ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1107 ดึงดูดคนทั่วทั้งลานประลอง
น้ำเสียงของนิรันดร์นั้นหยิ่งยโสมาก
ทว่า เขามีความแข็งแกร่งพอที่จะหยิ่งยโส
“ยอดดวงใจคิดหรือยังว่าจะหลอมยาลูกกลอนชนิดใด?”
“สมุนไพรที่ต้องใช้หลอมยาขั้นสวรรค์ระดับเก้านั้นล้วนแต่เป็นสมุนไพรระดับสูงมาก ในสวนเก็บสมุนไพรของข้าในตอนนี้ดูเหมือนว่าจะมีสมุนไพรเพียงแค่ชนิดสองชนิดที่พอจะหลอมยาขั้นสวรรค์ระดับเก้าได้ ดูจากคุณภาพและความยากของยาแล้ว หลอมยาหัวใจโพธิ์ก็ไม่เลวนะ”
การตัดสินใจของมู่เฉียนซีนั้นช่างสมบูรณ์แบบอย่างไร้ข้อสงสัย ทว่า นิรันดร์กลับไม่สุขใจเลย “ยอดดวงใจรู้หรือไม่ว่ายาหัวใจโพธิ์นี้เอาไว้ทำสิ่งใด นี่เป็นยาหักห้ามอารมณ์รักใคร่ ในตอนนั้นที่ข้าได้ศึกษายานี้ออกมาก็เพื่อที่จะลอบทำร้ายคนอื่น กว่าจะหลอมมันออกมาได้มันไม่ง่ายเลย นึกไม่ถึงว่าเจ้าจะให้ข้าหลอมยานี้”
“ยาชนิดอื่นตอนนี้ข้ายังใช้ไม่ได้ ไม่ง่ายเลยที่นิรันดร์จะได้ลงมือหลอมยาในครั้งนี้ ข้าก็ไม่ได้อยากจะหลอมยาที่ข้าใช้ไม่ได้หรอกนะ”
“ยาหัวใจโพธิ์นี้ยอดดวงใจก็ใช้ไม่ได้เหมือนกัน เจ้าจะให้หวงจิ่วเยี่ยใช้ใช่ไหมล่ะ! นึกไม่ถึงเลยว่าข้าต้องมาหลอมยาให้กับศัตรูหัวใจของข้า ข้าไม่ยอม!”
“นิรันดร์ เจ้าไม่ยอมก็ต้องยอม ตอนนี้เผ่ามังกรอยู่ที่ไหนก็ยังไม่มีเบาะแสเลย มีของเยอะขึ้นมาหน่อยมันถึงจะมีการคุ้มครอง เรื่องนี้ข้าไม่ยอมถอยแน่นอน”
เมื่อนิรันดร์ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า หากคนผู้นั้นใช้ยาหัวใจโพธิ์จริง ๆ คาดว่าเขาคงไม่มาเจอยอดดวงใจของข้าอีกนาน
บางทีนี่อาจจะเป็นการตัดสินใจที่ไม่เลวเลยก็ได้!
เขาจะต้องเพิ่มคุณภาพของยาหัวใจโพธิ์นี้ขึ้นเป็นสองเท่าถึงจะได้!
เขาเอ่ยปากกล่าวว่า “คำสาปในร่างของเขานั้นไม่ใช่ยาลูกกลอนเพียงแค่เม็ดสองเม็ดจะสามารถแก้ไขได้ แต่ยอดดวงใจก็คิดถูก ยาหัวใจโพธิ์นั้นได้ผลเล็กน้อย”
“คำว่าได้ผลมักจะดีกว่าคำว่าได้ผลเล็กน้อยเสมอ นิรันดร์ เจ้ารับปากข้าแล้วนะ” มู่เฉียนซีรู้สึกดีใจอยู่ในใจเล็กน้อย
“รักปากสิ รับปากแน่นอน หลอมยาหัวใจโพธิ์ ข้าจะปฏิเสธคำขอของยอดดวงใจได้อย่างไรกันเล่า!”
