ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1415 รีบร้องครวญครางเร็วเข้า
“แต่ข้า…”
มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าวว่า “อินรั่วเฉิน เจ้าเคยได้ยินคำนี้หรือไม่ คิดจะโกหกคนอื่นก็ต้องเตรียมการให้รอบคอบ”
ปัง! นางดึงอินรั่วเฉินเข้ามาและผลักเขาลงบนเตียงด้วยความรุนแรง
“แม่นางมู่ นี่เจ้า เจ้าจะทำอันใด?”
มู่เฉียนซีกล่าว “อินรั่วเฉิน เราก็เคยไปหอคณิกามาด้วยกันแล้ว เจ้าก็คงรู้กระมังว่าต้องทำเช่นไร! รีบส่งเสียงครวญครางเร็วเข้าสิ! ข้ารอฟังอยู่!”
“ส่งเสียงครวญครางอย่างนั้นเหรอ?” อินรั่วเฉินจ้องมองมู่เฉียนซี
“เจ้าก็ลองนึกถึงเสียงเมื่อคืนนั้นดูสิ นึกออกเดี๋ยวเจ้าก็ร้องครวญครางเป็น”
ความทรงจำที่อินรั่วเฉินไม่อยากจะจดจำในค่ำคืนนั้นก็ผุดขึ้นมาในสมองของเขาทันที
แต่ผลลัพธ์ที่ได้…
ผลลัพธ์ที่ได้คือหน้าตาของอินรั่วเฉินแดงก่ำ พลางกล่าวว่า “ไม่ได้! ข้าทำไม่เป็น”
มู่เฉียนซีกล่าว “ทำไม่เป็น! หรือว่าเจ้าอยากให้ข้าใช้วิธีวางยาเจ้า?”
“ยาของแม่นางมู่ใช้กับข้าไม่ค่อยได้ผลมากนัก!”
“หึ ๆ ๆ! ไม่ค่อยได้ผลมากนักอย่างนั้นเหรอ เช่นนั้นข้าก็จะเพิ่มปริมาณให้มากขึ้นเป็นสิบเท่า ร้อยเท่า เจ้าคิดว่ามันจะเป็นเช่นไร?” มู่เฉียนซียิ้มอย่างชั่วร้ายพลางมองไปที่เขา
รอยยิ้มของมู่เฉียนซีนี้ทำให้อินรั่วเฉินไม่สบายใจจริง ๆ
“ขะ ข้า…”
มู่เฉียนซีกล่าว “ลงมาเถอะ! ข้ากลัวว่าใช้ไปแล้วเจ้าจะกลายเป็นสวะไร้ประโยชน์เอา มิสู้ใช้ไม้ตายดีกว่า”
มู่เฉียนซีนั่งลงข้าง ๆ และกล่าวว่า “อู๋ตี้ เสี่ยวหง มอบให้เป็นหน้าที่ของพวกเจ้าแล้ว”
อู๋ตี้กับเสี่ยวหงได้ยินเช่นนี้ก็ตกตะลึงขึ้น “นายท่าน พวกเรา…พวกเรา…”
“อย่าบอกว่าพวกเจ้าทำไม่เป็นนะ!”
มู่เฉียนซีทำสีหน้าท่าทางสงสัยออกมา
“มา! ดื่มชาเถอะ!”
ฮี่ ๆ ๆ ฮ่า ๆ ๆ!
ไม่นานนักเสียงจั๊กจี้ก็ดังมาจากในห้อง
คนที่คอยจับตามองอยู่ในที่มืดล้วนแต่หมดคำพูดแล้วจริง ๆ “ตกลงศิษย์ของปรมาจารย์จางผู้นี้จะมารักษาอาการป่วยของท่านหัวหน้าเผ่าหรือมาเที่ยวเล่นกันแน่! ดึก ๆ ดื่น ๆ เช่นนี้แล้วยังมาเล่นเช่นนี้อีก ใช้ไม่ได้เลยจริง ๆ”
“ซวยจริง ๆ เหตุใดพวกเราถึงต้องมาจับตามองแล้วมาได้ยินอะไรเช่นนี้ด้วย!”
