ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1246 กับดักหลอกลวง
“นั่นเป็นไปไม่ได้ เจ้าหาคำโต้เถียงไปเรื่อย!” คนผู้นั้นกล่าวด้วยอาการโกรธเกรี้ยวอย่างที่สุด
เมื่อกล่าวจบ คนชุดขาวเหล่านั้นก็ได้มุ่งฆ่าฟันเข้าไปทางมู่เฉียนซีและชิงอิ่งอย่างดุดัน
ปัง ปัง ปัง! การโจมตีอันบ้าคลั่งของพวกเขาล้วนแต่ถูกชิงอิ่งกันเอาไว้ทั้งหมด
เห็น ๆ กันอยู่ว่าเป็นพลังที่สามารถทำลายร่างกายของคนผู้ใดก็ได้ แต่เมื่อมันตกลงบนตัวของบุรุษผู้สวมอาภรณ์สีเขียวแล้วมันกลับไม่มีแรงกระเพื่อมเลยแม้แต่น้อย
การประมือกันเมื่อก่อนหน้าไม่นานมานี้ พวกเขาคิดว่าชิ่งอิ่งเป็นศัตรูที่ยากจะรับมือได้อย่างยิ่ง แต่มาตอนนี้พวกเขาพบว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง
“เขาไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นหุ่นเชิด”
“คิดจริงหรือว่ามีหุ่นเชิดตัวหนึ่งปกป้องเจ้าแล้วเจ้าจะสามารถรอดจากความตายครั้งนี้ไปได้? ฝันไปเถอะ!”
บึ้ม! พวกเขาโจมตีอย่างบ้าคลั่งเพราะคิดที่จะทะลวงการป้องกันของชิงอิ่งเพื่อไปฆ่ามู่เฉียนซี
ที่จริงแล้วเหลิ่งหนิงจือเองก็กังวลใจ ถึงต่อให้ชิงอิ่งจะแข็งแกร่งไปมากกว่านี้แต่ก็มีเพียงผู้เดียวเท่านั้น
หากว่าเขาไม่อาจกันพวกองครักษ์ไป๋เอาไว้ได้อยู่ มู่เฉียนซีก็จะยิ่งเป็นอันตรายเข้าไปอีก
นางได้รีบวิ่งออกมาอย่างร้อนรนแล้วกล่าว “ให้ข้าช่วย”
มู่เฉียนซียิ้มแล้วปลอบใจนางว่า “แน่นอนว่าเจ้าจะต้องช่วยเหลือ! แต่ทว่ามิใช่ในตอนนี้ ตอนนี้เจ้าจงนั่งพักผ่อนอยู่อีกทางหนึ่งให้สบายใจเสียเถิด!”
เหลิ่งหนิงจือนั้นไม่รู้ว่ามู่เฉียนซีมีแผนอะไร แต่นางมองออกว่ามู่เฉียนซีนั้นมีแผนการอื่นอยู่ก็เลยเงียบปากไป
“อู๋ตี้ เสี่ยวหง พวกเจ้าคอยป้องกันตรงนี้ไว้”
“อื้ม!”
มู่เฉียนซีได้โยนขวดยาขวดหนึ่งออกมาให้เหลิ่งหนิงจือแล้วกล่าว “กินไปเสีย เพื่อป้องกันให้ไม่ต้องพิษเมื่อถึงเวลา”
หลังจากเตรียมการเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลิ่งหนิงจือก็เห็นมู่เฉียนซีนำพิษนานาชนิดออกมา
นางรู้สึกเพียงแต่ว่ามันลายตาไปหมด จากนั้นนางก็รู้สึกว่าทั้งถ้ำนั้นได้กลายเป็นอันตรายขึ้นมาแล้ว เพราะที่แห่งนี้นั้นเต็มไปด้วยพิษร้ายแรง
มู่เฉียนซียิ้มแล้วกล่าว “ขอแค่เพียงพวกเขากล้าเข้ามา เข้ามาผู้หนึ่งก็ตายผู้หนึ่ง”
นางขมวดคิ้วเล็กน้อยราวกับรู้สึกว่ามันยังไม่สมบูรณ์แบบนัก ดังนั้นจึงได้เพิ่มเติมอาวุธลับเข้าไปในมุมมืดอีกหลายสิ่ง
อาวุธลับเหล่านั้นช่างประณีตเป็นอย่างมาก เป็นสิ่งที่เหลิ่งหนิงจือไม่เคยพบเห็นมาก่อน
มู่เฉียนซีปัดมือตนเองแล้วกล่าว “เสร็จสิ้น!”