หลังจากที่ตัดสินใจแล้วว่าจะหลอมยาชนิดใด มู่เฉียนซีก็เริ่มเอาสมุนไพรออกมา
นิรันดร์กล่าว “เตรียมหลาย ๆ ชุดมารวมเข้าด้วยกัน”
เมื่อถึงเวลาจะหลอมออกมาให้มาก ทำให้หวงจิ่วเยี่ยผู้นั้นกินแทนข้าวไปเลย ไม่แน่ บางทีกินไปมาก ๆ ก็อาจจะทำให้องคชาติของเขาเสื่อมไปเลยก็ได้!
มู่เฉียนซีไม่รู้ว่านิรันดร์กำลังคิดอันใดอยู่ นางพยักหน้าพลางกล่าว “ได้!”
ทุกคนล้วนแต่หลอมยาขั้นสวรรค์ทั้งสิ้น และสมุนไพรที่เอาออกมาก็ล้วนแต่ไม่ธรรมดาเลยสักชนิด ดังนั้นการที่มู่เฉียนซีเอาสมุนไพรออกมาในครั้งนี้จึงไม่ได้เป็นที่น่าสนใจของผู้คนมากนัก
มู่เฉียนซีเริ่มหลอมยาแล้ว และทุกคนก็ล้วนแต่สงสัยกันทั้งสิ้นว่าตกลงแล้วหมอปีศาจผู้นี้จะแข็งแกร่งเพียงใด
สุดท้าย นิรันดร์ก็ได้ขวางพลังวิญญาณที่มู่เฉียนซีเผยออกมาทั้งหมดเอาไว้เพื่อไม่ให้คนเหล่านั้นตรวจสอบเจอ
ปรมาจารย์ไป๋อวิ๋นส่ายหน้าอย่างจนปัญญา “เจ้าเด็กผู้นี้ชอบเสแสร้งแกล้งทำตัวลึกลับจริง ๆ แม้แต่พลังความแข็งแกร่งก็ไม่ให้ผู้ใดรู้”
ยาลูกกลอนขั้นสวรรค์ระดับเก้า ในระหว่างที่นิรันดร์ยังไม่ได้รับมือต่อ มู่เฉียนซีไม่กล้าสะเพร่าแม้แต่น้อย
หากไม่ระมัดระวังแล้วเกิดสูญเสียสมุนไพรวิญญาณไปมากมายเพียงนี้ นางคงต้องเจ็บปวดใจมากเป็นแน่!
ในการประลอง ยอดปรมาจารย์นักปรุงยาทุกคนล้วนแต่พยายามหลอมยากันอย่างสุดกำลังความสามารถ ด้วยระดับยาที่พวกเขาหลอมนั้น เวลาเพียงแค่หกชั่วยามไม่เพียงพอ
ในขณะที่มู่เฉียนซีหลอมยานั้น พลังวิญญาณขั้นจักรพรรดิแห่งภูตระดับเจ็ดที่พยายามฝึกฝนมาได้อย่างลำบากแสนเข็ญนั้นก็ถูกสูบไปจนแห้ง ถึงแม้ว่าพลังจิตจะเพียงพอ แต่พลังวิญญาณตามหลังก็ไร้ประโยชน์
หลังจากที่มู่เฉียนซีอาศัยยาลูกกลอนกับเข็มยาจนถึงวินาทีสุดท้ายแล้ว สีหน้าของนางก็ซีดเผือดลง
ปรมาจารย์ไป๋อวิ๋นเห็นเช่นนี้ก็ตกใจผงะไป เกิดอันใดขึ้นกับเจ้าเด็กผู้นี้ นี่เพิ่งจะเริ่มเพียงแค่สองชั่วยามเท่านั้นเขาก็เกิดอาการผิดปกติเช่นนี้แล้ว
เฟิงอวิ๋นซิวก็รู้สึกไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง หมอปีศาจเป็นอะไรไป?
