ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 142 มู่ซีหมอปีศาจ
ฉากของเทือกเขาเหิงเทียน เขานึกว่ามันเป็นเพียงความฝัน ไม่คิดว่าจะได้พบเห็นมันอีก
มู่เฉียนซียิ้มเยาะ กล่าวว่า ที่แท้เจ้าเป็นบุตรชายคนเล็กแห่งจวนกั๋วกงนี่เอง ข้าเป็นเถ้าแก่ใหญ่ของหอหมอปีศาจ บอกจุดประสงค์ของเจ้ามาเถอะ
ช่วงนี้ท่านปู่ป่วยหนัก แม้จะใช้บัวจันทราสามชีวิต อาการก็ยังไม่ดีขึ้น ข้าอยากจะขอเชิญนักปรุงยาขั้นสูงผู้นั้นไปรักษาอาการป่วยให้ท่านปู่ของข้า
ในตอนนี้เอง เสียงพูดอย่างไม่แยแสลอยมา ข้าไม่ไปรักษานอกสถานที่ เมื่อเผชิญกับคนด้านนอก เขากล่าวออกมาอย่างไม่สนใจใยดี ราวกับเทวดาผู้ไม่ละโมบในสิ่งใด แม้แต่กล่าวอย่างไว้หน้าก็ไม่เลย
ไป๋มู่เฟิงตะลึงงัน กล่าวตะกุกตะกักไป ขะ… เขา… เขาเป็นนักปรุงยาระดับสูง แต่เขากลับยังอายุน้อยอยู่เลย เป็นไปได้อย่างไร ?
มู่เฉียนซีโบกมือ กล่าวว่า นักปรุงยาของข้านั้นเป็นคนที่อารมณ์ไม่ค่อยดีนัก หากเขาไม่ยอมออกไปรักษา ข้าก็ไม่บังคับเขา
เช่นนั้นท่านปู่… ดวงตาของไป๋มู่เฟิงฉายแววเศร้าหมอง
มู่เฉียนซีลุกขึ้น นางเดินไปหาเขาและยิ้มให้ เจ้าไปรอข้างล่างก่อนเถอะ แม้ว่านักปรุงยาระดับสูงของเราจะไม่ยอมขายของ แต่ข้าจะหาคนที่เก่งกว่าเจ้าหมอนั่นไปรักษาปู่ของเจ้าให้
แววตาไป๋มู่เฟิงเป็นประกาย หรือว่าจะเป็นนักปรุงยาแซ่หลิวผู้ลึกลับคนนั้น
เจ้าคาดเดาถูกแล้ว เจ้าลงไปรอด้านล่างก่อน เดี๋ยวเขาก็มาแล้วล่ะ มู่เฉียนซีกล่าวพร้อมยิ้มจาง ๆ
ได้
เยวี่ยเจ๋อ จวินโม่ซีคงจะไม่ได้ตอบตกลงกับเจ้าเป็นแน่ แต่เป็นพี่ใหญ่ที่ตอบตกลงกับเจ้าใช่หรือไม่ ?!
ไป๋มู่เฟิงตอบอย่างตื่นเต้น หัวหน้าหอหมอปีศาจบอกกับข้าว่าจะให้หมอตามข้าไป ในที่สุดข้าก็จะได้พบกับหมอหลิวในตำนานแล้ว เฮ!
แม้ว่านักปรุงยาในทวีปเซี่ยโจวจะมีน้อย แต่ก็ใช่ว่าไม่มี ผู้ที่สามารถปรุงยาออกมาได้ในระดับขั้นที่ใกล้เคียงกับยาวิเศษนั้น แต่ไหนแต่ไรมาทั้งทวีปเซี่ยโจวมีเพียงแค่คนเดียวนั่นก็คือ—หมอปีศาจแห่งหอหมอปีศาจ
ดังนั้น เขาจึงสนใจเกี่ยวกับหมอปีศาจในตํานานเป็นที่สุด
แต่เยวี่ยเจ๋อรู้ดีว่า หมอในตำนานผู้นั้น แท้จริงแล้วก็คือพี่ใหญ่นั่นเอง เป็นเพราะพี่ใหญ่ของเขาต้องการสร้างอิทธิพล นางจึงทำให้หมอปีศาจผู้นี้กลายเป็นผู้ลึกลับอย่างที่สุด ไม่ยอมเปิดเผยตนเองออกมา แต่… เป็นไปได้ไหมว่าตอนนี้พี่ใหญ่พร้อมที่จะเปิดเผยตัวเอง ?