พวกเขาก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าคำพูดนี้ของพวกเขาจะทำให้คนสองคนโกรธเกรี้ยวขึ้นได้
อินรั่วเฉินที่เดิมทีรินน้ำชาใส่จอกแล้ว แต่เมื่อได้ยินคำพูดนี้เข้า เขาก็เกือบจะขว้างจอกน้ำชาทิ้ง
มู่เฉียนซีกล่าว “วันพรุ่งก็จะได้เจอหัวหน้าเผ่าโบราณแล้ว เจ้าอย่าได้เผยพิรุธออกมาเด็ดขาด”
ผ่านไปครึ่งค่อนคืนกว่าในห้องจะเงียบสงบลง มู่เฉียนซีเอาอู๋ตี้กับเสี่ยวหงโยนกลับเข้าไปในมิติ ส่วนนางก็เอนกายนอนลงบนเตียง
นางเหลือบมองอินรั่วเฉินและกล่าวว่า “เจ้าจะปูผ้านอนก็ตามสบายนะ”
นางไม่ใช่คนที่เห็นคนงามแล้วจะยอมอ่อนโยนให้ อีกอย่างอินรั่วเฉินก็เป็นชายที่ปลอมตัวแต่งเป็นหญิง
ในค่ำคืนนี้ อินรั่วเฉินได้แต่นั่งอยู่ข้าง ๆ ไม่ยอมนอน
ผ่านไปหนึ่งคืน เช้าวันต่อมา นักปรุงยาประมาณเจ็ดแปดคนได้มารวมตัวกันที่ห้องโถง
ส่วนมู่เฉียนซีนั้นก็เป็นแค่เจ้าเด็กคนหนึ่งในสายตาของพวกเขาก็เท่านั้น เป็นแค่คนไร้ประโยชน์ แค่อย่าก่อเรื่องวุ่นวายก็พอ
นายน้อยแห่งเผ่าโบราณก็มีอายุมากกว่าห้าสิบปีแล้ว และถึงแม้ว่าเขาจะเป็นถึงนายน้อยแห่งเผ่า แต่เขาก็มีความเคารพต่อนักปรุงยามาก
อินรั่วเฉินผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาถูกมู่เฉียนซีทิ้งไว้ให้อยู่ในห้อง แต่อันที่จริงกลับแอบสืบข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์ของเผ่าโบราณอยู่
นายน้อยแห่งเผ่ากล่าว “ทุกท่าน ตามข้ามาเถอะ!”
นักปรุงยาเหล่านี้เดินเข้าไปในห้องนอนของท่านหัวหน้าเผ่าที่ได้รับการตกแต่งเป็นอย่างดี แสดงให้เห็นถึงอำนาจของผู้เป็นหัวหน้าเผ่า
หลังจากที่ตรวจร่างกายเรียบร้อยแล้ว นักปรุงยาเหล่านี้ก็กล่าวขึ้นด้วยความมั่นใจว่า “ดวงจิตของท่านหัวหน้าเผ่าได้รับบาดเจ็บสาหัส ตราบใดที่หลอมยาขั้นสวรรค์ฟื้นฟูจิตวิญญาณออกมาได้ อาการของท่านหัวหน้าเผ่าก็จะดีขึ้น และข้าก็มีสูตรยาลับอยู่พอดี”
นักปรุงยาอีกท่านหนึ่งกล่าวขึ้นว่า “สูตรยากระจอก ๆ ของท่านจะสู้สูตรยาของข้าได้อย่างไรกัน ข้ารับรองได้ว่าหากข้าหลอมยาออกมาได้สำเร็จ ท่านหัวหน้าเผ่าก็จะฟื้นขึ้นมาทันที”
“พวกเจ้าทำไม่ได้หรอก สูตรยาของข้าต่างหากเล่าที่…”
นักปรุงยาเหล่านี้ต่างแย่งชิงกันจนหน้าดำหน้าแดงแล้ว และในตอนนี้เองนายน้อยแห่งเผ่าก็กล่าวขึ้นว่า “นักปรุงยาของเผ่าโบราณของข้าได้ให้ยาฟื้นฟูดวงจิตท่านพ่อข้ามามากมายหลายชนิดแล้ว หากให้ท่านพ่อข้ากินยาฟื้นฟูดวงจิตเข้าไปอีก ข้าเกรงว่าดวงจิตของท่านพ่อข้าจะยิ่งสาหัสหนักขึ้น”
นักปรุงยาเหล่านี้ต่างขมวดคิ้วขึ้นด้วยความเป็นกังวล “เคยให้กินแล้วอย่างนั้นเหรอ?”
