ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1421 รอดตายหวุดหวิด
การมีอยู่ของเผ่าวิญญาณร้ายจะถูกเผยแพร่ออกไปไม่ได้เด็ดขาด
ต้องฆ่าปิดปาก! ต้องฆ่า!
คนจำนวนมากพุ่งออกไปตามไล่ล่าคนของเผ่าโบราณ มีเพียงแค่นายน้อยแห่งเผ่าเท่านั้นที่ยังยืนอยู่ตรงที่เดิม
“พวกเจ้าไปกันเถอะ ในฐานะที่ข้าเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งหัวหน้าเผ่าคนต่อไป ข้าจำเป็นต้องอยู่ที่นี่”
เดิมทีนี่เป็นหน้าที่ของหัวหน้าเผ่าที่ต้องรับผิดชอบ แต่นี่…
คนชุดคลุมยาวสีดำก็กลัวตายเหมือนกัน แม้ว่าจะส่งคนออกไปตามล่าคนของเผ่าโบราณเหล่านั้นเป็นจำนวนมาก แต่ก็ยังมีคนจำนวนไม่น้อยที่อยู่ข้างกายเขาเพื่อรับมือกับอินรั่วเฉิน
ในตอนนี้เอง อินรั่วเฉินเอ่ยปากกล่าวขึ้นว่า “แม่นางมู่ ถอยห่าง ๆ ข้าหน่อย”
มู่เฉียนซีผงะไปครู่หนึ่ง นี่เจ้าจะใช้ท่าไม้ตายแล้วอย่างนั้นเหรอ!
มู่เฉียนซีเอายาลูกกลอนขวดหนึ่งออกมาให้กับนายน้อยแห่งเผ่า และกล่าวว่า “การรนหาที่ตาย มันไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดหรอกนะ! เจ้าไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อเพื่อแก้แค้นหรือไง?”
“ในฐานะนายน้อยแห่งเผ่า การที่เจ้าหนี มันเป็นเพียงแค่การแสดงออกถึงความอ่อนแอก็เท่านั้น แต่หากยังไม่อยากตายก็รีบหลบไปไกล ๆ”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของมู่เฉียนซีแล้วเขาก็ตกใจผงะไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ไปกับมู่เฉียนซี
ทันใดนั้นเอง อินรั่วเฉินก็กระโจนตัวขึ้นไปกลางอากาศ
ทั่วทั้งร่างกายของเขาแผ่ซ่านพลังอันแข็งแกร่งออกมา แสงแห่งธรรมสีทองอร่ามนั้นทำให้เขาเกิดความรู้สึกราวกับว่าพระอรหันต์ได้บังเกิดชีวิตใหม่ขึ้นแล้วก็มิปาน
พลังช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก!
มู่เฉียนซีเห็นเช่นนี้ก็ตกตะลึงขึ้นเล็กน้อย นางรับรู้ได้ถึงพลังอันแข็งแกร่งนี้ของอินรั่วเฉิน บางทีแม้แต่เสี่ยวไป๋เองก็อาจจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาก็ได้
มิน่าล่ะว่าเหตุใดเสี่ยวไป๋ถึงเคยบอกว่าอินรั่วเฉินผู้นี้ยากที่จะหยั่งถึงได้
ตูม!
พลังอันน่าสะพรึงกลัวระเบิดออกมา ลำแสงสีทองได้ปกคลุมไปทั่วทั้งพื้นที่แห่งนี้
อ๊า ๆ ๆ!
