ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1403 สายเลือดกิเลน
ในตอนนี้สีหน้าของมู่เฉียนซีดำคล้ำขึ้นแล้ว
“ชิงมู่!”
ชิงมู่เองก็จนใจ “นายท่าน เสี่ยวลิ่วหลงตัวเองและชอบความงามมาก!”
หม้อหลุนหุยกล่าว “นายท่าน ไม่ต้องสนใจเจ้าเสี่ยวลิ่วหรอก เอามันเข้าไปอยู่ในห้องดำเดี๋ยวมันก็เงียบแล้ว”
หม้อผลึกแก้วหกสีเริ่มรู้สึกสงสารตัวเองขึ้นมาแล้ว “ฮือ ๆ ๆ! นายท่าน ตกลงว่าเสี่ยวลิ่วไม่งดงามเหรอ?”
“อ๊า! หรือว่าการที่ข้าหลับใหลไปนานมันจะทำให้ข้าอัปลักษณ์ไปเสียแล้ว?”
ยากมากกว่าที่มู่เฉียนซีกับหม้อหลุนหุยจะเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเช่นนี้ มีความคิดที่อยากจะเอาเจ้าหกสีผู้นี้ไปขังไว้ในห้องดำ
อ๊า! หม้อผลึกแก้วหกสีส่งเสียงกรีดร้องครั้งสุดท้ายออกมาก่อนจะถูกมู่เฉียนซีจับเข้าไปขังในห้องดำ
ที่แท้ลางสังหรณ์ที่เกิดขึ้นก็มาจากเจ้าเสี่ยวลิ่วนี่เอง โชคดีที่นางรู้อยู่แล้วว่าหม้อยาที่เจ้านิรันดร์สร้างออกมานั้น มีเพียงไม่กี่ใบที่พูดจารู้เรื่อง มิเช่นนั้นแล้วนางคงต้องกระอักเลือดเป็นแน่
กู้ไป๋อีเองก็เห็นเจ้าหกสีแล้วเช่นกัน เขาจึงนึกขึ้นมาได้ว่าหม้อยานี้เป่ยกงจั๋วเป็นคนมอบให้ กู้ไป๋อีขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย
เขามักจะรู้สึกอยู่เสมอว่าจะมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้น แต่ไหนแต่ไรมาเป่ยกงจั๋วไม่ใช่คนใจกว้าง ลงมือช่วยแต่ไม่เอ่ยปากกล่าวสิ่งใด แถมยังมอบมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพให้นางอีก
มันช่างแปลกยิ่งนัก!
มู่เฉียนซีเอ่ยปากกล่าวขึ้นว่า “เสี่ยวไป๋ เราไปกันเถอะ!”
หลอมยาสำเร็จแล้ว ต้องรีบเอาไปให้อารองที่วังใต้ดินให้เร็วที่สุด นางอดใจรอไม่ไหวแล้ว อยากให้อารองฟื้นขึ้นมาเร็ว ๆ
กู้ไป๋อีกล่าว “อืม!”