“ขอข้าตรวจดูอาการอีกที”
“……”
สุดท้ายยิ่งตรวจดูอาการมากเท่าไร ในใจของพวกเขาก็ยิ่งสิ้นหวังมากขึ้นเท่านั้น
เดิมทีพวกเขามีความมั่นใจเต็มร้อย แต่ตอนนี้กลับเกิดความกังวลขึ้นแล้ว
หากยิ่งทำให้อาการของท่านหัวหน้าเผ่าทรุดลง ผลลัพธ์ที่ตามมานั้นพวกเขาไม่สามารถแบกรับได้
นายน้อยแห่งเผ่ากล่าว “ข้าอยากให้นักปรุงยาทุกท่านแสดงความสามารถในการหลอมยา ไม่ว่าจะหลอมยาออกมาสำเร็จหรือไม่สำเร็จ เผ่าโบราณของข้าก็จะมอบของล้ำค่าให้”
ทันทีที่ได้ยินว่าไม่ว่าจะหมอสำเร็จหรือไม่ก็จะมอบของล้ำค่าให้เช่นนี้ พวกเขาก็รู้สึกตื่นเต้นดีใจเป็นอย่างมาก
อย่างไรเสีย นั่นก็เป็นถึงของล้ำค่าที่หาได้ยาก
ในตอนนี้เองมู่เฉียนซีก็กล่าวขึ้นว่า “นายน้อยแห่งเผ่า ให้ข้าตรวจดูอาการท่านหัวหน้าเผ่าได้หรือไม่?”
“เจ้าหนุ่ม เจ้าดูไปก็ทำอะไรไม่ได้หรอก”
“นั่นนะสิ! อย่ารบกวนเวลาพักผ่อนของท่านหัวหน้าเผ่าเลยจะดีกว่า”
“……”
มู่เฉียนซี “นายน้อยแห่งเผ่า ข้าเป็นตัวแทนของท่านอาจารย์ จะไม่ให้ข้าตรวจดูอาการท่านหัวหน้าเผ่าสักหน่อยเหรอ เช่นนั้นข้าก็คงจะมาเสียเที่ยวแล้วนะสิ”
นายน้อยแห่งเผ่าได้ยินเช่นนี้ก็ขมวดคิ้วขึ้นด้วยความไม่พอใจ เมื่อเช้านี้มีคนมารายงานเขาแล้วว่าเมื่อคืนเจ้าหนุ่มผู้นี้กระทำเรื่องอันใดลงไป
ตอนนี้ยังมีแรงหลอมยา ใครจะเชื่อ!
แต่ก็เอาเถอะ ถือว่าเห็นแก่หน้าของปรมาจารย์จาง เขาจึงกล่าวว่า “ก็ได้ ไปตรวจดูการอาการท่านพ่อข้าเถอะ!”
ทันทีที่มู่เฉียนซีตรวจดูอาการ ปรมาจารย์นักปรุงยาเหล่านี้พูดถูกแล้ว ดวงจิตของเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส!
แต่ไม่เพียงเท่านั้น เขายังโดนพิษอีกด้วย!
แค่กินยาเข้าไป ยาเหล่านั้นก็จะถูกพิษทำลายลง จากนั้นอาการของท่านหัวหน้าเผ่าก็จะยิ่งทรุดลง
อาการหนัก!
