ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1413 พบเจอกับเผ่าวิญญาณร้าย
“นายท่านถามมาได้เลย!” เขาเอามือเช็ดเหงื่อเย็นที่ผุดพรายออกมาบนหน้าผาก เจ้าลูกชายตัวดี นึกไม่ถึงเลยว่าจะสร้างปัญหาใหญ่เช่นนี้
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเกียจคร้านว่า “เห็นแก่ที่เจ้าอายุมากแล้ว และยังเป็นท่านเจ้าเมืองของเมืองนี้มานานหลายปี ข้าอยากรู้ว่าบริเวณรอบ ๆ เมืองของเจ้ามียอดฝีมือที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษปรากฏอยู่บ้างหรือไม่?”
อินรั่วเฉินบอกว่าอยู่บริเวณรอบ ๆ นี้ ต่อให้เป็นตระกูลที่ซ่อนตัวออกจากโลกภายนอกก็เป็นไปไม่ได้เด็ดขาดที่จะไม่เคยปรากฏตัวออกมา
ตราบใดที่ปรากฏตัวออกมาก็ต้องมีเบาะแสแน่นอน
“นายท่านได้โปรดไว้ชีวิตด้วย! เรื่องนี้…เรื่องนี้พูดออกไปไม่ได้จริง ๆ ข้า…”
“พูดออกไปไม่ได้ เช่นนั้นเจ้าก็เข้าไปนอนในโลงได้เลย” น้ำเสียงของมู่เฉียนซีพลันเย็นยะเยือกลงหลายเท่า
ท่านเจ้าเมืองผู้นี้กลัวความตายมาก สุดท้ายจึงเผยความลับออกมาจนได้
“ห่างออกไปไม่ไกลจากเมืองนี้มีป่าสัตว์วิญญาณอยู่แห่งหนึ่ง ป่าแห่งนั้นไม่มีผู้ใดกล้าย่างกรายเข้าไปใกล้ บางครั้งก็มียอดฝีมือผู้ลึกลับอย่างไม่อาจคาดเดาฝีมือได้โผล่อยู่แถวนั้น ดูเหมือนว่าจะออกมาจากป่าแห่งนั้น” ท่านเจ้าเมืองกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
มู่เฉียนซีเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยพลางกล่าว “ดู ๆ แล้วเจ้าคงไม่กล้าพูดโกหก!”
“ไปกันเถอะ!”
ภายในชั่วพริบตาเดียวร่างของทั้งสองก็ได้อันตรธานหายไปต่อหน้าต่อตาพวกเขา หากไม่ใช่เพราะว่าตรงหน้ายังมีอาหารเหลืออยู่บนโต๊ะแล้วละก็ ท่านเจ้าเมืองก็คงจะคิดว่าทั้งหมดนี้เป็นภาพลวงตาเป็นแน่
ภายในชั่วพริบตาเดียวมู่เฉียนซีกับอินรั่วเฉินก็มุ่งหน้าไปที่ป่าแห่งนั้น ดูเหมือนว่าจะไม่ได้กว้างใหญ่นัก สัตว์วิญญาณในป่าแห่งนี้ค่อนข้างดุร้าย แต่ก็ไม่สามารถขวางพวกเขาทั้งสองได้
ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง! มู่เฉียนซีกับอินรั่วเฉินจัดการกับสัตว์วิญญาณเหล่านี้ได้อย่างราบรื่น
เพียงแต่ว่าพวกเขายังคงหาเบาะแสและตำแหน่งที่ตั้งของตระกูลโบราณไม่เจอ
ในตอนนี้เอง อินรั่วเฉินก็กระซิบเบา ๆ ว่า “ข้างหน้ามีคนอยู่ ระวังตัวด้วย!”
“ไปดูกันเถอะ!”
ไม่เพียงแต่มีคนอยู่เท่านั้น แต่ยังมีกลิ่นคาวเลือดอีกด้วย
คนของตระกูลโบราณใช้ชีวิตอยู่ในป่าแห่งนี้มานาน ไม่มีทางถูกสัตว์วิญญาณทำร้ายได้แน่นอน
ในขณะที่มู่เฉียนซีเข้าไปใกล้เรื่อย ๆ นั้น ก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นอายอันคุ้นเคยกลิ่นอายหนึ่ง
มู่เฉียนซีแอบซ่อนกลิ่นอายของตัวเองและกล่าวว่า “ระวัง!”
พวกเขาเห็นการต่อสู้อันน่าสลดที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้า องครักษ์แต่งกายด้วยชุดสีน้ำเงินกลุ่มหนึ่งกล่าวว่า “พวกเจ้า…พวกเจ้าเป็นใครกันแน่ เหตุใดถึงต้องฆ่าปรมาจารย์จางด้วย”
คนที่พวกเขาเผชิญหน้าด้วยเป็นกลุ่มชายชุดคลุมยาวสีดำที่แปลกประหลาด ชายชุดคลุมยาวสีดำกล่าวด้วยน้ำเสียงดุร้ายว่า “พวกข้าฆ่าปรมาจารย์จาง หรือปรมาจารย์จางไม่ไหวเองกันแน่”
ไม่นานนักใบหน้าของชายชุดดำผู้นั้นพลันเหมือนกับคนตายที่อยู่ข้าง ๆ ผู้นั้น
“นี่มัน…เป็นไปได้ยังไง?”
