ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1442 การประมูลอันบ้าคลั่ง
ของประมูลยังไม่ทันได้เอาออกมา ทว่ากลิ่นหอมอันเข้มข้นของดอกบัวกลับส่งกลิ่นหอมตลบอบอวลไปทั่วทั้งโรงประมูล ทำให้ทุกคนรู้สึกมีกำลังวังชาขึ้นมาทันที
ของวิเศษ ของชิ้นนี้ต้องเป็นของวิเศษแน่นอน ทุกคนมองไปบนเวทีการประมูลด้วยสายตาลุกวาว
ไม่นานนัก คนผู้หนึ่งก็ถูกนำตัวขึ้นมาบนเวทีการประมูล คนผู้นี้เป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อายุเพียงเจ็ดถึงแปดขวบเท่านั้น
ข้อมือและข้อเท้าถูกตรึงด้วยโซ่ตรวน และเมื่อมู่เฉียนซีเห็นใบหน้าของเด็กผู้นั้น นางก็ตกใจนิ่งอึ้งไปทันที
“สุ่ยจิงอิ๋ง!”
เด็กน้อยผู้นั้นคือสุ่ยจิงอิ๋งในวัยเด็กชัด ๆ!
“สุ่ยจิงอิ๋ง นี่มันเกิดอันใดขึ้น นาง นางคือกลีบดอกของเจ้าอย่างนั้นเหรอ?”
สุ่ยจิงอิ๋งกล่าว “ซีเอ๋อร์ ข้าไม่ได้กลิ่นอายของข้าในร่างของเด็กน้อยผู้นี้เลยแม้แต่น้อย แต่สัญชาตญาณบอกข้าว่านี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอน”
“ใช่ สุ่ยจิงอิ๋งของข้ารูปร่างหน้าตางดงามเป็นหนึ่งในใต้หล้าไม่เป็นสองรองผู้ใด จู่ ๆ ก็มีเด็กหน้าตาเหมือนเจ้ามากเช่นนี้โผล่ออกมา แถมยังโผล่ออกมาหลังจากที่เจ้าได้กลิ่นอายของกลีบดอกของเจ้าอีก หากนี่เป็นเรื่องบังเอิญมันก็แปลกแล้วล่ะ” มู่เฉียนซีกล่าว
“ซีเอ๋อร์ระวังตัวด้วย หากเป็นกับดักแล้วละก็ ต้องแย่แน่”
มู่เฉียนซีพยักหน้าพลางกล่าว “ข้าเข้าใจแล้ว แต่นี่เป็นเบาะแสเพียงหนึ่งเดียวของเจ้า จะนั่งดูนิ่งเฉยไม่ได้เด็ดขาด!”
มู่เฉียนซีมองไปที่เด็กน้อยผู้นั้น ปรารถนาอย่างแรงกล้าเพื่อที่จะเอาตัวมาให้ได้!
พิธีกรประมูลกล่าวว่า “เด็กน้อยผู้นี้มีกลิ่นหอมเหมือนดอกบัวมาตั้งแต่กำเนิด แต่ร่างกายของนางไม่สามารถช่วยในการฝึกบำเพ็ญได้มากนัก แต่หากมีนางอยู่ ก็จะสามารถทำให้ฝึกบำเพ็ญได้ถึงขั้นมหาจักรพรรดิระดับสูงสุดได้โดยไม่มีกำแพงใดกั้น”
ทุกคนได้ยินเช่นนี้ก็ตื่นเต้นจนเกิดความโกลาหลขึ้น!
“สมหวังดั่งใจในฉับพลัน ขั้นมหาจักรพรรดิระดับสูงสุด!”
“นึกไม่ถึงเลยว่าจะมีร่างเช่นนี้อยู่ด้วย”
“แต่เด็กน้อยผู้นี้ก็ยังเด็กอยู่มาก ข้าว่ากว่าจะใช้งานได้คงต้องเลี้ยงดูไปอีกเป็นสิบปี”
“รออีกสักสิบปีแต่สามารถฝึกบำเพ็ญถึงขั้นมหาจักรพรรดิระดับสูงสุดได้มันก็คุ้มนะ หากต้องฝึกบำเพ็ญเอง ไม่แน่อาจจะต้องใช้เวลาเป็นหลายร้อยหลายพันหลายหมื่นปี!”
