ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1306 เฉียนซีโกรธเกรี้ยว
ภาพลวงตาธรรมดาทั่วไปไม่สามารถทำอะไรกู้ไป๋อีได้
ทว่า ทันทีที่หม้อหยินหยางสองขั้วลงมือ ก็จับจุดตายของกู้ไป๋อีเสียอยู่หมัด
ทุกครั้งที่เขาจะโจมตี เขาก็เห็นร่างของคนที่เขารักมากที่สุดจนเขาไม่สามารถลงมือได้
แม้จะรู้ว่านี่ไม่ใช่เรื่องจริง แต่กู้ไป๋อีก็ทำใจลงมือไม่ได้อยู่ดี!
และนี่ไม่ใช่เรื่องที่แย่ที่สุด ในขณะที่กู้ไป๋อีจะใช้พลังชีวิตต่อสู้กับคนทั้งสี่ จู่ ๆ ยาหัวใจโพธิ์ก็ไม่สามารถรับมือกับไฟที่สุมจนเร่าร้อนนั้นได้อีกต่อไปแล้ว
กู้ไป๋อีเอายาลูกกลอนที่เหลืออยู่กินเข้าไปจนหมดและจดจ่ออยู่กับการป้องกันการโจมตีของศัตรู
สถานการณ์เช่นนี้แล้ว กู้ไป๋อีก็ยังคงแข็งแกร่งมาก
เสี่ยวหยางหยางบ่นพึมพำ “เจ้าบุรุษเย็นชาผู้นี้รับมือได้ยากจริง ๆ มาถึงขั้นนี้แล้วยังสามารถยับยั้งได้อีก คนเช่นนี้หายากยิ่งนัก!”
“ฮี่ ๆ ๆ! ยิ่งเป็นเช่นนี้ ข้าก็ยิ่งอยากเห็นเขาพังทลาย”
ภาพลวงตาที่เสี่ยวหยางหยางสร้างขึ้นยิ่งเหมือนจริงมากเข้าไปทุกที กลิ่นยาที่ได้ผสมผสานกับกลิ่นหอมหวนสีขาวนั้นช่างทำให้หลงใหลจนยากจะควบคุมสติเอาไว้ได้
กู้ไป๋อียิ่งควบคุมสติเอาไว้ไม่ได้แล้ว แต่ภายใต้การควบคุมของเสี่ยวหยางหยาง พวกเขาทั้งสี่คนนั้นกลับมีสติดีมาก
ดังนั้น พวกเขาจึงเป็นฝ่ายได้เปรียบ!
เมื่อเห็นท่านหัวหน้าตำหนักผู้ที่เคยอยู่อย่างสูงส่งถูกพวกเขาทั้งสี่คนทำร้ายให้ได้รับบาดเจ็บเช่นนี้ พวกเขาก็ยิ่งลำพองใจมากขึ้น และพวกเขาก็ยิ่งอยากลงมือกับท่านหัวหน้าตำหนักผู้นี้อย่างโหดร้ายและเหยียบให้จมดินมากกว่าเดิม
พรวด! กู้ไป๋อีกระอักเลือดสีแดงสดออกมา ผิวขาวราวหิมะนั้นราวกับถูกไฟแผดเผาก็มิปาน!
ทว่า กระบี่ของเขานั้นยังคงเย็นยะเยือกอยู่เฉกเช่นเดิม!
“เจอแล้ว!” เซียวเหยาเจอลวดลายทรงกลมอยู่ในพุ่มดอกมันดาลาสีดำนั้น
หาจุดเด่นเจอแล้ว แต่ว่า…
จะเปิดเช่นไร?
เซียวเหยากล่าว “ข้าจะลองใช้เลือดหยดดู”
เลือดของคนตระกูลเซียวหยดลงบนลวดลายนั้น นึกไม่ถึงเลยว่าจะไร้การตอบสนอง
หม้อหยินหยางสองขั้วบ่นพึมพำขึ้น ‘สายเลือดตระกูลเซียวไปทำอะไรที่จุดเด่นแห่งหยิน ตอนนี้ที่นี่มันกำลังสนุกมาก ข้าไม่มีทางให้ใครมารบกวนได้หรอก’
มู่เฉียนซีกล่าว “ให้ข้าลองดูหน่อย!”
เมื่อเลือดของมู่เฉียนซีหยดลงไป หม้อหยินหยางสองขั้วก็ตื่นเต้นขึ้นทันใด
“ผู้หญิง! เลือดที่หอมกรุ่นเช่นนี้จะต้องเป็นหญิงงามเป็นแน่ ต้องงามกว่าหญิงผู้นี้มากอย่างแน่นอน”
มีหญิงงามย่างกรายมาเช่นนี้ หม้อหยินหยางสองขั้วจึงเชื่อฟังมาก มันจึงส่งมู่เฉียนซีมาที่จุดเด่นแห่งหยาง
ส่วนเซียวเหยานั้นถูกทิ้งให้ออกไปแล้ว
“นายท่าน!”
มู่เฉียนซีถูกส่งตัวมาแล้ว เมื่อมาถึงนางก็ได้กลิ่นหอมหวนของดอกไม้ คละเคล้าไปด้วยกลิ่นคาวเลือดอีกด้วย!