ครั้นแล้วทั้งสองจึงมาที่วังใต้ดิน มู่เฟิงหลิงยังคงนอนหลับใหลอยู่ตรงนั้น
มู่เฉียนซีเอายาลูกกลอนป้อนเข้าปากของเขา เม็ดยาสีแดงเพลิงนั้นพลันกลายเป็นลูกไฟกลม ๆ ลูกหนึ่งไหลเข้าสู่ร่างของมู่เฟิงหลิง
ชั่วพริบตาเดียว ร่างของมู่เฟิงหลิงก็ถูกเปลวไฟห่อหุ้ม
ชั้นน้ำแข็งบริเวณโดยรอบเริ่มถูกหลอมละลาย มู่เฉียนซีกล่าว “ต้องพาอารองออกไปแล้ว”
“ข้าเอง!” กู้ไป๋อีเสนอตัว
“อืม! เพลิงแห่งนิพพานนี้ไม่ทำร้ายใคร ทั้งมันยังมีประโยชน์ต่อเจ้าไม่น้อยเสี่ยวไป๋ ข้าเคยใช้มันไปครั้งนึงแล้ว”
มู่เฉียนซีเตรียมเตียงหยกสำหรับต้านทานการแผดเผาของเปลวเพลิงแห่งนิพพานเอาไว้เรียบร้อยแล้ว และตอนนี้ก็ให้มู่เฟิงหลิงนอนบนเตียงหยกนั้น
มู่เฉียนซีเองก็ไม่ได้ห่างจากอารองไปไหน นางไม่อาจคาดเดาได้เหมือนกันว่าอารองจะฟื้นขึ้นมาเมื่อใด นางจึงจำเป็นต้องอยู่เฝ้าอารองตลอดเวลา
ร่างของมู่เฟิงหลิงเริ่มเปลี่ยนสภาพ ทั้งเลือดเนื้อ กระดูก เส้นปราณ วิญญาณ นี่เป็นเพราะยานิพพานกำลังเปลี่ยนสภาพ
ผ่านไปหนึ่งชั่วยาม เสียงคำราม โฮ่ก! ดังก้องขึ้นทำให้มู่เฉียนซีตกใจมาก
ในเปลวไฟนั้นปรากฏเงาสัตว์ขนาดใหญ่ตัวหนึ่งขึ้น!
สัตว์ใหญ่ตัวนี้มีหัวเหมือนมังกร เขาเหมือนกวาง ดวงตาเหมือนสิงโต แผ่นหลังเหมือนเสือ ลำตัวเหมือนหมี เกล็ดเหมือนงู เท้าเหมือนกีบม้า หางเหมือนวัว มู่เฉียนซีเห็นเช่นนี้ดวงตาก็เบิกกว้างด้วยความตกใจ นี่มัน…
เสี่ยวหงกล่าว “นี่มันกิเลนนี่!”
มู่เฉียนซีตกใจนิ่งอึ้งไป “ข้าให้อารองกินยานิพพาน เหตุใดถึงได้ปรากฏกิเลนขึ้นได้ล่ะ?”
ในตอนนี้น้ำเสียงของชิงมู่ก็ดังขึ้นว่า “นายท่าน ยานิพพานสามารถทำให้คนมีชีวิตฟื้นคืนมาใหม่ได้ และหากในร่างของคนผู้นั้นมีสายเลือดอื่นอยู่ หลังจากที่ยานิพพานทำให้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาแล้ว ก็มีโอกาสที่จะทำให้คนผู้นั้นกลับคืนสู่บรรพบุรุษได้!”
“อารองมีสายเลือดกิเลนเหรอ!”
คัมภีร์หมื่นคำสาปสามส่วนถูกแบ่งให้อยู่ในเผ่ามังกรโบราณ เผ่าหงส์โบราณและเผ่ากิเลนโบราณ!
นางกำลังตามหาอีกสองเผ่าที่เหลือ นึกไม่ถึงเลยว่าเผ่ากิเลนจะอยู่ใกล้ตัวนางถึงเพียงนี้!
โฮ่ก ๆ ๆ!
กิเลนส่งเสียงคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยวขึ้น สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ทั่วทั้งแดนสี่ทิศล้วนแต่รีบหลบซ่อนตัวด้วยหวาดกลัวจนตัวสั่น
พวกมันรับรู้ได้ถึงกลิ่นอายอันแข็งแกร่งอย่างไร้ที่เปรียบนั้น ซึ่งเป็นสายเลือดที่แข็งแกร่งกว่าพวกเขามาก
เพียงแต่อู๋ตี้กับเสี่ยวหงรับรู้ได้ว่าสิ่งนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตัวมันมากมายนัก พวกมันทั้งสองจึงเฝ้าอยู่ข้างกายมู่เฉียนซีอย่างเงียบ ๆ
ในตอนนี้ท้องฟ้าพลันมืดมิดลงอย่างน่าแปลก
เสียงฟ้าคำรามดังสนั่นและเกิดปรากฏการณ์ฟ้าผ่าขึ้น ครืนครืน!
