็นเพราะอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงของฉัน เราไปพักสักหน่อยเถอะ หาอะไรอร่อยๆ กิน ฉันหิวแล้ว ”
ในเวลานี้ความอยากอาหารของชางหลิงก็ดันทำงานขึ้นมาแบบแปลกๆ การกินอาหารรสเลิศก็สามารถปัดเป่าอารมณ์ด้านลบของเธอออกไปได้ โดยเฉพาะอารมณ์ที่ถูกโหมวยู่ทำให้โมโหแทบตายนั่นก็เช่นกัน
” อื้ม ”
ป๋ายจื๋อค่อยๆ พยุงชางหลิงออกจากโรงพยาบาล ทั้งสองพยายามหาร้านอาหารคอร์สพิเศษที่ค่อนข้างมีชื่อเสียง นี่คือร้านที่นิยมกันในอินเทอร์เน็ต ยังดีที่ตอนนี้ยังไม่ถึงร้านอาหาร เมื่อพวกเขาถึงร้านอาหารเจ้าของร้านก็เปิดพอดี เมื่อเข้าไปแล้วก็สั่งอาหารได้เลย
ชางหลิงชอบบรรยากาศร้านอาหารที่ดูโบราณและเงียบสงบ หลังจากสั่งอาหารที่ตัวเองกินปกติเสร็จแล้ว ผลที่ได้ก็ไม่ทำให้เธอผิดหวัง
หลังจากที่กินอาหารอร่อยๆมื้อนั้นเสร็จแล้ว อารมณ์ก็ดีขึ้นมาไม่น้อย จากที่ยืนอยู่ริมถนนที่มีผู้คนขวักไขว่ ชางหลิงก็กำลังครุ่นคิดว่าควรจะกลับไปคลับNovaอีกไหม
ตามหลักเธอและซูเสี่ยวเฉิงเป็นเพื่อนรักที่ผ่านอะไรกันมามากมายกว่าหลายสิบปี ไม่ว่าเธอจะเป็นยังไงก็ควรจะไปร่วมงานแต่งงานที่มีเพียงครั้งเดียวในชีวิตของเพื่อนสนิทเธอ
แต่เธอก็ไม่อยากพบหน้าโหมวยู่อีกแล้ว เธอไม่รู้ว่าหากต้องเผชิญหน้ากับเขาอีกเธอจะทำยังไง
เหมือนมีอะไรดลใจ ในขณะที่ชางหลิงกำลังคิดหนักว่าจะไปหรือไม่ไปดี ซูเสี่ยวเฉิงก็โทรมาหาเธอได้อย่างรู้เวลา
” เสี่ยวหลิงหลิง ยังมีเวลาอีกสองชั่วโมงกว่างานแต่งงานของฉันจะเริ่มนะ เธอคงไม่เทฉันหรอกใช่ไหม ของขวัญแต่งงานก็ยังไม่ได้ให้ไว้เลยนะ หรือว่าเธอขี้เหนียว เสียดายของขวัญแต่งงานชิ้นล้ำค่านั้นเลยไม่อยากให้ฉันใช่ไหมล่ะ ”
ซูเสี่ยวเฉิงยังไม่หยุดที่จะออดอ้อนออเซาะชางหลิงจนไร้หนทางจะปฏิเสธ จึงทำได้แค่ยิ้มแล้วตอบตกลงเธอไปอย่างเสียไม่ได้
” กลับไปที่คลับNovaเถอะ ”
” แต่ร่างกายของคุณ ”
ป๋ายจื๋อไม่ได้ขยับไปไหน สายตาของเขาแสดงถึงความไม่ยินยอม เขาไม่อยากให้ร่างกายของชางหลิงไปเสี่ยง ในงานผู้คนคับคลั่ง ถึงแม้เขาจะระวังก็ไม่ได้หมายความว่าชางหลิงจะปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ ถ้ากลับคอนโดไปเลยจะดีกว่า
” ร่างกายของฉันไม่เป็นอะไรแล้ว หมอบอกว่าทารกแข็งแรงมาก เพียงแค่ฉันต้องอารมณ์ดีอยู่เสมอก็เท่านั้นเอง ไปเถอะ ทั้งชีวิตซูเสี่ยวเฉิงจัดงานแต่งแค่ครั้งนี้นะ ฉันไม่อยากเบี้ยวนัด ”
เมื่อนึกถึงความสัมพันธ์อันดีงามของซูเสี่ยวเฉิงกับชางหลิง ป๋ายจื๋อก็เลยฝืนที่จะเหยียบคันเร่งเพื่อไปส่งเธอที่งาน
เมื่อมาถึงนอกคลับnova บรรยากาศงานดูสนุกครึกครื้นเกินกว่าที่ชางหลิงคาดไว้ ผู้ที่มีชื่อเสียงในสังคมของเมืองหนานได้รับเชิญมางานนี้ด้วย เมื่อเห็นรถซูเปอร์คาร์ที่จอดเรียงรายกันนั้น ชางหลิงก็บอกเป็นนัยให้ป๋ายจื๋อขับชิดริมเข้ามาหน่อย ถ้าเผลอไปเฉียดรถพวกนี้เข้า เธอคงแสบเนื้อแสบหนังไปหลายวันเลย
” คุณชางมาถึงแล้ว ที่จอดรถของคุณอยู่ตรงนี้ครับ ” ป๋ายจื๋อยังไม่ทันที่ได้ขับรถออกไป ชางหลิงถูกพนักงานรักษาความปลอดภัยตรงประตูจำได้
