ท่านประธานที่รัก - บทที่451 หึง
เจียงฉยงฉยงได้ยินว่าที่บ้านเกิดเรื่องแล้ว คว้ามือเฉินเฉียวที่กำลังจะออกไปและพูดว่า “ฉันจะไปกับเธอด้วย”
“เรื่องที่บริษัทล่ะ?”เฉียวเฉียวไม่วางใจที่ตอนนี้เธออยู่ที่บริษัทคนเดียว ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาเธอจะเสียใจไปตลอดชีวิต
แต่เฉินเฉียวไม่ได้บังคับให้เธอไปด้วยเลยถามเธออีกครั้ง
“ไม่เป็นไร สภาพฉันในตอนนี้อยู่คนเดียวที่บริษัทฉันก็กลัว”
เฉินเฉียวยิ้มและไม่พูดอะไรมาก
ถ้างั้นพวกเราไปกันเถอะ
ทั้งสองออกจากบ้านด้วยกันตอนเช้า ตอนนี้ออกจากบริษัทด้วยกัน
เฉินเฉียวนัดกับซังหลินจวินบนรถว่าจะไปเจอกันที่หน้าโรงเรียนของเหมิงเหมิง ยังไงซะเด็กหายไปใกล้ๆ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นน่าจะมีเบาะแสอะไรบ้าง
“หาอะไรเจอบ้างไหม”เฉินเฉียวรีบออกจากรถเห็นเขาขมวดคิ้ว หลินจวินถามอย่างรวดเร็ว
“ไม่เจอเลย กล้องวงจรปิดแถวป้ายรถเมล์หน้าโรงเรียนเสียพอดี”
“จะบังเอิญขนาดนั้นได้ยังไง”เฉินเฉียวไม่เชื่อว่าเรื่องนี้จะบังเอิญ นอกเสียจากว่าเรื่องนี้จะถูกวางแผนมานานแล้ว
เจียงอี้ฝานซึ่งยืนอยู่ข้างๆซังหลินจวินพูดอะไรบางอย่าง
“เรื่องนี้ไม่ต้องคิดอะไรมากทุกคนก็ดูออกว่าเป็นเรื่องที่เตรียมการมาก่อนแล้ว ฉันเพิ่งโทรหาลูกน้องที่อาศัยอยู่แถวๆนี้ พวกเขาบอกว่าแถวนี้มีรถที่ติดกล้องไว้ ข้างในน่าจะบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้ไว้”
“งั้นพวกเรารีบไปหากันเถอะ”เฉินเฉียวที่จิตใจร้อนรนมานาน ตอนนี้เธอไม่สามารถซ่อนไว้ได้แล้ว
“ปัญหาคือเราจะไปเอาเครื่องบันทึกของคนอื่นไม่ได้ นอกเสียจากว่าจะมีคนช่วย”
แต่ตอนนี้คนที่ช่วยได้อีกคนอยู่ในกองทัพ อีกคนนอนอยู่ที่เตียงผู้ป่วย
เฉินเฉียวฟังออกว่าพวกเขาพูดถึงใคร จู่ๆเธอก็นึกออกว่าคนในสถานีตำรวจเคารพต่อเชินชิงเพียงใด ทันใดนั้นความคิดก็ผุดขึ้นมาในหัวเธอ
เธอกดโทรศัพท์และส่งข้อความถึงเชินชิง
เฉินเฉียวที่กำลังเช็ดตัวอาซู้ตามปกติ ได้ยินข้อความจากโทรศัพท์มือถือของเธอและพบว่าเป็นข้อความจากเฉินเฉียว เธอเปิดดูอย่างรวดเร็ว
เห็นแค่ด้านบนเขียนว่า
“เสี่ยวชิง ฉันต้องขอโทษด้วย สิ่งที่กำลังจะบอกอาจจะทำให้คุณลำบากใจ แต่ฉันไม่รู้ว่าจะไปขอให้ใครช่วยแล้ว ลูกของฉันโดนลักพาตัวไปฉันมีแค่ทางเดียวที่จะหาหลักฐานว่าใครเป็นคนลักพาตัวลูกฉันไป เพียงแต่หลักฐานชิ้นนั้นต้องการความช่วยเหลือจากคุณ”
“คุณช่วยฉันไปที่สถานีตำรวจไปเอาใบอนุญาตกับตำรวจได้ไหมคะ”
เชินชิงรู้สึกลำบากใจจริงๆ เธอก็เพิ่งจะเจอเพื่อนร่วมงานอาซู้ไม่ค่อยสนิทกับพวกเขา ไปขอให้พวกเขาช่วยแบบนี้ค่อนข้างจะ…. แต่พอคิดถึงวันที่เฉินเฉียวช่วยดูแลพวกเขาแล้วเชินชิงก็กัดฟันยอมโทรหาสถานีตำรวจ
หลังจากจัดการเรื่องต่างๆเสร็จแล้ว เชินชิงก็ส่งข้อความสั้นๆให้เฉินเฉียว
เฉินเฉียวที่กำลังกังวลอยู่เห็นโทรศัพท์สั่นก็กลัวว่าเชินชิงจะปฏิเสธกลับมา
แต่โชคดีที่ตอนจบเป็นที่น่าพอใจ
จัดการเรียบร้อยแล้ว
คำพูดที่เรียบง่ายไม่กี่คำทำให้เฉินเฉียวรู้สึกซาบซึ้งอย่างบอกไม่ถูก
เธอตอบกลับไปประโยคหนึ่ง และมองไปที่ซังหลินจวินที่มองเธออยู่ข้างๆ “ได้ใบอนุญาตแล้ว อีกไม่นานก็จะถูกส่งมารอแปปหนึ่งนะ”
ซังหลินจวินไม่ได้ถามว่าเฉินเฉียวใช้วิธีใดให้เขาตอนรับ เพราะเขาเห็นว่า เฉินเฉียวอารมณ์ไม่ดี
ทำเพียงแค่จับมือเธอไว้แน่นเพื่อปลอบเธอ
ประมาณสิบห้านาทีต่อมา มีตำรวจขับรถมาและเดินมาทางพวกเขา
“ผมได้ยินมาว่าลูกคุณโดนจับตัวไป คุณต้องการตรวจสอบกล้องในรถเพื่อหาคนร้ายใช่หรือไม่?”