คนชุดคลุมยาวสีดำและคนของเผ่าวิญญาณร้ายเหล่านั้นต่างส่งเสียงร้องโหยหวนขึ้นภายใต้แสงสีทองอร่ามที่ปกคลุมลงมา พวกเขามองไปที่สตรีชุดกระโปรงสีม่วงผู้นั้นอย่างไม่น่าเชื่อ ก่อนจะกล่าวออกมาว่า “เจ้า นี่เจ้าคือโอรสศักดิ์สิทธิ์ อินรั่วเฉิน”
ทั่วทั้งดินแดนสี่ทิศ ผู้ที่สามารถใช้แสงแห่งธรรมได้อย่างลึกซึ้งเช่นนี้ได้มีเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น
นั่นก็คืออินรั่วเฉิน สิ่งนี้แม้แต่หัวหน้าเทพฟ้านอินก็ไม่สามารถทำได้
นี่คือดาวมฤตยูของเผ่าวิญญาณร้าย แต่พวกเขาคิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าโอรสศักดิ์สิทธิ์ผู้สูงศักดิ์ท่านนี้จะปลอมตัวแต่งกายเป็นสตรีสวมกระโปรงมาทำลายแผนการของพวกเขาจนพังทลายสิ้นเช่นนี้
แสงแห่งธรรมนี้ได้ล้างความชั่วร้ายเหล่านี้ไป
และคนของเผ่าวิญญาณร้ายเหล่านี้ก็ได้อันตรธานหายไปภายใต้แสงสีทองอร่ามนี้แล้ว
อินรั่วเฉินจรดตัวลงมาจากกลางอากาศ แม้ว่าเขาจะอยู่ในอาภรณ์ของสตรี แต่ความศักดิ์สิทธิ์แห่งธรรมนั้นก็ยังคงบริสุทธิ์ผุดผ่องอยู่เฉกเช่นเดิม
ร่างของเขาจรดลงมาบนพื้นดิน จากนั้นเขาก้มลงเก็บกล่องที่บรรจุผลึกวิญญาณราชาทมิฬใบนั้นขึ้นมา
มู่เฉียนซีกล่าว “กระบวนท่านี้ของเจ้าช่างยอดเยี่ยมยิ่งนัก ข้าเองก็คงจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจ้ากระมัง!”
อินรั่วเฉินกล่าว “กระบวนท่านี้ใช้กับแม่นางมู่ไม่ได้ผลหรอก มันใช้ได้ผลกับคนชั่วร้ายเท่านั้น ซึ่งเผ่าวิญญาณร้ายของคนพวกนั้นต้องชั่วร้ายที่สุดเป็นแน่ ถึงได้หายสาบสูญไปอย่างไร้เงาเช่นนั้นได้”
มู่เฉียนซีเอายาลูกกลอนหลายขวดยื่นให้เขา “สีหน้าเจ้าไม่ค่อยจะดีนัก รีบกินยาฟื้นฟูพลังเถอะ! เจ้าใช้แสงแห่งธรรมไปมากถึงเพียงนั้น อีกไม่นาน คนของแคว้นเทพฟ้านอินต้องแห่กันมาที่นี่แน่ เราจะหนีหรือว่าจะ…”
การที่อินรั่วเฉินใช้กระบวนท่านี้ ก็ส่งผลกระทบต่อตัวเขาเองเหมือนกัน
ตอนนี้เขารู้สึกอ่อนแอมาก มู่เฉียนซีมองแวบเดียวก็รู้แล้ว
อินรั่วเฉินยิ้มพลางกล่าวว่า “ขอบใจแม่นางมู่มาก!”
หลังจากที่เขากินยาลูกกลอนของมู่เฉียนซีไปได้ไม่นาน กลิ่นอายอันเย็นยะเยือกสี่ร่างก็ได้แผ่ซ่านใกล้เข้ามา
สีหน้าของมู่เฉียนซีกับอินรั่วเฉินพลันเปลี่ยนไปในทันที “ยังมีคนของเผ่าวิญญาณร้ายมาอีกเหรอ?”
ร่างในชุดคลุมยาวสีดำสี่ร่างจรดตัวลงมาจากกลางอากาศ พวกเขามองไปที่อินรั่วเฉินและกล่าวว่า “มิน่าล่ะว่าเหตุใดพวกสวะไร้ประโยชน์นั่นถึงได้พ่ายแพ้ได้ ที่แท้ก็รับมือกับโอรสศักดิ์สิทธิ์ฟ้านอินนี่เอง”
“ส่งของในมือเจ้ามาให้ข้าเดี๋ยวนี้ แล้วเจ้าก็จบชีวิตตัวเองซะ มิเช่นนั้นข้าจะทำให้เจ้าได้ตายทั้งเป็นเป็นแน่”
“จบชีวิตด้วยตัวเองอย่างนั้นเหรอ ฝันไปเถอะ!”
