ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1027 ชิงอิ่งลงมือ
ตูม! เสียงดังสนั่นขึ้น
กระบี่เล่มนี้ของกู้ไป๋อีแข็งแกร่งมาก แมงป่องถูกเขาโจมตีถล่มอย่างไม่ต้องสงสัยจนร่างกระเด็นออกไปไกลมู่เฉียนซีแล้ว
ทว่า เผชิญหน้ากับศัตรูในระดับเดียวกัน และเขาก็เผยข้อบกพร่องออกมามากมายเช่นนี้แล้ว จึงทำให้เฮยเฉียโจมตีเขาอย่างรุนแรงถึงชีวิต
สีหน้าของมู่เฉียนซีพลันเปลี่ยนไปพลางตะโกน “เสี่ยวไป๋!”
มือที่เหี่ยวย่นข้างหนึ่งพุ่งตรงไปที่กู้ไป๋อี
เขาจะต้องหลบหลีกการโจมตีนี้ ทว่า ไม่ทันแล้ว มือข้างนั้นได้เจาะเข้าที่หน้าอกของเขาแล้ว!
ปัง! ร่างของกู้ไป๋อีกระเด็นลอยออกไป เลือดสีแดงสดไหลย้อมชุดคลุมยาวสีขาวบริสุทธิ์นั้นของเขา
ไม่โดนหัวใจ!
มู่เฉียนซีดูออกว่าเขาหลบมันในวินาทีสุดท้าย จึงทำให้เฮยเฉียโจมตีไม่โดนหัวใจของเขา แต่เขาก็ได้รับบาดเจ็บไม่น้อยเลย
เฮยเฉียกล่าว “ท่านช่างเก่งกาจจริง ๆ มาถึงขั้นนี้แล้วยังหลบหลีกได้อีก ทำให้ข้าทึ่งยิ่งนัก! แต่ว่า…วันนี้ข้าจะฆ่าท่านให้ตายให้เหมือนกับบีบมดปลวกที่อยู่ในมือข้า”
เฮยเฉียเตรียมจะโจมตีคร่าชีวิตกู้ไป๋อี และกระบี่ของมู่เฉียนซีกวัดแกว่งเคลื่อนไหวออกไป
“บัวแดงพิฆาต!”
พลังได้ลดลงมาอยู่ในขั้นเดิม เมื่อกระบี่เล่มนี้กระทบกับร่างของเฮยเฉียก็ไม่ควรค่าที่จะกล่าวถึงเลย
เขาสกัดการโจมตีนี้ได้อย่างง่ายดาย จากนั้นเหลือบไปมองมู่เฉียนซีก่อนจะกล่าวว่า “นึกไม่ถึงจริง ๆ ว่าคนที่ไม่เคยสนใจผู้หญิงมาก่อน แม้แต่ความรู้สึกรักใคร่ก็ยังไม่มี จะยอมเสี่ยงโดยไม่สนใจความเป็นความตายของตัวเองเพื่อช่วยเจ้าได้เช่นนี้!”
“เหอะ เหอะ เหอะ! ท่าน หากท่านได้เห็นหญิงสาวที่ตัวเองพยายามจะปกป้องต้องตายต่อหน้าต่อตาท่าน สีหน้าท่าทางของท่านก็คงจะตื่นเต้นน่าดูแน่เลย!”
ก่อนที่จะฆ่ากู้ไป๋อี เฮยเฉียตัดสินใจจะจัดการฆ่าสาวน้อยผู้นี้ก่อน
สีหน้าของกู้ไป๋อีในตอนนี้ซีดเผือดไร้ซึ่งสีเลือด เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เจ้ากล้า!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า! ตอนนี้ท่านก็คือผู้พ่ายแพ้ที่อยู่ในกำมือของข้าแล้ว มีอันใดที่ข้าต้องกลัวอีกเล่า!”
“เสี่ยวตู๋! กลืนกินสาวน้อยผู้นี้ให้ข้าเดี๋ยวนี้!”
เฮยเฉียสั่งสัตว์พันธสัญญาของตัวเอง ไม่นานนัก มู่เฉียนซีก็ถูกปกคลุมไปด้วยเงามืดสนิทเงาหนึ่ง
มุมปากของกู้ไป๋อีมีเลือดไหลออกมา เขาตะโกนขึ้น “คุณหนูใหญ่…
“อาถิง เจ้าบ้าเอ๊ย! นี่เจ้าจะไม่ทำอะไรสักอย่างเลยหรือไง” มู่เฉียนซีพึมพำในใจ
ครั้นแล้ว แมงป่องตัวนั้นก็จับมู่เฉียนซีไว้และกลืนกินนางลงไป
ในขณะที่มู่เฉียนซีจะให้สุ่ยจิงอิ๋งช่วย จู่ ๆ ร่างของนางก็ถูกแสงสีเขียวห่อหุ้มเอาไว้
แสงสีเขียวที่เต็มไปด้วยพลังแห่งชีวิตนี้ได้ขับไล่พิษร้ายบริเวณรอบ ๆ เหล่านี้ไป
สีหน้าของเฮยเฉียพลันเปลี่ยนไปทันที “นี่มันบ้าอะไรกัน!”
