ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1074 อย่าแข็งจนสติเลอะเลือนไป
ปรมาจารย์จางได้เชิญยอดฝีมือที่สามารถเชิญได้ทั้งหมดมา ครั้งนี้เขาไม่มีทางเชื่อว่าจะขวางเหล่าองครักษ์ซวนไม่ได้
ภายนอกสวนน้ำแข็ง อุณหภูมิลดลงโดยฉับพลัน
มู่เฉียนซีถูกขวางอีกครั้ง นางยังไม่ทันได้เข้าไป ปรมาจารย์จางก็ได้นำยอดฝีมือจำนวนมากพรวดพราดเข้ามาเสียก่อน
“มู่หรงเฉียนเยี่ย ข้าขอแนะนำให้เจ้าล้มเลิกความคิดที่จะเอาสมุนไพรในสวนน้ำแข็งซะเถอะ สมุนไพรในที่แห่งนี้ ทันทีที่ไม่ได้รับความเย็นยะเยือกมันก็จะตายลงทันที เจ้าได้มันไปก็ไร้ประโยชน์อยู่ดี” ปรมาจารย์จางเอ่ยปากกล่าว
มู่เฉียนซีกล่าว “ท่านปรมาจารย์จาง นี่ท่านคิดจะฝ่าฝืนการเดิมพันอย่างนั้นเหรอ?”
“หากเป็นสมุนไพรวิญญาณอื่นข้าไม่ว่า แต่สมุนไพรในสวนน้ำแข็งแห่งนี้ข้ายอมไม่ได้เด็ดขาด มันไม่เกี่ยวกับการแพ้ชนะ ข้าในฐานะที่เป็นนักปรุงยาคนหนึ่ง ข้าไม่มีทางปล่อยให้เจ้าทำสมุนไพรวิญญาณอันล้ำค่าเหล่านี้เสียหายไปเป็นอันขาด” ปรมาจารย์จางกล่าวอย่างจริงจัง
มู่เฉียนซีกล่าว “ข้าชนะการประลอง นั่นหมายความว่าข้าสามารถเอาสิ่งใดก็ได้ที่ข้าต้องการ ท่านปรมาจารย์จาง ท่านรีบพาคนของท่านกลับไปเถอะ”
ปรมาจารย์จางกล่าว “ต่อให้ชื่อเสียงของข้าต้องแปดเปื้อน ข้าก็ยืนยันที่จะปกป้องรักษาสมุนไพรในสวนน้ำแข็งแห่งนี้เอาไว้”
มู่เฉียนซีกล่าวกับซวนอีว่า “ซวนอี เจ้าอย่าได้ต่อสู้แพ้พวกเขาล่ะ”
สีหน้าของซวนอีเคร่งขรึมลง ยอดฝีมือที่ปรมาจารย์จางพามาเหล่านี้ มีพลังที่ไม่อ่อนแอเลย
ซวนอีกล่าว “ลงมือ!”
ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!
พลันนั้นทั่วทั้งสวนน้ำแข็งก็ถูกปิดผนึกเอาไว้แล้ว
ปรมาจารย์จางก้าวเท้าพุ่งเข้าไปใกล้มู่เฉียนซีพลางกล่าว “เจ้าหนู ตอนนี้ทั่วทั้งสวนน้ำแข็งก็เหลือเพียงแค่เราสองคนแล้ว ไม่มีใครช่วยเจ้าได้แล้ว”
“สวนน้ำแข็งถูกปิดผนึกแล้ว ปรมาจารย์จางก็เข้าไปแล้วด้วย” สีหน้าของซวนอีพลันเปลี่ยนไป
ซวนอีกลัดกลุ้มใจเป็นอย่างยิ่ง “เจ้าหนุ่มนี้เหตุใดถึงไม่รู้จักใจเย็นลงหน่อย นึกไม่ถึงเลยว่าจะวิ่งพรวดเข้าไปคนเดียวเช่นนี้”
เขากล้ารับประกันได้เลยว่าปรมาจารย์จางนั้นเกลียดชังมู่หรงเฉียนเยี่ยจนอยากจะฆ่าเขาให้ตาย
ตอนนี้พวกเขาสองคนมีโอกาสได้อยู่กันตามลำพัง เช่นนั้น…
สีหน้าของไป๋อู๋ห่ายก็ไม่ค่อยจะดีนัก หวังว่าปรมาจารย์จางจะรู้จักแยกแยะสักหน่อย หากเขาลงมือฆ่าเจ้าเด็กนั่นจริง ๆ เกรงว่ากู้ไป๋อีคงจะทำลายล้างทั้งตำหนักตงจี๋เป็นแน่
ไป๋อู๋ห่ายกล่าว “หยุดเดี๋ยวนี้ รีบคิดหาวิธีเปิดสวนน้ำแข็งให้เร็วที่สุด อย่าได้ให้พวกเขาสองคนต่อสู้กันเด็ดขาด”
เผชิญหน้ากับใบหน้าอันโหดเหี้ยมของปรมาจารย์จางเช่นนี้ มู่เฉียนซีกลับไม่เกรงกลัวแต่อย่างใด อีกทั้งยังเฉยเมยเป็นอย่างมาก
นางเอ่ยปากกล่าวอย่างเชื่องช้าว่า “ท่านปรมาจารย์จาง ในฐานะที่เป็นนักปรุงยา ท่านรู้หรือไม่ว่าการที่ให้ตัวเองเข้ามาในมิติที่ปิดผนึกเช่นนี้หมายความว่าเช่นไร?”
