ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1445 ท่านพ่อผู้แสนดี
แสงเย็นวาบผ่านดวงตาของลั่วอี้โจว สาวน้อยผู้นี้เพิ่งจะรู้จักกับบุตรสาวของเขาได้เพียงแค่วันเดียว แต่กลับทำให้บุตรสาวของเขามองนางดีเช่นนี้ได้
ลั่วอี้โจวกล่าว “เหมี่ยวเอ๋อร์กำลังก่อเรื่องนะ เหตุใดถึงไม่ยอมกลับบ้านล่ะ แม่นางมู่ ข้าขอคุยด้วยสักหน่อยจะได้หรือไม่”
มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าว “ได้สิ! เชิญด้านใน!”
ทันทีที่ลั่วอี้โจวนั่งลง เขาก็แผ่ซ่านพลังจิตออกมากดดันมู่เฉียนซีทันที
แต่ดูเหมือนว่ามู่เฉียนซีจะไม่รู้สึกอะไรเลย นางเอาใบชาชั้นดีออกมาและค่อย ๆ ชงอย่างช้า ๆ
ลั่วอี้โจวตกใจสะดุ้งขึ้นเล็กน้อย สาวน้อยผู้นี้ไม่ธรรมดาเลย!
นางเอ่ยปากกล่าวอย่างช้า ๆ ว่า “ข้าชอบเด็กน้อยอย่างเสี่ยวเหมี่ยวมาก ในฐานะที่เป็นนักปรุงยา พอได้เจอกับคนที่มีร่างที่พิเศษเช่นนี้ก็เกิดความสนใจขึ้น ข้าไม่ยอมรามือแน่นอน”
“แต่เหมี่ยวเอ๋อร์เป็นเพียงแค่เด็กน้อยคนหนึ่ง นางไม่ใช่สมุนไพรวิญญาณต้นหนึ่งนะ หรือว่านักปรุงยาอย่างพวกเจ้าคิดเพียงแค่จะปรุงยาโดยไม่คำนึงถึงสิ่งอื่นใดเลยเหรอ?” ลั่วอี้โจวกล่าวด้วยอารมณ์กรุ่นโกรธ
“ข้าก็ไม่ได้บอกว่าเสี่ยวเหมี่ยวเป็นสมุนไพรวิญญาณสักหน่อย!” มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าวอย่างเชื่องช้า
“เจ้าจะเอาเช่นไรกันแน่?”
“พวกเจ้าคงจะไม่ใช่คนในแดนตะวันออกกระมัง เอาเด็กคนหนึ่งมาทิ้งไว้ที่แดนตะวันออกคนเดียว คนที่เจ้าพามาเหล่านั้นมันไม่พอหรอกนะ!”
“นี่เจ้ากำลังขู่ข้าอย่างนั้นรึ?”
“แล้วเช่นไร?”
ทั้งสองจ้องหน้ากัน มู่เฉียนซีไม่มีท่าทีที่จะยอมถอยแม้แต่น้อย
ลั่วอี้โจวสูดลมหายใจลึกเข้าปอด ก่อนจะกล่าวว่า “เช่นนั้นก็เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ในเมื่อเจ้าเป็นนักปรุงยา ฝีมือของเจ้าก็คงจะไม่เลว เหมี่ยวเอ๋อร์ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงมาตั้งแต่เด็ก ต้องการนักปรุงยามาช่วยปรับสมดุลร่างกายนาง ข้าขอเชิญเจ้ากลับไปกับข้า!”
