ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1456 ดอกบัวเงินครามหัวใจทะเล
เขาหันไปยิ้มกับมู่เฉียนซีอย่างแปลกประหลาด ก่อนจะกล่าวออกมาว่า “และความลับสุดยอดของเผ่าวิญญาณร้ายของพวกเราก็คือ…”
พลังอันน่าสะพรึงกลัวระเบิดออกมาจากร่างของพวกเขา
ตูม!
ร่างของปีศาจโลหิตเข้าไปขวางหน้ามู่เฉียนซีเอาไว้ พร้อมกันนั้นก็ขวางพลังที่ระเบิดออกมาของพวกเขาได้ มู่เฉียนซีจึงไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย
และร่างของลั่วไห่และพวกก็ดับสูญไปเช่นนั้น!
การมีอยู่ของเผ่าวิญญาณร้ายช่างอันตรายมากจริง ๆ
มู่เฉียนซีกล่าว “เสี่ยวเหมี่ยว นำทางต่อเถอะ!”
“อืม!”
พลังของปีศาจโลหิตแข็งแกร่งมากพอ ดังนั้นพวกที่เข้ามาขวางทางจึงถูกปีศาจโลหิตจัดการไปอย่างง่ายดาย
ฉ่า ๆ ๆ!
ไกลออกไปมีเสียงสายน้ำไหล ดวงตาของลั่วเหมี่ยวเปล่งประกายขึ้นทันที
“พี่สาวมู่ ใกล้จะถึงแล้ว!”
พวกนางรีบเร่งก้าวเท้าย่ำเดินไปอย่างรวดเร็ว จนในที่สุดมู่เฉียนซีได้เห็นกับวังวารีสีฟ้าวังหนึ่ง
เป็นวังที่มีรูปทรงกลม ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขาสูงและห้อมล้อมไปด้วยภูเขา
ยอดเขานั้นคือใจกลางของวังอย่างแท้จริงเปรียบเสมือนเสาหลักแห่งสรวงสวรรค์ก็มิปาน
มีน้ำตกไหลรินลงมาจากยอดเขา แสงสีเงินส่องแสงสุกสกาวแพรวพราว
วังแห่งนี้งดงาม วิจิตรและตระการตามาก
ความรู้สึกอันคุ้นเคยหนึ่งผุดขึ้นมา ทำให้ดวงตาของลั่วเหมี่ยวเบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจ “พี่สาวมู่ ข้ารู้สึกเหมือน…เหมือนเคยอาศัยอยู่ที่นี่”
“เข้าไปเถอะ!”
เมื่อมาถึงประตูวังแห่งนี้ เสียงเสียงหนึ่งก็ดังก้องขึ้น “ในที่สุดเจ้าก็เลือกที่นี่ เข้ามาเถอะ!”
ครืน ตูม! ประตูวังที่ถูกปิดสนิทมาเนิ่นนาน ในตอนนี้ก็ได้เปิดออกแล้ว
มู่เฉียนซีจูงมือลั่วเหมี่ยวเดินเข้าไป ส่วนปีศาจโลหิตที่คอยปกป้องคุ้มกันพวกนางมาตลอดทาง ตอนนี้กลับทำได้เพียงแค่ยืนอยู่ด้านนอก
เดิมทีแล้วที่แห่งนี้พวกเขาไม่มีสิทธิ์เข้าไป
วังแห่งนี้ใหญ่โตมโหฬารยิ่งกว่าเมืองเมืองหนึ่งเสียอีก แต่ลั่วเหมี่ยวมีความทรงจำอันเลือนราง นางเดินทางมาถึงตรงนี้ได้เพราะความรู้สึกและสัญชาตญาณของนาง
มู่เฉียนซีเงยหน้าขึ้นมองยอดเขาของวังที่ถูกห่อหุ้มอยู่ในม่านหมอก มองไม่เห็นยอดเขาเลยแม้แต่น้อย
ส่วนทางที่ลั่วเหมี่ยวนำไปนั้นก็คือทางเดินที่ไปตรงนั้นนั่นเอง
ยิ่งเข้าใกล้ใจกลางมากเท่าใด กลิ่นหอมของดอกบัวก็ยิ่งหอมเข้มข้นมากขึ้นเท่านั้น
เพิ่งจะเดินมาถึงครึ่งทาง นางก็ได้ยินเสียงก้าวเท้าดังขึ้น และคนผู้นั้นก็ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าพวกนาง
ใบหน้ารูปงามนั้นปรากฏรอยยิ้มขึ้น “กลิ่นหอมนี้ เจ้าชอบหรือไม่?”
