ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1427 ตามหาว่าที่ภรรยา
มู่เฉียนซีเดินไปตรงหน้าเขาและกล่าวว่า “คนที่ใช้พิษเก่งจริง เพียงแค่ใช้กลิ่นของพิษเพียงเล็กน้อยก็สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้แล้ว”
“ดูท่า ข้าจะประเมินเจ้าต่ำไปแล้วจริง ๆ นึกไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะน่ารังเกียจได้ถึงเพียงนี้!” เขาจ้องมองมู่เฉียนซีด้วยสีหน้าที่ดุร้าย
“เจ้าพูดผิดแล้วล่ะ ข้าไม่ได้วางยาพิษเจ้าสักหน่อย!”
“เจ้าโกหก หากเจ้าไม่ได้วางยาพิษข้า ข้าจะเป็นเช่นนี้ได้ยังไง! เจ้าวางยาพิษข้าชัด ๆ”
“ข้าก็แค่เอามาทดลองกับร่างกายของเจ้าก็เท่านั้น แต่ก็ต้องขอบใจเจ้ามากนะ ข้าว่ายาที่ข้าศึกษามาตั้งนาน ข้าสามารถทำได้สำเร็จแล้ว และข้าก็พอใจมากเลยทีเดียว”
พลังของเผ่าวิญญาณร้ายที่อยู่ในร่างกายของเจ้าหมอนี่กับพลังที่อยู่ในผลึกวิญญาณทมิฬนั้นเหมือนกันมาก นางทดลองมานานระยะหนึ่งแล้ว แต่กลับปรุงยาที่รับมือกับผลึกวิญญาณทมิฬนั้นออกมาให้สมบูรณ์แบบไม่ได้ และนึกไม่ถึงเลยว่าจะพบจุดบกพร่องนี้เจอที่ร่างกายของคนผู้นี้
เล่อฝานไม่เข้าใจในสิ่งที่มู่เฉียนซีพูด เขาจึงกล่าวเย้ยหยันว่า “ช่างน่ารังเกียจยิ่งนัก! เลิกหาข้ออ้างปิดบังความร้ายกาจของตัวเองได้แล้ว”
“จะใช่ข้ออ้างหรือไม่ เจ้าลองเดี๋ยวก็รู้เอง”
กล่าวจบ มู่เฉียนซีก็ปรับปรุงยาขึ้นมาใหม่
สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เปิดโลกสำหรับทุกคนเลยก็ว่าได้
“ที่แท้ยาวิเศษของหอหมอปีศาจก็ปรุงออกมาเช่นนี้นี่เอง ดูแล้วเหมือนง่ายดายนัก!”
“หากเจ้าคิดว่าง่าย เจ้าก็ลองทำดูสิ!”
“ดูเหมือนง่าย แต่ทำจริง ๆ มันไม่ได้ง่ายเลย คนที่ทำเช่นนี้ได้ก็คงมีเพียงแค่หมอปีศาจผู้นี้แล้วล่ะ”
และยาขวดหนึ่งก็ถูกปรับแต่งออกมาเรียบร้อยแล้ว
นางบรรจุยาใส่เข็มเตรียมจะฉีดให้กับเล่อฝาน
“เจ้าจะทำอะไร?” ปรมาจารย์แห่งแคว้นสีหน้าพลันเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก เขาอยากจะพุ่งเข้าไปขวางมู่เฉียนซี
แต่สุดท้ายกลับถูกอินรั่วเฉินกับหัวหน้าแคว้นขวางเอาไว้ อินรั่วเฉินยิ้มพลางกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “ปรมาจารย์แห่งแคว้น แม่นางมู่เป็นคนที่กระทำอันใดย่อมมีขอบเขตอยู่เสมอ วางใจเถอะ!”
“การประลองในครั้งนี้ยังไม่จบสิ้น เพราะศิษย์ของท่านยังไม่เอ่ยปากยอมแพ้ คนนอกไม่อาจเข้าไปแทรกได้!” หัวหน้าแคว้นกล่าวกับปรมาจารย์แห่งแคว้น
ปรมาจารย์แห่งแคว้นกำหมัดแน่น และทำได้เพียงแค่ยืนดูมู่เฉียนซีจับศิษย์ของตัวเองฉีดยาเท่านั้น
ฉึก!