“เจ้ารับโอกาสนี้ไว้เถอะ เพื่อที่เจ้าจะได้ศึกษาร่างกายของเหมี่ยวเอ๋อร์ด้วย”
“พลังวิญญาณบนเกาะของพวกเราเข้มข้นมากอย่างที่แดนตะวันออกไม่อาจเทียบได้ หากเจ้าไปอยู่ที่เกาะของพวกข้า การฝึกฝนของเจ้าก็จะรวดเร็วขึ้น เกาะของพวกข้ามีกฎอยู่ แต่ไหนแต่ไรมาไม่อนุญาตให้คนนอกเข้า เจ้าเป็นคนแรก! ในเมื่อเหมี่ยวเอ๋อร์ชื่นชอบเจ้ามากถึงเพียงนั้น ข้าก็จะละเว้นให้”
มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าว “ข้อเสนอนี้ไม่เลวเลย ข้าตกลง! ข้าไม่เคยไปที่อื่นมาก่อนเลยนอกจากดินแดนสี่ทิศ! ถือว่าได้โอกาสไปเปิดหูเปิดตาก็แล้วกัน”
ลั่วอี้โจวกล่าว “แม่นางมู่เข้าใจเหตุผลได้ดีเช่นนี้ ข้าดีใจมาก”
“เจ้าก็เป็นพ่อที่ดีมากคนหนึ่งเหมือนกัน!”
“เหมี่ยวเอ๋อร์เป็นเด็กดีและเชื่อฟังเช่นนี้ ข้ารักนางมากย่อมเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว”
“ในเมื่อรักนางมากถึงเพียงนั้น แล้วเหตุใดถึงปล่อยให้คนจับตัวนางไปได้เช่นนั้นล่ะ แถมยังจับนางไปล่ามโซ่ตรวน เอานางไปเป็นสินค้าให้คนประมูลอีก?” มู่เฉียนซีมองเขาพลางกล่าว
“มันเป็นความผิดพลาดของข้าเอง ข้าจะต้องตรวจสอบหาให้เจอให้ได้ว่าผู้ใดกันที่มันกล้าทำเรื่องเช่นนี้” ลั่วอี้โจวกล่าวด้วยแววตาเคียดแค้นชิงชัง
มู่เฉียนซีกล่าว “ข้ามีนามว่ามู่เฉียนซี! ไม่ทราบว่าเจ้าชื่อแซ่ว่าอันใด?”
ลั่วอี้โจวกล่าว “ข้า ลั่วอี้โจว เป็นหัวหน้าเกาะเมฆา เหมี่ยวเอ๋อร์เรียกเจ้าว่าพี่สาว เช่นนั้นเจ้าก็เรียกข้าว่าท่านลุงลั่วก็ได้”
มู่เฉียนซีกล่าว “หัวหน้าเกาะลั่ว! สวัสดี!”
ลั่วอี้โจวยิ้มพลางกล่าวว่า “ไม่ทราบว่าเจ้าพร้อมจะเดินทางไปกับข้าเมื่อไหร่?”
“รอข้าเก็บของเสร็จก็เดินทางได้!”
“ตกลง!”
เมื่อลั่วเหมี่ยวรู้ว่ามู่เฉียนซีจะไปอยู่กับนางที่เกาะเมฆาด้วย นางก็ดีอกดีใจเป็นอย่างยิ่ง!
“พี่สาวมู่จะไปอยู่กับข้าที่เกาะเมฆาด้วย เช่นนี้ข้าก็ไม่ต้องแยกกับท่านพ่อกับพี่สาวมู่แล้ว”
มู่เฉียนซีกล่าว “ใช่แล้ว! รอให้ข้าไปถึงบ้านเสี่ยวเหมี่ยว คงต้องรบกวนเสี่ยวเหมี่ยวดูแลข้าด้วยล่ะ”
ลั่วเหมี่ยวพยักหน้าอย่างตั้งใจ “แน่นอนอยู่แล้ว!”
ที่มู่เฉียนซีบอกว่าเก็บของนั้น ความจริงแล้วนางไม่มีของให้ต้องเก็บแต่อย่างใด แต่นางไปหาซัวเฉียงและพูดคุยกับซัวเฉียงเล็ก ๆ น้อย ๆ
ไม่นานนัก พวกเขาก็ออกเดินทาง
เรือที่เกาะเมฆาจัดเตรียมมานั้นเป็นกลไกวิญญาณ เป็นเรือที่งดงามและประณีตเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีการป้องกันความปลอดภัยที่แข็งแกร่งมากด้วย
“เรือช่างใหญ่ยิ่งนัก!”