อู๋ตี้กล่าว “นายท่าน ท่าไม่ดีแล้วขอรับ! พลังกลับคืนสู่บรรพบุรุษของอารองของนายท่านแกร่งกล้าเกินไป พลังของดินแดนสี่ทิศกำลังจะลงทัณฑ์เขา!”
พลังอำนาจของกิเลนนั้นไม่ใช่พลังที่ดินแดนสี่ทิศจะรับไหว
เพื่อปกป้องดินแดนนี้ กฎจึงเริ่มลงทัณฑ์ขึ้นแล้ว
เสียง ตูม! ดังสะเทือนฟ้าสะเทือนดินดังขึ้น ห้องที่พวกเขาอยู่ถูกสายฟ้าลงทัณฑ์ผ่าลงมาจนราบเป็นหน้ากลอง
ทุกคนเห็นเช่นนี้ก็ตกตะลึงพรึงเพริดขึ้น “นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
“หรือว่าหัวหน้าหอมู่จะหลอมยาระดับสูงได้อีกแล้ว?”
“หรือว่าท่านหัวหน้าตำหนักเป่ยหานจะทะลวงพลังวิญญาณได้แล้ว!”
“……”
สายฟ้าแรกฟาดลงมา แต่ถูกเพลิงแห่งนิพพานต้านทานเอาไว้ สายฟ้าลงทัณฑ์จะยอมถอดใจง่าย ๆ ได้อย่างไรล่ะ มันจึงฟาดลงมาอย่างต่อเนื่อง
มู่เฉียนซีกำหมัดแน่น อารอง รีบฟื้นขึ้นมาเร็วเข้า
ครืน เปรี้ยง เปรี้ยง!
กลางอากาศ ทุกคนเห็นกิเลนเพลิงตัวหนึ่งกำลังปะทะกับสายฟ้าสีเงินอย่างรุนแรง!
“นั่นมันอะไรกัน?”
“พระเจ้าช่วย!”
“……”
ฉากอันน่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ทำให้ทุกคนต่างตกตะลึงปากอ้าตาค้าง
สายฟ้าปกป้องดินแดนมีพลังของทั้งดินแดน กิเลนตัวหนึ่งที่พึ่งจะฟื้นขึ้นมากระจัดกระจายไปหลังที่ถูกสายฟ้าลงทัณฑ์ไปถึงเจ็ดครั้ง
สายฟ้าลงทัณฑ์มาเจ็ดแปดครั้ง มู่เฉียนซีจึงรีบพุ่งตัวขึ้นไปกลางอากาศ
“ซีเอ๋อร์!” กู้ไป๋อีห้ามนางไม่ทัน
เสียง เปรี้ยง! ดังสนั่นขึ้น การโจมตีอันทำลายล้างถูกลำแสงสีฟ้าอ่อนขวางเอาไว้ได้
“ซีเอ๋อร์!” มู่เฟิงหลิงที่หลับใหลไปตอนนี้ก็ฟื้นขึ้นมาแล้ว
เขาเบิกตากว้างมองมู่เฉียนซี เขาไม่นึกเลยว่าจะมีวันนี้ วันที่เขาได้ลืมตามาเห็นหน้าซีเอ๋อร์อีกครั้ง
มู่เฟิงหลิงจับแขนมู่เฉียนซีแน่นเพื่อพิสูจน์ว่าสิ่งที่เห็นทั้งหมดนี้มันคือความจริง!
“ข้ายังมีชีวิตอยู่เหรอ! ซีเอ๋อร์ ข้ายังไม่ตาย!”
มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าว “อารอง หลานสาวของท่านเป็นถึงหมอปีศาจผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง หากข้าไม่อยากให้ท่านตาย ใครหน้าไหนก็เอาชีวิตท่านไปไม่ได้”
มู่เฟิงหลิงรู้สึกดีใจและปลาบปลื้มใจเป็นอย่างมาก แต่ทันใดนั้นเขาก็เห็นสายฟ้าที่กำลังจะฟาดลงมาอีกครั้ง จึงรีบผลักมู่เฉียนซีออกไป
มู่เฉียนซีจับเขาเอาไว้แน่นและกล่าวว่า “อารอง ไม่เป็นไร!”