หลังจากที่นางฉีดยาไปเข็มหนึ่ง เล่อฝานไม่เพียงแต่จะไม่รู้สึกเจ็บปวดเท่านั้น แต่เขายังรู้สึกผ่อนคลายไปทั่วทั้งร่างกายอีกด้วย
หลังจากที่มู่เฉียนซีใช้พลังจิตตรวจดูร่างกายของเขา นางก็พยักหน้าเบา ๆ เล็กน้อย
ปรับใหม่อีกสักหน่อย นางก็สามารถปรุงยาที่พัฒนาผลึกวิญญาณทมิฬนี้ได้แล้ว
นางยิ้มพลางกล่าว “ข้าบอกแล้วว่ามันไม่ใช่พิษ แต่มันคือยา!”
เล่อฝานมองหน้ามู่เฉียนซีด้วยสีหน้าตกใจ นางต้องเป็นตัวประหลาดเป็นแน่ นึกไม่ถึงเลยว่านางจะสามารถปรุงยาเช่นนั้นออกมาได้
ในตอนนี้เอง อินรั่วเฉินก็ออกคำสั่งว่า “ทุกคน! ปรมาจารย์แห่งแคว้นและศิษย์ของเขาสมรู้ร่วมคิดกับเผ่าวิญญาณร้าย จับตัวเขาเดี๋ยวนี้!”
ทันทีที่เสียงคำสั่งของอินรั่วเฉินจบลง ก็มีคนลงมือทันที
ขวับ ขวับ ขวับ! ร่างหลายร่างปรากฏกายขึ้น และห้อมล้อมพวกเขาเอาไว้
ปรมาจารย์แห่งแคว้นกล่าวขึ้นด้วยความตกใจว่า “อินรั่วเฉิน นี่เจ้ากล้าเหรอ!”
อินรั่วเฉินกล่าว “เหตุใดจะไม่กล้า!”
ตูม!
ภายในชั่วพริบตาเดียว ณ ที่แห่งนี้ก็ได้กลายเป็นสนามรบขึ้น ปรมาจารย์แห่งแคว้นพยายามขัดขืนอย่างสุดชีวิต แต่นึกไม่ถึงเลยว่าหัวหน้าแคว้นจะซ่อนยอดฝีมือเอาไว้มากมายโดยที่เขาไม่รู้เรื่องเช่นนี้
นึกไม่ถึงเลยว่าคนเหล่านี้จะฟังคำสั่งของอินรั่วเฉิน!
และในตอนนี้เอง มีคนเข้ามารายงานว่า “โอรสศักดิ์สิทธิ์ หัวหน้าแคว้น ทางด้านตำหนักเทพมีคนลงมือแล้วขอรับ แถมยังขโมยของจากตำหนักเทพไปด้วยขอรับ”
“เรารีบไปกันเถอะ!”
มู่เฉียนซีกับอินรั่วเฉินกลับมาที่ตำหนักเทพ ตอนนี้ตำหนักเทพถูกปิดแล้ว และกำลังตามค้นหาตัวคนที่ขโมยของผู้นั้น
อินรั่วเฉินออกคำสั่ง “แยกย้ายกันไปตามหาเร็วเข้า หากพบผู้ใดน่าสงสัย จับมาให้หมด”
ต่อมาก็ไม่ใช่เรื่องของมู่เฉียนซีแล้ว
สายตาของอินรั่วเฉินดุร้ายมาก พลังชั่วร้ายที่ซ่อนอยู่ในร่างของคนเผ่าวิญญาณร้ายนั่นไม่สามารถปิดบังเขาได้
ในการค้นหาครั้งยิ่งใหญ่นี้ อินรั่วเฉินจับคนของเผ่าวิญญาณร้ายที่ซ่อนตัวอยู่ในตำหนักเทพออกมา และฉวยโอกาสครั้งนี้กำจัดทิ้งไปมากมาย
“โอรสศักดิ์สิทธิ์ ต้องมีอะไรผิดพลาดแน่นอน! ข้าน้อยไม่ใช่คนของเผ่าวิญญาณร้าย! ข้าน้อยไม่ใช่!”
