ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1463 ข้ากลับมาแล้ว
ความลับของเผ่าวิญญาณร้ายของพวกเขา นึกไม่ถึงเลยว่าจะถูกสาวน้อยคนนอกผู้นี้ล่วงรู้เข้าเสียแล้ว
“สาวน้อยผู้นี้เก็บเอาไว้ไม่ได้ ต้องกำจัดทิ้งซะ” หัวหน้าเกาะลั่วกล่าวเสียงขรึม
“ขอรับ ท่านหัวหน้าเกาะ!”
“อู๋ตี้ เสี่ยวหง ออกมารับศึก!” ฝ่ายตรงข้ามเป็นยอดฝีมือหลายสิบคน พวกเขาล้วนแต่เริ่มลงมือแล้ว มู่เฉียนซีเองก็ไม่อาจรั้งรอได้แล้วเช่นกัน!
ร่างในชุดสีเขียวร่างหนึ่งปรากฏขึ้น คุ้มกันอยู่ด้านหน้ามู่เฉียนซี และรับการโจมตีของยอดฝีมือผู้หนึ่งเอาไว้
หัวหน้าเกาะลั่วเห็นร่างเพรียวบางในชุดสีเขียวก็ตกตะลึงพรึงเพริดขึ้น “นี่เจ้าเป็นใคร?”
มีคนนอกเข้ามาในเกาะของพวกเขาตั้งแต่เมื่อใดกันแล้ว แล้วเหตุใดพวกเขาถึงไม่รู้ตัวเลย
ปราการการป้องกันของเกาะเมฆาของพวกเขาเป็นปราการที่แข็งแกร่งที่สุดมาโดยตลอด เหตุใดถึงเกิดความผิดพลาดช่องโหว่เช่นนี้ขึ้นได้!
ปัง ปัง ปัง! กำลังในการต่อสู้อันแข็งแกร่งของชิงอิ่งทำให้พวกเขารับมือได้ยาก
กำลังในการป้องกันสมบูรณ์แบบ กำลังในการต่อสู้ก็สมบูรณ์แบบ นี่ไม่ใช่มนุษย์แล้ว!
หัวหน้าเกาะลั่วกล่าว “เขาไม่มีพลังวิญญาณ ไม่มีพลังปราณ เขาไม่ใช่มนุษย์ เขาคือหุ่นเชิด! ให้ตายเถอะ นึกไม่ถึงเลยว่ามู่เฉียนซีจะเอาหุ่นเชิดมาด้วย ขวางมันเอาไว้แล้วไปฆ่ามู่เฉียนซีซะ”
เมื่อได้รู้ถึงความแข็งแกร่งของยอดฝีมือบนเกาะเมฆาเหล่านี้ดีแล้ว มู่เฉียนซีเองก็ไม่เสี่ยงอันตรายอีกต่อไป
“หอฉงโหลว ออกมา!”
สาเหตุที่นางกล้าเดินทางมายังเกาะเมฆานี้กับลั่วอี้โจวนั้น ก็เพราะว่านางมีหอฉงโหลวบนเมฆาอยู่
หากประสบพบเจอกับอันตราย นางก็สามารถหนีได้!
ทันใดนั้นเอง ท้องฟ้าเหนือเกาะเมฆาก็พลันมืดมิดสนิทขึ้น เนื่องจากหอฉงโหลวบนเมฆาขนาดมหึมาปรากฏขึ้นบนท้องนภา
มู่เฉียนซีกล่าว “เสี่ยวเหมี่ยว ไม่ต้องพัวพันกับพวกมันแล้ว รีบขึ้นไปเร็วเข้า!”
ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ! เข็มยาของมู่เฉียนซีพุ่งออกไปหลายเข็ม
ลั่วเหมี่ยวเป็นคนที่เชื่อฟังมู่เฉียนซีมาโดยตลอด ดังนั้นนางจึงกระโดดลอยตัวขึ้นไปกลางอากาศโดยทันที
หัวหน้าเกาะลั่วตะโกนขึ้นด้วยความตื่นตระหนกว่า “ลั่วเหมี่ยว เจ้าหยุดเดี๋ยวนี้นะ! เจ้าเป็นของของข้า ข้าไม่อนุญาตให้เจ้าไปไหนทั้งนั้น หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”
“บัวแดงพิฆาต!”