เหลิ่งหนิงจือกล่าว “แม้ว่าในถ้ำจะมีพิษที่สามารถลอบทำร้ายพวกเขาได้ แต่ถ้าหลังจากที่พวกนั้นรู้เข้าแล้วและถล่มถ้ำจนพังทลายลงมา เช่นนั้นแล้วพวกเราก็จะอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายอย่างมากเช่นกัน”
มู่เฉียนซียิ้มแล้วมองไปที่เหลิ่งหนิงจือพร้อมกล่าว “ถ้าหากว่าพลังความสามารถของเจ้าฟื้นฟูขึ้นมาทั้งหมดแล้ว เช่นนั้นแล้วจะยังอันตรายอยู่หรือไม่เล่า?”
เหลิ่งหนิงจือตะลึงค้าง “พลังความสามารถของข้าฟื้นฟูขึ้นมา? พลังความสามารถของข้าคงไม่สามารถฟื้นฟูขึ้นมาได้รวดเร็วเช่นนั้น!”
มู่เฉียนซีกล่าว “ข้าบอกว่าสามารถฟื้นฟูได้ แน่นอนว่าก็ต้องสามารถฟื้นฟูได้รวดเร็วเช่นนั้น!”
เมื่อกล่าวจบ มู่เฉียนซีก็ได้นำหม้อวิญญาณนิรันดร์ออกมาและเตรียมสกัดยา
ทั่วทั้งถ้ำนั้นเต็มไปด้วยกลิ่นของยาพิษ แต่นางกลับจะปรุงยาอยู่ในสถานที่ที่มีกลิ่นอายเช่นนี้ผสมอยู่ด้วย?
นี่จะสกัดยาเม็ดผสมพิษออกมาหรือสกัดยาเม็ดเพื่อฟื้นฟูพลังความสามารถของนางกันแน่?
มู่เฉียนซีมองสีหน้าอันตกตะลึงของเหลิ่งหนิงจือพร้อมยิ้มแล้วกล่าว “วางใจได้ พิษทำอะไรเจ้าไม่ได้ เจ้ากินมันไปอย่างสบายใจก็พอแล้ว”
มู่เฉียนซีกำลังสกัดยาเม็ดจริง ๆ เหลิ่งหนิงจือรู้สึกถึงเรื่องที่น่าตกตะลึงเป็นอย่างมากเรื่องหนึ่ง
นั่นก็คือมู่เฉียนซีสามารถที่จะสกัดยาไปด้วยพร้อมกับใช้พลังวิญญาณธาตุน้ำในการกันพิษที่อยู่รอบด้านออกไปพร้อม ๆ กันด้วย
ถึงแม้ว่าทั้งถ้ำนั้นจะเต็มไปด้วยยาพิษ แต่มันกลับไม่สามารถที่จะรบกวนยาที่อยู่ในหม้อได้เลยแม้แต่น้อย
จับปลาสองมือนี่! ผู้ที่สามารถจะทำได้ถึงขั้นนี้ที่เหลิ่งหนิงจือรู้ คาดว่าก็คงจะมีเพียงแต่องค์รัชทายาทเป่ยกงเท่านั้นที่จะสามารถทำได้
แต่สาวน้อยตรงหน้าผู้นี้ระดับขั้นก็ต่ำเช่นนั้น แต่กลับสามารถทำทั้งสองอย่างไปพร้อมกันได้อย่างเบาสบายเหมือนดั่งอัจฉริยะนักปรุงยาอันดับหนึ่งแห่งแดนซวนเทียน
สำหรับนางแล้วการปรุงยาของมู่เฉียนซีในครั้งนี้เหมือนดั่งการแสดงฝีไม้ลายมือก็มิปาน
นางรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่ามู่เฉียนซีนั้นเป็นนักปรุงยาผู้หนึ่ง แต่นึกไม่ถึงเลยว่าความสามารถในการปรุงยาของนางนั้นจะเหนือความคาดหมายเช่นนี้
ลมวายุและเมฆาเคลื่อนไหว ฝนฟ้าเต็มไปทั่วท้องนภา เหลิ่งหนิงจือกล่าวด้วยความตื่นตาตื่นใจ “ยาเม็ดขั้นสวรรค์ เจ้าสามารถสกัดยาเม็ดขั้นสวรรค์ออกมาได้”
มู่เฉียนซีได้กลืนโอสถแบบเหลวเข้าไปหนึ่งขวด พลังความสามารถในตอนนี้นั้นไม่เหมือนเมื่อก่อนหน้า การสกัดยาขั้นสวรรค์นั้นก็ยังกินแรงไปอยู่บ้าง
มาถึงขั้นสุดท้ายแล้วนางจะล้มเหลวมิได้!