“เป็นเช่นนี้ไปได้ยังไง?”
“……”
คนชุดสีน้ำเงินเหล่านี้ต่างก็ตกตะลึงพรึงเพริดขึ้น
“หากพวกเจ้าไม่อยากตายเหมือนคนพวกนี้ก็จงเชื่อฟังซะ มิเช่นนั้น…”
“ฝันไปเถอะ! พวกข้าเป็นถึงเอ้อร์หลางแห่งตระกูลโบราณ ไม่มีทางยอมจำนนเด็ดขาด!”
“พวกข้าไม่ยอมให้คนใจเหี้ยมอำมหิตอย่างพวกเจ้าปลอมตัวเป็นนักปรุงยาแฝงตัวเข้าไปในตระกูลโบราณของพวกข้าเด็ดขาด”
“……”
พวกเขากล่าวเย้ยหยันว่า “เช่นนั้นก็ลงมือเถอะ!”
พวกเขาลงมือเช่นนี้ องครักษ์ชุดน้ำเงินเหล่านี้ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขาเลย ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย!
มู่เฉียนซีกล่าว “อินรั่วเฉิน ลงมือ! ช่วยคนตระกูลโบราณ พวกเราได้เบาะแสแล้ว”
มาเจอคนของตระกูลโบราณถูกโจมตีด้วยวิธีลอบกัดเช่นนี้ นางยืนมองพวกเขาถูกฆ่าโดยไม่ลงมือช่วยไม่ได้
ร่างของอินรั่วเฉินพุ่งออกไป คนเหล่านี้ก็มีพลังขั้นมหาจักรพรรดิเช่นกัน แต่ถึงแม้ว่าจะมีพลังขั้นมหาจักรพรรดิ ก็ไม่สามารถขวางแสงแห่งธรรมของโอรสศักดิ์สิทธิ์ฟ้านอินได้
พวกเขาใช้พลังที่ชั่วร้ายมากบางอย่าง แต่พลังนั้นกลับถูกแสงแห่งธรรมยับยั้งเอาไว้ได้ พวกเขาจึงไม่มีโอกาสที่จะตอบโต้ได้เลย
พลังอันน่าสะพรึงกลัวที่พวกเขาใช้นั้นกลับไร้ประโยชน์ ภายใต้การยับยั้งของแสงแห่งธรรมพวกเขาไม่สามารถสู้ได้
อินรั่วเฉินเองก็ลงมือโดยไม่เกรงใจเลยแม้แต่น้อย
ในตอนนี้เองมู่เฉียนซีก็เดินออกมาแล้ว นางมองคนชุดดำเหล่านั้นอย่างพิจารณาก่อนจะกล่าวว่า “เผ่าวิญญาณร้าย!”
คนของตระกูลโบราณเหล่านั้นกล่าวขึ้นด้วยความตกใจว่า “เผ่าวิญญาณร้ายเผ่าใดกัน?”
ทว่า คนที่ตกใจยิ่งกว่ากลับเป็นคนชุดดำเหล่านั้น!
“เจ้า…เจ้าเป็นใคร? รู้จักเผ่าวิญญาณร้ายได้ยังไง!”
“แสงแห่งธรรม พวกเจ้าเป็นคนของแคว้นเทพฟ้านอิน”
อินรั่วเฉินได้ยินเช่นนี้ก็ตกใจขึ้น “เผ่าวิญญาณร้าย ที่แท้ก็เป็นเผ่าวิญญาณร้ายนี่เอง”
มู่เฉียนซีเองก็เพิ่งจะค้นพบในตอนนี้ว่าพลังอันชั่วร้ายที่อินรั่วเฉินกล่าวถึงนั้นที่แท้ก็คือเผ่าวิญญาณร้ายนี่เอง
เป็นพวกเดียวกับผู้ประหลาดเหล่านั้นที่นางเคยประมือกันที่ดินแดนโอสถ
“เผ่าวิญญาณร้ายของพวกเจ้าคิดจะทำสิ่งใดอยู่กันแน่ ฐานที่ตั้งเผ่าวิญญาณร้ายของพวกเจ้าอยู่ที่ใด?” น้ำเสียงของอินรั่วเฉินพลันเย็นชาลงมาก
คนเหล่านี้หัวเราะขึ้น “ฮ่า ๆ ๆ! พวกข้ายอมรับว่าพวกข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเจ้า แต่คิดจะให้พวกข้าทรยศหักหลังเผ่าวิญญาณร้ายแล้วละก็ พวกเจ้าฝันไปเถอะ”
ตูม!
พวกเขาปล่อยพลังอันน่าสะพรึงกลัวออกมาอย่างเด็ดเดี่ยวเพื่อจะทำลายตัวเอง!
