ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1385 ไป๋อู๋ห่ายมา
ผู้อาวุโสสูงสุดกล่าว “มู่เฉียนซี เจ้าอย่าได้อวดดีเกินไปนัก! คิดจะจับข้า ไม่มีทางซะหรอก”
แม้การโจมตีเมื่อครู่ทำให้เขาหวาดกลัวอยู่บ้าง
“รุมฆ่ามู่เฉียนซี แย่งกระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์มาให้ได้!” ผู้อาวุโสสูงสุดกล่าวกับคนชุดดำเหล่านั้นที่อยู่ข้างกายเขา
คนเหล่านี้เป็นถึงยอดฝีมือที่ไป๋อู๋ห่ายส่งมาช่วย
แม้ว่าพวกเขาจะปกปิดได้เป็นอย่างดี แต่เขาก็พอจะเดาออกว่าคนเหล่านี้เป็นคนของหมิงจี
มีคนเหล่านี้ช่วย เขาไม่เชื่อหรอกว่าจะฆ่ามู่เฉียนซีไม่สำเร็จ
คนเหล่านี้จ้องมองไปที่มู่เฉียนซีราวกับกำลังมองดูคนตายก็มิปาน!
มู่เฉียนซียิ้มเยาะเย้ยพลางกล่าว “ตาเฒ่า เจ้านี่นะ ช่างไร้ประโยชน์เกินไปแล้วจริง ๆ ไม่นึกเลยว่าเจ้าจะรับมือกับข้าด้วยวิธีการรุมเช่นนี้”
ผู้อาวุโสสูงสุดกล่าวด้วยความหน้าด้านหน้าทนว่า “แล้วจะอย่างไร ตอนที่อารองของเจ้าตาย เขาต้องเหงามากเป็นแน่ ประเดี๋ยวข้าจะส่งเจ้าไปอยู่เป็นเพื่อนอารองของเจ้า เพื่อเป็นการตอบแทนที่เขาทำเพื่อข้ามามากมาย เจ้าว่าเป็นเช่นไร?”
ผู้อาวุโสสูงสุดกำลังยั่วโทสะมู่เฉียนซี แต่สีหน้าของมู่เฉียนซีกลับนิ่งเฉยไม่สะทกสะท้านแต่อย่างใด
มีเพียงตัวนางเองเท่านั้นที่รู้ว่าภายใต้สีหน้าที่นิ่งเฉยนี้แอบซ่อนความโกรธเกรี้ยวราวกับพายุสาดกระหน่ำอยู่
ผู้อาวุโสสูงสุดคิดว่าอารองตายไปอย่างน่าสังเวชแล้ว คิดเช่นนี้ก็ยิ่งดี เขาจะได้ไม่ต้องใช้อุบายใดมาข่มขู่นางได้อีก
ตอนนี้ ขอเพียงแค่นางจับตัวตาเฒ่านี่มาได้ และดึงจิตวิญญาณของเขาออกมา เช่นนั้นก็จะช่วยอารองได้
“เจ้าคิดว่าเจ้ามีคนคอยช่วยอยู่ฝ่ายเดียวหรือไง?” มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าว
“อู๋ตี้ เสี่ยวหง สู้ไหวหรือไม่?” อู๋ตี้กับเสี่ยวหงต่อสู้กับพิฆาตวิญญาณมา พวกมันได้รับบาดเจ็บมาไม่น้อย
ทว่า พวกมันตอบว่า “พักไปครู่หนึ่งแล้ว ตอนนี้ดีขึ้นมากแล้วขอรับ! ตอนนี้พวกเราเป็นถึงสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับหกแล้ว พวกเรารับมือกับเจ้าพิฆาตวิญญาณบ้านั่นไม่ได้ แต่มดปลวกเหล่านี้พวกเราจัดการได้สบาย!”
พลังอำนาจของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองแผ่ซ่านออกมาปกคลุมไปทั่วทั้งตำหนักเป่ยหาน แสงสีขาวสว่างวาบขึ้น ต่อมาทะเลเพลิงสีแดงฉานก็ปรากฏออกมา
“สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับหก! สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับหกสองตัวเลยเหรอ!”
“พระเจ้าช่วย! นั่นมันสัตว์พันธสัญญาของประมุขน้อย นึกไม่ถึงเลยว่าจะเลื่อนขั้นถึงระดับหกแล้ว”
“……”
สีหน้าของทุกคนเผยความตกใจขึ้น
ผู้อาวุโสสูงสุดกล่าว “คิดว่ามีสัตว์พันธสัญญาสองตัวแล้วพวกข้าจะทำอะไรเจ้าไม่ได้อย่างนั้นเหรอ?”
ต่อมา มิติบริเวณรอบก็บิดเบี้ยวขึ้น ผู้อาวุโสสูงสุดปรากฏตัวตรงหน้ามู่เฉียนซีอย่างรวดเร็วราวกับผีปีศาจ
กลางฝ่ามือของเขาปรากฏอักขระสาปขึ้นและง้างมือหมายจะตบไปที่มู่เฉียนซี
ขอเพียงแค่อักขระสาปนี้สัมผัสร่างของมู่เฉียนซี มู่เฉียนซีก็จะโดนคำสาปและต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย
ทว่า ผู้อาวุโสสูงสุดกลับทำไม่สำเร็จ!
ปัง! จู่ ๆ ร่างในชุดเขียวก็ปรากฏตัวขึ้น และตบผู้อาวุโสสูงสุดอย่างแรงจนร่างของเขากระเด็นออกไป
และอักขระสาปบนฝ่ามือเขานั้นกระทบกับร่างของชิงอิ่ง
“ชิงอิ่ง!”
ผู้อาวุโสสูงสุดหัวเราะขึ้นอย่างบ้าคลั่ง “ฮ่า ๆ ๆ! ฆ่าเจ้าไม่ได้ แต่ฆ่าหุ่นเชิดของเจ้าได้ก็นับว่าไม่เลว! โดนคำสาปของข้าไป ต่อให้เขาเป็นหุ่นเชิดที่ไร้ชีวิต ก็ต้องถูกทำลายอยู่ดี”
มู่เฉียนซีรู้สึกว่าตนเองนั้นมองทะลุปรุโปร่งเกี่ยวกับวิชาสาปนี้ อีกทั้งยังรู้วิธีแก้ นางจึงไม่ได้ตื่นตระหนกและพร้อมจะลงมือแล้ว!
แต่นางนึกไม่ถึงว่าหลังจากคำสาปของผู้อาวุโสสูงสุดกระทบลงบนร่างของชิงอิ่งได้ไม่นานมันก็จางหายไป
ดูเหมือนว่ามันจะถูกชำระล้างไปแล้ว ถูกพลังแห่งชีวิตอันบริสุทธิ์ชำระล้างไปแล้ว
รอยยิ้มของผู้อาวุโสสูงสุดแข็งทื่อไปทันที “เป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไร! เป็นไปได้อย่างไร!”
นักสาปของเผ่าคำสาปของพวกเขา ทั่วทุกสารทิศไม่ว่าจะเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งมากเพียงใด ร่างกายจะแข็งแกร่งมากเพียงใดก็ไม่สามารถต้านทานวิชาสาปได้
แต่หุ่นเชิดที่ถูกคนสร้างขึ้นมาผู้นี้กลับสามารถชำระล้างคำสาปของเขาได้ นี่มันเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว หุ่นเชิดนี้เป็นของล้ำค่าสุดยอดอย่างแน่นอน
แววตาของผู้อาวุโสสูงสุดเผยความละโมบโลภมากออกมาอย่างเห็นได้ชัด พร้อมกันนั้นการโจมตีของชิงอิ่งก็พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว!