ปรมาจารย์จางกล่าว “นี่เจ้าหมายความว่ายังไง?”
“มิติที่ปิดผนึกเช่นนี้ วางยาพิษได้ง่ายมาก ไม่ว่าพลังความแข็งแกร่งของท่านจะมากมายเพียงใด หากโดนพิษเข้าแล้ว ท่านก็ทำอะไรข้าไม่ได้”
มู่เฉียนซีเอาขวดยาแผนปัจจุบัน (ยาน้ำ) ออกมาขวดหนึ่งและบีบจนแตก
หลังจากที่ยาได้สาดกระจายออกมา ทันใดนั้นอากาศอันหนาวเหน็บบริเวณรอบ ๆ ก็กลายเป็นหมอกควันขึ้น ไม่นานนักหมอกควันจาง ๆ ก็ได้ปกคลุมไปทั่วทั้งสวนน้ำแข็ง
ปรมาจารย์จางหัวเราะชอบใจขึ้นก่อนจะกล่าวว่า “ข้าเป็นถึงหัวหน้านักปรุงยาของตำหนักตงจี๋ ข้าจะกลัวพิษกระจอก ๆ ของเจ้าได้ยังไง วางยาพิษข้า เจ้ามันยังอ่อนหัดไปหน่อยนะ”
“วันนี้ข้าจะทำลายเจ้า ให้เจ้าต้องกลายเป็นคนไร้ประโยชน์ให้จงได้!”
ในขณะที่เขากำลังจะพรวดเข้าไปลงมือ จู่ ๆ ปรมาจารย์จางก็รู้สึกหนาวเหน็บไปทั่วทั้งร่าง
ราวกับว่าพลังวิญญาณทั่วทั้งร่างจะก่อตัวกลายเป็นน้ำแข็งก็มิปาน เขาคิดจะใช้พลังธาตุอัคคีต่อต้าน แต่ก็ไร้ประโยชน์ ไร้ประโยชน์ไปโดยสิ้นเชิง…
ร่างกายของเขาถูกความเย็นยะเยือกกัดเซาะ และร่างกายก็เริ่มก่อตัวขึ้นเป็นน้ำแข็งแล้ว
“เจ้า นี่เจ้าวางยาพิษใดข้า…”
“หนาว หนาวจะตายอยู่แล้ว รีบแก้พิษให้ข้าเดี๋ยวนี้…”
“มู่หรงเฉียนเยี่ย…”
เขาถลึงตากว้างจ้องมองไปที่มู่เฉียนซีพลางตะโกน
มู่เฉียนซีกล่าว “ท่านปรมาจารย์จาง ตอนนี้ข้ายังไม่มียาแก้พิษเลย!”
ตุบ! ปรมาจารย์จางถูกแช่แข็งจนร่างล้มลงไปกับพื้น และหมดสติไป
มู่เฉียนซีกล่าว “ท่านนอนหมดสติไปก่อนก็แล้วกัน! ส่วนข้า…ต้องขอตัวไปเก็บสมุนไพรแล้วล่ะ”
สภาพแวดล้อมที่ทะเลสาบวิญญาณน้ำแข็งนั้นเหมาะแก่การดำรงอยู่ของสมุนไพรเหล่านี้มาก ครั้นแล้ว มู่เฉียนซีจึงย้ายสมุนไพรทั้งหมดไปที่นั่น
ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!
ในตอนนี้เอง คนที่อยู่ด้านนอกก็ได้เปิดผนึกของสวนน้ำแข็งนี้ออกแล้ว
ทันทีที่พวกเขาเข้ามาก็ได้เห็นมู่เฉียนซีเดินออกมาอย่างไม่สะทกสะท้านแต่อย่างใด
ส่วนปรมาจารย์จางในตอนนี้ ถูกแช่แข็งจนร่างล้มลงไปกับพื้นแล้ว
“ปรมาจารย์จาง!” สีหน้าของไป๋อู๋ห่ายพลันเปลี่ยนไปมาก
มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าว “ท่านหัวหน้าตำหนักก็มาด้วยเหรอ ท่านปรมาจารย์จางอดทนต่อความหนาวเย็นไม่ไหว ก็เลยถูกแช่จนตัวแข็งเป็นตุ๊กตาหิมะเช่นนี้แล้ว พวกท่านทั้งหลายรีบแบกเขาออกไปอาบแดดเถอะ”
นางกล่าวอย่างทอดถอนใจว่า “อายุแก่จนปูนนี้แล้ว สมองก็ไม่ค่อยจะดี หากถูกแช่แข็งจนสติเลอะเลือนไปอีกละก็ คงจะแย่น่าดูเชียว”
นางไม่ได้ฆ่าตาเฒ่าผู้นี้ อย่างไรเสีย หากตำหนักตงจี๋ได้สูญเสียหัวหน้านักปรุงยาไป ต่อให้นางเอาชื่อของกู้ไป๋อีมาเป็นจิ้งจอกแอบอ้างบารมีเสือ ก็ยากที่จะหนีรอดไปเงื้อมมือของไป๋อู๋ห่ายได้
มุมปากของทุกคนกระตุกขึ้น ถึงแม้ว่าสวนน้ำแข็งจะหนาว แต่ก็ไม่ได้หนาวถึงกับที่จะสามารถแช่ยอดฝีมือขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับเก้าจนแข็งได้เช่นนี้แน่
ตกลงแล้วปรมาจารย์จางเป็นอันใดกันแน่?
