ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1470 พิฆาตวิญญาณลงมือ
อินรั่วเฉินกล่าว “เปล่า! วิญญาณลิขิตสวรรค์ คนธรรมดาทั่วไปดูไม่ออก เรื่องเช่นนี้เจ้าไม่รู้หรอกเหรอ?”
“แล้วเจ้ารู้ตั้งแต่เมื่อใด?”
อินรั่วเฉินไม่ทันได้ตอบมู่เฉียนซี น้ำเสียงอันชั่วร้ายเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น “นึกไม่ถึงเลยว่าพวกเจ้าจะหาตรงนี้เจอได้”
มู่เฉียนซีเห็นร่างสีดำอันคุ้นเคยนั้นแล้วก็ไม่อยากจะกล่าววาจาไร้สาระมากมาย
“มังกรเพลิง!”
“มังกรเพลิงสังหาร!”
กระบี่มังกรเพลิงสามารถกลืนกินวิญญาณได้ เยี่ยเฉียก็เป็นวิญญาณหนึ่ง ดังนั้นใช้กระบี่มังกรเพลิงรับมือดีที่สุด
แม้จะเผชิญหน้ากับการโจมตีอันดุเดือดเช่นนี้ของมู่เฉียนซี แต่เยี่ยเฉียกลับหัวเราะขึ้นก่อนจะกล่าวว่า “นี่คือกระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ในสภาพที่ไม่สมบูรณ์อย่างนั้นเหรอ?”
“แค่นี้มันทำอะไรข้าไม่ ได้หรอก”
เยี่ยเฉียหลบหลีกการโจมตีของมู่เฉียนซีอย่างง่ายดาย “นึกไม่ถึงเลยว่าวิญญาณลิขิตสวรรค์จะมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าข้า ชะตาชีวิตของข้ามันถูกกำหนดเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้ว! รอให้ร่างจริงของข้านำกำลังคนมาปลดผลึกให้ได้ก่อน แม้หลังจากนั้นข้าจะถูกร่างจริงกลืนกินวิญญาณ”
“เมื่อถูกแยกออกจากกันแล้ว อันที่จริงก็ไม่ได้อยากถูกกลืนกินกลับเข้าไปอีก แต่มันก็ช่วยไม่ได้…”
“ตอนนี้การปรากฏตัวของเจ้ากลับทำให้ข้าได้มีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง! เมื่อข้ากลืนกินวิญญาณลิขิตสวรรค์ ข้าก็จะแข็งแกร่งกว่าเขา และเมื่อถึงเวลานั้นข้าก็จะกลืนกินเขาเข้าไปแทน”
ตูม! ในตอนนี้เอง ลำแสงสีทองอร่ามแสงหนึ่งพุ่งไปที่เยี่ยเฉีย
อินรั่วเฉินกล่าว “วิญญาณลิขิตสวรรค์ ใช่สิ่งที่เผ่าชั่วร้ายเช่นเจ้าจะละโมบโลภมากได้อย่างนั้นเหรอ ลิขิตสวรรค์ ผู้ใดก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้”
เยี่ยเฉียหัวเราะขึ้นก่อนจะกล่าวออกมาว่า “เป็นถึงผู้คุมวิญญาณลิขิตสวรรค์ที่เติบโตเต็มวัยแล้ว แต่พลังของนางตอนนี้กลับอ่อนแอยิ่งนัก ไม่ต่างอะไรกับแมวน้อยตัวหนึ่งที่จะบีบเมื่อไรก็ตายได้เมื่อนั้น นางไม่มีความสามารถนั้นหรอก”
เยี่ยเฉียยิ้มอย่างชั่วร้ายพลางกล่าว “พวกเจ้ามันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้าหรอก”
“วิญญาณร้ายแผดเผา!”