ฝ่ายตรงข้ามพากันมาแค่สี่คนเท่านั้น แต่กลับรู้สึกได้ว่าพวกเขาสี่คนล้วนแต่แข็งแกร่งกว่าคนก่อนหน้านี้มาก ต้องรับมือได้อยากแน่!
อินรั่วเฉินกำหมัดแน่นพลางกล่าวว่า “แม่นางมู่ เอาของหนีไปจากที่นี่ ไปที่เมืองหลวง หากเป็นไปได้ พานายน้อยแห่งเผ่าโบราณไปด้วย ข้าต้องการให้เขาเป็นพยาน!”
“ข้าขวางคนพวกนี้ได้ เจ้าระวังตัวด้วย!”
มู่เฉียนซีได้ยินเช่นนี้แล้วก็ผงะไปครู่หนึ่ง “เจ้าเสียพลังไปจนหมดแล้ว จะรับมือกับศัตรูสี่คนนี้ เจ้าแน่ใจเหรอว่ามันไม่ใช่การรนหาที่ตาย”
อินรั่วเฉินยิ้มพลางกล่าวว่า “แม่นางมู่วางใจเถอะ! ข้าจะไม่ตายแน่นอน หากยังไม่มอบฝักกระบี่ของกระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ให้กับเจ้า ข้าไม่มีทางตายแน่นอน”
รอยยิ้มอันบริสุทธิ์นั้นช่างน่าเชื่อถือเป็นอย่างยิ่ง
“เชื่อข้า หากไม่รีบหนีไป พวกเราจะตายกันหมด!”
“ตายหมดเหรอ คงไม่เป็นเช่นนั้นหรอก! เราควรจะหนีไปด้วยกัน” มู่เฉียนซีวิเคราะห์สถานการณ์การต่อสู้ของพวกเขา
“เชื่อในการตัดสินใจของข้าเถอะ นี่เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้ว”
มู่เฉียนซีกล่าว “เช่นนั้นข้าจะเชื่อเจ้าอีกครั้ง”
มู่เฉียนซีเก็บกล่องไม้ใบนั้นเข้าไปในมิติ จากนั้นก็พุ่งไปที่นายน้อยแห่งเผ่าโบราณพลางกล่าว “ไป!”
คนของเผ่าวิญญาณร้ายเหล่านั้นโกรธเกรี้ยวมาก “ขวางเจ้าเด็กนั่นไว้ ผลึกวิญญาณราชาทมิฬอยู่ที่พวกมัน!”
ร่างร่างหนึ่งขวางพวกเขาสี่คนเอาไว้ อินรั่วเฉินกล่าว “คิดจะขวางพวกเขา ก็ต้องข้ามศพข้าไปก่อน”
“ปรมาจารย์มู่ โอรสศักดิ์สิทธิ์เขา…”
“หากเจ้ายังถ่วงเวลาต่อไปพวกเราต้องตายอย่างไม่ตองสงสัยแน่ เจ้าหมอนั่นต้านสวรรค์มาตั้งแต่เกิดแล้ว เขาไม่ตายหรอก เรารีบไปกันเถอะ!”
“อืม!”
ตูม! อินรั่วเฉินปล่อยพลังออกมาขวางศัตรูตรงหน้าเอาไว้
แม้ว่าเขาจะกินยาฟื้นฟูพลังของมู่เฉียนซีไปแล้ว แต่กำลังอันแข็งแกร่งเกรียงไกรนั้นก็เสื่อมทรุดจนเป็นม้าตีนปลายแล้ว
คนพวกนั้นกล่าวเย้ยหยันว่า “ข้าได้ยินชื่อเสียงของโอรสศักดิ์สิทธิ์ฟ้านอินมานานแล้วว่ามีจิตใจเมตตาที่สุดในโลกใบนี้ นึกไม่ถึงเลยว่าจะเป็นเช่นนี้จริง ๆ! เพื่อช่วยคนอื่น แม้แต่ความตายก็ยังไม่กลัว แต่พวกเขาทิ้งเจ้าไปซะดื้อ ๆ เช่นนี้ เจ้าไม่โกรธแค้นบ้างเหรอ?”