ไป๋เหยียนเอ๋อร์ก็เห็นเช่นกัน “ดู ๆ ไปแล้วฝีมือของหมอปีศาจก็ไม่เท่าไหร่!”
นิรันดร์ส่งเสียงว่า “ยอดดวงใจยืนหยัดมานานถึงเพียงนี้ทำให้ข้าทึ่งมาก แต่หากเจ้ายังคงยืนหยัดต่อไปเช่นนี้ข้าก็จะยิ่งเจ็บปวดใจ ต่อไปก็มอบให้เป็นหน้าที่ของข้าเถอะ!”
มู่เฉียนซีก็ไม่ฝืนอีกต่อไป นางกล่าว “เช่นนั้นก็ต้องรบกวนเจ้าแล้ว นิรันดร์”
ยาขั้นสวรรค์ระดับเก้าไม่ใช่สิ่งที่พลังขั้นนี้ของนางจะสามารถท้าทายได้
นางต้องรีบเพิ่มพลังวิญญาณให้มากกว่านี้แล้ว นางต้องการหลอมยาขั้นสรรค์ระดับเก้าด้วยตัวเอง
จากนั้นการควบคุมร่างกาย มู่เฉียนซีก็ได้มอบให้เป็นหน้าที่นิรันดร์
ทันใดนั้นคนอื่น ๆ ก็พบว่าชายหนุ่มผู้ที่พลังวิญญาณไม่เพียงพอผู้นั้น ในตอนนี้ทั่วทั้งร่างกายกลับแผ่ซ่านพลังอันกดขี่ข่มเหงออกมา
เขายกมือขึ้นปรุงสมุนไพรเหล่านั้นเข้าด้วยกัน ทุก ๆ ท่วงท่าอากัปกิริยาช่างงดงามเป็นอย่างยิ่ง
มุมปากของเขายกยิ้มขึ้นด้วยความมั่นใจอย่างมีเสน่ห์ ภายในชั่วครู่ก็ทำให้สตรีทั่วทั้งลานประลองดวงตาเปล่งประกายขึ้นทันที
เห็น ๆ กันอยู่ว่าในตอนแรกเริ่มยังรู้สึกว่าชายหนุ่มผู้นี้ยังอ่อนวัย ทว่า ในตอนนี้ทั่วทั้งร่างกายของเขากลับแผ่ซ่านกลิ่นอายอันมีเสน่ห์ของชายที่มีอายุออกมา ทำให้ผู้คนหลงใหลเป็นอย่างยิ่ง
โชคดีที่อาถิงหลับใหลไปแล้ว หากเขารู้ว่านิรันดร์ได้ใช้รูปร่างหน้าตาของเขาเผยรอยยิ้มลามกเช่นนี้ เขาจะต้องโกรธเกรี้ยวมู่เฉียนซีมากแน่
เขายืนอยู่บนแท่นปรุงยานั้นแต่รู้สึกเหมือนกับเขาได้ยืนอยู่หน้าบัลลังก์ก็มิปาน เชิดหน้าอย่างทะนงกับทุกสิ่งอย่าง
คู่ต่อสู้ของเขาทุกคน ในสายตาเขาล้วนเปรียบเสมือนมดปลวก
ปรมาจารย์ไป๋อวิ๋นรู้สึกสั่นเทาไปทั้งตัว เห็นเด็ก ไม่ใช่สิ! เห็นท่านผู้นี้ปรุงยาเขาก็เกิดความรู้สึกเคารพบูชาขึ้นมาทันใด
ผู้บำเพ็ญภูตธรรมดาทั่วไปไม่ได้เกิดความรู้สึกอันใดมาก ก็แค่ตกตะลึงไปกับฝีมือการปรุงยาที่สมบูรณ์แบบนั้นก็เท่านั้น
ทว่า เมื่อนักปรุงยาได้เห็นท่าทางอากัปกิริยาของเขาแล้ว ล้วนแต่ตะลึงจนเหม่อลอยไปฉับพลัน!