เห็นกันอยู่ชัด ๆ ว่าเมื่อครู่นี้ท้องฟ้ายังแจ่มใสไกลหมื่นลี้ แต่มาตอนนี้กลับเต็มไปด้วยเมฆดำครึ้ม
หนึ่งในกลุ่มคนชุดขาวได้กล่าวขึ้น “หัวหน้า ดูเหมือนว่าสถานการณ์จะไม่ค่อยถูกต้องนะขอรับ”
“นี่เป็นปรากฏการณ์ที่ก่อกำเนิดจากยาเม็ดขั้นสวรรค์มิผิดแน่นอน! มีคนกำลังสกัดยาเม็ดขั้นสวรรค์อยู่ในถ้ำ”
การสกัดยาเม็ดขั้นสวรรค์ในตอนนี้มีเพียงแค่เหตุผลเดียวเท่านั้น นั่นก็คือทำให้เหลิ่งหนิงจือฟื้นฟูพลังความสามารถขึ้นมา
ถ้าหากว่าเหลิ่งหนิงจือสามารถฟื้นฟูขึ้นมาได้จนพลังความสามารถนั้นกลับมาเหมือนกับพวกเขา อีกทั้งรวมกับบุรุษชุดสีเขียวผู้นี้แล้ว ความได้เปรียบจะตกไปอยู่ในมือของผู้ใดนั่นก็ยังไม่แน่นอน!
“รีบบุกฆ่าฟันพวกมันเข้าไปในถ้ำ จะให้สกัดยาเม็ดออกมาสำเร็จไม่ได้ จะให้เหลิ่งหนิงจือกินยาเม็ดนั้นเข้าไปไม่ได้”
“ขอรับ!”
เมื่อเผชิญหน้ากับคนเหล่านี้ อู๋ตี้และเสี่ยวหงมิได้รั้งขัดขวางพวกเขาเอาไว้เลย
อยากจะเข้าเจ้าก็เข้าไปเถอะ! และทันทีที่เข้าไป หึหึหึ…
สัตว์ศักดิ์สิทธิ์สองตัวยิ้มอย่างมีอะไรเลวร้ายในอกออกมา
เงาร่างสีขาวสองเงาร่างพุ่งทะลุเข้าไปในถ้ำ จากนั้นพวกเขาก็ได้เห็นมู่เฉียนซีกำลังสกัดยาอยู่
เดิมทีคิดว่าเป็นผู้อื่นที่กำลังปรุงยาอยู่ในถ้ำ แต่นึกไม่ถึงเลยว่าจะเป็นหญิงสาวผู้นั้นที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนกับองค์หญิงของพวกเขา
อายุยังน้อยแต่กลับสามารถที่จะสกัดยาเม็ดขั้นสวรรค์ได้ พรสวรรค์ในการสกัดยาเม็ดนั้นก็ยอดเยี่ยมยิ่งนัก
“หยุดยั้งนาง!” ทั้งสองได้พุ่งไปทางมู่เฉียนซีและเตรียมพร้อมที่จะลงมือ
เมื่อเผชิญหน้ากับทั้งสองคนนั้น เหลิ่งหนิงจือยอมที่จะรักษาอาการบาดเจ็บแต่โดยดี และขี้เกียจที่จะลงมือกับพวกเขา
ยังไม่ทันที่คนเหล่านี้จะได้ลงมือกับมู่เฉียนซี พลังวิญญาณในร่างกายของพวกเขาก็ได้เริ่มอลหม่านขึ้นมา มันเกือบที่จะทำให้ร่างกายของพวกเขาระเบิดออก
พรวด! สีหน้าของพวกเขานั้นเหมือนดั่งสีพื้นดินและกระอักเลือดออกมา
“ที่นี่มีพิษ!”