เมื่อเด็กหนุ่มที่ดูราวกับปีศาจปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเยวี่ยเจ๋อ เขาก็ตะลึงอึ้งไป
ผมสีเขียวเทายาวเลยลงจากบ่า ดูนุ่มวาวราวกับผ้าไหมชั้นดี ขนตาหนางามราวกับปีกผีเสื้อที่มีดวงตาสีเขียวอ่อนเป็นประกาย นี่เป็นเหมือนดั่งปีศาจไร้เดียงสา อีกทั้งยังมีเสน่ห์สะกดจิตใจผู้คน
ริมฝีปากแดงเรื่อ น้ำเสียงเหมือนดั่งน้ำพุใสไหลออกมา ไม่ใช่ว่าให้ข้าไปดูอาการหรอกรึ ? ยังไม่รีบนำทางอีก
คนแปลกหน้าผู้นี้เดินเข้ามา ตอนแรกเยวี่ยเจ๋อไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร แต่การพูดเช่นนี้แม้จะเปลี่ยนโทนเสียง เยวี่ยเจ๋อก็จำเขาได้
นี่คือพี่ใหญ่ของเขาเอง เพียงแต่ว่า… พี่ใหญ่ทําได้อย่างไร ถึงกับเปลี่ยนไปเหมือนคนอีกคนหนึ่ง นางดูราวกับเป็นเด็กหนุ่มที่งดงามผู้ซึ่งไม่อยู่ในโลกนี้แต่อยู่ในโลกจินตนาการ
ไป๋มู่เฟิงตะลึงงัน ฉงนอย่างหนัก เขาเอ่ยถามขึ้น เจ้า… เจ้าคือ…
มู่เฉียนซียิ้ม ข้ามู่ซี เจ้าของหอหมอปีศาจ หมอปีศาจมู่ซีไงเล่า
ไป๋มู่เฟิงตะลึงงันอีกครา โอ้! ข้าไม่เคยคิดเลยว่า เจ้าจะอายุน้อยกว่านักปรุงยาระดับสูงคนนั้นเสียอีก นี่มันเหลือเชื่อเกินไปแล้ว
มู่เฉียนซี ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เจ้าจะมาประหลาดใจ ถ้าเจ้าเชื่อข้าก็พาข้าไป สถานการณ์ของท่านกั๋วกงตอนนี้ไม่ดีนักมิใช่รึ ?
ไป๋มู่เฟิงได้สติกลับมา รีบกล่าวขึ้นว่า ใช่ ๆ ๆ มากับข้าเร็ว!
ไป๋มู่เฟิงรีบเดินนําหน้าอย่างร้อนรน มีมู่เฉียนซีในร่าง ‘มู่ซี’ เดินผ่านข้าง ๆ เยวี่ยเจ๋อ
มู่ซีกล่าวว่า เยวี่ยเจ๋อ ปฏิกิริยาตอบสนองของเจ้ายังเร็วมาก แต่จําไว้ ตอนนี้ข้าเป็นหมอปีศาจมู่ซี
แววตาของเยวี่ยเจ๋อฉายประกายสดใส เป็นพี่ใหญ่จริง ๆ ด้วย! เยวี่ยเจ๋อยิ้ม ท่านหมอปีศาจเดินทางปลอดภัย
…
ณ ประตูใหญ่ของจวนกั๋วกงที่ทั้งสูงตระหง่านเรียบง่าย
ไป๋มู่เฟิงยังไม่ทันได้เข้าไปในจวนเจ้าเมือง เสียงตําหนิพลันดังขึ้น ไป๋มู่เฟิง เจ้าสารเลว! ทอดทิ้งบ้านยังไม่วุ่นวายพอรึ ? กินอยู่สุขสบายแล้วยังจะหนีไปเทือกเขาเหิงเทียนเสี่ยงอันตราย เจ้ารังเกียจชีวิตที่ยืนยาวใช่ไหม ? ถ้าท่านพ่อตาย เจ้าจะสามารถรักษาตําแหน่งโอรสของเจ้าอย่างไร ? เจ้ารู้ไหมว่ามีกี่คนที่จ้องจะแย่งตำแหน่งของเจ้าไป ?
ทันใดนั้นลูกกลม ๆ ขนาดใหญ่ที่ใหญ่ราวกับกองภูเขากลิ้งออกมา ผู้ส่งสารหูใหญ่ ๆ หัวกลม ๆ มองดูแล้วให้ความรู้สึกเหมือนตือโป๊ยก่ายกลิ้งมา
มู่เฉีนนซีมองใบหน้าหล่อเหลาของไป๋มู่เฟิง ก่อนจะมองเลยไปที่ลูกกลม ๆ ตรงหน้า
ไม่มีทาง!