นักปรุงยาผู้ที่ร่วมชมการประลองดูเหมือนจะถูกล่อลวงให้หลงใหลก็มิปาน!
ถึงแม้ว่านางจะมอบร่างกายให้นิรันดร์เป็นคนควบคุม แต่มู่เฉียนซีก็รับรู้ได้ถึงสถานการณ์ภายนอกในตอนนี้ทุกอย่างอย่างชัดเจน
เมื่อเห็นนักปรุงยาแต่ละคนต่างเหม่อลอยไปเช่นนี้ มู่เฉียนซีก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก
ในด้านของการปรุงยานิรันดร์เป็นราชาแห่งการปรุงยาอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
ความแข็งแกร่งในการปรุงยานั้นไร้ผู้ใดเปรียบ ทำให้ทุกคนต้องยอมจำนน
นี่คือฝีมือการปรุงยาที่ฝึกฝนมาถึงขั้นสูงสุด ถึงแม้ว่าความแข็งแกร่งนี้จะยังไม่ถึงหนึ่งในร้อยของเขา แต่กลับทำให้คนหลงใหลเป็นอย่างยิ่ง
ระดับการบรรลุของนิรันดร์ก็เป็นเป้าหมายในด้านการปรุงยาที่นางจะแสวงหาเช่นกัน
ไม่ว่าจะยากเย็นสักเพียงใด นางจะต้องทำให้ได้!
นิรันดร์กับมู่เฉียนซีนั้นใจตรงกัน เขายิ้มพลางกล่าวว่า “เจ้านายผู้เป็นยอดดวงใจของข้าต้องบรรลุเป้าหมายนั้นมาเทียบเท่าข้าได้แน่นอน และจะต้องเหนือกว่าข้าอีก”
ด้วยฝีมือการปรุงยาที่ยอดเยี่ยมโดดเด่นกว่าผู้ใดนี้ เขาสามารถแบ่งความสนใจมาคุยกับมู่เฉียนซีได้
เวลาได้เดินผ่านไปกว่าครึ่งหนึ่งของการประลองแล้ว การปรุงยาของนิรันดร์ก็เริ่มแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ
ในตอนนี้ไม่เพียงแต่นักปรุงยาผู้รับชมที่สังเกตเห็น ‘หมอปีศาจ’ นักปรุงยาผู้ที่กำลังร่วมประลองการปรุงยาเหล่านั้นก็ถูกดึงดูดไปโดยไม่รู้ตัวด้วยเช่นกัน
ในขณะที่กำลังปรุงยาอยู่ ไม่อาจแบ่งความสนใจไปสนใจอย่างอื่นได้ หากแบ่งความสนใจไปสนใจอย่างอื่นแล้วละก็…
ปัง ปัง ปัง!
พวกเขาล้วนแต่เป็นยอดปรมาจารย์ผู้เชี่ยวชาญในด้านการปรุงยาทั้งสิ้น แต่กลับทำหม้อยาระเบิดต่อหน้าสายตาทุกคนเช่นนี้
ทว่า พวกเขาไม่รู้สึกเสียใจเลยแม้แต่น้อย ได้เห็นท่าทางอากัปกิริยาการปรุงยาที่มหัศจรรย์เช่นนี้ นี่เป็นการปรุงยาของผู้เป็นราชาแห่งการปรุงยาชัด ๆ ต่อให้หม้อยาระเบิดเป็นร้อยครั้งมันก็คุ้มค่า
นี่เป็นโอกาสที่หาได้ยากมากที่พวกเขาจะได้เห็นเช่นนี้ มันสำคัญกว่าสมุนไพรขั้นสวรรค์นั้นด้วยซ้ำ หากพลาดไปก็คงจะต้องเสียใจมากแน่นอน
ปัง ปัง ปัง!
เมื่อผู้คนเริ่มสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ หม้อยาก็ยิ่งระเบิดมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน นักปรุงยาผู้เข้าร่วมประลองทั้งหมดล้วนแต่ทำหม้อยาระเบิด และนี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นในดินแดนสี่ทิศ