ลั่วเหมี่ยวแปลกใจกับทุกอย่าง ลั่วอี้โจวกล่าว “เหมี่ยวเอ๋อร์ชอบ รอกลับไปถึงพ่อจะมอบเรือให้เจ้าลำนึง”
“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะท่านพ่อ ข้าไม่อยากรบกวนท่านพ่อ”
“แม่นางมู่ เชิญขึ้นเรือขอรับ!” ผู้ติดตามคนหนึ่งของลั่วอี้โจวกล่าวเชิญ
“อืม!” มู่เฉียนซีกล่าวตอบรับและก้าวขึ้นไปบนเรือวิญญาณนี้
ความเร็วของเรือวิญญาณลำนี้รวดเร็วมาก ทว่า เรือลำนี้แล่นอยู่กลางทะเลเป็นเวลาแรมคืนแล้วก็ยังไม่ถึงจุดหมายปลายทางสักที
และในตอนนี้ในเมือง ก็มีร่างชุดดำร่างหนึ่งบุกเข้ามาในจวนจวนหนึ่ง
คนผู้หนึ่งกล่าวขึ้น “ใคร?”
ไม่มีเสียงตอบรับแต่อย่างใด แต่ลำแสงเย็นกลับสว่างวาบขึ้น คมกระบี่เล่มหนึ่งแทงไป
ฉึก! กระบี่เล่มนี้แทงทะลุหัวใจไม่พลาดเป้า
เมื่อเห็นคนผู้นั้นล้มลงไปนอนตาย ร่างในชุดดำก็อันตรธานหายไปอีกครั้ง
หลังจากที่ร่างในชุดดำนั้นอันตรธานหายไปนานครู่หนึ่ง ศพที่นอนกองอยู่บนพื้นนั้นก็ลืมตาขึ้นมา!
“เจ็บ โอ๊ย เจ็บจริง ๆ!”
เขาชักกระบี่ออกมา เลือดสีแดงสดไหลกระซิกออกมา เขารีบห้ามเลือดอย่างรวดเร็ว
“เป็นอย่างที่ท่านมู่พูดเอาไว้ไม่มีผิด คนแซ่ลั่วผู้นั้นต้องการฆ่าปิดปาก”
คนผู้นี้ก็คือซัวเฉียงนั่นเอง
เขาลุกยืนขึ้นอย่างโซเซ ก่อนจะกล่าวว่า “อยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้แล้ว ท่านมู่บอกว่าให้ไปส่งข่าวของนางที่ทุ่งรกร้างอันกว้างใหญ่ ต้องรีบไป!”
แม้ว่าลั่วอี้โจวจะรักลั่วเหมี่ยวมาก แต่มู่เฉียนซีกลับรู้สึกว่าเขาไม่มีทางปล่อยนางกับซัวเฉียงไปแน่นอน
นางต้องไปเกาะเมฆาและนางก็อยู่กับเสี่ยวเหมี่ยวตลอดเวลา ลั่วอี้โจวจึงไม่มีโอกาสลงมือกับนาง แต่ซัวเฉียงนะสิ ลำบากแล้ว
ดังนั้น นางจึงชี้แจงเรื่องราวต่าง ๆ ให้เขารู้ มอบยาแกล้งตายให้กับเขา บอกให้เขาหนีไปและไปส่งข่าวแทนนาง
ตอนนั้นสุ่ยจิงอิ๋งส่งพวกเขามาอย่างกะทันหัน นางจึงไม่ทันได้บอกกล่าวกับผู้ใด หากพวกเขาพบว่านางหายตัวไป ต้องเป็นกังวลแน่นอน
หลังจากที่นั่งเรือมาทั้งวันทั้งคืน ลั่วเหมี่ยวก็รู้สึกไม่สบายขึ้นเล็กน้อย
มู่เฉียนซีปรุงยาออกมาขวดหนึ่ง และกล่าวว่า “เสี่ยวเหมี่ยว ดื่มยานี้เข้าไปประเดี๋ยวก็หายแล้ว”
ลั่วเหมี่ยวขมวดคิ้วพลางกล่าวว่า “พี่สาวมู่ นี่มันคือยาใช่หรือไม่?”