ภายในแสงสีเขียวนี้ได้ปรากฏเงาร่างเงาหนึ่ง และเงาร่างนี้ก็ได้ต่อยแมงป่องตัวนี้จนกระเด็นลอยออกไป
แมงป่องตัวนี้ที่เดิมทีได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการโจมตีด้วยกระบี่ของกู้ไป๋อีแล้ว เมื่อโดนหมัดนี้เข้าไปก็กระเด็นลอยออกไปอย่างไร้เรี่ยวแรงที่จะตอบโต้ได้
และสิ่งที่น่ากลัวไปมากกว่านั้นก็คือ พลังที่ไหลเข้าสู่ร่างของมันกับพิษที่อยู่ในร่างของมันจะขับไล่ซึ่งกันและกันขึ้น
ชั่วครู่หนึ่ง พลังทั้งสองเกิดการปะทะกันในร่างของมัน และเรื่องที่น่าหวั่นกลัวก็ได้เกิดขึ้นแล้ว
แมงป่องร้องตะโกนเสียงดัง “อ๊า! ไม่!”
“นายท่าน ช่วยข้าด้วย ช่วยข้าด้วย!”
มันรู้สึกว่าร่างของมันกำลังจะพังทลายลง จึงทำได้เพียงแค่ร้องตะโกนออกมาให้ผู้เป็นนายของมันช่วย
ทว่า เฮยเฉียเองก็ไม่รู้ว่าจะทำเช่นไรเหมือนกัน
ทันใดนั้นเสียง ตูม! ก็ดังสนั่นขึ้น และแมงป่องตัวนั้นก็ระเบิดแล้ว
ร่างของมันแตกกระจายออกเป็นชิ้น ๆ อวัยวะภายในก็กระเด็นออกไป
เงาร่างสีเขียวนั้นพามู่เฉียนซีถอยหลังไป และป้องกันเศษซากจากการระเบิดเหล่านั้นไม่ให้โดนตัวมู่เฉียนซีแม้แต่น้อย
ครั้นแล้ว สัตว์พันธสัญญาของตนเองก็ได้ระเบิดตายไปเช่นนี้ เฮยเฉียไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เห็นเลย
พรวด! เขากระอักเลือดคำโตออกมา
สัตว์พันธสัญญาตายไป จึงทำให้พลังของเขาลดลง อย่างไรเสียสัญญาของเขากับแมงป่องตัวนั้นก็ไม่ใช่พันธสัญญาสัตว์รับใช้ที่ไร้อิสระเป็นของตัวเอง
กู้ไป๋อีโล่งอกไปเปราะหนึ่ง นางไม่เป็นอะไรแล้ว อีกทั้งยังมีผู้แข็งแกร่งผู้หนึ่งปรากฏตัวออกมาอีกด้วย
คนผู้นี้ไม่ใช่หวงจิ่วเยี่ย กลิ่นอายนั้นแตกต่างไปโดยสิ้นเชิง
หวงจิ่วเยี่ยนั้นมีกลิ่นอายแห่งจิตสังหารและความตายอยู่ แต่ทันทีที่คนผู้นี้ปรากฏตัวขึ้น ก็เต็มไปด้วยพลังแห่งชีวิต
มู่เฉียนซีกล่าว “ชิงอิ่ง จัดการเจ้านั่นซะ!”
เพียงแค่หมัดเดียวเขาก็สามารถต่อยสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับเจ็ดจนระเบิดตายไปได้ และมู่เฉียนซีรู้ดีว่าหลังจากที่ชิงอิ่งฟื้นขึ้นมา เขาก็แข็งแกร่งขึ้นมาก
การที่ให้เขาจัดการกับเจ้าหมอนั่นก็คงจะไม่มีปัญหาแน่นอน!
ร่างในชุดเขียวเคลื่อนไหวไป และเฮยเฉียกับกู้ไป๋อีก็มองเห็นรูปลักษณ์หน้าตาของคนผู้นี้ชัดเจน
ชุดคลุมยาวสีเขียวที่ดูธรรมดาไร้ซึ่งเครื่องประดับตกแต่งใดใดได้ห่อหุ้มร่างกายที่มีสัดส่วนสมบูรณ์แบบของเขาไว้ มีใบหน้างดงามไร้ที่ติอย่างน่าทึ่งดุจดั่งภาพวาดน้ำหมึกก็มิปาน
เฮยเฉียคิดว่ารูปร่างหน้าตาที่งดงามดุจดั่งเทพของกู้ไป๋อีนั้น ในดินแดนสี่ทิศไม่มีผู้ใดที่จะเทียบเขาได้แล้ว
ทว่า บุรุษตรงหน้าผู้นี้ดูไม่เหมือนมนุษย์เลย
ในขณะที่เฮยเฉียกำลังทึ่งอยู่กับรูปร่างหน้าตาของชิงอิ่ง ชิงอิ่งก็ได้ลงมือกับเขาแล้ว
“เสี่ยวไป๋!” ชิงอิ่งจัดการเฮยเฉียแล้ว ส่วนมู่เฉียนซีก็รีบพรวดเข้าไปที่กู้ไป๋อี
ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ! เข็มยาช่วยห้ามเลือดและช่วยชีวิตหลายเข็มแทงลงไปบนร่างกู้ไป๋อี จนในที่สุดก็ห้ามเลือดให้กู้ไป๋อีได้
เลือดไหลออกมามากเกินไป ชุดสีขาวของเขาในตอนนี้ถูกย้อมไปด้วยเลือดจนกลายเป็นชุดสีเลือดไปแล้ว
มู่เฉียนซีเอายาวิญญาณออกมา และกล่าวว่า “รีบกินยาเพิ่มเลือดเร็วเข้า!”