ปัง! ผู้อาวุโสสูงสุดถูกชิงอิ่งถีบจนกระเด็นออกไป และในตอนนี้มู่เฉียนซีก็พุ่งเข้ามาใกล้ตัวเขาแล้ว
มู่เฉียนซีกล่าว “ชิงอิ่ง เจ้าไปรับมือกับคนอื่น ตาเฒ่าผู้นี้ข้าจัดการเอง”
ชิงอิ่งพยักหน้าเบา ๆ และไปรับมือกับศัตรูคนอื่น ๆ!
“มังกรน้ำแข็งท้าสวรรค์!”
มังกรน้ำแข็งที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายอันเย็นยะเยือกอย่างรุนแรงพุ่งเข้าหาผู้อาวุโสสูงสุด
“ตาเฒ่า ข้ากำลังกลัดกลุ้มใจอยู่เลยกลัวจะหาตัวเจ้าไม่เจอ และไม่สามารถล้างแค้นให้อารองข้าได้ นึกไม่ถึงจริง ๆ ว่าเจ้าจะมาหาข้าถึงที่เช่นนี้ คอยดูเอาเถิดว่าข้าจะจัดการกับเจ้าเช่นไร!”
ผู้อาวุโสสูงสุดรีบหลบการโจมตีของมังกรน้ำแข็งนี้ พลังสีดำมืดบนร่างพรั่งพรูออกมาอย่างบ้าคลั่งจนถึงขีดสุด
สาวน้อยผู้นี้รับมือได้ยากมาก อย่างไรเสียนางก็เป็นถึงบุตรสาวของมู่เฟิงอวิ๋น วิปริตเป็นอย่างยิ่ง
“มู่เฉียนซี เจ้าพูดจาโอ้อวดเกินไปแล้ว! เจ้ามีอุบายมากมาย แต่อย่างไรเสียพลังของเจ้าก็เป็นแค่ขั้นจักรพรรดิแห่งภูต คิดจะฆ่าข้า พลังแค่นี้มันยังไม่พอหรอกนะ!”
“ฝ่ามือคำสาป!”
ทันทีที่ผู้อาวุโสสูงสุดคำรามออกมา หมอกควันดำบนฝ่ามือที่เต็มไปด้วยพลังพายุอันน่ากลัวนั้นก็โจมตีไปที่มู่เฉียนซีทันที
กระบวนท่าของมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับสูงสุดนี้แน่นอนว่ามู่เฉียนซีไม่สามารถเผชิญหน้าต้านทานได้ แต่ความแข็งแกร่งและความรวดเร็วของนางในตอนนี้เพียงพอที่จะหลบหลีกได้
ต้องขอบคุณเจ้าพิฆาตแล้วที่ไล่ล่าตามฆ่านาง ทำให้ความรวดเร็วของนางก้าวหน้าขึ้นมาอีกขั้นหนึ่ง
ที่ผู้อาวุโสสูงสุดใช้กระบวนท่านี้เพราะคิดว่าความแข็งแกร่งของมู่เฉียนซีไม่สามารถหลบหลีกได้แน่นอน!
ตูม! หลังจากการโจมตีนี้ของเขาไม่ได้ผล เขาก็พบว่ามู่เฉียนซีหลบหลีกการโจมตีของเขาไปได้
จากนั้น บัวอัคคีดอกหนึ่งก็ปรากฏขึ้น!
“ตาเฒ่า เจ้าคงจะแก่จนสมองเสื่อมไปแล้วกระมัง! ยืนนิ่งรอความตายอยู่ใช่หรือไม่?”
“บัวแดงพิฆาต!”
เปลวไฟสีแดงฉานม้วนตัวพุ่งเข้ามา ในตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดหลบไม่ทันแล้ว
หากเผชิญหน้าตรง ๆ เขาต้องแย่เป็นแน่ ดังนั้นเขากัดลิ้นตัวเองเซ่นวิชาสาปนี้!