มู่เฉียนซีเดินออกไป ปรมาจารย์นักปรุงยาเหล่านั้นกล่าวว่า “ตรวจดูอาการเสร็จแล้วก็อย่ามัวแต่เสียเวลาเลย พวกข้าจะเตรียมตัวหลอมยา”
“นายน้อยแห่งเผ่า นี่คือสูตรยาฟื้นฟูดวงจิตที่ข้าจะหลอม โปรดเตรียมสมุนไพรเหล่านี้ให้ข้าด้วย”
“นี่ของข้า…”
“ส่วนนี่ของข้า…”
เผ่าโบราณให้พวกเขาหลอมยา และแน่นอนว่าเผ่าโบราณจะต้องเตรียมสมุนไพรให้กับพวกเขา!
อย่างไรเสียสมุนไพรที่จะหลอมยาขั้นสวรรค์ก็เป็นของที่ล้ำค่ามาก!
ส่วนมู่เฉียนซีเองก็เขียนสูตรยาและมอบให้นายน้อยแห่งเผ่าเช่นกัน “รีบไปเตรียมสมุนไพรเร็วเข้าเถอะ!”
พวกเขาแอบพึมพำเสียงเบาว่า “เจ้าหนุ่มนี่วางมาดมากเกินไปแล้ว! คิดจริง ๆ เหรอว่าจะหลอมยาขั้นสวรรค์ออกมาได้สำเร็จน่ะ”
นายน้อยแห่งเผ่ากล่าว “ข้าจะให้คนรีบไปเตรียมเร็วที่สุด สมุนไพรพร้อมเมื่อไหร่ข้าจะส่งคนไปเชิญทุกท่าน เชิญทุกท่านไปพักผ่อนก่อนเถอะ”
“อืม!”
จากนั้นพวกเขาก็แยกย้ายกันกลับไปยังที่พัก
ในขณะที่มู่เฉียนซีกลับไปในห้อง ร่างในชุดสีม่วงแดงร่างหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้ามู่เฉียนซี
แม้ว่านี่จะเป็นฝีมือการปลอมตัวของนาง แต่เมื่อได้เห็นหญิงสาวผู้งดงามปรากฏตัวตรงหน้าอย่างกะทันหันเช่นนี้ มู่เฉียนซีก็ตกใจผงะไปเช่นกัน ก่อนที่จะยิ้มพลางเอ่ยเสียง ชิชะ ขึ้น
“โอรสศักดิ์สิทธิ์ฟ้านอิน มาโผล่ตรงหน้าข้าไร้สุ่มไร้เสียงเช่นนี้ ข้าก็นึกว่าจะมีสตรีมาทำไม่ดีไม่ร้ายกับข้าซะอีก!”
เผชิญหน้ากับความลามกของนางเช่นนี้ อินรั่วเฉินจึงเอาความเงียบเข้าสู้ มู่เฉียนซีจึงกล่าวต่อว่า “เจ้าค้นพบเบาะแสอะไรบ้างหรือไม่?”
อินรั่วเฉินกล่าว “ไม่พบคนของเผ่าโบราณเลย แต่เผ่าโบราณนี้ค่อนข้างแปลก ยอดฝีมือขั้นสูงสุดมีจำนวนใกล้เคียงกับแคว้นเทพฟ้านอินแล้ว”
มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าว “แปลกตรงไหน! บางทีการที่พวกเขาซ่อนตัวห่างจากโลกภายนอกก็เพื่อฝึกฝนกองกำลังให้แข็งแกร่งกว่าแคว้นเทพฟ้านอิน และมาแทนที่แคว้นเทพฟ้านอินก็ได้!” มีความเป็นไปได้ มิเช่นนั้นคนของเผ่าโบราณก็คงจะไม่หวาดกลัวต่อแคว้นเทพฟ้านอิน และตั้งตนเป็นศัตรูกับแคว้นเทพฟ้านอินเช่นนี้
.