นี่คือพ่อของเด็กหนุ่มผู้นี้
ไป๋มู่เฟิง ท่านพ่อ ข้ารู้ว่าข้ากําลังทําอะไรอยู่ ท่านดื่มเหล้ากินเนื้อกอดสาวงามให้สำราญใจต่อเถอะ เรื่องของข้าท่านไม่ต้องห่วง
อ่า! ไม่ต้องเป็นห่วงเจ้ารึ ? ตาแก่นั่นคงอยู่ได้ไม่นานแล้ว หากเขาตายไปแล้ว เจ้าคงไม่สามารถรักษาตําแหน่งโอรสเอาไว้ได้ เจ้าทำให้ข้าไม่มีอันจะกินไปกับเจ้าด้วย ไป๋จื้อเฉิงด่าทออย่างโกรธเกรี้ยว
ไป๋มู่เฟิงกล่าว สีหน้าทาบทาเพียงแต่ความกระอักกระอ่วน คุณชายมู่ ตามข้ามา อย่าไปสนใจเขาเลย
แม้ว่าร่างกายของใต้เท้ากั๋วกงจะดูไม่ดี แต่ข้าปรุงยามาสองสามขวด รับรองว่าท่านกั๋วกงจะกระโดดโลดเต้นได้
เจ้าพูดจาเหลวไหลทั้งสิ้น ตอนนี้ท่านกั๋วกงมีเลือดลมอ่อนแอ อันตรายมาก เราจะต้อง…
กลุ่มนักปรุงยาที่มีสถานะไม่ต่ำในแคว้นชิงทะเลาะกันอยู่ในจวน ไป๋มู่เฟิงเดินเข้าไปหา กล่าวอย่างกรุ่นโกรธ หุบปากซะ พวกเจ้าหยุดทะเลาะกันได้แล้ว
ทุก ๆ วันพวกเจ้าเอาแต่ทะเลาะกัน อาการป่วยของท่านปู่ยิ่งแย่ลง
เป็นโอรสคนเล็ก! โอรสคนเล็กมา
ข้าน้อยคารวะคุณชาย
ข้าเคยเห็นคุณชายน้อยมาก่อน
เมื่อเห็นไป๋มู่เฟิงมาถึง พวกเขาก็เอ่ยปากขึ้นอย่างนอบน้อม แม้ว่าน้ำเสียงจะเคารพนับถือ ทว่าความเย่อหยิ่งบนใบหน้ายังคงอยู่ ทันใดนั้นเอง ชายวัยกลางคนในชุดขงจื๊อสีขาวเดินออกมา เขากล่าวว่า มู่เฟิง เจ้าอย่าได้ก่อเรื่องวุ่นวายเลย เจ้าพูดกับปรมาจารย์เหล่านี้ด้วยวาจาเช่นนั้นได้อย่างไร ?
ไป๋มู่เฟิงตะโกน ท่านลุงรอง ท่านมาแล้ว
ไป๋จื้อหลินสังเกตเห็นเด็กหนุ่มข้างกายไป๋มู่เฟิง เด็กหนุ่มคนนี้หน้าตาแปลก เขางดงามเกินไปไม่เหมือนมนุษย์ ไม่เคยเห็นคนเช่นนี้ในแคว้นชิงมาก่อนเลย เขาถามขึ้น มู่เฟิง เหตุใดอารองถึงไม่รู้ว่าเจ้ามีเพื่อนเช่นนี้ด้วย
ไป๋มู่เฟิง ท่านอารอง หนุ่มน้อยผู้นี้เป็นหมอปีศาจของหอหมอปีศาจ วันนี้ข้าเชิญเขามารักษาท่านปู่
หือ ? หมอปีศาจจากหอหมอปีศาจรึ เจ้าเด็กนี่น่ะรึ ? คุณชายน้อย เจ้าคงไม่ได้ถูกหลอกโดยนักต้มตุ๋นในยุทธภพกระมัง หมอหลวงที่อยู่ข้างๆ กล่าวอย่างเย็นชา
ใช่ ข้าเกรงว่าเจ้าเด็กหนุ่มคนนี้อาจจะอายุเพียงแค่สิบห้าสิบหกปี ชื่อหยูกยาก็น่าจะจําไม่ได้! ช่างแปลกประหลาด
ใช่ หอหมอปีศาจนั่นก็มีปัญหาเหมือนกัน ข่าวลือว่ามีนักปรุงยาระดับสูงมาประจําอยู่ ไม่รู้ว่ามีจริงหรือไม่ เกรงว่าคงเป็นเพียงการเสแสร้งแกล้งกุข่าวลือของใครบางคนเท่านั้น
ในตอนนั้นเอง ไป๋มู่เฟิงเอ่ยปาก กล่าวเสียงเย็นชา หลีกทางไปให้หมด ข้าเป็นโอรสแห่งจวนกั๋วกง ในจวนกั๋วกงนอกจากท่านปู่แล้ว ข้าก็ใหญ่ที่สุด ข้าบอกว่าจะให้คุณชายมู่ซีผู้นี้รักษาท่านปู่ ก็คือให้คุณชายมู่ซีรักษา …หลีกไปให้หมด!
ไป๋มู่เฟิงผลักคนเหล่านี้ออกไปก่อนจะหันไปกล่าวกับมู่เฉียนซี คุณชายมู่ เชิญด้านใน
.