มู่เฉียนซีใช้กระบี่โจมตีไปที่หัวหน้าเกาะลั่ว “เสี่ยวเหมี่ยวไม่ใช่ของของเจ้า เจ้าคิดจะใช้นางเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้ตัวเอง ฝันไปเถอะ!”
“ข้าเลี้ยงดูลั่วเหมี่ยวมานานหลายปี ตอบแทนข้าเพียงเล็กน้อยเท่านี้จะเป็นไรไป”
มู่เฉียนซีเอายาพิษจำนวนมากออกมา และโจมตีไปที่เจ้าคนไร้ยางอายผู้นี้
“มังกรน้ำแข็งท้าสวรรค์!”
อู๋ตี้กับเสี่ยวหงกล่าว “นายท่าน พวกเราจะขวางพวกมันเอาไว้เอง นายท่านรีบขึ้นไปเร็วเข้า!”
“เฉียน รีบไป!”
ชิงอิ่งที่ตื่นขึ้นมาจากการหลับใหลอีกครั้ง พลังของเขาก็ทวีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น มู่เฉียนซีจึงวางใจ!
ร่างในอาภรณ์สีม่วงเคลื่อนไหวพุ่งขึ้นไปบนหอฉงโหลวบนเมฆา
และในขณะที่มู่เฉียนซีขึ้นไปนั้น อู๋ตี้กับเสี่ยวหงก็กลับเข้าไปในมิติพันธสัญญาแล้ว ส่วนชิงอิ่งกำลังตามขึ้นไป
หัวหน้าเกาะลั่วกล่าว “จับตัวมันเอาไว้ จับตัวมันเร็วเข้า!”
จับตัวมู่เฉียนซีไม่ได้ อย่างน้อยก็จับของของนางเอาไว้เพื่อขู่บังคับนางก็ยังดี!
และในตอนนี้เอง พลังจิตของมู่เฉียนซีก็รับรู้ได้ว่ามีกลิ่นอายของผู้แข็งแกร่งนับร้อยกำลังใกล้เข้ามา นางตะโกนขึ้นว่า “ชิงอิ่ง เร็วเข้า! เร็ว!”
ปัง! หลังจากที่ร่างของชิงอิ่งพุ่งเข้ามาในหอฉงโหลวบนเมฆา หอฉงโหลวบนเมฆาก็ปิดลง!
ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!
คนด้านนอกเริ่มโจมตีหอฉงโหลวบนเมฆาอย่างบ้าคลั่ง ทว่า โจมตีเช่นไรก็ไม่สามารถเปิดออกได้!
“ท่านหัวหน้าขอรับ นี่มันเป็นมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพ ด้วยพลังของพวกเราแล้วไม่สามารถเปิดมันได้ เว้นเสียแต่คนเกาะหลังจะยอมลงมือช่วย!”
นึกไม่ถึงเลยว่าพวกเขาจะกล้ากล่าววาจาเช่นนี้ออกมา และนึกไม่ถึงเลยว่าคนเกาะหลังจากแห่กันมาแล้ว
ก่อนที่พวกเขาจะโจมตี มู่เฉียนซีก็ได้ให้หอฉงโหลวบนเมฆาเคลื่อนตัวเข้าสู่ม่านเมฆแล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ศัตรูโจมตีจนร่วงลงมา
และเมื่อเคลื่อนเข้าสู่หมอกเมฆได้สำเร็จ ก็ปลอดภัยแล้ว
ลั่วเหมี่ยวมองไปรอบ ๆ หอฉงโหลวบนเมฆาด้วยความสงสัย แม้ว่าก่อนหน้านี้ร้อยกว่าปีนางจะถูกหัวหน้าเกาะลั่วเอาตัวออกมาจากดินแดนเทพทะเลเมฆา แต่นางก็อยู่อย่างโดดเดี่ยวอยู่บนเกาะแห่งหนึ่ง หลายสิ่งหลายอย่างนางไม่เคยได้เห็นมาก่อน
มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าวว่า “อีกประเดี๋ยวเราก็จะกลับไปถึงฐานที่มั่นของข้าแล้ว”
“ฐานที่มั่นของพี่สาวมู่เป็นเช่นไรเหรอ?”
