ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก - บทที่74 เขาเป็นคนยังไง
ชางหวยซูตั้งแต่ชางฉิงฟื้นขึ้นมาก็รออยู่ด้านล่างตึกตลอด พอมีประสบการณ์ครั้งก่อน ครั้งนี้เขานำกำลังคนมา โวยวายอยากเจอชางหลิง
ฉินซางกับต้วนเหิงสองคนรู้สึกปวดหัวมาก พวกเขาอยู่ในห้องทำงานด้วยกัน ไม่อยากออกไปด้วยซ้ำ
“นายว่า เรื่องแบบนี้จะจบเมื่อไหร่” ฉินซางถือแก้วเหล้าและพึมพำ “คนตระกูลชาง มาโวยวายทุกๆสามวัน ประเด็ดคือ นั่นยังเป็นครอบครัวของพี่สะใภ้อีก แล้วยังเป็นครอบครัวที่ความสัมพันธ์ไม่ลงรอยกันเท่าไหร่ พอเกรงใจหน่อยก็ไม่ได้ พอจะไล่ตะเพิดออกไปเลย ก็ทำได้ยาก”
“ฉันรู้สึกว่า ยังมีเรื่องวุ่นอีกเยอะเลย” ต้วนเหิงพูด “การแต่งงานของพี่ใหญ่ยังอีกยาวไกล นี่พึ่งเริ่มต้น แก้ปัญหาตระกูลชางแล้ว ก็ยังมีตระกูลโม่รออยู่ ยังมีปัญหานายท่านที่บ้านอีก……”
“เห้อ!” ทั้งสองถอนหายใจหนักๆพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
“ปัง!” ประตูห้องทำงานถูกเตะออก ไม่ต้องดูก็รู้ คนที่เข้ามาด้วยท่านี้ ก็คงมีแต่คุณชายรองของพวกเขา
เป็นดังว่า ต้วนเหิงหันไป ก็เห็นโหมวยู่เดินมามือพาดหลังและยังมีสีหน้าเขียวปั๊ด
“พวกนายสบายเลยนะ” โหมวยู่นั่งลงบนโซฟา “ด้านล่างเอะอะเสียงดังกัน อยากให้Novaชื่อเสียงฉาวโฉ่ แขกเหรื่อตกใจหนีกันไปหมดหรือไง?”
“พูดแบบนี้ก็ไม่มีจิตสำนึกเลยนะ” ฉินซางหันหน้าไป “ใครก่อเรื่อง? พวกเราอยู่ในบ้าน โชคร้ายหล่นลงมาจากฟ้า นั่นเป็นถึงพ่อตาของพี่ไม่ใช่เหรอ? พี่เก่งมากก็ไปสิ ยังไงพี่ก็เป็นคุณชายรองโหมวที่มีชื่อเสียง แค่กัดฟันกรอดก็ทำคนตกใจฉี่แตกแล้ว”
โหมวยู่ฮึอย่างเย็นชาในลำคอ สายตาเหลือบไปมองฉินซาง
“ฉันนึกได้เรื่องหนึ่ง ก่อนหน้านี้ของที่นายให้ฉัน ฉันใช้ดีมาก ยังคิดอยู่เลยว่าควรจะตอบแทนนายยังไงดี” โหมวยู่แทบจะกัดฟันกรอด เขายังไม่ลืมคืนนั้นว่าชางหลิงหัวเราะเยาะเขายังไง
สีหน้าของฉินซางตื่นเต้นขึ้นมาทันที
“คือ……ไม่มีความหมายเลยนะ ตอนนี้บรรยากาศตึงเครียดแบบนี้ พวกเราพี่น้อง จะมาทำร้ายกันเองคงไม่ดีเท่าไหร่” ฉินซางรีบลุกขึ้น เขาเดินย่องไปที่ประตูอย่างกล้าๆกลัวๆ อยากจะรีบออกไปโดยเร็ว
ดูก็รู้ว่าเก็บกดจากผู้หญิงมา เกรงว่าคงจะโมโหมากสินะ
“หยุด” โหมวยู่พูดขึ้น ฉินซางที่เดินมาถึงหน้าประตูก็หยุดลง
ฉินซางบีบเค้นลูกตากับต้วนเหิง หวังให้เขาช่วยตัวเอง แต่ต้วนเหิงกลับมองไปทางอื่น แกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
“คนของตระกูลชางนายจัดการแล้วกัน ไม่ว่านายจะใช้วิธีไหน ฉันไม่อยากให้พวกเราปรากฏขึ้นหน้าประตูNovaอีก”
ฉินซางถอนหายใจยาวอย่างเหนื่อยใจ
จะดีหรือร้าย ถ้าเป็นเรื่องร้ายก็หลบไม่ได้อยู่ดี เขารู้อยู่แล้วว่ากลัวอะไรก็ได้อย่างนั้น
เขาเดินหลังค่อมออกไป ในห้องก็เหลือแต่ต้วนเหิงกับโหมวยู่สองคน
