ท่านประธานที่รัก - บทที่ 315 หนูไม่ใช่ลูกตระกูลเจียง
จื่อเยียนที่เพิ่งโดนเจียงฉยงฉยงแขวะ เอาแต่พูดเหมือนเป็นห่วงเธอ
แต่สายตาตอนที่เธอแอบก้มหน้านั้นแฝงไปด้วยความเสียดสี ซึ่งคนอื่นไม่เห็น
เฉินเฉียวที่ยืนอยู่ข้างๆรู้สึกตลก คนตรงหน้ามั่นหน้ามั่นใจจริงๆ
“เธอบ้าหรือเปล่า ฉันจะท้องหรือไม่ท้องเกี่ยวอะไรกับเธอ พ่อคะ หนูรู้ว่าข่าวนี้อาจจะกะทันหันเกินไป แต่นี่ก็เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับพวกหนูไม่ใช่เหรอคะ?”
เจียงฉยงฉยงมองคุณพ่อตัวเอง ในสายตาคาดหวังมาก อาจจะกำลังคาดหวังว่าท่านจะพูดว่าเธอใสซื่อเหมือนแต่ก่อน
แต่ว่าพ่อเจียงไม่ได้แสดงปฏิกิริยาที่เธอหวัง แต่กลับขมวดคิ้ว เลยพูดอย่างไม่สบอารมณ์ “จื่อเยียนพูดถูก เธอจะแต่งงาน ก็ต้องรอพี่ชายแต่งก่อน”
เฉินเฉียวทนไม่ไหวแล้ว ที่เธอมากับฉยงฉยงก็เพื่อมาบอกข่าวท่านทั้งสอง แล้วมาเอาทะเบียนบ้านด้วย
คิดไม่ถึงเลยว่า คุณพ่อของเจียงอี้ฟานจะพูดอะไรแบบนี้
พูดแบบนี้ เหมือนกำลังกลัวว่าถ้าฉยงฉยงแต่งก่อนพี่ จะทำให้ตระกูลเจียงเสื่อมเสียอย่างนั้น
เฉินเฉียวมองไปที่ทั้งสามคน “คนเขาบอกว่าตระกูลเจียงเลี้ยงลูกเท่าเทียมกัน แต่ที่หนูดูมา รักผู้ชายมากกว่าชัดๆ คุณผู้ชายคุณผู้หญิงเจียงคะ ถ้าพวกคุณไม่อยากให้ฉยงฉยงแต่งจริงๆ ก็พูดตรงๆสิคะ พวกคุณคิดว่าฉยงฉยงจะตอแยเหรอคะ?”
“เธอรู้อะไร ก็แค่ผู้หญิงที่เกาะคนรวย เธอมีสิทธิอะไรมายุ่งเรื่องในครอบครัวคนอื่น?” พ่อเจียงพูดอย่างไม่แยแส
ในสายตาท่าน ผู้หญิงตรงหน้าก็แค่เกาะตระกูลซังได้ไม่ใช่เหรอ แต่ก็ยังดูต่ำต้อยอยู่ดี
เจียงฉยงฉยงดึงมือเฉินเฉียวแล้วส่ายหน้า “พอแล้ว เราไปกันเถอะ”
เฉินเฉียวมองสีหน้าเจียงฉยงฉยงอย่างเป็นห่วง เห็นว่าสายตาเธอเศร้า นอกนั้นมองอะไรไม่ออกเลย
“ไม่เอาทะเบียนบ้านแล้วเหรอ?” เฉินเฉียวยังจำได้ว่าที่พวกเธอมาก็เพื่อสิ่งนี้
“ช่างเถอะ ไม่แต่งก็ไม่แต่ง” อาจจะเพราะว่าคำพูดของทั้งสองท่านรุนแรงเกินไป เจียงฉยงฉยงเลยรู้สึกเหมือนโดนทอดทิ้ง
เฉินเฉียวอยากปลอบเธอ แต่ก็ไม่รู้จะเอ่ยยังไง
ทันใดนั้น พ่อเจียงก็โยนถุงใส่ของมา นั่นเป็นอาหารเสริมที่ฉยงฉยงซื้อให้
แล้วของก็กระแทกข้อเท้าฉยงฉยงพอดี จนเธอที่กำลังเดินตัวเซ จากนั้นก็กำมือแน่นทั้งสองข้าง
ผ่านไปครู่หนึ่ง เธอหันไปแล้วเอ่ยอย่างโมโห “พ่อ ในใจพ่อแม่ไม่เคยมีลูกสาวคนนี้เลยใช่ไหม”
พ่อเจียงโกรธมากจนตบหน้าเธอ เฉินเฉียวที่ยืนอยู่ข้างฉยงฉยงตกใจ เลยเอาตัวไปบังเธอไว้ แต่คิดไม่ถึงเลยว่า ฝ่ามือของพ่อเจียงตบโดนเฉินเฉียวจนล้มไปกับพื้น
เพราะใช้แรงเยอะ หัวของเฉินเฉียวเลยกระแทกกับกระเบื้อง เจ็บมากจนเฉินเฉียวเวียนหัว
“เฉียวเฉียว” น้ำตาฉยงฉยงไหลลงมาทันที แล้วพยุงตัวเฉียวเฉียวขึ้นมา เลยเห็นเลือดที่ไหลจากศีรษะเธอ เอามือไปแตะเบาๆเลยรู้สึกเลือดที่อุ่นร้อน จึงหักห้ามความโกรธไว้ไม่อยู่
ที่พ่อเจียงตบครั้งนี้ ทำให้ความเคารพนับถือที่ฉยงฉยงมีต่อท่านพังทลายทันที
