ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1414 ต้องรอบคอบ
“เรื่องนี้พวกเราจะไปรายงานต่อผู้อาวุโสในตระกูลแน่นอน! ตระกูลโบราณของพวกเราเป็นถึงกองกำลังระดับสาม จะกลัวเผ่าวิญญาณร้ายนั่นได้ยังไงกัน”
แม้พวกเขาจะเห็นด้วยกับสิ่งที่อินรั่วเฉินกล่าว แต่พวกเขาก็ยังคงปฏิเสธอยู่ดี
ต่อให้เผ่าวิญญาณร้ายแข็งแกร่งมาก แต่หนุ่มสาวที่อายุน้อยกว่าพวกเขาสองคนนี้ก็ไม่อาจทำอะไรได้อยู่ดี
มู่เฉียนซีกระซิบข้างหูอินรั่วเฉินด้วยถ้อยคำหยอกล้อว่า “ดูท่าเจ้าเป็นคนที่ล้างสมองคนไม่ค่อยจะเก่งนะ!”
คนตระกูลโบราณเหล่านี้มีจิตใจต่อต้านคนของแคว้นเทพฟ้านอินมาก ดังนั้นต่อให้โอรสศักดิ์สิทธิ์เป็นผู้บริสุทธิ์ผุดผ่องและมีความเมตตามากเพียงใดก็ไม่สามารถเปลี่ยนใจคนเหล่านี้ได้
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ข้าจะไม่พูดจาไร้สาระกับพวกเจ้าเหมือนพระองค์นี้นะ พวกเจ้ามีทางเลือกเพียงแค่สองทางเลือกเท่านั้น”
พระ! องครักษ์ตระกูลโบราณเหล่านี้เกิดความสับสนขึ้น
ตรงนี้มีเพียงแค่หญิงสาวผู้งดงามกับเจ้าหนุ่มผู้นี้เท่านั้น พระมาจากไหนกัน?
“ทางเลือกแรก พวกเจ้าพาพวกข้าเข้าไปในตระกูลโบราณแต่โดยดี ส่วนทางเลือกที่สอง! ก็คือความตาย”
มู่เฉียนซีเผยจิตสังหารอันเข้มข้นออกมา ทำให้พวกเขาตื่นตระหนกตกตะลึงพรึงเพริดเป็นอย่างยิ่ง
“พวกท่าน…พวกท่านเป็นคนของแคว้นเทพฟ้านอินไม่ใช่เหรอ เหตุใดถึงลงมือฆ่าคนได้…”
ตอนนี้พวกเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส ถึงแม้ว่าสองคนนี้จะไม่ได้มีพลังสูงสุด แต่พวกเขาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของสองคนนี้อยู่ดี
มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าวว่า “เขาใช่ แต่ข้าไม่ใช่ พวกเจ้ารีบ ๆ เลือกเร็ว ๆ เข้า ข้าไม่อยากเสียเวลาไปมากกว่านี้”
“ต่อให้พวกข้าต้องตาย พวกข้าก็ไม่มีทางทรยศหักหลังตระกูลโบราณเป็นอันขาด!”
“ใช่! พวกข้ายอมตาย”
“……”
“ความตระหนักรู้ดีมาก! แต่หากตกอยู่ในกำมือของข้าแล้ว ต่อให้พวกเจ้าอยากตาย หากข้าไม่ให้ตายพวกเจ้าก็จะตายไม่ได้”
พวกเขานึกไม่ถึงเลยแม้แต่น้อยว่าทันทีที่แสงเย็นยะเยือกนับไม่ถ้วนสว่างวาบขึ้น ภายในชั่วพริบตาเดียวพวกเขาก็หมดสติไปแล้ว
อินรั่วเฉินกล่าว “เช่นนั้นต้องรบกวนแม่นางมู่แล้ว”
เขารู้ดีว่าด้วยอุบายการใช้พิษของมู่เฉียนซีนั้นจะทำให้ภารกิจสำเร็จอย่างราบรื่นได้แน่นอน
มู่เฉียนซีกล่าวหยอกล้อว่า “ข้าคิดว่าโอรสศักดิ์สิทธิ์ฟ้านอินจะบอกว่าวิธีของข้าไม่โปร่งใสและจะไม่ให้ข้าทำซะอีก”
อินรั่วเฉินกล่าว “เรื่องเร่งด่วน จะคิดมากไม่ได้”
“วางมาดได้ภูมิฐานดี!”