เฉินเฉียวพยักหน้าและพูดว่า “ใช่ ตอนนี้พวกเราไปเอาได้แล้วใช่ไหม
ตำรวจผิวเข้ม ดูแล้วนิสัยดี
เขาไม่ลังเลยื่นสิ่งนั้นให้ทันที
หลังจากได้เครื่องบันทึกในรถแล้ว เธอก็กดดูวิดิโอในเครื่องบันทึก
ในตอนต้นของภาพคนเดินไปเดินมาแบบธรรมดาๆแต่ในตอนบ่าย ชายที่แต่งตัวประหลาดๆเดินผ่านโรงเรียนและจากไป
เมื่อเขาปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง เห็นโย่วอีซื้อไอศกรีมให้เหมิงเหมิง ชายคนนั้นที่แต่งตัวประหลาดๆฉวยโอกาสตอนที่โย่วอีไม่อยู่อุ้มเด็กไป
ตั้งแต่ต้นยันจบคนร้ายก้มหน้า เหมือนกับว่ากลัวกล้องวงจรปิด
เฉินเฉียวที่เจอเขานับไม่ถ้วนมองแค่แวบเดียวก็มองออกว่าเขาเป็นใคร
“ปู้อี้เฉิน หลินจวินมันเป็นเขาอีกแล้ว”เฉินเฉียวกัดฟันอย่างเกลียดชัง เธอไม่เข้าใจว่าทำไมปู้อี้เฉินถึงกัดครอบครัวเธอไม่ปล่อย
ตำรวจไม่รู้ว่าปู้อี้เฉินที่เฉินเฉียวพูดหมายถึงใคร แต่พอฟังน้ำเสียงแล้วเห็นได้ชัดว่าคนคนนั้นเป็นคนร้ายจริงๆ
“ผมออกหมายจับได้ตอนนี้เลย คุณรอก่อนได้ไหม”พบตัวผู้กระทำผิดแล้ว และชายร่างสูงเป็นตำรวจของประชาชนก็พร้อมที่จะจับคนร้ายแล้ว
“ค่ะ”เฉินเฉียวคิดอยากจะไปตามหาปู้อี้เฉินก่อน แต่มีตำรวจอยู่ข้างๆเธอจึงทำไม่ได้
เพราะว่าเป็นเรื่องด่วน ตำรวจยังไม่ทันขับรถกลับก็โทรหาเจ้านายโดยตรง
ถึงแม้ปกติพวกเขาจะฟังซู้เหยี้ยนเพราะชื่นชมเขา แต่ผู้บังคับบัญชาที่แท้จริงกลับไม่ใช่เขา
หลังจากผู้บังคับบัญชาได้ยินว่าเรื่องนี้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายมาก เขาก็ไม่ลังเลที่จะอนุญาตด้วยปากเปล่า
หลังจากวางสายตำรวจก็พยักหน้าไปทางเฉินเฉียวและคนอื่นๆ แล้วพาซังหลินจวินกับเฉินเฉียวออกไปด้วยกัน
เดิมทีเจียงฉยงฉยงต้องการจะไปด้วย แต่ด้วยขนาดของรถแม้ว่าจะนั่งได้อีกคนเดียว เจียงฉยงฉยงก็อยากจะนั่งแต่โดนเจียงอี้ฝานห้ามไว้
เมื่อรถตำรวจที่เฉินเฉียวและคนอื่น ๆ นั่งขับออกไป เจียงฉยงฉยงก็กลับไปอย่างเซ็งๆ
เจียงอี้ฝานรีบคว้าตัวเธอและพูดว่า “ฉยงฉยงคุณอย่าทำแบบนี้กับผมสิ คุณดูสิคุณไม่สนใจผมนานเท่าไหร่แล้ว เพราะผมลำเอียงกับลูกสาวมากไปผมสัญญาหลังจากนี้ผมจะรักลูกทั้งสองให้เท่าเทียมกัน ”
เจียงฉยงฉยงแกะมือเขาที่จับเธออยู่แล้วพูดอย่างโกรธเคือง: “คุณไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองผิดตรงไหน ที่ฉันโกรธไม่ใช่เพราะคุณลำเอียงกับลูกสาวฉันโกรธที่คุณเอาแต่แอบโทรศัพท์หรือไม่ก็ส่งข้อความลับหลังฉันตลอด ฉันไม่รู้ว่าคุณส่งข้อความหาผู้หญิงที่ฉันไม่รู้จักกี่คน ฉันเหนื่อยที่จะพูดแล้ว”
เจียงฉยงฉยงมองดูเขาอย่างเหนื่อยหน่าย เจียงอี้ฝานมองด้วยท่าทางเศร้าโศกและโดดเดี่ยวเจ็บปวดในใจ