เยี่ยเฉียถูกพลังกลุ่มหนึ่งห่อหุ้มเอาไว้ และพลังอันน่าสะพรึงกลัวก็แผ่ซ่านออกมา
อินรั่วเฉินกล่าว “แม่นางมู่ เราประเมินเขาต่ำเกินไปแล้ว รีบหนีเถอะ ขอโทษด้วยที่ข้าทำให้เจ้าลำบากเข้าแล้ว”
กลอุบายของเจ้าตัวประหลาดที่ไม่รู้ว่ามีชีวิตมานานมากเพียงใดแล้วผู้นี้ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะจินตนาการได้
เยี่ยเฉียกล่าว “หนีอย่างนั้นเหรอ ที่นี่มันเป็นมิติของข้า พวกเจ้าคิดว่าพวกเจ้าจะหนีไปได้อย่างนั้นเหรอ?”
“เยี่ยเฉีย ข้าไม่ได้บอกสักหน่อยว่าข้าจะหนี!”
“อินรั่วเฉิน สู้เถอะ!”
พลังอันน่าสะพรึงกลัวแผ่ซ่านไปทั่วทุกแห่งหน มือของเยี่ยเฉียพุ่งจะจับไปที่มู่เฉียนซี
ลำแสงสีทองอร่ามได้ก่อตัวเป็นวงล้อมสกัดกั้นการโจมตีให้กับมู่เฉียนซี และในตอนนี้เองคมศรสีดำนับไม่ถ้วนก็พุ่งออกมา
ปัง ปัง ปัง!
จำนวนคมศรนั้นหนาแน่นเกินไปจนทะลุเกราะป้องกันของอินรั่วเฉินได้
“หลบ!”
ปัง ปัง ปัง!
พื้นดินที่พวกเขายืนอยู่ตรงเมื่อครู่ถูกยิงจนเกิดรูมากมาย
“มังกรเพลิงสังหาร!”
มังกรเพลิงสีแดงฉานตัวหนึ่งพุ่งไปที่ร่างสีดำและแผดเผาพลังสีดำนั้น!
พลังของมังกรเพลิงมีจำกัด และพลังที่โจมตีเยี่ยเฉียนั้นก็มีจำกัดเช่นกัน
เยี่ยเฉียกำจัดการโจมตีของมู่เฉียนซีไปได้อย่างง่ายดาย ก่อนจะกล่าวว่า “กระบี่มังกรเพลิงที่ไร้ดวงจิตของกระบี่ สำหรับข้าแล้วมันก็เป็นเพียงแค่มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพธรรมดาทั่วไปชิ้นหนึ่งก็เท่านั้น มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพ มันทำอะไรคนอย่างข้าไม่ได้หรอก”
พลังของเยี่ยเฉียแผ่ซ่านออกมา มู่เฉียนซีตะโกนขึ้นอย่างเย็นชาว่า “โล่วิญญาณน้ำแข็ง!”
ฉ่า ๆ !
เกราะป้องกันของโล่วิญญาณน้ำแข็งก็ยังแข็งแกร่งไม่พอ ชั้นน้ำแข็งแตกสลายไปภายในชั่วพริบตาเดียว
พลังอันน่าสะพรึงกลัวพุ่งโจมตีเข้าสู่พลังจิตของมู่เฉียนซี ทำให้มู่เฉียนซีเป็นลมหมดสติไป
“แม่นางมู่!” อินรั่วเฉินอุทานขึ้นด้วยความเป็นห่วง
แสงแห่งธรรมได้ห่อหุ้มมู่เฉียนซีเอาไว้ราวกับดักแด้ และอินรั่วเฉินก็หันไปสู้รบกับเยี่ยเฉีย!
“เจ้ายังอ่อนแอกว่าเจ้าเฒ่าในครั้งนั้นมาก เจ้ามันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า” เยี่ยเฉียกล่าวดูถูกถากถาง
พลังสีดำมืดก่อตัวเป็นลูกบอลลูกหนึ่งพุ่งตัดผ่านอากาศไปที่อินรั่วเฉิน จากนั้นมันก็กระแทกเข้ากับร่างของอินรั่วเฉินเต็มแรง
พลังของเยี่ยเฉียนั้นยากที่จะหยั่งถึงได้!