“ระวัง!” แสงแห่งธรรมที่สองสกัดกั้นพลังที่ระเบิดออกมานั้น จึงทำให้คนอื่นไม่ได้รับบาดเจ็บ
ทำลายตัวเองไปแล้ว ไม่เหลือร่องรอยใด ๆ เอาไว้เลย คิดจะสืบข่าวยิ่งเป็นไปไม่ได้!
มู่เฉียนซีพึมพำเสียงเบาว่า “คนของเผ่าวิญญาณร้ายช่างรับมือยากเกินไปแล้ว”
ในตอนนี้คนของเผ่าโบราณเหล่านั้นยังไม่ได้สติกลับมา เพราะเรื่องทุกอย่างมันเกิดขึ้นรวดเร็วมาก
ทว่า พวกเขาถูกช่วยชีวิตได้แล้ว
“พวกท่าน…พวกท่านเป็นคนของแคว้นเทพฟ้านอินเหรอ! ขอบคุณพวกท่านมากที่ช่วยชีวิตพวกเราเอาไว้ พวกเราซาบซึ้งใจจริง ๆ”
มู่เฉียนซีกล่าว “พวกเจ้าไม่ต้องพูดไร้สาระ แค่ตอบแทนที่ข้าช่วยชีวิตพวกเจ้าเอาไว้ก็แล้วกัน”
“ตอบแทน?” พวกเขามองหน้ามู่เฉียนซีด้วยความสงสัย
“พาพวกข้าไปตระกูลโบราณของพวกเจ้า”
เมื่อพวกเขาได้ยินเช่นนี้เข้าก็โกรธเกรี้ยวขึ้นทันที
“ไม่มีทาง คนนอกจะเข้าไปในตระกูลโบราณไม่ได้เด็ดขาด อย่าทำให้พวกเราลำบากใจเลย”
“ใช่! โดยเฉพาะคนของแคว้นเทพฟ้านอิน”
“……”
ดูท่ากฎของตระกูลโบราณจะเข้มงวดมาก
มู่เฉียนซีชี้ไปที่ศพร่างหนึ่งและกล่าวว่า “พวกเจ้าบอกว่าคนนอกเข้าไปในตระกูลโบราณไม่ได้ แล้วคนผู้นั้นล่ะ ดูเหมือนว่าเขาก็ไม่ใช่คนของตระกูลโบราณเหมือนกันกระมัง!”
“ปรมาจารย์จางไม่เหมือนคนอื่น เขาเป็นนักปรุงยา”
มู่เฉียนซี “พวกเจ้าหมายความว่า หากเป็นนักปรุงยาก็สามารถเข้าไปในตระกูลโบราณได้ใช่หรือไม่ ข้าเองก็เป็นนักปรุงยาเหมือนกัน”
พวกเขามองมู่เฉียนซีอย่างพิจารณา “ท่าน ท่านเป็นนักปรุงยาเหรอ?”
“ต่อให้เป็นนักปรุงยาก็เข้าไม่ได้ เพราะพวกเจ้าเป็นคนของแคว้นเทพฟ้านอิน”
มู่เฉียนซีเอามือตบไหล่อินรั่วเฉินเบา ๆ พลางกล่าว “ดูท่าเจ้าจะพาข้าลำบากแล้วล่ะ ข้าไม่ใช่คนของแคว้นเทพฟ้านอิน หรือว่าจะให้ข้าเข้าไปหาเบาะแสก่อน?”
อินรั่วเฉินกล่าวปฏิเสธทันใด “ไม่ได้! ตอนนี้เรายังไม่รู้แน่ชัดว่าพวกเผ่าวิญญาณร้ายแอบแฝงตัวเข้าไปในตระกูลโบราณมากเท่าใดแล้ว เจ้าเข้าไปเพียงลำพังมันอันตรายเกินไป”
“ข้าจะเกลี้ยกล่อมพวกเขาเอง!”
อินรั่วเฉินมองพวกเขาด้วยสายตาที่อ่อนโยนพลางกล่าว “พวกท่านจะฟังคำพูดของข้าสักหน่อยได้หรือไม่”
ทุกคนรู้สึกว่าหญิงสาวที่แต่งตัวงดงามผู้นี้ดูแปลกประหลาดมาก นึกไม่ถึงเลยว่าจะทำให้พวกเขารู้สึกได้ถึงแสงสว่างอันบริสุทธิ์และศักดิ์สิทธิ์ได้
“ก็ได้! อย่างไรเสียพวกท่านก็เป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตพวกเราไว้”
อินรั่วเฉินเอ่ยปากกล่าวว่า “เมื่อครู่พวกท่านก็เห็นแล้วว่าคนเหล่านั้นมีพลังชั่วร้ายมากเพียงใด พลังนี้สามารถคุกคามดินแดนสี่ทิศได้ พวกนั้นปรารถนาจะเอาของล้ำค่าของตระกูลโบราณไป ไม่รู้ว่าแฝงตัวเข้าไปในตระกูลโบราณกี่คนแล้ว หากไม่ขวางพวกนั้นไว้ บางทีตระกูลโบราณของพวกท่านอาจจะเกิดอันตรายขึ้นก็ได้”
.