เหล่าบรรดาผู้ประมูลเหล่านี้ต่างจ้องมองไปที่เด็กน้อยผู้นั้นราวกับหมาป่าที่จ้องจะเขมือบเหยื่อก็มิปาน
เด็กน้อยผู้นี้มีเส้นผมยาวดุจดั่งสายนที ดวงตาสีฟ้าอ่อนคู่นั้นสดใสบริสุทธิ์ดุจดั่งวารี ทำให้ผู้คนต่างรู้สึกต้องการจะครอบครอง
ไม่เพียงแต่ร่างของนางจะมีประโยชน์เท่านั้น แต่รูปร่างหน้าตาของนางยังงดงามมากอย่างหาได้ยากในรอบหมื่นปีเลยทีเดียว หากเติบโตขึ้นมาต้องเป็นหญิงงามที่สุดในใต้หล้าแน่นอน
มู่เฉียนซีทนเห็นคนเหล่านี้จ้องมองหญิงสาวที่รูปร่างหน้าตาเหมือนสุ่ยจิงอิ๋งเช่นนี้ไม่ได้ ไม่นานนักนางจึงตะโกนขึ้นว่า “ข้าเสนอราคาประมูลพันล้านหยกวิญญาณ เด็กน้อยผู้นี้ เป็นของข้าแล้ว”
“พันล้าน!”
“เป็นหญิงสาวผู้นั้นอีกแล้ว นางบ้าไปแล้วจริง! ที่แท้นางก็ไม่ได้สนใจแค่สมุนไพรวิญญาณเท่านั้น แม้แต่เด็กน้อยผู้นี้นางก็ยังสนใจอีกด้วย!”
“……”
ทุกคนต่างก็เดือดดาลขึ้นแล้ว ในตอนนี้เองพิธีกรก็กล่าวขึ้นว่า “ท่านผู้ประมูลท่านนี้อย่าได้รีบร้อนใจไป ยังไม่ได้เริ่มประกาศให้ประมูลเลยนะ!”
“เช่นนั้นก็เร็ว ๆ เข้าสิ!”
นางกับเด็กน้อยผู้นั้นเป็นเพียงแค่คนแปลกหน้าเท่านั้น แต่เด็กน้อยผู้นั้นมีรูปร่างหน้าตาเหมือนสุ่ยจิงอิ๋ง นางอดที่จะปกป้องไม่ได้จริง ๆ
สุ่ยจิงอิ๋งก็เปรียบเสมือนพี่สาวของนาง ปกป้องนางมาโดยตลอด ปกป้องนางมาโดยตลอดจริง ๆ!
ดวงตาของพิธีกรผู้นี้ปรากฏร่องรอยความโกรธขึ้นเล็กน้อย แต่แขกท่านนี้มือเติบลงมืออย่างใจกว้างยิ่งนัก มีที่มาที่ไปไม่ธรรมดา เป็นคนที่ไม่อาจล่วงเกินได้
พิธีกรจึงประกาศว่า “ราคาประมูลเริ่มต้นอยู่ที่สามสิบล้านหยกวิญญาณ ราคาประมูลที่เพิ่มขึ้นแต่ละครั้งต้องไม่ต่ำกว่าหนึ่งร้อยล้าน เปิดประมูลได้!”
สามสิบล้าน ราคาต่ำกว่าที่มู่เฉียนซีเสนอไปเมื่อครู่มาก
ในขณะที่คนอื่น ๆ ยังไม่ทันได้เสนอราคาออกมา มู่เฉียนซีก็ตะโกนขึ้นว่า “สามพันล้าน!”
ซื้ด!
ทุกคนได้ยินเช่นนี้ต่างก็สูดลมหายใจลึกเข้าปอดด้วยความตกใจ “นี่นางบ้าไปแล้ว!”
“ช่างน่าตื่นเต้นยิ่งนัก ต่อให้เป็นเศรษฐีผู้ร่ำรวยอันดับหนึ่งแห่งดินแดนสี่ทิศก็ไม่มีทางทำเช่นนี้แน่นอน!”