มู่เฉียนซีกล่าว “ก็ไม่เลวนะ!”
“วังแห่งนี้คือวังดอกบัวเงินคราม” เขามองไปที่ดวงตาสีฟ้าอ่อนที่ดุจดั่งวารีคู่นั้นของลั่วเหมี่ยวพลางกล่าว
ลั่วเหมี่ยวตกใจสะดุ้งเล็กน้อย ความรู้สึกคุ้นเคยก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้นเรื่อย ๆ
“แม่นางน้อย เจ้าเรียกข้าว่าเยี่ยเฉียก็ได้” เขากล่าวกับมู่เฉียนซี
มู่เฉียนซีกล่าวถาม “เหตุใดเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่?”
“ข้าน่ะเหรอ! ก็ข้าอยู่ที่นี่มาโดยตลอด!” เยี่ยเฉียกล่าว
“หากอยากรู้ตัวตนของเสี่ยวเหมี่ยวก็ตามข้ามาเถอะ! ข้าจะนำทางพวกเจ้าไปเอง”
เดินไปทางที่ใกล้ที่สุด มู่เฉียนซีกับลั่วเหมี่ยวก็มาอยู่ใต้ยอดเขานั้นแล้ว
น้ำตกไหลลงมาจากยอดเขา บริเวณโดยรอบได้ก่อตัวเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ และในทะเลสาบแห่งนี้ก็เต็มไปด้วยดอกบัวสีฟ้าอ่อนที่บานสะพรั่ง
ดอกบัวเหล่านี้งดงามมาก ในกลิ่นอันหอมหวนนั้นเต็มไปด้วยพลังวิญญาณ
เยี่ยเฉียกล่าว “ดอกไม้ในที่แห่งนี้เรียกว่าดอกบัวเงินครามหัวใจทะเล เจ้าว่าเจ้าใช่องค์จักรพรรดินีน้อยของข้าหรือไม่?”
“ขะ ข้า…” รูม่านตาของลั่วเหมี่ยวหดเล็กลงทันใด
นางดึงมู่เฉียนซีพลางกล่าว “พี่สาวมู่ ข้า…เมื่อก่อนข้าก็เป็นดอกบัวเงินครามหัวใจทะเลดอกหนึ่งมาก่อน ยังไม่ทันได้เติบโตก็กลายร่างมาเป็นมนุษย์และจากไปจากที่แห่งนี้เสียก่อน ดังนั้นตลอดเวลาที่ผ่านมาข้าก็เลยไม่เติบโตเสียที!”
“ข้า ข้าต้องลงไปในทะเลสาบ หารากของข้าให้เจอ และต้องเติบโตอีกครั้ง เช่นนั้นข้าก็จะสามารถเติบโตได้แล้ว”
สัตว์วิญญาณฝึกบำเพ็ญก็สามารถกลายร่างเป็นมนุษย์ได้ และพืชพันธุ์ดอกไม้ก็เช่นกัน
เสี่ยวเหมี่ยวเป็นเพียงแค่ดอกบัวเงินครามหัวใจทะเลที่กลายร่างมาเป็นมนุษย์เท่านั้น แล้วตกลงนางกับสุ่ยจิงอิ๋งมีความเกี่ยวข้องอันใดกันแน่
มู่เฉียนซีรู้ว่าความทรงจำของลั่วเหมี่ยวตอนนี้ยังกลับคืนมาไม่หมด หากต้องการให้นางจำเรื่องราวทั้งหมดได้ บางทีอาจจะต้องรอให้นางเติบโตขึ้นเสียก่อน
นางกล่าว “เสี่ยวเหมี่ยว เจ้าไปเถอะ!”