เป๊าะ! มู่เฉียนซีดีดนิ้วหนึ่งครั้ง คนที่หมดสติไปก็ลืมตาขึ้นมา
มู่เฉียนซีกล่าวถาม “ตระกูลโบราณของพวกเจ้าเชิญนักปรุงยาไปด้วยเหตุอันใด?”
“หัวหน้าเผ่าของพวกเราป่วยหนัก นักปรุงยาในเผ่าไร้หนทางรักษา พวกเราเลยมาเชิญนักปรุงยาที่มีความสัมพันธ์อย่างลับ ๆ กับเผ่าโบราณของพวกเราไปรักษาท่านหัวหน้าเผ่า”
“และปรมาจารย์จางก็เป็นหนึ่งในนักปรุงยานั่นอย่างนั้นเหรอ”
พวกเขาพยักหน้า “ใช่!”
เรื่องอื่น ๆ มู่เฉียนซีก็ไม่ได้ถามอะไรมากนัก เข้าไปในเผ่าโบราณได้เมื่อไหร่ก็จะได้รู้สถานการณ์ที่แน่ชัดเอง
นางสะกดจิตพวกเขา “ข้าเป็นศิษย์ของปรมาจารย์จาง ปรมาจารย์จางป่วยหนัก มาไม่ได้ จึงส่งข้ามาแทน และคนข้างกายข้าผู้นี้ก็คือภรรยาของข้า”
อินรั่วเฉินได้ยินเช่นนี้ก็ตกใจขึ้น “ภรรยา! แม่นางมู่ ขะ ข้า ข้าแต่งเป็นชายปลอมตัวเป็นเด็กเก็บสมุนไพรให้เจ้าก็ได้นะ ออกมาข้างนอกแล้วต้องเป็นภรรยาคนอื่นเช่นนี้ มันช่าง…”
มุมปากของมู่เฉียนซียกยิ้มขึ้นเล็กน้อย “ออกมาข้างนอก พาภรรยามารักษาอาการป่วยของหัวหน้าเผ่าด้วย มันแสดงให้เห็นว่าข้าจะประมาทไม่ได้ เมื่อถึงตอนนั้นก็จะหาเหตุผลมาขจัดความสงสัยของพวกเขาได้!”
“เอาตามที่ข้าว่านี่แหละ”
มู่เฉียนซีเพิกเฉยต่อการคัดค้านของอินรั่วเฉินไปโดยปริยาย
อินรั่วเฉินเองก็จนปัญญาเช่นกัน เขารู้ดีว่ามู่เฉียนซีเป็นคนที่แค้นฝังใจและจะต้องเอาคืนให้ได้ แต่น่าเสียดายที่เขาไม่มีทางคัดค้านได้เลย
มู่เฉียนซีสะกดจิตคนเหล่านี้ต่อ นางกล่าวถามว่า “พวกเจ้าได้ยินกันชัดแล้วใช่หรือไม่?”
มู่เฉียนซีกล่าว “ระหว่างทางพวกเราได้เจอกับกลุ่มคนชุดดำลึกลับกลุ่มหนึ่ง พวกเจ้าปกป้องพวกข้าเป็นอย่างดี แต่พวกเจ้าก็ได้รับบาดเจ็บจนได้”
ให้คนเผ่าโบราณระมัดระวังคนของเผ่าวิญญาณร้ายสักหน่อยก็ดี
หลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว มู่เฉียนซีก็กล่าวว่า “เรียบร้อย แต่ยาสะกดจิตนี้ของข้าใช้ได้เพียงแค่เจ็ดวันเท่านั้น เวลาแค่นี้พอหรือไม่?”