“ก็มีคนมากมาย มียา มีเงิน แถมยังมีของกินอร่อย ๆ อีกด้วยนะ” มู่เฉียนซีตอบ
ลั่วเหมี่ยวตั้งหน้าตั้งตารอคอย แต่เมื่อนึกถึงหัวหน้าเกาะลั่วแล้ว อารมณ์ของนางก็หดหู่ลง
“ข้าจะไม่สร้างความลำบากให้พี่สาวมู่จริง ๆ เหรอ?”
“ไม่หรอก! เจ้าอย่าคิดมากไปเลย เจ้าเหนื่อยแล้ว พักผ่อนเถอะ!” มู่เฉียนซีกล่าว
ทางด้านเกาะเมฆาในตอนนี้ ชายชุดดำผู้หนึ่งมองหน้าของหัวหน้าเกาะลั่วด้วยสีหน้าท่าทางเคร่งขรึม “ลั่วอี้โจว ตกลงมันเกิดอันใดขึ้นกันแน่ เกาะเมฆาของพวกเรามีมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพทะลุมิติเข้ามาได้อย่างไรกัน เจ้าอยากชี้แจงสักหน่อยหรือไม่?”
“ลั่วซานโจว ข้าเป็นหัวหน้าเกาะเมฆา เจ้าควรจะพูดจารู้จักเกรงอกเกรงใจซะบ้างนะ” หัวหน้าเกาะลั่วเองก็โกรธเกรี้ยวขึ้นแล้ว
ลั่วซานโจวกล่าวเย้ยหยัน “ก็แค่สวะไร้ประโยชน์คนหนึ่ง เจ้าคิดว่าหัวหน้าเกาะอย่างเจ้าจะเก่งกาจสักเพียงใดกันเชียว”
“ท่านหัวหน้าเกาะ นายท่านสาม อย่าได้ต่อล้อต่อเถียงกันเลย! พูดเรื่องสำคัญก่อนเถอะขอรับ!”
จากนั้นลั่วอี้โจวก็ทำได้เพียงเล่าเหตุการณ์คร่าว ๆ ให้ลั่วซานโจวฟัง
เมื่อได้ฟังแล้วลั่วซานโจวก็อุทานขึ้นมาด้วยความตกใจว่า “อะไรนะ! เจ้าบอกว่าสาวน้อยผู้นั้นชื่อมู่เฉียนซีอย่างนั้นเหรอ มู่เฉียนซี!”
ลั่วอี้โจวกล่าว “ใช่ ชื่อมู่เฉียนซี นางยังเป็นนักปรุงยาอีกด้วย หรือว่าเจ้าเคยได้ยินชื่อเสียงของนางในดินแดนสี่ทิศอย่างนั้นเหรอ”
ลั่วซานโจวเป็นคนของเกาะหลัง มีหน้าที่รับผิดชอบเรื่องภายนอกโดยเฉพาะ
ลั่วซานโจวกล่าว “ทำไมจะไม่เคยได้ยินล่ะ ตอนที่ข้าอยู่ที่ดินแดนสี่ทิศ แค่ได้ยินชื่อของนางข้าก็หูผึ่งแล้ว เจ้า…นี่ข้านึกไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะพาคนเช่นนั้นเข้ามาบนเกาะเมฆาของพวกเราได้ อีกทั้งยังปล่อยให้นางหนีรอดไปได้อีก เจ้ามันสมควรตาย!”