เขาได้ทำหน้านิ่ง ลงจากรถและยื่นกุญแจให้พนักงาน จากนั้นก็พาชางหลิงเดินผ่านผู้คนที่หนาแน่นทั่วบริเวณตรงนั้น และเข้าไปยังห้องพักของซูเสี่ยวเฉิง
แต่ถึงแม้พวกเขาทั้งสองจะเดินด้วยความเร็วแค่ไหน ก็มีกลุ่มคนที่ยืนอยู่ด้านข้างซุบซิบนินทาจนทำให้ชางหลิงขมวดคิ้วด้วยความไม่สบอารมณ์
” นั่นคงจะเป็นชางหลิงใช่ไหม หน้าตาก็ไม่ได้สวยอะไรนี่ ทำไมคุณชายรองโหมวถึงได้หลงมันหัวปักหัวปำขนาดนั้น จนแทบจะเอาสมบัติของตระกูลใส่พานมอบให้เลยนี่นะ ”
” งั้นก็คงต้องพูดว่า เรื่องบนเตียงของหล่อนก็คงจะสุดยอดไปเลยใช่ไหมล่ะ คุณชายรองโหมวถึงได้โดนตกขนาดนี้ ”
” ใช่ๆๆ ด้วยความไร้ยางอายอ่ะเนอะ เพราะว่าก่อนหน้านี้หล่อนก็ยังอยู่คฤหาสน์ป้านซานอยู่เลย แม้แต่คุณชายฉี่ก็ไม่รอดนะจ๊ะ ”
” ฮ่าฮ่า ใครใช้ให้เราไม่เด็ดเรื่องนั้นกันล่ะ ก็หล่อนรวบหัวรวบหางพี่น้องตระกูลโหมวได้ง่ายดายขนาดนั้น พวกเธอเนี่ย หยุดหวังไปได้เลยจ้า ”
” ถ้าเก่งเรื่องนั้นแกก็ไปลองสิ ”
พวกผู้หญิงที่ยืนเม้าท์อยู่ตรงนั้นยิ่งพูดก็ยิ่งไปไกลมากขึ้นเรื่อยๆ ผู้จัดการที่คอยดูแลความเรียบร้อยในคลับnovaเมื่อเห็นอย่างนั้นก็ออกปากเตือนพวกสองสามคนตรงนั้น เมื่อคนที่จับกลุ่มนินทาเรื่องของคนอื่นรู้ว่ามีคนเห็น พวกผู้หญิงชอบซุบซิบนินทาเรื่องไร้สาระก็รีบบากหน้าแยกวงกันไป
” ไม่นึกเลยว่าในสายตาคนนอกฉันจะมีสภาพที่น่ารังเกียจแบบนี้ ”
เมื่อเดินมาถึงทางเดินยาวๆ แถวของห้องพักที่ไม่มีคน ชางหลิงก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ วันนี้เหมือนเรื่องร้ายๆ จะพุ่งเข้าหาเธอในคราวเดียวกัน เธอเลยอดไม่ได้ที่จะพูดระบายในเชิงแดกดันกับป๋ายจื๋อ
” ผมควรหาเรื่องให้พวกเธอไม่มีเวลาพูดมากกันดีไหมนะ ”
เมื่อได้ยินป๋ายจื๋อพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ดูเย็นชาเล็กน้อย ชางหลิงก็รู้ได้ทันทีว่าผู้หญิงพวกนั้นที่ชอบปากมากคงต้องหนาวแน่ๆ ” ไม่ต้องโหดร้ายขนาดนั้นหรอก ให้บทเรียนเล็กๆ กับพวกเธอก็พอแล้ว อย่ารุนแรงเกินไปล่ะ ”
ทุกครั้งที่ป๋ายจื๋อลงมือไม่ค่อยหนักหรือเบาจนเกินไป เธอไม่อยากให้มันชัดเจนขนาดนั้น ถ้ามีคนรู้ว่าเธอทำคงจะดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่
ชางหลิงเคาะประตู ซูเสี่ยวเฉิงก็รีบพุ่งออกมากอดเธอเข้าเต็มเปา เมื่อเห็นมุมปากที่ฉีกออกเป็นรอยยิ้มยังไม่ทันจะหุบ
” เสี่ยวหลิงหลิง ในที่สุดเธอก็กลับมาแล้ว เห็นเธอดีใจขนาดนี้ คงจะไปเจอเรื่องที่ทำให้มีความสุขจนลืมฉันไปเลยล่ะสิ ”
” พูดไปเรื่อย เธอสำคัญสำหรับฉันที่สุดเลยนะ นี่ของขวัญแต่งงานของเธอ ฉันไม่ได้ขี้เหนียวสักหน่อย รีบรับไปสิ ฉันกลัวตัวเองจะอดใจไม่ไหวแล้วแย่งกลับมาน่ะนะ ”
เมื่อซูเสี่ยวเฉิงเปิดกล่องดู ในนั้นก็เต็มไปด้วยเสื้อผ้าและเครื่องประดับมากมาย หญิงสาวร้องออกมาด้วยความตะลึง ดีใจจนหยิบกล่องขึ้นมากอดไว้ที่อก แล้วหมุนตัวไปมาอยู่หลายครั้ง
ก่อนที่เธอจะพยายามสงบจิตสงบใจ แล้วหันไปมองชางหลิง แล้วทำหน้ากรุ้มกริ่ม ” เห็นแก่ของขวัญชิ้นนี้นะ ฉันแอบบอกความลับเธอก็ได้ มีคนอยู่ห้องข้างๆ รอเธออยู่ คนที่เธออยากเจอที่สุด รีบไปสิ ”
โหมวยู่รอเธออยู่ห้องข้างๆ นั้นเหรอ
จะเป็นไปได้ยังไงกัน