ท่านประธานที่รัก - บทที่ 467 ความรักมาเยือน
อาจจะเพราะเป็นบัญชีส่วนตัว เลยไม่ค่อยโพสต์อะไรมาก แค่ไลก์กับคอมเมนต์ยังน้อยเลย
ชู่จี้ส่งไฟล์งานที่ร่วมงานให้ซังอี๋ “ดูว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่า ไอเดียของพวกเธอดี ฉันสนับสนุนเธอ”
คำพูดที่ทางการแบบนี้ ทำให้ซังอี๋เกือบจะคิดว่าไม่ใช่ชู่จี้
พอได้รับไฟล์งานแล้ว แต่ละบรรทัดดูเป็นระเบียบมาก จนข้อมูลบางอย่างที่ไม่ครบถ้วนก็เพิ่มมาหมดแล้ว อยู่ๆซังอี๋ก็รู้สึกขอบคุณผู้ชายคนนี้มาก เขาช่วยเธอไว้เยอะจริงๆ……
“ขอบใจนะ……” เพิ่งพิมพ์สามคำนี้ออกมา ก็รู้สึกว่าตัวเองเหมือนไม่จริงใจ ซังอี๋เลยลบออก “เดี๋ยวฉันเลี้ยงข้าว?”
ทีแรกเป็นแค่มารยาท ไม่คิดเลยว่าผู้ชายคนนั้นจะตกลง เธอแอบดีใจ แต่ก็ไม่รู้จะเผชิญหน้ายังไง
ไม่รู้ว่าเป็นความรักหรือเปล่า แต่ละอย่างของผู้ชายคนนั้น กำลังจูงใจเธอคล้อยตามไปด้วย
พอสลัดความคิดวุ่นวายทิ้ง แล้วมองไปที่โทรศัพท์ ชู่จี้ส่งมาพอดีว่า คิดถึงฉันหรือเปล่า?
ใจเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ “อย่าพูดไปเรื่อย” เธอจินตนาการออกเลยว่าผู้ชายคนนั้นต้องใช้แววตาที่คลุมเครือมองเธออยู่
ผ่านไปนานมาก อีกฝั่งไม่ได้ส่งข้อความอะไรมาอีก อยู่ๆซังอี๋ก็รู้สึกโดดเดี่ยว ไม่รู้ผ่านไปนานแค่ไหน เธอค่อยนอนหลับ
“เธอเข้ามาทำไม?” ชู่จี้เพิ่งอาบน้ำเสร็จ ก็เห็นมีผู้หญิงคนหนึ่งนอนอยู่บนเตียงตัวเอง หลิงเยว่นั่นเอง “ใครให้กุญแจเธอ?” เขาขมวดคิ้วถามอย่างไม่สบอารมณ์
“นายอย่าโกรธสิ” ระหว่างที่หลิงเยว่พูด เสื้อก็ไหลลงไปจนเห็นร่างกายท่อนบน บนร่างกายมีแค่ชุดนอนบางๆ ที่มองทะลุเห็นทุกอย่าง
ไม่ว่ายังไง เธอก็ต้องยั่วอารมณ์ชู่จี้ ผู้หญิงมีช่วงๆเวลาดีๆแค่ช่วงนี้แหละ ถึงเวลา ยังมีผู้หญิงมากมายไปตามจีบชู่จี้ แล้วตัวเอง ถ้าอายุมากขึ้น ก็จะดึงดูดเขาได้น้อยลง
“ใส่เสื้อ!” ชู่จี้พูดเสียงเข้ม
เขาเหมือนซาตานที่ออกมาจากนรก น่ากลัวมาก
“ฉันเต็มใจยอม……นายอย่าปฏิเสธฉันได้ไหม?” หลิงเยว่คิดว่าแค่ได้มีอะไรกับเขาก็พอใจแล้ว
ถึงตัวเองจะไม่ใช่ผู้หญิงสวยขนาดนั้น แต่อย่างน้อยหุ่นก็ดี หน้าตาก็ดูดี จะเทียบกับผู้หญิงพวกนั้นไม่ได้ได้ยังไง
เขาเดินหน้าด้วยรอยยิ้มเยือกเย็นจนเสียวสันหลัง ไม่ได้ทำให้คนอื่นรู้สึกอบอุ่นเลย “อย่าฝันกลางวัน หลิงเยว่ ถึงเธอจะพยายามแค่ไหน ฉันก็ไม่มีวันมองเธอหรอก”
คำพูดนี้ดูใจร้ายมาก เหมือนผู้หญิงทั้งโลกมีอะไรกับเขาได้ แต่แค่เธอหลิงเยว่คนเดียวที่ไม่ได้
เธอไม่ยอม แต่ตอนที่สะกิดต่อมอารมณ์ของเขา เธอก็ต้องยอมแพ้ ใช่ ชู่จี้ไม่ใช่คนที่จะเล่นด้วยได้ ไม่งั้นเขาคงไม่อยู่บนตำแหน่งนั้นหรอก
เธอลงจากเตียงอย่างทุลักทุเล ร้องไห้ฟูมฟาย แต่กลับไม่ได้ความเห็นใจจากเขา “ที่ฉันทำไป ก็เพราะฉันรักนาย”
ชู่จี้แค่ดึงผ้าปูที่นอนออกอย่างรังเกียจแล้วโยนไปที่เธอ “ถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากฉัน ถ้าเกิดเรื่องแบบนี้อีก เรื่องก็คงไม่จบง่ายๆแบบนี้”
ห้องนอนกลับมาเงียบสงบเหมือนเดิม ชู่จี้เห็นข้อความตอบกลับจากซังอี๋ ความไม่สบอารมณ์หายไปทันตา ทำไมถึงมีผู้หญิงที่น่ารักขนาดนี้เนี่ย?