ปัง!
ร่างของอินรั่วเฉินร่วงลงมาจากกลางอากาศ
พรวด!
พลังนั้นโจมตีอย่างรุนแรงจนอวัยวะภายในของอินรั่วเฉินแทบจะแหลกสลาย ก่อนที่เขาจะกระอักเลือดคำโตออกมา
“ช่างอ่อนแอยิ่งนัก! การที่ข้าไม่ฆ่าเจ้าก่อน ก็ไม่ได้หมายความว่าข้าจะไม่ฆ่าเจ้านะ” เยี่ยเฉียกล่าว
ในตอนนี้ อินรั่วเฉินใช้พลังสุดท้ายที่เหลืออยู่พุ่งไปข้างกายมู่เฉียนซี
มู่เฉียนซีหมดสติไปแล้ว พลังจิตของนางกำลังต่อสู้อยู่กับเยี่ยเฉีย พลังของเจ้าประหลาดผู้นี้กดนางจนนางแทบจะหายใจไม่ออก
ทว่า นางจะพ่ายแพ้ไม่ได้เด็ดขาด!
และในตอนนี้เองอินรั่วเฉินก็หยิบกระบี่มังกรเพลิงขึ้นมาแล้ว
“ใครอนุญาตให้เจ้ามาแตะต้องข้า ปล่อยเดี๋ยวนี้ มิเช่นนั้นข้าจะแผดเผาเจ้าซะ” มังกรเพลิงไม่ยอมให้คนอื่นมาแตะต้องมัน หากคนอื่นมาแตะต้องมันก็จะโมโหและเกรี้ยวกราดใส่
“ปล่อย…”
ทว่า จู่ ๆ มังกรเพลิงก็ตกตะลึงพรึงเพริดขึ้น
“เจ้า…นี่เจ้า…”
มังกรเพลิงกำลังสั่นสะท้าน
“หยุดเอะอะโวยวายสักที!”
เสียงของอินรั่วเฉินไม่ได้บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนก่อนแล้ว แต่กลับเป็นน้ำเสียงที่เย็นชาและเต็มไปด้วยจิตสังหาร
มังกรเพลิงไม่กล้าขัดขืน และไม่กล้าส่งเสียงเอะอะโวยวาย
มันกล่าว “ฆ่าเจ้าสารเลวนั่นซะ ช่วยนายท่านให้ได้”
ร่างในชุดสีเหลืองอ่อนถูกเปลวไฟห่อหุ้มขึ้นภายในชั่วพริบตา
ไม่ใช่เปลวไฟ แต่กลับเป็นทะเลเพลิง!
ดวงตาคู่นั้นของอินรั่วเฉินพลันแดงก่ำอย่างกระหายเลือด
“ก็แค่มดปลวก แต่กลับลอยไปลอยมาเกะกะขวางตาข้า ช่างน่ารำคาญยิ่งนัก!” น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกระหายเลือดดังก้องออกมา
เยี่ยเฉียเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
“นี่เจ้าอยากตายนักหรือไง?”
“พูดมากน่ารำคาญ!”
เปลวไฟสีแดงฉานได้ก่อตัวเป็นเงากระบี่นับไม่ถ้วน
พลังชั่วร้ายสีดำเพียงน้อยนิดของเยี่ยเฉียนั้นไม่อาจต้านทานได้เลย
ช่างน่ากลัวยิ่งนัก!
“หยุด หยุดได้แล้ว…”
“เจ้าช่วยนางไปก็ไร้ประโยชน์อยู่ดี มิสู้มาร่วมมือกับข้าเสียยังดีกว่า เรามากลืนกินวิญญาณลิขิตสวรรค์ไปด้วยกัน”
พรึ่บ!
พลันนั้นวิญญาณของเยี่ยเฉียก็ถูกแผดเผาและถูกกลืนกินในที่สุด!