ถ้าไม่ใช่เฉินเฉียวที่ช่วยบังเธอไว้ ตอนนี้คนที่นอนอยู่ที่พื้นอาจะเป็นเธอ
ตลกชะมัด แค่เพราะความคลุมเครือของเธอกับพี่ชาย เลยทอดทิ้งเธอแบบนี้เลย
ตัดสินใจที่จะทอดทิ้งแล้ว ยังบีบจนเธอจนมุมอีก
เฉินเฉียวจับมือฉยงฉยงลุกขึ้น สายตาที่เยือกเย็นของเธอมองไปที่พ่อเจียง
“คุณผู้ชายเจียง นี่ถือว่าคุณจงใจทำร้ายร่างกาย หนูว่า ถ้าไปตรวจเช็คอาการบาดเจ็บที่โรงพยาบาล คนตระกูลเจียงคงต้องไปเยี่ยมคุณในคุกแล้วล่ะ”
กับคนหัวโบราณอย่างพ่อเจียง คุยกันดีๆไม่ได้หรอก
พอพ่อเจียงทำแบบนี้ เลยทำให้เฉินเฉียวมีข้ออ้าง
“แก……” พ่อเจียงหมดคำพูด สถานการณ์ตอนนี้ไม่ค่อยดีกับพวกเขา
ทันใดนั้น จื่อเยียนที่พยุงแม่เจียงอยู่ก็เดินมาเอ่ย “คุณหนูเฉินคะ ยังไงคุณชายซังก็เป็นเพื่อนรักกับอี้ฟาน ไม่ต้องทำให้เรื่องใหญ่ก็ได้มั้งคะ?”
“ต้องทำสิคะ บางเรื่อง เพื่อนรักกันยังต้องคิดบัญชีกันเลย แล้วตอนนี้เจียงอี้ฟานความจำเสื่อมจำอะไรไม่ได้ด้วย ไม่ใช่คนที่สามีของฉันแคร์แล้ว” เฉินเฉียวไม่ยอมถอย ใช้สายตาที่มั่นใจก้มมองเธอ
ท่าทางของเธอทำให้พ่อแม่เจียงเงยหน้าไม่ขึ้น
แม่เจียงเห็นเป็นครั้งแรกที่หัวหน้าตระกูลโดนเด็กผู้หญิงกดดันจนเงยหน้าไม่ขึ้น เลยแอบถอนหายใจ จากนั้นก็สลัดมือจื่อเยียนออก เดินไปหยิบสมุดเล็กๆที่ชั้นสองแล้วเดินลงมา
“นี่ทะเบียนบ้านที่พวกเธออยากได้ อยู่นี่แล้ว เอาไปสิ” ความจริงแม่เจียงยังมีความรู้สึกกับฉยงฉยง แต่พอนึกถึงลูกชายที่ความจำเสื่อมเอาแต่ดื้อรั้นจะอยู่กับลูกสาว เลยรู้สึกตกใจ
เฉินเฉียวยื่นมือไป พอเห็นว่าเป็นของที่ต้องการเลยยื่นให้ฉยงฉยง
ในเมื่อได้ของมาแล้ว เฉินเฉียวก็จะพาฉยงฉยงไปจากที่นี่ แต่ตอนที่หันหลังเดิน แม่เจียงกลับเอ่ย “ของให้พวกเธอไปแล้ว เธอไม่ต้องไปตรวจแผลแล้วใช่ไหม”
“ขอแค่พวกคุณไม่หาเรื่องฉยงฉยงอีกก็พอ” เฉินเฉียวเหลือบมองท่านอย่างเย็นชา
สุดท้ายเจียงฉยงฉยงก็เอ่ยกับแม่เจียง “คุณแม่ นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่หนูจะเรียกว่าแม่ เคยทำดีอะไรกับหนูไว้ หนูจะไม่ลืม หนูคิดว่าเราสามารถอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขได้ แต่เรื่องบางเรื่อง ทำให้หนูรู้ว่าพวกคุณไม่เคยเห็นหนูอยู่ในสายตาเลย”
“แต่ว่า ขอบคุณเรื่องดีๆที่เคยทำเพื่อหนูนะคะ” น้ำเสียงเจียงฉยงฉยงสะอึกสะอื้น ถึงจะพยายามกลั้นไว้ก็ตาม
แม่เจียงรู้สึกซึ้งกับลูกสาว ท่านเลยไม่อยากปิดบังอีก “ฉยงฉยง ความจริงหนูไม่ใช่ลูกตระกูลเจียง”
สีหน้าเจียงฉยงฉยงซีด เอ่ยอย่างไม่อยากเชื่อ “แม่ ถึงแม่ไม่อยากรับหนู ก็ไม่ควรพูดแบบนี้”
เธอคิดว่านี่เป็นคำพูดที่แม่เจียงกำลังประชด
แม่เจียงแค่มองเธอผ่านม่านน้ำตา เจียงฉยงฉยงเลยเหมือนเข้าใจอะไรบางอย่าง ตัวเธอสั่นจนทนไม่ไหวแล้ว
“เราไปกันเถอะ!” เฉินเฉียวเอ่ย เจียงฉยงฉยงหลับตาลงแล้วพยักหน้า พยุงเฉินเฉียวที่บาดเจ็บ เดินไปเปิดประตูที่ปิดสนิท แล้วเดินออกไป
แต่แค่ก้าวเดินออกไป กลับต้องรีบหยุดฝีเท้า