พรวด! ลั่วซานโจวปล่อยพลังอันแข็งแกร่งออกมาโจมตีจนลั่วอี้โจวได้รับบาดเจ็บสาหัส
คนอื่นเห็นเช่นนี้ต่างก็รู้สึกแปลกใจมาก นึกไม่ถึงเลยว่าจะทำให้นายท่านสามโกรธเกรี้ยวได้ถึงเพียงนี้ ตกลงมู่เฉียนซีนางเป็นใครกันแน่
ลั่วซานโจวกล่าว “มู่เฉียนซีคือเจ้าของหอหมอปีศาจ สามารถท้าทายกองกำลังระดับสามได้ และยังได้รับคำชมจากโอรสศักดิ์สิทธิ์ฟ้านอินแห่งแคว้นเทพฟ้านอิน อีกทั้งยังเป็นนักปรุงยาอันดับหนึ่งแห่งดินแดนสี่ทิศอีกด้วย พวกนั้นรู้เรื่องของพวกเราแล้ว เจ้าก็รอเวลาที่ท่านเทพมารจะมาเอาชีวิตเจ้าได้เลย!”
ลั่วอี้โจวกล่าว “เกาะหลังของพวกเจ้าจะออกจากเกาะไปเมื่อใดก็ได้ รู้เรื่องราวภายนอกได้ แต่ข้าไม่รู้! หากพวกเจ้ารายงานเรื่องเหล่านี้ให้ข้ารู้ ข้าจะเอาตัวนางมาที่นี่เหรอ!”
เดิมทีคิดว่ามู่เฉียนซีเป็นเพียงแค่สาวน้อยที่มีพลังแค่ขั้นจักรพรรดิแห่งภูตผู้อ่อนแอผู้หนึ่ง และเข้าใจในเรื่องหยูกยาเท่านั้น ไฉนเลยจะรู้ว่านางมีความสามารถถึงเพียงนี้!
ทว่า เรื่องราวยังไม่จบแต่เพียงเท่านี้ ทันใดนั้นชายชุดดำผู้หนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้น และกล่าวกับลั่วซานโจวว่า “นายท่านสาม ท่านเทพมารส่งข่าวมาแล้วขอรับ”
“ว่ายังไงนะ ท่านเทพมารส่งข่าวมาแล้วอย่างนั้นเหรอ” สีหน้าท่าทางของทุกคนพลันเปลี่ยนเป็นเคารพขึ้นมาทันที
“ท่านเทพมารบอกว่ามีหญิงสาวผู้หนึ่ง นามว่ามู่เฉียนซีอยู่ที่เกาะเมฆา เป็นคนนอก ไม่ว่าพวกเราจะใช้วิธีใดก็ต้องจับตัวนางเอาไว้ให้ได้ เพราะนางสำคัญกับท่านเทพมารมาก”
“อะไรนะ!” ลั่วอี้โจวตกตะลึงพรึงเพริดจนแทบจะเป็นลมล้มพับลงไป
คนที่ท่านเทพมารต้องการตัว แต่เขากลับจับตัวเอาไว้ไม่ได้ ครานี้ต้องตายเป็นแน่แท้!
“ลั่วอี้โจว!” ลั่วซานโจวก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นแล้วเช่นกัน
พวกเขาทุกคนต่างก็ตื่นตระหนกขึ้นแล้ว แต่ตื่นตระหนกไปก็ไร้ประโยชน์ มู่เฉียนซีใช้มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพทะลุมิติ พวกเขาก็อยากตามไล่ล่า แต่ก็ไม่รู้ว่าจะตามไปไล่ล่าที่ใด
ลั่วซานโจวกล่าวเสียงขรึมว่า “ข้า…ข้าจะไปรายงานให้ท่านลัวซาทราบ เขาเป็นถึงผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในเกาะเมฆา”
ณ เมืองหมอในเพลานี้มียอดฝีมือระดับสูงสุดจำนวนมากแล้ว แต่หัวหน้าหอยังไม่กลับมา หากไม่ใช่เพราะว่ามีคนมาส่งข่าวก่อนหน้านี้แล้ว พวกเขาคงจะเคลื่อนกำลังพลออกไปตามหาหัวหน้าหอทั่วทั้งดินแดนสี่ทิศแล้วเป็นแน่
และจู่ ๆ ตอนนี้เอง น้ำเสียงอันคุ้นเคยเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น “พวกเจ้ามัวแต่ยืนนิ่งกันอยู่ทำไม ข้ากลับมาแล้วนี่ไง!”
.