นางต้องกินยาที่รสชาติแย่มาโดยตลอด นางจึงไม่ชอบยาเอามาก ๆ
“เชื่อข้า ยานี้ไม่ขมแน่นอน แถมยังอร่อยด้วย”
ยังมียาที่รสชาติอร่อยด้วยเหรอ
แม้ว่าจะไม่ค่อยเชื่อสักเท่าไร แต่ลั่วเหมี่ยวกลับยอมเชื่อใจมู่เฉียนซี
“ก็ได้!”
เมื่อดื่มเข้าไปอึกหนึ่ง ก็ได้รู้ว่ามันอร่อยจริง ๆ!
“อร่อย! แถมยังเป็นรสเฉ่าเหมย (สตรอเบอรี) อีกด้วย!” ลั่วเหมี่ยวกล่าวขึ้นด้วยความตื่นเต้น
จากนั้นนางก็ดื่มเข้าไปทั้งหมดภายในอึกเดียว ก่อนจะรู้สึกได้ว่าอาการของนางดีขึ้นในทันที
“พี่สาวมู่ ข้าอยากกินอีก!”
ในตอนนี้เอง ลั่วอี้โจวก็เดินมาและกล่าวว่า “เจ้าเด็กน้อย! ถึงแม้ว่ายามันจะอร่อย แต่เจ้าจะดื่มราวกับมันเป็นน้ำเปล่าไม่ได้นะ”
ลั่วเหมี่ยวเลียปากตัวเอง รสชาตินั้นนางชอบมากจริง ๆ
มู่เฉียนซีเอายาออกมาอีกหลายขวด “ไม่เป็นไร ๆ หากเสี่ยวเหมี่ยวชอบก็ดื่มแทนน้ำได้เลย ยานี้ไม่มีผลข้างเคียงอะไร”
ถูกมู่เฉียนซีกล่าวขัดเช่นนี้ หัวหน้าเกาะลั่วก็รู้สึกขุ่นเคืองขึ้นเล็กน้อย
เขากล่าว “แม่นางมู่บอกว่าข้ารักและตามใจเหมี่ยวเอ๋อร์ แต่ดูเหมือนแม่นางมู่จะตามใจเหมี่ยวเอ๋อร์มากกว่าข้าเสียอีก เป็นเช่นนี้อาจจะทำให้นางเสียคนได้นะ”
มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าวว่า “ก็ใครใช้ให้เสี่ยวเหมี่ยวน่ารักถึงเพียงนี้กันเล่า!”
ลั่วเหมี่ยวมีท่านพ่อที่รักและตามใจนาง อีกทั้งยังมีพี่สาวที่รักและตามใจนางเช่นนี้อีก นางรู้สึกมีความสุขยิ่งนัก และเพราะเหตุนี้จึงทำให้เด็กน้อยไม่สามารถรู้สึกถึงความขัดแย้งระหว่างพี่สาวที่รักกับท่านพ่อผู้แสนดีของนางเลย
เช้าวันต่อมา เมื่อลืมตาตื่น ก็พบว่าด้านนอกก็มีหมอกหนาปรากฏขึ้น
หมอกเหล่านี้ไม่ใช่หมอกธรรมดาทั่วไป แม้แต่พลังจิตก็ยากที่จะตรวจสอบได้
ลั่วอี้โจวเดินมาหามู่เฉียนซีและกล่าวว่า “เรือแล่นเข้ามาใกล้เกาะเมฆาแล้ว หมอกเหล่านี้เป็นปราการป้องกันของเกาะเมฆาของพวกเรา นอกจากเรือของพวกเราแล้ว ก็ไม่มีผู้ใดย่างกรายเข้ามาที่เกาะเมฆาได้ หากย่างกรายมาก็จะหายลับไปในหมอกนี้”
“ฉะนั้น หลายปีที่ผ่านมาเกาะเมฆาของพวกเราจึงสามารถซ่อนตัวเร้นกายจากโลกภายนอกได้ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้ใด ใจจดใจจ่ออยู่กับการฝึกบำเพ็ญและเพิ่มพลังวิญญาณความแข็งแกร่งเพียงอย่างเดียว”