มู่เฉียนซีปัดมือพลางกล่าวว่า “ซวนอี พวกเรากลับกันเถอะ ส่วนท่านหัวหน้าตำหนักก็ดูแลท่านปรมาจารย์จางดี ๆ ก็แล้วกันนะ ขอรับ!”
กล่าวจบ มู่เฉียนซีก็เดินเชิดหน้าชูคอออกไป
ไป๋อู๋ห่ายกวาดสายตามองไปที่สวนน้ำแข็งที่ว่างเปล่า และก้มลงจ้องมองปรมาจารย์จางที่ถูกแช่จนตัวแข็งทื่อผู้นี้ ก่อนจะกล่าวอย่าโหดเหี้ยมว่า “สวะไร้ประโยชน์!”
ตลอดทางที่เดินมา ซวนอีรู้สึกประหลาดใจมาก เขาจึงกล่าวถามว่า “ตกลงแล้ว เจ้าจัดการกับปรมาจารย์จางนั่นได้อย่างไร”
“ข้าก็แค่วางยาพิษหนาวเหน็บให้เขาก็เท่านั้นเอง”
“ยาพิษหนาวเหน็บ มียาพิษเช่นนี้ด้วยเหรอ?”
“มีสิ ข้าศึกษามันออกมาแล้ว!” มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าว
ในตอนนี้ปรมาจารย์จางที่โดนพิษนอนแน่นิ่งอยู่บนเตียง แต่ไม่นานนักพิษนั้นก็คลายไป
เมื่อเขาได้ยินชื่อมู่หรงเฉียนเยี่ย ดวงตาก็พลันแดงก่ำขึ้น เขาต้องการจะฆ่ามู่เฉียนซีให้ได้
สมุนไพรวิญญาณอันล้ำค่าส่วนใหญ่ของตำหนักโอสถได้ตกไปอยู่ในมือมู่เฉียนซีแล้ว ไป๋อู๋ห่ายจึงอารมณ์ไม่ดีเป็นพิเศษ
กู้ไป๋อีก็เป็นแค่คนที่แข็งแกร่งเท่านั้น แต่ศิษย์ของเขาผู้นี้ เป็นตัวหายนะเลยล่ะ
มู่เฉียนซีก็ไม่ได้เอาเปรียบซวนอีและเหล่าองครักษ์ซวนแต่อย่างใด เมื่อได้สมุนไพรวิญญาณมามากมายเช่นนั้นแล้ว นางก็ได้หลอมยาลูกกลอนมอบให้พวกเขาไปไม่น้อย
ต่อไปพวกเขาก็สามารถกินยาลูกกลอนเล่นเสมือนกินลูกกวาดได้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะเหลือน้อย!
ซวนอีมองดูน้อง ๆ ของเขาทำท่าทางดีอกดีใจเช่นนี้ เขาก็กล่าวว่า “เก็บอาการหน่อยเถอะ! ถูกเจ้าหนุ่มนี่ซื้อตัวเข้าแล้ว เจ้าหนุ่มนี่ใจร้ายใจดำเช่นนี้ พวกเจ้าระวังเถอะจะถูกเขาซื้อตัวไปโดยไม่ตัว”
“ท่านมู่หรงเป็นคนใจดีจริง ๆ!” ซวนซานกล่าวอย่างจริงใจ
มุมปากของซวนอีกระตุกขึ้นเล็กน้อย หากเจ้าหนุ่มนั่นเป็นคนดี คนทั้งโลกนี้ก็คงจะเป็นคนดีทุกคนแล้วล่ะ
มู่เฉียนซีพักผ่อนอยู่ในตำหนักตงจี๋มาแล้วหลายวัน ไป๋อู๋ห่ายก็ได้มอบภารกิจหนึ่งให้กับเฟิงอวิ๋นซิว ให้พวกเขาไปรับมือกับกองกำลังระดับสองกองกำลังหนึ่ง นั่นก็คือ สำนักหุ่นปีศาจ!
.