“ทางนั้นพี่จะทำยังไง?” ต้วนเหิงพูดขึ้น “เรื่องใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ทั้งเมืองหนานสะเทือนไปหมด ดูท่าแล้วคงจะเก็บยาก”
“ในเมื่อเกิดขึ้นแล้ว ก็ใช้โอกาสครั้งนี้ ตีเหล็กให้ร้อนกว่าเดิม” โหมวยู่สายตาใจเย็น
“ตระกูลโหมวทางนั้นผมเตรียมเสร็จแล้ว ธุรกิจในเมืองหนานของพวกเขาถูกเก็บไปมากแล้ว คิดว่า ตระกูลโม่คงหมดหนทาง อยากจะรีบแต่งงานกับตระกูลโหมวเร็วๆ” ต้วนเหิงพูดอย่างใจเย็น “โม่โม่คนนี้ พูดมาแล้วก็โหดจริง ถ้าพี่แต่งงานกับคนแบบนี้ บ้านนี้คงไม่มีวันสงบแน่”
ในสี่พี่น้อง โหมวยู่เชื่อใจต้วนเหิงมากที่สุด เรื่องนี้เขาให้ต้วนเหิงจัดการตลอด สถานการณ์หลายปีมานี้ของเขา ต้วนเหิงก็รู้ดี
ด้านบนก็มีการควบคุมและกดดันของนายท่าน ด้านล่างก็ยังมีคนคอยจ้องจะแย่งชิงสมบัติ ยังมีตระกูลโม่เหมือนหมาป่าที่หิวโหยมานาน โม่โม่ว่าที่ภรรยาคนนี้ก็เป็นคนโหดเหี้ยมอีก
ผู้หญิงที่ตระกูลส่งมาให้โหมวยู่ ยังไม่ถึงตัวเขาก็ถูกเธอจัดการไปแล้ว รอบตัวเขา แค่แมลงวันเพศเมียยังมีไม่ได้เลย ชางฉิงก็แค่หนึ่งในนั้น ฝีมือการแก้แค้นชางฉิง ก็แค่เศษเสี้ยวหนึ่งที่เธอเคยทำก็เท่านั้นเอง
แต่ว่า คนพวกนั้นต่างก็กลัวอำนาจของตระกูลโม่ พวกเหยื่อก็ไม่มีใครกล้าออกมาชี้ตัวเธอ แล้วยังมีพวกที่ไม่ยอมออกมาพูด ไม่นานก็ถูกแก้แค้นหนักกว่าเดิม
“ไม่นานเธอก็จะมาหาฉันแล้ว” โหมวยู่แสยะยิ้ม
——
ชางหลิงนั่งอยู่บนรถกับหลีซิน ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวตลอด
เธอรู้ว่าโหมวยู่มีเรื่องปิดบังเธอ ยิ่งไปกว่านั้น ยังรู้สึกได้ว่า เรื่องที่เขาทำกับชางฉิง ไม่ได้แค่แก้แค้นเธอเท่านั้น
แต่ว่า เขากับตระกูลชางมีความแค้นอะไรกันนะ ทำไมถึงต้องทำถึงขั้นนี้ด้วย?
“หลีซิน” ชางหลิงจ้องหลังหัวเขา ลังเลอยู่นาน “นายคิดว่า โหมวยู่เป็นคนยังไง?”
เธอรู้จักโหมวยู่จากตำนานคำเล่าลือมากกว่า และในชีวิตประจำวัน เขาเหมือนจะมีกำแพงกั้นเอาไว้ ก็เหมือนที่เธอพูด เธอไม่เข้าใจเขา แต่หลีซินอยู่กับเขามานาน ต้องรู้เรื่องโหมวยู่เยอะแน่
“พี่ใหญ่เหรอ?” หลีซินตั้งใจตอบคำถามชางหลิง “ในสายตาผม เขามีนิสัยใจเย็น ฉลาดตัดสินใจเด็ดขาด……”
“ฉันไม่อยากฟังนานชื่นชมเขา” ชางหลิงปัดมือ
“พี่สะใภ้” หลีซินเข้าใจที่ชางหลิงพูด “ผมรู้ เรื่องของคุณชางฉิงกะทันหันไป พี่อาจจะรับไม่ได้ แต่ว่า ผมเข้าใจพี่ใหญ่ดี ถ้าเรื่องนี้เขาเป็นคนทำ งั้นเขาคงหาเหตุผลมาอธิบาย”
ชางหลิงเลิกคิ้ว
“ที่จริงพี่ใหญ่ไม่ได้เป็นคนไม่มีหัวใจ แต่เขาเป็นคนให้ความสำคัญกับเพื่อนพ้องมาก พวกเราอยู่ในโรงเรียนทหารเดียวกัน หลายปีมานี้ แม้พี่ใหญ่จะเข้มงวดกับพวกเราบ้าง แต่เพราะความเข้มงวดของเขา ถึงได้มีNovaในทุกวันนี้”
“พวกนายรู้จักกันมานานแล้วเหรอ?” ชางหลิงถาม “งั้นนายรู้เรื่องที่บ้านเขาไหม?”