มองรูปภาพในโทรศัพท์ ถ้าพรุ่งนี้คุณปู่เร่งให้แต่งงานอีก คงต้องพาเธอไปเจอผู้ใหญ่แล้วล่ะ
แต่นิสัยของเธอ อาจจะไม่ตกลง
วันต่อมา แสงอาทิตย์ส่องลงมาบนโลก ซังอี๋บิดขี้เกียจ แล้วเริ่มต้นวันใหม่อย่างสดใส
“อี๋อี๋ อรุณสวัสดี” หลี่เจียซินหาวแล้วเดินมาหา “หน้าเธออมชมพูจริงๆ……” เหมือนลูกพีชที่น่าดึงดูด เธอจับแก้มเธอแล้วยิ้ม
ซังอี๋ยิ้มแล้วชกเธอเบาๆ “แผนงานผ่านแล้ว สถานที่ของเราก็มีแล้ว ที่ฮวาเจิง เป็นไงลล่ะ เยี่ยมเลยใช่ไหม?”
“ฉวาเจิง!” พอได้ยินข่าวนี้ หลี่เจียซินก็กระโดดอย่างดีใจ “เธอเก่งมากกกกก ไม่ว่ายังไงวันนี้ฉันก็ต้องเลี้ยงข้าวเธอ”
นึกถึงครั้งก่อนที่ไปคาราโอเกะ ซังอี๋ยังรู้สึกตงิดใจ ถึงพ่อตัวเองจะเป็นคนมีอำนาจ แต่บางครั้ง ก็ทำอะไรไม่พลาดเลยไม่ได้
ทุกอย่างต้องระวังไว้ก่อน ซังอี๋บีบจมูกของหลี่เจียซิง “ห้ามไปที่แบบนั้นอีก แค่กินข้าวก็พอแล้ว”
“โอเค” หลี่เจียซิงตอบตกลง
“รู้หรือยัง? วันนี้ผู้บริหารฮวาเจิงจะมาที่มหาวิทยาลัยเรา พระเจ้าช่วย ฉันได้ข่าวว่าหล่อมาก!” ผู้หญิงหลายคนกำลังพูดซุบซิบกัน
“ใช่ ใช่ เราจะได้เจอตัวจริงสักที ได้ข่าวว่าหล่อแบบเทพบุตรเลยแหละ ฉันต้องขอลายเซ็นเขาให้ได้”
“ชู่จี้?” พอหลี่เจียซิงได้ยินชื่อนี้ เกือบจะเป็นลม “ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม? ทำไมถึงมีความสุขขนาดนี้? เทพบุตรของฉัน อ๊ากกกกก!” ตื่นเต้นจนพูดอะไรไม่เป็นคำ
“พอแล้ว พอแล้ว” ถึงซังอี๋ไม่รู้ว่าทำไมชู่จี้ถึงมา แต่คนระดับเขา คงไม่มาร่วมงานด้วยตัวเองหรอก “อาจจะเจอก็ได้มั้ง”
ตอนที่อธิการบดีไปต้อนรับชู่จี้ด้วยตัวเอง ในมหาวิทยาลัยคึกคักมาก นักศึกษาหญิงทุกคนพร้อมวิ่งไปดูความมหัศจรรย์นี้
หล่อเหลาเหมือนลูกรักพระเจ้า แสงแดดส่องลงมากลางเวที แววตาที่ลึกลับนั่น การกระทำทุกอย่างที่ดูเป็นผู้ดี
สวัสดีครับ ผมชู่จี้ พูดเปิดอย่างเรียบง่าย
ฮวาเจิงเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ทุกท่านน่าจะรู้จัก ครั้งนี้ได้ร่วมงานกับทางมหาวิทยาลัย เวลาเดียวกัน มีโควตาฝึกงานให้ยี่สิบคน นักศึกษาชั้นปีสี่สามารถสมัครได้ครับ
เสียงฮือฮาลือกันสนั่น
ฮวาเจิง? นั่นเป็นบริษัทระดับไหน ทุกคนรู้ดี
แค่โควตาฝึกงานก็ทำให้คนอื่นฮือฮากันขนาดนี้ เพราะนั่นเป็นฮวาเจิงที่ทุกคนแย่งกันอยากเข้าไปทำงาน
ข้างล่างเวทีมีเสียงฮือฮากัน มีผู้หญิงไม่น้อยมองผู้ชายบนเวทีอย่างเพ้อฝัน หล่อจริงๆ ตัวจริงหล่อกว่าในรูปอีก
ชู่จี้กวาดมองข้างล่างเวที ทุกคนดูมีความสุขจนจะเป็นลมกัน ทำไมสายตาคู่นั้นถึงน่าหลงใหลขนาดนั้น น่าดึงดูดมาก แค่สบตา ก็ทำให้โงหัวไม่ขึ้นแล้ว
หลี่เจียซิงตบหน้าอกตัวเอง หน้าแดงเหมือนตูดลิง “อี๋อี๋ แกเห็นหรือยัง? เขามองฉัน!”