ไม่นานนัก นางก็เห็นนายน้อยผู้ไร้ประโยชน์ทั้งสี่แห่งตำหนักเป่ยหานกำลังโจมตีร่างในชุดขาวร่างหนึ่ง มู่เฉียนซีโกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้น!
กระบี่มังกรเพลิงถูกชักออกจากฝัก มู่เฉียนซีตะโกนอย่างเย็นชาว่า “มังกรเพลิงสังหาร!”
ปัง! นายน้อยสามนึกไม่ถึงเลยว่าจะมีคนเข้ามาในที่แห่งนี้ได้ ครั้นแล้วเขาจึงถูกมังกรเพลิงตัวหนึ่งพุ่งเข้าไปพัวพัน
ร่างของเขากระเด็นลอยออกไป มือที่กำกระบี่ยาวเปื้อนเลือดนั้นก็ถูกเปลวไฟแผดเผาแล้ว
ร่างในชุดขาวกระโจนไป มู่เฉียนซีปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศ “ทักษะโยวหลัว!”
ทักษะโยวหลัวโจมตีออกไปที่นายน้อยรอง
พรวด! ร่างของนายน้อยรองกระเด็นลอยไปในอากาศพลางกระอักเลือดคำโตออกมา
ในที่สุดนายน้อยใหญ่กับนายน้อยสี่ก็สังเกตเห็นมู่เฉียนซีแล้ว พวกเขาจึงรีบถอยหลังไป!
“ในที่สุดเจ้าก็มาจนได้!”
“มู่หรงเฉียนเยี่ย!” ดวงตาของอวี้ปิงชิงแดงก่ำ นางกัดฟันกรอดพลางพ่นชื่อนี้ออกมา
เห็น ๆ กันอยู่ว่าท่านหัวหน้าตำหนักทนไม่ได้แล้ว นางกำลังจะสมความปรารถนาอยู่แล้ว แต่เจ้านี่กลับเข้ามาขวางจนได้
“ฆ่ามัน! ฆ่ามัน!” อวี้ปิงชิงตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด
มู่หรงเฉียนเยี่ยนั้นเก่งกาจมาก นายน้อยใหญ่กับนายน้อยสี่หันมองตากัน แต่หากพวกเขาสองคนร่วมมือกัน ไม่แน่อาจจะเอาชนะเขาได้ก็ได้!
ในตอนนี้เอง มือของมู่เฉียนซีที่ถือกระบี่นั้นก็ถูกกู้ไป๋อีจับเอาไว้
เขากล่าวเสียงขรึมว่า “นี่ก็เป็นภาพลวงตาอีกแล้วเหรอ ไม่เป็นไร ภาพลวงตาก็ไม่เป็นไร แทงตรงนี้…”
ปลายกระบี่สีแดงฉานจี้ตรงหัวใจของตนเอง
เขารู้ตัวดีว่าตนเองทนไม่ไหวแล้ว!
แต่หากต้องถูกควบคุม ให้เขาตายไปเสียจะดีกว่า!
“เสี่ยวไป๋ ข้ามาแล้ว นี่ไม่ใช่ภาพลวงตา!”
มู่เฉียนซีเอาเข็มยาเข็มหนึ่งออกมาแทงที่แขนของเขา ช่วยไม่ให้เขาถูกภาพลวงตานั้นหลอกหลอน
ดวงตาของมู่เฉียนซีอันตรายมากยิ่งขึ้น หากนางมาไม่ทัน เกรงว่าเสี่ยวไป๋คงจะ…
เขาสูงส่งดั่งดอกบัวหิมะที่อยู่บนยอดเขาสูง หากเขาถูกบังคับให้กระทำในเรื่องที่เขาไม่ยินยอม เขาต้องเลือกความตายโดยที่ไม่มีความลังเลอย่างแน่นอน
เจ้าหม้อหยินหยางสองขั้วบัดซบ!
แต่ตอนนี้ต้องกำจัดพวกไร้ประโยชน์เหล่านี้ไปซะก่อนแล้วค่อยว่ากัน นายน้อยใหญ่กับนายน้อยสี่พุ่งเข้าหามู่เฉียนซี มู่เฉียนซีหลบหลีกได้อย่างง่ายดาย
ปลายกระบี่ของกระบี่มังกรเพลิงเปล่งแสงกระหายเลือดออกมา ราวกับว่ามันรับรู้ได้ถึงความโกรธของมู่เฉียนซีแล้ว
ทันใดนั้น บัวอัคคีสีแดงฉานก็เบ่งบานขึ้นกลางอากาศ และพุ่งโจมตีไปที่สองคนนั่น
“บัวแดงพิฆาต!”
เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีที่พวกเขาไม่สามารถต้านทานได้เช่นนี้ สีหน้าของทั้งสองจึงตกใจผงะไปทันที!
มู่หรงเฉียนเยี่ย เหตุใดถึงได้แข็งแกร่งถึงเพียงนี้!
ตูม!