ตูม! บัวอัคคีของมู่เฉียนซีโจมตีโดนหมอกควันสีดำที่กำลังปกคลุมร่างของผู้อาวุโสสูงสุด
แกร่ก! ผู้อาวุโสสูงสุดพบว่าเกราะป้องกันของตัวเองเกิดรอยร้าวราวกับใยแมงมุมขึ้นแล้ว
นี่เป็นพลังอำนาจทักษะกระบี่ของกระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ และนี่ก็เป็นเพียงแค่ทักษะกระบี่ที่ขั้นจักรพรรดิแห่งภูตคนหนึ่งใช้เท่านั้น
หากระดับพลังวิญญาณสูงกว่านี้ พลังนั้นเขาไม่อาจจินตนาการได้เลยว่ามันจะแข็งแกร่งมากเพียงใด
หากมู่เฉียนซีต้องการจะฆ่าให้ตาย กระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ก็ไม่มีทางไว้ชีวิตแน่นอน
รอให้เขาได้กระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์มาเมื่อไหร่ เขาจะใช้อุบายของเผ่าคำสาปแอบซ่อน แม้แต่ไป๋อู๋ห่ายกับมู่หลินหลางก็อย่าคิดเลยว่าจะหาตัวเขาเจอ
ไป๋อู๋ห่ายกำลังรอข่าวการทำศึกของผู้อาวุโสสูงสุดอยู่ แต่กลับได้รับรายงานว่ามู่เฉียนซีเข้าไปขวางและฆ่าคนของเขาไปจำนวนมาก
กู้ไป๋อีไม่อยู่ มู่เฉียนซีเพียงคนเดียว นี่ช่างเป็นโอกาสดีซะเหลือเกิน
ไป๋อู๋ห่ายรวบรวมกำลังคนจะไปบุกตำหนักเป่ยหาน ไป๋เหยียนเอ๋อร์กล่าว “ท่านพ่อ ข้าไปด้วย ข้าจะกำจัดมู่เฉียนซี”
ไป๋อู๋ห่ายกล่าว “เหยียนเอ๋อร์ เจ้ารออยู่ที่ตำหนักตงจี๋ดีกว่า ท่านหมิงจีได้รับบาดเจ็บสาหัสไปเพราะเจ้า เจ้ารออยู่ที่นี่ช่วยท่านหมิงจีฟื้นฟูอาการบาดเจ็บเถอะ ข้าจะเอาตัวมู่เฉียนซีมาให้เจ้าทรมานให้ได้ เจ้าวางใจเถอะ!”
ไป๋เหยียนเอ๋อร์กล่าว “ท่านพ่อดีกับข้าที่สุดแล้ว เช่นนั้นข้าจะรอท่านพ่อเอาชัยชนะกลับมาเจ้าค่ะ”
“เป็นเช่นนั้นแน่นอน!”
เมื่อเผชิญหน้ากับการต่อสู้อย่างกะทันหันของตำหนักตงจี๋กับตำหนักเป่ยหานเช่นนี้ ซวนอีก็ร้อนอกร้อนใจราวกับไฟสุม!
ไม่รู้ว่าไป๋อู๋ห่ายใช้กลอุบายใดกับนายน้อย จนตอนนี้แล้วนายน้อยก็ยังไม่ฟื้นขึ้นมา
ถึงแม้ว่านายน้อยจะมีความยึดมั่นในภารกิจ แต่นายน้อยก็สนใจสาวน้อยนั่นมาก หากเกิดอะไรขึ้นกับสาวน้อยผู้นั้น เกรงว่านายน้อยจะ…
เขาไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ในตอนนี้ได้ ทำได้เพียงแค่หวังให้นายน้อยของพวกเขารีบฟื้นขึ้นมาไว ๆ
ทางด้านไป๋อู๋ห่ายตอนนี้ก็ได้นำกองกำลังคนจำนวนมากไปที่ตำหนักเป่ยหาน เขายิ้มอย่างชั่วร้ายพลางกล่าวว่า “มู่เฉียนซี วันนี้เจ้าต้องตายอย่างแน่แท้แล้ว”
.