“โอรสศักดิ์สิทธิ์!”
“……”
ไม่ว่าคนเหล่านั้นจะทำตัวน่าสงสารมากเพียงใด แต่อินรั่วเฉินในตอนนี้ไม่มีความเห็นใจเลยแม้แต่น้อย
และแน่นอนว่ามีคนหนีออกไปได้ และคนที่หนีออกไปได้นั้นก็คือคนที่ขโมยของล้ำค่าผู้นั้น
แต่อย่างไรเสียเขาก็ไม่มีทางคิดถึงแน่นอนว่าของที่ขโมยไปได้นั้นมันคือของปลอม และทำให้อินรั่วเฉินใช้โอกาสนี้จัดการกับคนที่แทรกตัวเข้ามาในตำหนักเทพเหล่านี้จนสิ้น
คาดว่าหากผู้ที่อยู่เบื้องหลังแผนการทั้งหมดผู้นั้นรู้ข่าวนี้ คงจะต้องโกรธจนกระอักเลือดออกมาเป็นแน่
ตุบ! หลังจากที่จัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว อินรั่วเฉินก็เป็นลมหมดสติไป
ทุกคนต่างตื่นตระหนกขึ้น “โอรสศักดิ์สิทธิ์!”
“โอรสศักดิ์สิทธิ์!”
“ไม่ต้องเรียกหรอก เขาไม่ตายหรอก! รีบพาเขาไปที่เตียงเถอะ ข้าจัดการเอง” มู่เฉียนซีเอ่ยปากกล่าว
พวกเขาเพิ่งจะนึกออกว่าคนตรงหน้าผู้นี้ก็คือหมอปีศาจ! เมื่อนึกได้เช่นนี้แล้วพวกเขาก็รู้สึกวางใจ โอรสศักดิ์สิทธิ์ต้องไม่เป็นอะไรแน่นอน
ร่างกายของอินรั่วเฉินแย่มาก แต่ก็ไม่ได้สาหัสถึงตาย สุดท้ายก็รักษาอันตรายที่ซ่อนเร้นในร่างเขาได้
หากคนของเผ่าวิญญาณร้ายแฝงตัวเข้ามาและควบคุมแคว้นเทพฟ้านอินทั้งแคว้นแล้วละก็ ต้องอันตรายมากแน่นอน
หลังจากที่รักษาอาการของอินรั่วเฉินเสร็จ มู่เฉียนซีก็ไปปรุงยาที่ห้องปรุงยา เพราะนางรู้ว่าช่วงเวลาที่สงบนี้มีไม่มาก
มู่เฉียนซีปรุงยาออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบโดยใช้เวลาไปเพียงสั้น ๆ จากนั้นนางก็เอาผลึกวิญญาณราชาทมิฬนั้นลงไปแช่ไว้
สีดำนั้นได้พลันเปลี่ยนเป็นสีขาวบริสุทธิ์อย่างรวดเร็วจนสามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า จากนั้นมู่เฉียนซีก็เก็บมันเอาไว้ในมิติ
ไม่ว่าเผ่าวิญญาณร้ายมีเจตนาจะเอาของสิ่งนี้ไปทำเรื่องชั่วร้ายอันใด รอให้มันได้กลายเป็นของที่ไม่เป็นอันตรายเสียก่อน เช่นนั้นแล้วคนของเผ่าวิญญาณร้ายก็ไม่สามารถทำอันใดได้
ในตอนนี้เอง กู่ถานนายน้อยแห่งเผ่าโบราณก็มาหามู่เฉียนซี เขาคุกเข่าตรงหน้ามู่เฉียนซีและกล่าวว่า “ท่านหมอปีศาจ ได้โปรดช่วยคนในเผ่าของข้าด้วย”
“พวกเขาเป็นอะไร?”