เธออยู่กับโหมวยู่มาตั้งนาน เขารู้เรื่องตระกูลชางทั้งหมด แต่กลับไม่เคยพูดถึงตระกูลโหมวกับเธอเลย
“ฉันได้ยินมาว่าเขาไม่สนิทกับพ่อ ยังมีพี่อีกคนหนึ่ง แต่เขาไม่เคยพูดกับพวกเขาเลยนะ” ชางหลิงรู้สึกเศร้า
หลีซินเงียบ
เขาตั้งใจมองต้นทางข้างหน้า และไม่รู้ว่าควรจะตอบคำถามชางหลิงยังไงดี
“คือว่า……” หลีซินลำบากใจ
“ตระกูลโหมวเป็นตระกูลทหาร เป็นคนที่เดินออกมาจากสงครามจริงๆ พ่อของพี่ใหญ่นายท่านโหมวก็เหมือนกัน แต่เพราะได้รับผลกระทบจากความคิดนี้ ความคิดของนายท่านโหมวก็หัวแข็ง ชอบควบคุมคนอื่น แม่ของพี่ใหญ่เสียไปตั้งแต่เขายังเด็ก น้าเขาเป็นคนดูแลเขามาจนโต แต่ต่อมา เขาไปโรงเรียนทหาร พี่ใหญ่ของตระกูลโหมวฉี่ก็มีข่าวอื้อฉาวกับน้าสาวเซิ่งเยียนหัว ไม่นาน น้าเขาก็ถูกรถชนตาย……”
“ว่าไงนะ!” ชางหลิงตกใจอ้าปากค้าง “โหมวฉี่กับน้าสาวเหรอ?”
ข่าวดังเลยนะ ไม่คิดเลยว่า ตระกูลใหญ่แบบนี้จะมีข่าวที่น่าตื่นเต้นแบบนี้ได้
“โหมวฉี่กับตระกูลโหมวไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด” หลีซินอธิบาย “เขาเป็นเด็กที่นายท่านโหมวรับมาเลี้ยง”
“ไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดเหรอ?” เรื่องราวพลิกผันตลบซับซ้อนไปมาจนชางหลิงมึนไปหมด “งั้น……เขากับน้าของโหมวยู่ ก็ไม่เกี่ยวข้องกันน่ะสิ ถ้าสองคนรักกัน ทำไมถึงเป็นข่าวอื้อฉาวได้ล่ะ?”
“ถึงไม่มีสัมพันธ์สายเลือดยังไง โหมวฉี่ก็เป็นลูกชายคนโตของตระกูลโหมว เซิ่งเยียนหัวเป็นน้าสาวของพี่ใหญ่ ก็ต้องเป็นน้าของโหมวฉี่ด้วยอยู่แล้ว ในสายตาคนอื่น พวกเขามีความผิดทางจารีตประเพณี เรื่องของพวกเขาสองคน ในตระกูลนั้น ไม่มีทางได้รับอภัยหรอก”
ชางหลิงตกใจ
ดังนั้น โหมวยู่ก็เหมือนกับเธอ ไม่มีแม่มาตั้งแต่เด็ก ต่อมา น้าสาวที่ดูแลเขามาตลอดก็ไม่อยู่แล้ว……
“พี่สะใภ้” หลีซินมองเธอจากกระจกมองหลัง “พี่อย่าบอกพี่ใหญ่นะว่าผมเป็นคนพูดเรื่องนี้กับพี่ เขาไม่อยากให้คนอื่นพูดแบบนี้ที่สุดเลย ผมกลัวว่าถ้าเขารู้เข้า ผมคงไม่ได้เห็นตะวันพรุ่งนี้แน่”
ชางหลิงพยักหน้า
เธอตกใจกับทุกอย่างมาก ไม่คิดเลยว่า ตระกูลโหมวที่ยิ่งใหญ่อลังการแบบนี้ เบื้องหลังจะมีข่าวอื้อฉาวมากมายขนาดนี้
ถึงว่าเขาชอบดื่มเหล้าจนเมา เธอที่เป็นเด็กผู้หญิง เวลาเสียใจก็แค่ร้องไห้ระบายออกมา แต่เขา อยู่บนตำแหน่งสูงส่ง จึงต้องเก็บทุกอย่างเอาไว้ในใจ……
หรือว่า……เขาเป็นคนแบบนี้ เพราะข่มตัวเองจนกลายเป็นโรคจิต?
สมองชางหลิงคิดอยู่หลายเรื่อง แล้วจะอธิบายเรื่องที่เขาสั่งคนทำกับชางหลิง……ได้ยังไง?
ไม่ ไม่ว่ายังไง เรื่องที่เขาทำก็ผิดอยู่ดี เธอจะเห็นใจผู้สมรู้ร่วมคิด งั้นเธอก็ไม่แตกต่างจากโรคจิตหรอก