ก็เหมือนอย่างที่มู่เฉียนซีประเมินพลังของเยี่ยเฉียต่ำเกินไป เขาก็ประเมินความแข็งแกร่งของกระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ต่ำเกินไปเช่นกัน
“เหยื่อของข้า มันใช่สิ่งที่เจ้าคิดจะแตะต้องก็แตะต้องได้อย่างนั้นเหรอ สวะ!”
“ขะ ข้า…เจ้า เจ้าไว้ชีวิตข้าด้วย! ข้าจะไม่แตะต้องนาง ข้าจะทำให้เจ้าได้กลืนกินวิญญาณลิขิตสวรรค์ อ๊า…”
เยี่ยเฉียยังไม่ทันกล่าวจบ เขาก็ถูกกระบี่เล่มหนึ่งแทงทะลุหัวใจเสียแล้ว
หากว่าเป็นกระบี่ธรรมดาทั่วไป คาดว่าคงไม่สามารถทำอะไรเขาได้
ทว่า นี่คือกระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ กระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณ มันกลืนกินวิญญาณของเขาไปด้วยความรวดเร็วอย่างสุดขีด
เยี่ยเฉียยิ้มพลางกล่าว “ข้ายังไม่ยอมแพ้ ตราบใดที่พลังจิตของข้าครอบครองร่างกายของนางอยู่ ข้าก็จะไม่แพ้!”
อ๊า! เสียงกรีดร้องดังลั่นขึ้น และเยี่ยเฉียก็รู้สึกได้ว่าพลังจิตของเขาก็กำลังถูกกลืนกินไปแล้ว ถูกมู่เฉียนซีกลืนกินแล้ว
“เป็นไปได้ยังไง นางเป็นเพียงแค่สาวน้อยคนหนึ่งเท่านั้น!”
วิญญาณลิขิตสวรรค์ จะกลืนกินได้ง่าย ๆ ได้อย่างไรกันเล่า
ยิ่งไปกว่านั้น มู่เฉียนซีนางมาจากโลกอีกใบหนึ่ง
อินรั่วเฉินหยิบกระบี่ขึ้นมา และชี้คมกระบี่ไปที่หัวใจของมู่เฉียนซี
“ข้าประเมินเจ้าต่ำเกินไปแล้วจริง ๆ เจ้าแมวน้อย”
มังกรเพลิงตัวสั่นเครือ เพราะมันกลัวว่าจะทำให้มู่เฉียนซีได้รับบาดเจ็บ
“พิฆาตวิญญาณ นายท่านเป็นคนที่มีความสามารถและมีฝีมือไม่เลวคนหนึ่งเลย เจ้า…ข้าว่าเจ้ายอมรับนายท่านเป็นนายเสียเถอะ! อย่าทำร้ายนายท่านจะได้หรือไม่?” มังกรเพลิงกล่าวขอร้องอ้อนวอน
“เจ้าหุบปากไปซะ!”
“ฮือ ๆ ๆ!” มังกรเพลิงร้องไห้คร่ำครวญออกมา
มันกลัวว่าพิฆาตวิญญาณจะฆ่านายท่านจริง ๆ
และดวงตาสีแดงก่ำของพิฆาตวิญญาณในตอนนี้พลันเปลี่ยนเป็นสีดำมืดสนิท และพลันเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำอีกครั้ง!
ปลายนิ้วของเขาสัมผัสเลื่อนผ่านตัวกระบี่ และดึงมังกรเพลิงออกมา
“เรื่องที่เกิดขึ้นในเมื่อครู่ เจ้าลืมมันไปซะ!”
พลังจิตอันแข็งแกร่งแผ่ซ่านออกมาและลบล้างความทรงจำทั้งหมดของมังกรเพลิงไปจนสิ้น
หากเป็นคนอื่นไม่มีทางทำได้แน่นอน แต่พิฆาตวิญญาณกับมังกรเพลิงเป็นฝาแฝดกัน ดวงจิตเชื่อมสัมพันธ์กัน การลบล้างความทรงจำจึงเป็นเรื่องที่ทำได้อย่างง่ายดาย
“อ๊า!” มังกรเพลิงส่งเสียงกรีดร้องดังลั่น