พวกเขาถูกเปลวไฟกลืนกิน แต่มู่เฉียนซีก็ลงมืออย่างมีขอบเขตเช่นกัน นางไม่ได้ถึงขั้นจะเอาชีวิตพวกเขา
หม้อหยินหยางสองขั้วพึมพำเสียงเบาว่า ‘เคยเห็นแต่บุรุษช่วยสตรีงาม นึกไม่ถึงว่าจะได้เห็นบุรุษช่วยบุรุษงามด้วย เก่งกาจเกินไปแล้ว ช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก!’
มู่หรงเฉียนเยี่ยในตอนนี้แข็งแกร่งกว่าตอนที่ลงประลองคัดเลือกตำแหน่งประมุขน้อยตอนนั้นมาก อวี้ปิงชิงไม่อยากจะรู้สึกเช่นนั้น แต่…
เมื่อเห็นดวงตาอันเย็นชาและอันตรายคู่นั้นของมู่หรงเฉียนเยี่ยแล้ว ในใจของนางก็รู้สึกหวั่นกลัวขึ้น
อวี้ปิงชิงยิ้มพลางกล่าว “ประมุขน้อยเฉียนเยี่ย ข้า ข้าไม่ได้ทำอะไรนะ ข้าพยายามโน้มน้าวพวกเขาแล้ว แต่…แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะถูกควบคุม ข้าก็ไม่รู้จะทำเช่นไรจริง ๆ”
ถึงแม้ตอนนี้อวี้ปิงชิงจะรู้สึกหวาดกลัว แต่ใบหน้าของนางกลับแดงก่ำ
มู่เฉียนซีก้าวเดินมาอย่างช้า ๆ ทีละก้าว ๆ พลางกล่าว “อวี้ปิงชิง ตอนนี้เจ้ารู้สึกไม่สบายตัว อึดอัดมากไม่ใช่เหรอ?”
“อึดอัด ข้าอึดอัดมาก…”
ฉึก! นางกลัวมู่เฉียนซีจะฆ่านาง ดังนั้นจึงฉีกทึ้งเสื้อผ้าตัวเองออก
ต้องการจะเอาตัวเข้าแลกเพื่อรักษาชีวิตตัวเองไว้!
ในตอนนี้เอง ร่างในชุดขาวโชกเลือดร่างหนึ่งก็เข้ามาขวางหน้ามู่เฉียนซีเอาไว้พร้อมกับกล่าวเสียงขรึม “ซีเอ๋อร์!”
มุมปากของมู่เฉียนซีกระตุกขึ้นเล็กน้อย นางเป็นผู้หญิง ต่อให้อวี้ปิงชิงแก้ผ้าต่อหน้านาง นางก็ไม่รู้สึกใจเต้นอะไรเลยสักนิด
เสี่ยวไป๋จะเป็นกังวลทำไม?
และในตอนนี้มู่เฉียนซีก็สังเกตเห็นแล้วว่ากู้ไป๋อีนั้นมีอาการผิดปกติ นางจึงเอายาหัวใจโพธิ์ออกมาให้เขาเพิ่มอีกหลายขวด “รีบกินยาลูกกลอนซะ ข้าจะกำจัดพวกนั้นก่อนแล้วค่อยหาทางออกจากที่นี่”
“อืม!”
อวี้ปิงชิงเคยเป็นถึงธิดาศักดิ์สิทธิ์แห่งตำหนักเป่ยหานมาก่อน แต่อวิ๋นเหลียนเอ๋อร์กลับดูมีเสน่ห์และน่ารักกว่ามาก
มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าวว่า “อวี้ปิงชิง เจ้าอดใจรอไม่ไหวถึงเพียงนี้เลยเหรอ เช่นนั้นข้าจะทำให้เจ้าสมปรารถนาก็แล้วกัน”
สีหน้าของอวี้ปิงชิงเผยความดีอกดีใจออกมา ไม่มีชายใดสามารถรอดพ้นไปจากความงามของนางได้จริง ๆ
ฉึก ฉึก ฉึก! มู่เฉียนซีเอาเข็มยาหลายเข็มออกมา และแทงเข้าที่ช่องท้องของอวี้ปิงชิง
อ๊า! ทันใดนั้น นางก็รู้สึกแสบร้อนเจ็บปวดไปทั้งตัว ไม่นานนักก็ดูเหมือนว่านางจะควบคุมสติเอาไว้ไม่อยู่แล้ว
“ร้อน! ข้าร้อน ข้า…ช่วยด้วย ประมุขน้อยเฉียนเยี่ย…”
“พระเจ้าช่วย! เยี่ยมยอดไปเลย! ไม่นึกเลยว่าข้าจะได้เจอกับคนพวกเดียวกัน” หม้อหยินหยางสองขั้วกล่าวขึ้นด้วยความตื่นเต้น เดิมทีฤทธิ์ยาในจุดเด่นแห่งหยางก็ไม่ได้น้อยอยู่แล้ว ตอนนี้มู่เฉียนซียังจะเพิ่มยาให้อีก ความรู้สึกของอวี้ปิงชิงในตอนนี้สามารถทำให้นางทรมานเจียนตายได้เลย
.
.