“……”
สามพันล้าน ราคาสูงลิ่วเช่นนี้ คนหลายคนก็เริ่มถอดใจแล้ว
หากเป็นเหมือนการประมูลครั้งที่ผ่าน ๆ มา เบื้องหลังความร่ำรวยของตระกูลพวกเขานั้นสามารถทำให้พวกเขามีกำลังแย่งชิงประมูลได้
ทว่า ตอนนี้พบกับมู่เฉียนซีผู้วิปริตผู้นี้ ราคาที่นางตะโกนออกมาแต่ละครั้งช่างน่าทึ่งยิ่งนัก พวกเขาล้วนแต่ตกตะลึงพรึงเพริดไปแล้ว
และแน่นอนว่าผู้ที่เดินทางมาที่แห่งนี้ก็มีเศรษฐีมีเงินทองเป็นจำวนมากเช่นกัน
“สามพันหนึ่งร้อยล้าน!” ทันใดนั้นก็มีเสียงเสียงหนึ่งตะโกนเพิ่มราคาขึ้นมา
“เพิ่มแค่ร้อยล้าน ช่างตระหนี่ถี่เหนียวเกินไปแล้วกระมัง!”
“ร้อยล้านแต่มันก็คือหยกวิญญาณนะ ประหยัดได้ก็ต้องประหยัด ใครจะบ้าคลั่งเหมือนคนบ้าผู้นั้นกันเล่า”
นางก็เป็นแค่คนเข้าร่วมประมูลคนหนึ่งเท่านั้น นึกไม่ถึงเลยว่าจะถูกผู้คนขนานนามนางว่าเป็นคนบ้าเสียแล้ว
ภายในชั่วพริบตาเดียวราคาประมูลก็พุ่งขึ้นสูงลิ่ว นางก็แค่อยากเจอกับเด็กน้อยผู้นั้นเร็ว ๆ ก็เท่านั้น อยากดูว่าเด็กน้อยผู้นั้นมีอันใดที่ผิดปกติกันแน่
มีคนเสนอราคาเพิ่มเช่นนี้ มู่เฉียนซีจึงตะโกนออกไปอีกครั้งว่า “หมื่นล้าน!”
เมื่อพวกเขาได้ยินราคานี้ก็ตกตะลึงจนแทบจะเป็นลมล้มพับไป
จำนวนมากถึงเพียงนี้ทำให้ผู้ประมูลคนอื่น ๆ แทบทุกคนถอดใจ
ทว่า ผู้ที่ประมูลแข่งราคากับมู่เฉียนซีเมื่อครู่กลับยังไม่ถอดใจยอมแพ้ เขายืนขึ้นพลางกล่าว “ข้ามียาลูกกลอนขั้นสวรรค์ร้อยเม็ด เด็กน้อยผู้นี้เป็นของข้าแล้ว”
“ยาขั้นสวรรค์ร้อยเม็ด…”
ทุกคนรู้สึกทึ่งมาก โรงประมูลใต้ดินแห่งเกาะทรายขาวในครั้งนี้ช่างน่าตื่นเต้นจริง ๆ
หยกวิญญาณก็มีค่า ส่วนยาลูกกลอนขั้นสวรรค์ก็ประเมินค่าไม่ได้ ในเมื่อผู้ประมูลเสนอออกมาเช่นนี้แล้ว โรงประมูลใต้ดินแห่งเกาะทรายขาวก็ไม่ปฏิเสธ
พิธีกรพยักหน้าตอบรับเล็กน้อย
ต่อมา มู่เฉียนซีก็กล่าวว่า “จะแข่งยาลูกกลอนกับข้าใช่หรือไม่! ข้าเสนอหนึ่งพันเม็ด!”
ซัวเฉียงผู้นำทางของมู่เฉียนซีตอนนี้แทบจะเป็นลมแล้ว ตั้งแต่กำเนิดเกิดมา เขาไม่เคยเห็นการประมูลใดที่มันบ้าคลั่งเช่นนี้มาก่อนเลย
“หญิงสาวผู้นั้นช่างบ้าไปแล้วจริง ๆ! พระเจ้าช่วย!”
“ยาลูกกลอนขั้นสวรรค์หนึ่งพันเม็ด นี่ต้องเสียสมุนไพรวิญญาณไปมากถึงเท่าใดกัน ยอดปรมาจารย์นักปรุงยาต้องใช้เวลาไปกี่ปีถึงจะหลอมออกมาได้!”