อินรั่วเฉินพยักหน้า “เจ็ดวันก็เพียงพอแล้ว”
มีคนของเผ่าโบราณนำทางเช่นนี้ พวกเขาจึงเข้าไปใกล้ฐานที่ตั้งของเผ่าโบราณได้อย่างสบายมาก ผ่านค่ายกลป้องกันของพวกเขาไปได้ และเข้าไปในเผ่าโบราณแล้ว
อาณาเขตของเผ่าโบราณกว้างใหญ่กว่าเมืองเล็ก ๆ เมื่อครู่มาก
หลังจากที่ได้ย่างกรายเข้ามาในที่แห่งนี้แล้ว มู่เฉียนซีรับรู้ได้ว่าพลังวิญญาณในที่แห่งนี้แข็งแกร่งกว่าโลกภายนอกมาก
นางกล่าวขึ้นด้วยความประหลาดใจเล็กน้อยว่า “เผ่าโบราณหาสถานที่ซ่อนตัวได้ไม่เลวเลยจริง ๆ!”
หนึ่งในองครักษ์ผู้หนึ่งกล่าวว่า “แน่นอนอยู่แล้ว ปรมาจารย์มู่ ที่ตั้งของเผ่าโบราณจะธรรมดาซะที่ไหนกันล่ะ แม้ว่าตำหนักแคว้นเทพฟ้านอินจะเหลืองอร่ามแพรวพราว แต่หากเปรียบเทียบกันเรื่องความเข้มข้นของพลังวิญญาณแล้วละก็ ไม่มีทางสู้เผ่าโบราณของพวกเราได้แน่นอน”
ในตอนนี้เองก็มีคนอีกกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา
“หลิ่วฮุย นี่พวกเจ้าทำงานกันยังไง ข้าให้ไปเชิญปรมาจารย์จางมาไม่ใช่เหรอ เหตุใดถึงไปเชิญเจ้าหนุ่มหน้าอ่อนนี่มาได้ แถมยังพาสตรีมาอีก” ชายชราท่าทางกระปรี้กระเปร่ากล่าวขึ้นด้วยความโกรธเกรี้ยว
หลิ่วฮุยผู้เป็นหัวหน้าองครักษ์ของกลุ่มนี้รีบรายงานกลับไปว่า “ท่านผู้อาวุโสเหอ พวกเราไปเชิญปรมาจารย์จางมาแล้ว แต่ปรมาจารย์จางมาไม่ได้ขอรับ จึงส่งศิษย์กับภรรยาของศิษย์ผู้นี้มาแทนขอรับ”
“ชิ!” เสียงชิชะดูถูกดังขึ้นหนึ่งครา
“ตาเฒ่านั่นก็ไม่ได้เก่งกาจอะไรมากนัก นับประสาอะไรกับศิษย์ของเขา! มาตรวจดูอาการป่วยของท่านหัวหน้าเผ่าโบราณก็ยังจะพาภรรยาติดตัวมาด้วย ช่างวุ่นวายเสียจริง! ให้พวกเขาไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้เลย อาการป่วยของท่านหัวหน้าเผ่าโบราณ หุบเขาเทพโอสถของพวกข้ารักษาให้หายได้”
คนที่ถูกรับเชิญมาให้รักษาอาการป่วยของท่านหัวหน้าเผ่าโบราณล้วนแต่เป็นนักปรุงยาของกองกำลังที่ซ่อนตัวจากโลกภายนอกทั้งสิ้น และยังมีนักปรุงยาผู้เป็นอิสระบางส่วนด้วย
ปรมาจารย์จางเป็นผู้น้อย แต่ชายชราผู้ที่กล่าวนี้กลับเป็นผู้อาวุโส
แต่ถึงกระนั้น คนเหล่านี้ก็ล้วนแต่เข้าร่วมการประลองการปรุงยาครั้งใหญ่ของดินแดนสี่ทิศมาแล้วทั้งนั้น และพวกเขาทั้งหมดก็ล้วนแต่พ่ายแพ้ไปด้วยน้ำมือของมู่เฉียนซีทั้งสิ้น
หากพวกเขารู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของมู่เฉียนซีแล้วละก็ คาดว่าต้องขุดหลุมฝังศพตัวเองเป็นแน่
หลิ่วฮุยกล่าว “ไหน ๆ ปรมาจารย์มู่ก็มาแล้ว! ให้เขาแสดงความสามารถสักหน่อยเถอะ!”