“ที่แห่งนี้มีพิษแต่นางกลับยังสกัดยาได้! สิ่งที่นางกำลังสกัดนั้นไม่ใช่ยารักษาอาการบาดเจ็บอย่างแน่นอน กับดัก มันเป็นกับดัก พวกเรารีบไปจากที่นี่เร็ว!”
ที่แห่งนี้มีพิษร้าย พวกเขาไม่อยากที่จะอยู่ต่อแม้เพียงครู่เดียวจึงได้รีบพุ่งออกไปยังทางปากถ้ำ
มู่เฉียนซีเองก็ขี้เกียจที่จะไล่ตามเพราะว่าเสี่ยวหงและอู๋ตี้จะต้องรอพวกเขาอยู่ที่ด้านนอกนั้นแน่นอน!
“อู๋ตี้ผู้ไร้เทียมทานในใต้หล้า เจ้าพวกโง่! จงมารับความตายเสียเถอะ!” อู๋ตี้กล่าวอย่างอวดดี
“เพลิงเผาสวรรค์!”
ถึงแม้ว่าพลังความสามารถของอู๋ตี้และเสี่ยวหงจะเทียบไม่ได้กับพวกเขา แต่ในตอนนี้ทั้งสองคนนั้นได้ต้องพิษร้ายเข้าเสียแล้ว อู๋ตี้และเสี่ยวหงรับมือกับพวกเขาได้อย่างสบายมือยิ่งนัก
“พรวด!” พิษร้ายกำลังออกฤทธิ์ เมื่อเผชิญหน้ากับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่โหดร้ายทั้งสองตัวนี้ พวกเขาก็จำต้องถอยร่นอยู่ร่ำไป
พวกเขาเองก็นึกไม่ถึงว่าจะมีวันที่มาพ่ายแพ้ภายใต้น้ำมือของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับที่ห้า
“หัวหน้า! ในถ้ำมีพิษร้าย มันมิได้มีโอสถรักษาอาการบาดเจ็บแต่อย่างใด มันคือกับดัก อย่าได้เข้าไปเป็นอันขาด!”
“พรวด!”
พวกเขากระอักเลือดไปพร้อมกับประโยคสุดท้ายที่ได้รายงานข่าวสารให้แก่หัวหน้าของพวกเขารับทราบ
หัวหน้าผู้นั้นกล่าว “ระเบิดถ้ำนั้นให้เละ”
ถ้ำนั้นถูกปิดเอาไว้ด้วยพิษร้าย มันไม่เป็นการดีต่อพวกเขาอย่างแน่นอน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องระเบิดทิ้ง
ลูกสมุนคนแรกของเขาได้รวบรวมพลังทั้งหมด จากนั้นก็กระแทกหมัดหนึ่งระเบิดออกไปดั่งสายฟ้าฟาดไปทางถ้ำที่พวกมู่เฉียนซีอยู่
บึ้ม! เสียงกึกก้องกัมปานาทเสียงหนึ่งดังขึ้น ทั้งถ้ำนั้นได้ถล่มลงมาในชั่วพริบตา ศิลาก้อนใหญ่ ๆ ได้กระจุยกระจายกลายเป็นก้อนกรวดไปในพริบตา
การโจมตีเพียงครั้งเดียวของยอดฝีมือขั้นสูงสุดเต็มขั้นนั้นไม่ธรรมดาเหมือนดั่งที่นึกเอาไว้จริง ๆ
รอจนเมื่อเสียงระเบิดเงียบสงบลงไปก็ได้มีเสียงหนึ่งดังลอยออกมา แกรก! เป็นเสียงของชั้นน้ำแข็งที่แตกออก ในมือของมู่เฉียนซีนั้นถือยาเม็ดสีขาวดั่งหยกเอาไว้เม็ดหนึ่ง พร้อมกับกล่าว “ในที่สุดในช่วงเวลาสุดท้ายก็สำเร็จได้เสียที”
.