“ถึงแม้ว่าร่างของเด็กน้อยผู้นี้จะวิเศษ แต่ผลลัพธ์ก็คงจะไม่ออกมาเหมือนที่บอกเอาไว้เป๊ะหรอก เสนอราคาประมูลเช่นนั้น บ้าเกินไปแล้ว”
ผู้ประมูลที่แข่งประมูลกับมู่เฉียนซีกล่าวว่า “สาวน้อย ข้าขอเตือนให้เจ้าระวังเอาไว้สักหน่อย! หากประมูลได้มาจริง ๆ ถึงเวลายาขั้นสวรรค์ของเจ้าไม่พอแล้วละก็ มันจะเป็นการดูถูกล่วงเกินโรงประมูลเสียเปล่า ๆ เมื่อถึงตอนนั้นอย่าว่าแต่เด็กน้อยผู้นี้เลย แม้แต่ชีวิตน้อย ๆ ของเจ้าก็คงจะรักษาเอาไว้ไม่ได้”
มู่เฉียนซีกล่าว “ช่างน่าขันเสียจริง ก็แค่ยาลูกกลอนขั้นสวรรค์แค่พันเม็ด ไม่ทำให้ขนหน้าแข้งข้าร่วงหรอก เจ้าอยากเพิ่มราคาเท่าไหร่ก็เสนอออกมาเถอะ ข้าไม่อยากเสียเวลา”
อวดดี อวดดีเกินไปแล้ว!
ดูเหมือนว่ายาลูกกลอนขั้นสวรรค์หนึ่งพันเม็ดแค่นี้จะไม่ได้อยู่ในสายตาของนางเลย
หม้อหลุนหุยแห่งความตายพึมพำขึ้นว่า ‘ก็ขนหน้าแข้งไม่ได้ร่วงจริง ๆ หนิ!’
ยาลูกกลอนระดับนั้น แค่นายท่านให้ข้ากินจนอิ่ม เวลาเพียงแค่สองสามวันข้าก็หลออมออกมาได้สำเร็จแล้ว ไม่จำเป็นต้องให้นายท่านลงมือเองหรอก!
คนผู้นั้นกล่าวด้วยความโกรธเกรี้ยวว่า “อวดดี เจ้ามันอวดดียิ่งนัก! ข้าไม่เคยเจอคนอวดดีและกล้าหาญเช่นเจ้ามานานแล้ว ข้าขอเสนอยาลูกกลอนขั้นสวรรค์ระดับเก้า สิบเม็ด!”
“พระเจ้า! ยาขั้นสวรรค์ระดับเก้าสิบเม็ด นั่นมันต้องเป็นเหล่านักปรุงยาที่แข็งแกร่งที่สุดในดินแดนสี่ทิศหลอมออกมาแล้ว”
“ท่านผู้นี้เป็นใครมาจากที่ใดกันแน่ ?”
“สิบเม็ด! สิบเม็ดเลยเหรอ”
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเกียจคร้านว่า “ข้าก็คิดว่าจะลงอย่างมือเติบ! ข้าเสนอร้อยเม็ด”
“ร้อยเม็ด! เจ้ากล่าวออกมาแล้วอย่าได้กลืนน้ำลายตัวเองล่ะ”
มู่เฉียนซีโต้กลับว่า “ตาเฒ่า เจ้าจ่ายไม่ไหวก็ไม่ได้หมายความว่าข้าจะจ่ายไม่ไหวนะ! คนอย่างข้าไม่ขาดแคลนหยกวิญญาณ ยิ่งเป็นยาลูกกลอน ข้าก็ยิ่งไม่ขาด”
“นี่เจ้า เจ้า…” ผู้เฒ่าผู้นั้นโกรธจนดวงตาแทบจะลุกไหม้เป็นฟืนเป็นไฟขึ้นแล้ว “เจ้าเด็กสามหาว รอให้เจ้าจ่ายไม่ไหว โรงประมูลใต้ดินจะจัดการเจ้าแน่! เด็กน้อยผู้นี้ถูกกำหนดให้เป็นของข้าแล้ว”
.