ปรมาจารย์เซียวแห่งหุบเขาเทพโอสถเหลือบมองมู่เฉียนซีและกล่าวว่า “เจ้าแซ่มู่อย่างนั้นเหรอ!”
เขาถอนหายใจออกมาครั้งหนึ่งก่อนจะกล่าวว่า “แซ่มู่เหมือนกัน แต่แตกต่างกันมาก! ดูท่าแล้วฝีมือเจ้าก็คงจะไม่เท่าไร ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีพรสวรรค์ในการปรุงยาที่ต้านสวรรค์เหมือนดั่งปรมาจารย์มู่ท่านนั้น”
มุมปากของมู่เฉียนซีกระตุกอย่างรุนแรง แต่นางก็ยังกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “อืม!”
“ช่างน่าเสียดายจริง ๆ! ที่มีสามีแย่เช่นนี้” ปรมาจารย์เซียวกล่าวอย่างทอดถอนใจ
หัวหน้าตำหนักเป่ยหานลืมบุญคุณคน เรื่องที่เขาเสร็จศึกฆ่าโคนั้นคนทั่วทั้งดินแดนสี่ทิศล้วนแต่รู้กันหมดแล้ว
มู่เฉียนซีและหอหมอปีศาจมีชื่อเสียงโด่งดังและเป็นที่เคารพนับถือในหมู่นักปรุงยามาก ดังนั้นตำหนักเป่ยหานจึงเป็นที่เกลียดชังของเหล่านักปรุงยาทุกคนไปแล้ว
ปรมาจารย์เซียวก็ไม่ได้พูดจาไร้สาระกับผู้น้อยมากมายนัก ไม่นานนักเขาก็ก้าวเท้ายืดอกเชิดหน้าแล้วเดินจากไป
หลิ่วฮุยกล่าว “ปรมาจารย์มู่ เชิญทางนี้!”
หลังจากที่จัดการเรื่องที่พักให้มู่เฉียนซีเรียบร้อยแล้ว หลิ่วฮุยก็กลับไปใช้ชีวิตตามปกติ
เรื่องที่ถูกคนลึกลับลอบโจมตีนั้น หลังจากได้ทราบเรื่องก็ทำให้เผ่าโบราณเตรียมการป้องกันเป็นพิเศษ
“เฝ้าค่ายกลป้องกันเอาไว้ให้ดี อย่าให้เกิดความผิดพลาดขึ้นเป็นอันขาด”
“ขอรับ!”
เนื่องจากสถานะของอินรั่วเฉินในตอนนี้เป็นภรรยาของปรมาจารย์มู่ ดังนั้นเผ่าโบราณจึงเตรียมห้องให้พวกเขาเพียงแค่ห้องเดียว
อินรั่วเฉินกล่าว “แม่นางมู่ ขะ…ข้าจะไปข้างนอก!”
มู่เฉียนซีเดินไปข้างกายเขาและกระซิบบอกเขาว่า “ชู่ว! มีคนคอยแอบฟังเราอยู่!”
เผ่าโบราณมีความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ มีคนคอยจับตามองอยู่ในที่มืดเป็นจำนวนมาก ดูท่าคงจะเป็นเพราะว่าหัวหน้าเผ่าป่วยหนัก มิเช่นนั้นคงไม่มีทางเชิญนักปรุงยาจากข้างนอกมาเป็นอันขาด
.