ตูม! แสงสีทองปรากฏขึ้น อินรั่วเฉินไม่พูดพร่ำและเริ่มการต่อสู้กับพวกเขาแล้ว
ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!
ปัง! ร่างของอินรั่วเฉินกระเด็นลอยออกไป
พลังของเขาสูญเสียไปตั้งนานแล้ว การรับมือกับสี่คนนี้ อินรั่วเฉินไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขาเลย
“โอรสศักดิ์สิทธิ์ฟ้านอิน ตายซะเถอะ!”
พวกเขาจ้องมองไปที่ร่างของอินรั่วเฉิน พลังอันชั่วร้ายนั้นได้รวบตัวกันและพุ่งโจมตีไปที่อินรั่วเฉิน
ตูม!
เสียงดังสนั่นสะเทือนฟ้าสะเทือนดินดังขึ้นราวกับจะทำลายป่าแห่งนี้ให้พังทลายลงก็มิปาน
มู่เฉียนซีที่หนีออกไปจากผืนป่าแห่งนี้ เมื่อรับรู้ได้ถึงพลังอันน่าสะพรึงกลัวนี้เข้าก็ตกใจจนตัวสั่นขึ้นเล็กน้อย
“แม่นางมู่!” นายน้อยแห่งเผ่ากล่าวขึ้นด้วยความเป็นห่วง
“เขาดวงแข็งจะตายไป!”
มู่เฉียนซีเดินทางมาถึงเมืองเล็ก ๆ เมืองหนึ่ง นางปลอมตัวให้ตัวเองและปลอมตัวให้นายน้อยแห่งเผ่าอีกครั้ง จากนั้นก็ออกไปอย่างรวดเร็ว
ระหว่างทางไม่ได้ประสบพบเจอกับคนของเผ่าวิญญาณร้ายแต่อย่างใด มู่เฉียนซีจึงวางใจขึ้นมาเล็กน้อย…
อินรั่วเฉินดวงแข็ง เขาไม่ตายหรอก!
นี่เป็นครั้งแรกที่มู่เฉียนซีมาที่เมืองหลวงของแคว้นเทพฟ้านอิน กลิ่นกำยานกำจายกลิ่นหอมตลบอบอวนไปทั่วทั้งเมือง
มู่เฉียนซีกับนายน้อยแห่งเผ่าหาโรงเตี๊ยมที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งพัก จากนั้นนายน้อยแห่งเผ่ากล่าวว่า “ไม่รู้ว่าคนในเผ่าข้าจะมีชีวิตรอดไปกี่คน”
“พลังของเผ่าวิญญาณร้ายนั่นช่างน่ากลัวมากจริง ๆ คงต้องรายงานเรื่องนี้ให้หัวหน้าแคว้นเทพฟ้านอินรู้ ถึงจะหาวิธีรับมือกับคนของเผ่าวิญญาณร้ายได้ แต่ตอนนี้ในแคว้นเทพฟ้านอินก็มีคนของพวกนั้นสอดแทรกอยู่ ต้องรอให้อินรั่วเฉินกลับมาก่อนถึงจะเคลื่อนไหวได้”
นายน้อยแห่งเผ่าโบราณกล่าว “แต่ถ้าหากว่า…หากว่าโอรสศักดิ์สิทธิ์ฟ้านอินไม่กลับมาล่ะ พวกเรา…เราจะทำเช่นไร?”
สี่คนนั้นแปลกประหลาดถึงเพียงนี้ พลังก็แข็งแกร่งถึงเพียงนี้ โอรสศักดิ์สิทธิ์ที่สูญเสียพลังไปหมดแล้วต้องรับมือกับพวกเขาสี่คน หากรอดก็ต้องรอดตายมาอย่างหวุดหวิดแน่นอน!
.