จากนั้นมู่เฉียนซีก็เริ่มทำแผลให้เขา
หลังจากทำแผลเสร็จ มู่เฉียนซีก็จ้องเขม็งไปที่กู้ไป๋อีและกล่าวว่า “กู้ไป๋อี โชคดีนะที่ก็เป็นยอดฝีมือคนหนึ่ง แต่เจ้าใช้กระบวนท่านั้นช่วยข้าในขณะที่เจ้าก็อยู่ในการต่อสู้ นี่เจ้ารนหาที่ตายหรือไง!”
กู้ไป๋อีกล่าวด้วยน้ำเสียงแหบแห้งว่า “ข้าเป็นคนของคุณหนูใหญ่ต้องปกป้องคุณหนูใหญ่อย่างสุดความสามารถ ไม่ให้เจ้านั่นทำร้ายคุณหนูใหญ่ได้อยู่แล้ว ข้าทำตามที่ข้าได้รับปากเอาไว้”
“แต่พลังของเจ้าก็ฟื้นฟูกลับมาแล้ว เรื่องที่ตกลงกันเอาไว้ก็นับว่าสิ้นสุดแล้ว”
“ตราบใดที่ข้ายังอยู่ข้างกายคุณหนูใหญ่ เรื่องที่ตกลงกันไว้ก็ยังคงมีผลตามนั้น อีกอย่าง ที่คุณหนูใหญ่ต้องมาเผชิญกับเรื่องวุ่นวายเช่นนี้ ส่วนใหญ่แล้วก็เป็นเพราะข้า”
“เจ้าหุบปากแล้วรักษาอาการบาดเจ็บเถอะ!”
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับชิงอิ่งผู้ที่เปรียบเสมือนเครื่องจักรในการต่อสู้เช่นนี้ เหงื่อเย็นก็ผุดพรายขึ้นทั่วทั้งหลังของเฮยเฉียราวกับว่ากำลังเผชิญอยู่กับกู้ไป๋อีที่มีพลังขั้นสูงสุดก็มิปาน
“บัดซบ! นี่มันคือสิ่งใดกันแน่!” เฮยเฉียกล่าวสบถขึ้น
วังใต้ดินถูกปิดเอาไว้แล้ว เดิมทีที่แห่งนี้ก็ไม่ได้มีผู้ใดอยู่ แต่คนผู้นี้กลับปรากฏตัวขึ้น
ชิงอิ่งไม่ได้สนใจที่จะสนทนากับเฮยเฉียเลย ทันทีที่เขาง้างมือขึ้น แสงสีเขียวก็พุ่งไปที่เฮยเฉียทันที
เผชิญหน้ากับพลังที่น่าเกรงขามเช่นนี้ เฮยเฉียก็ไม่สามารถหลบได้
ตูม! เสียงดังสนั่นขึ้น พลังอันน่าสะพรึงกลัวก็ระเบิดออกมา ร่างของเฮยเฉียกระแทกเข้ากับกำแพงจนเกิดรูขนาดใหญ่ขึ้น
ชิงอิ่งเคลื่อนไหวตัวไปและต่อยเขาอย่างไม่ยั้งมือ ผั๊วะ ผั๊วะ ผั๊วะ!
มู่เฉียนซีกล่าว “ชิงอิ่ง ไว้ชีวิตมันก่อน!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ชิงอิ่งก็กระโดดกลับมาอยู่ข้างกายมู่เฉียนซี
พรวด! เฮยเฉียกระอักเลือดคำโตออกมา ก่อนร่างจะร่วงลงมาสู่พื้น และไร้ซึ่งเรี่ยวแรงที่จะปีนป่ายขึ้นมาแล้ว
หลังจากที่จัดการกับศัตรูได้สำเร็จ ดวงตาสีดำขลับคู่นั้นของชิงอิ่งก็จ้องมองไปที่มู่เฉียนซี “เฉียน ได้รับบาดเจ็บแล้ว!”
ในตอนนี้เองกู้ไป๋อีเพิ่งจะเห็นว่านางได้ทำแผลให้เขาเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ทว่า บาดแผลของนางนั้นยังไม่ได้ทำแผลเลยแม้แต่น้อย
มู่เฉียนซีกล่าว “แค่บาดแผลภายนอกเท่านั้น เดี๋ยวค่อยทำแผลก็ได้ไม่เป็นไร”
ชิงอิ่งจับแขนมู่เฉียนซีเอาไว้และกล่าวว่า “ไม่ได้!”