“พี่สาวมู่ ข้าจะตั้งใจพยายามทำอย่างสุดความสามารถ ข้าจะรีบฟื้นฟูร่างกาย รอข้านะ!”
ตู้ม! ครั้นแล้ว ลั่วเหมี่ยวจึงกระโดดลงไปในทะเลสาบราวกับนางเงือกน้อยก็มิปาน
ไม่นานนัก นางก็รู้สึกได้ว่ารากที่ให้กำเนิดนางกำลังเรียกนางและดึงดูดนางอยู่ นางจึงดำดิ่งลงไปใต้น้ำ!
ดอกบัวเงินครามสง่างามพร่างพราวสูงศักดิ์ดุจดั่งมงกุฎของจักรพรรดินีดอกหนึ่งบานสะพรั่งอยู่ในทะเลสาบ และกำลังจะแผ่ขยาย!
ทันทีที่กลีบดอกกำลังผลิบานนั้น ดูเหมือนว่าได้ครองพื้นที่หนึ่งในสี่ส่วนของทะเลสาบไป
และดอกบัวเงินครามดอกอื่น ๆ ก็ตามติดเป็นกลุ่มผุดขึ้นไปราวกับตามองค์จักรพรรดินีของพวกมันไปด้วย พร้อมกันนั้นก็ถ่ายเทพลังวิญญาณให้กับผู้เป็นจักรพรรดินีของพวกมัน
ช่วยให้นางได้เติบโต!
สีหน้าของมู่เฉียนซีเผยความประหลาดใจออกมา นางกล่าว “นั่น…นั่นลั่วเหมี่ยวเหรอ!”
เยี่ยเฉียกล่าว “ใช่! นั่นคือจักรพรรดินีแห่งดอกบัวเงินครามหัวใจทะเล ดอกบัวเงินครามอื่นไม่สามารถกลายร่างเป็นมนุษย์ได้ มีเพียงแค่ผู้เป็นจักรพรรดินีเท่านั้นที่สามารถกลายร่างเป็นมุนษย์ได้ เป็นเพราะนางกลายร่างเป็นมนุษย์เร็วเกินไป ร่างกายของนางจึงไม่สมบูรณ์!”
“แต่ตอนนี้กลับไม่ได้เป็นเช่นนั้นแล้ว ให้เวลานางอีกสักหน่อย แล้วนางจะเติบโตมาอย่างงดงาม”
มู่เฉียนซีกล่าว “เช่นนั้นก็ดี”
“ตกลงเจ้าเป็นใครกันแน่?” มู่เฉียนซีมองหน้เยี่ยเฉียพลางกล่าวถาม
คนผู้นี้ ไม่ว่าจะเป็นพลังความแข็งแกร่งหรือจะเป็นพลังจิตของเขา ล้วนแต่ยากที่จะหยั่งรู้ได้
เยี่ยเฉียกล่าว “ข้าเป็นใครนั้นมันไม่สำคัญ ข้าแค่อยากจะช่วยนางก็เท่านั้น อย่างไรเสียข้าก็อยู่ที่นี่มานานหลายปีจนรู้สึกเบื่อมาก อีกอย่างนางก็อยู่เป็นเพื่อนข้ามานานมากแล้วด้วย”
“เจ้าอยู่ที่นี่รอนางเติบโต ที่นี่มีพลังวิญญาณเข้มข้นมาก เจ้าเองก็สามารถเก็บตัวฝึกบำเพ็ญได้ หาทางทะลวงพลังวิญญาณเถอะ!”
มู่เฉียนซีกล่าว “เช่นนั้นก็ขอบใจเจ้ามาก!”