“ข้าหาสถานที่ที่คนในเผ่าของข้าอยู่เจอแล้ว เดิมทีร่างกายของพวกเขาก็ย่ำแย่มากอยู่แล้ว ต่อมาได้เกิดปัญหาใหญ่ขึ้น นักปรุงยาท่านอื่นก็ไร้หนทางรักษา ข้ารู้ว่าหมอปีศาจต้องมีวิธีรักษาได้แน่นอน”
มู่เฉียนซีเลิกคิ้วพลางกล่าวถามว่า “ตอนแรกที่ข้าช่วยท่านพ่อของเจ้า แล้วสุดท้ายเป็นเช่นไร ท่านพ่อเจ้าทำอะไรเจ้าจำไม่ได้เหรอ?”
กู่ถานเองก็รู้สึกเกรงใจและรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก ท่านพ่อของเขาทำเกินไปจริง ๆ
“จะให้ช่วยข้าช่วยได้ แต่ต้องแสดงความจริงใจสักหน่อย!”
กู่ถานกัดนิ้วตัวเองจนเลือดไหลออกมา เขากล่าว “ข้าขอสาบานด้วยโลหิตของข้า นับตั้งแต่นี้ต่อไป ข้ายอมเป็นลูกน้องของหมอปีศาจ ไม่ว่าหมอปีศาจต้องการให้ข้าทำสิ่งใด ข้าจะทำทุกอย่าง ได้โปรดท่านหมอปีศาจช่วยคนในเผ่าของข้าด้วย เผ่าโบราณของข้าจะดับสูญไปเช่นนี้ไม่ได้จริง ๆ”
“ตกลง!” มู่เฉียนซีกล่าว
คำสาบานโลหิตเป็นอันเสร็จสิ้น มู่เฉียนซีกล่าว “เราอยู่ที่ตำหนักเทพนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว เราต้องรีบออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด!”
“ขอรับ!”
ครั้นแล้วก็เป็นอย่างที่มู่เฉียนซีคิดเอาไว้จริง ๆ ทันทีที่มู่เฉียนซีย่างเท้าออกจากที่นี่ เป่ยกงจั๋วก็นำกำลังพลบุกมาถึงที่นี่แล้ว
อินรั่วเฉินกำลังนอนหมดสติอยู่ หัวหน้าแคว้นเทพฟ้านอินออกมาต้อนรับ
“ไม่ทราบว่าหัวหน้าตำหนักเป่ยหานมีเรื่องอันใดถึงได้มาถึงที่นี่ได้?” หัวหน้าแคว้นเทพฟ้านอินหรี่ตายิ้มพลางกล่าว
เป่ยกงจั๋วกล่าวอย่างสุภาพว่า “หัวหน้าแคว้นเทพฟ้านอิน ข้าได้ยินมาว่าว่าที่ภรรยาของข้าอยู่ในตำหนักเทพที่แคว้นเทพฟ้านอินแห่งนี้ ที่ข้ามาในวันนี้ก็เพื่อที่จะมารับตัวนางกลับ ไม่ทราบว่าหัวหน้าแคว้นจะให้ข้าเจอนางได้หรือไม่?”
คนอื่นได้ยินเช่นนี้ก็ตกตะลึงขึ้น ว่ายังไงนะ! ว่าที่ภรรยา!
เหตุใดถึงได้ผิดแปลกไปจากที่พวกเขาเคยได้ยินมาล่ะ
หรือเป็นเพราะหัวหน้าตำหนักเป่ยหานโปรดปรานประมุขน้อยน้อย ต้องการจะแต่งงานกับนาง แล้วประมุขน้อยมู่ไม่ตอบตกลง หัวหน้าตำหนักเป่ยหานจึงจำเป็นต้องทำเช่นนี้ แม้ว่าพวกเขาจะอออกบวชแล้ว แต่ก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงความอยากรู้อยากเห็นเรื่องชาวบ้านได้เลย!