ครืน เปรี้ยง เปรี้ยง!
ลำแสงสีฟ้าอ่อนขวางสายฟ้านั้นเอาไว้อีกครั้ง
ในตอนนี้มู่เฟิงหลิงค้นพบว่าพลังของเขาแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมมาก จะต้องเลยขั้นมหาจักรพรรดิระดับเก้าแล้วแน่นอน และแข็งแกร่งกว่าที่ดินแดนแห่งนี้จะรับได้
และเขายังได้รับการสืบทอดวิชาโบราณมาแล้ว นั่นก็คือการสืบทอดของเผ่ากิเลนโบราณ
บนท้องฟ้ายังคงเดือดพล่านด้วยสายฟ้าอันน่าสะพรึงกลัว มู่เฉียนซีกล่าว “เก้าครั้งแล้ว นี่ยังไม่พออีกเหรอ!”
สายฟ้าปกป้องดินแดนมุ่งมาดปรารถนาจะขับไล่มู่เฟิงหลิงไปให้ได้ มู่เฟิงหลิงกับมู่เฉียนรู้ดี
มู่เฟิงหลิงมองมู่เฉียนซีและกล่าวว่า “อารองคิดไม่ถึงเลยว่าจะได้ตื่นมาเห็นหน้าซีเอ๋อร์อีกครั้ง เห็นซีเอ๋อร์เติบโตขึ้นอารองมีความสุขมาก เพียงแต่อารองไม่อาจอยู่กับซีเอ๋อร์ได้นาน อารองเสียใจเหลือเกิน!”
“ต่อจากนี้มอบให้เป็นหน้าที่อารองเป็นคนจัดการเอง! อย่ากังวลไปเลย! อย่าเข้ามาขวางล่ะ!”
ครั้งนี้มู่เฟิงหลิงผลักมู่เฉียนซีออกไป และเขาพุ่งกระโจนขึ้นกลางอากาศ
หากจะไปดินแดนเบื้องบน อย่างไรเสียก็ต้องผ่านด่านนี้ไปให้ได้!
มู่เฉียนซีจ้องมองไปที่ร่างนั้น อารองจะต้องไม่เป็นอะไร
แต่ทั้งสองเพิ่งจะได้เจอกันและอยู่ด้วยกันแค่ไม่นาน ก็จะต้องแยกจากกันไปอยู่คนละดินแดนโดยสมบูรณ์เช่นนี้อีก แสงสลัววาบผ่านดวงตาของมู่เฉียนซี
เดิมทีคิดว่าอารองกินยานิพพานแล้วจะฟื้นตัวขึ้นมา กลับนึกไม่ถึงเลยว่าจะการการย้อนคืนสู่บรรพบุรุษเช่นนี้ พลังที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล จำต้องออกไปจากดินแดนสี่ทิศ
คนอื่น ๆ ก็สังเกตเห็นร่างในชุดแดงเข้มร่างนั้นแล้วเช่นกัน และส่งเสียงอุทานต่าง ๆ นานาออกมา
“พระเจ้าช่วย! นั่นเหมือนองครักษ์ฝ่ายซ้ายมาก!”
“เป็นท่านองครักษ์ฝ่ายซ้ายจริง ๆ ด้วย นี่เขา…นึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้แล้ว”
“องครักษ์ฝ่ายซ้ายจะขึ้นไปอยู่ดินแดนเบื้องบนแล้ว”
“องครักษ์ฝ่ายซ้ายหายตัวไปนานมากแล้ว ข้าคิดว่าเขาเจอเรื่องที่คาดไม่ถึงเสียอีก นึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะเก็บตัวฝึกฝนมาโดยตลอด ถึงขั้นทะลวงพลังวิญญาณได้แล้ว!”
.
.