ในวังแห่งนี้มีห้องมากมาย
ทว่า ที่แห่งนี้มีเพียงแค่เยี่ยเฉียคนเดียวเท่านั้น ไม่มีคนอื่นเลย
ที่แห่งนี้ช่างเป็นสถานที่ฝึกบำเพ็ญที่ดีมากจริง ๆ เพียงแต่ว่ามู่เฉียนซีนั้นระมัดระวังตัวกับสิ่งรอบกายมาก นางยังคงไม่เชื่อใจเยี่ยเฉียผู้นี้
ฝึกบำเพ็ญที่แห่งนี้ไม่มีของกินเลย มู่เฉียนซีจึงเอาเสบียงอาหารแห้งที่เตรียมมาออกมากิน
เป็นผลให้เยี่ยเฉียถือโอกาสมาร่วมกินด้วย
แล้วเขาก็กินไปเช่นนั้น!
มู่เฉียนซีกล่าว “ข้ายังไม่ได้อนุญาตเจ้าก็หยิบของข้าไปกินเช่นนี้เลยเหรอ!”
“ข้าอยู่ที่นี่มานานหลายปี ไม่ได้กินของอร่อยมานานมากแล้ว เจ้าอยู่ที่นี่ก็คิดซะว่าเป็นการตอบแทนก็แล้วกัน เจ้าคงไม่ถือสาหรอกกระมัง!” เยี่ยเฉียกล่าว
“ข้าเองก็ไม่ใช่คนตระหนี่ถี่เหนียวอะไร กินเถอะ!”
แม้ว่าเขาจะไม่ได้กินของอร่อยมานานหลายปีแล้ว แต่กิริยาท่าทางการกินของเขาก็ยังคงงดงามมาก เยี่ยเฉียกล่าว “รสชาติไม่เลวเลย!”
“ข้าชักจะเริ่มชอบเจ้าเข้าแล้วล่ะ!”
ดวงตาสีดำขลับคู่นั้นของเยี่ยเฉียจ้องมองไปที่มู่เฉียนซี มันเป็นความรู้สึกผู้ล่าที่กำลังจ้องมองเหยื่อ
มู่เฉียนซีขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย และกล่าวว่า “ข้าว่า ไม่ชอบข้าจะดีกว่านะ!”
หลังจากกินเสร็จ มู่เฉียนซีก็ไปดูลั่วเหมี่ยวที่ทะเลสาบ ลั่วเหมี่ยวยังคงเป็นเหมือนเดิม ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ร่างกายของนางจะฟื้นฟูกลับมา
มู่เฉียนซีเก็บสิ่งที่อยู่ในทะเลสาบและดอกบัวเงินครามหัวใจทะเลมา นางมักจะมีลางสังหรณ์ไม่ดีอยู่เสมอ ต้องให้ลั่วเหมี่ยวเติบโตให้เร็วที่สุด แล้วรีบไปจากที่นี่
ต่อมามู่เฉียนซีก็เริ่มศึกษาปรุงยาเพื่อช่วยให้ลั่วเหมี่ยวเติบโตเร็วขึ้นโดยที่ไม่ส่งผลกระทบต่อนาง
เยี่ยเฉียอยู่คนเดียวก็รู้สึกเบื่อหน่ายมาก เมื่อเบื่อหน่ายเขาก็จะไปหามู่เฉียนซี ชวนนางเล่นหมากรุก
ในที่แห่งนี้เขาเป็นเจ้านาย มู่เฉียนซีจึงไว้หน้าให้เกียรติเขา แต่นางมั่นใจมากว่าเยี่ยเฉียผู้นี้ไม่ธรรมดาแน่นอน
เยี่ยเฉียกล่าว “จากที่ข้าสังเกตดูแล้ว พลังของเจ้ายังไม่ทะลวงขั้นจักรพรรดิแห่งภูตระดับสูงสุดกระมัง! วังดอกบัวเงินครามมีสถานที่แห่งหนึ่งที่ช่วยให้เจ้าทะลวงพลังวิญญาณได้ เจ้าอยากจะลองดูหรือไม่?”