ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1472 ล่อเสือออกจากถ้ำ
มู่เฉียนซีผงะไปเล็กน้อย จากนั้นก็ยื่นมือไปผลักเขาเบา ๆ
“ภิกษุ หยุดเหม่อได้แล้ว รีบนำทางเร็วเข้า ไม่รู้ตอนนี้เป่ยกงจั๋วหนีไปถึงไหนต่อถึงไหนแล้ว”
อินรั่วเฉินเรียกสติกลับมา ก่อนจะกล่าวว่า “ตามข้ามา!”
มีอินรั่วเฉินนำทางเช่นนี้ พวกเขาจึงออกจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งพุทธได้อย่างราบรื่น
หัวหน้าแคว้นเทพฟ้านอินเป็นคนมารับพวกเขาด้วยตนเอง เขามองมู่เฉียนซีและอินรั่วเฉินพลางกล่าวถามว่า “ออกมาได้อย่างปลอดภัยก็ดีแล้ว!”
มู่เฉียนซีกล่าวถามว่า “หัวหน้าแคว้น มีข่าวของเป่ยกงจั๋วบ้างหรือไม่?”
หัวหน้าแคว้นกล่าว “ตอนนี้ยังไม่มี”
“หรือว่าจะใช้หยกส่งตัวระยะไกลกลับไปแดนซวนเทียนแล้ว” มู่เฉียนซีนิ่งคิดไปครู่หนึ่ง
อินรั่วเฉินกล่าว “หากองค์รัชทายาทเป่ยกงกลับไปได้ เขาคงกลับไปตั้งนานแล้ว คงไม่ลดตัวไปร่วมมือกับปรมาจารย์แห่งแคว้นหรอก แม่นางมู่วางใจเถอะ เขาน่าจะยังอยู่ที่ดินแดนสี่ทิศ”
มู่เฉียนซีกล่าว “ช่วงนี้เผ่าวิญญาณร้ายเคลื่อนไหวบ่อยมาก เจ้าก็ระวังตัวเองหน่อยก็แล้วกัน”
หัวหน้าแคว้นตอบ “พวกเราจะระวัง รั่วเฉินจะเก็บตัวพักผ่อนแล้ว ดังนั้นเราคงไม่ได้ไปส่งแม่นางมู่แล้วล่ะ”
มู่เฉียนซีเห็นสีหน้าของหัวหน้าแคว้นเทพฟ้านอินเผยความเคร่งเครียดออกมา แต่อินรั่วเฉินกลับไม่ยอมกล่าวสิ่งใด นางก็ไม่ได้เค้นถามแต่อย่างใด
“เช่นนั้นก็ไม่รบกวนแล้ว หากโอรสฟ้านอินต้องการยาลูกกลอนใดก็ส่งข่าวไปที่หอหมอปีศาจได้ หอหมอปีศาจจะลดราคาให้”
กล่าวจบ มู่เฉียนซีก็มุ่งหน้าไปที่ค่ายกลส่งตัวระยะไกลของแดนตะวันตก
แม้ว่าหอฉงโหลวบนเมฆาจะรวดเร็วกว่าค่ายกลส่งตัวระยะไกล แต่หินมิติก็ใช่ว่าจะมีมากมายถึงขั้นใช้ไม่หมด
“รั่วเฉิน!” หลังจากที่มู่เฉียนซีไปแล้ว ความเคร่งเครียดของหัวหน้าแคว้นเทพฟ้านอินก็ไม่อาจบดบังได้อีกต่อไป
ค่อก ๆ ๆ! จู่ ๆ อินรั่วเฉินก็ไออย่างรุนแรง จนกระทั่งสำลักเลือดออกมา
“หัวหน้าแคว้นไม่ต้องเป็นกังวล ข้ายังทนไหว ข้าจะอดทนรอจนกว่าจะถึงโอกาสที่ดีที่สุดให้ได้ เพื่อทำเรื่องที่ข้าควรทำให้สำเร็จ”
“รีบไปพักเถอะ! ลำบากเจ้าแล้ว” หัวหน้าแคว้นทำได้เพียงแค่กล่าวอย่างทอดถอนใจ
หลังจากที่มู่เฉียนซีกลับไปถึงแดนเหนือก็รีบวางกับดักตามหาตัวเป่ยกงจั๋วทันที กู้ไป๋อีถูกมู่เฉียนซีบังคับให้กินยาลูกกลอนเป็นกอง ๆ ในตอนนี้ก็อยู่ในช่วงฟื้นตัว
มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าวว่า “ท่านหัวหน้าตำหนัก ในเมื่ออาการดีขึ้นแล้ว ก็ควรจะกลับไปควบคุมสถานการณ์ที่ตำหนักเป่ยหานได้แล้วกระมัง”
ในที่สุดตอนนี้นางก็ได้รับรู้ถึงความรู้สึกที่ถูกคนอื่นทิ้งภาระหน้าที่เอาไว้ให้รับผิดชอบเหมือนอย่างที่เยวี่ยเจ๋อรู้สึกแล้ว
กรรมตามสนองแล้วจริง ๆ!
กู้ไป๋อีกล่าว “ซีเอ๋อร์จัดการดูแลได้เป็นอย่างดี หลังจากจัดการปัญหาทุกอย่างเสร็จสิ้น ซีเอ๋อร์ก็เป็นหัวหน้าตำหนักเป่ยหานเถอะนะ!”
มู่เฉียนซีอยากเอาอิฐตีหัวเจ้าหมอนี่เสียจริง ๆ เลย “กู้ไป๋อี เจ้าได้คืบแล้วจะเอาศอกเหรอ”
กู้ไป๋อีกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “ก็…ได้คืบไม่เอาศอกก็ได้!”
มู่เฉียนซีไล่กู้ไป๋อีกลับไปยังตำหนักเป่ยหานทันที มีเรื่องราวมากมายที่รอให้เขาไปจัดการ!
อย่างไรเสีย ในตอนที่เป่ยกงจั๋วควบคุมตำหนักเป่ยหาน เขาไม่ได้เห็นกองกำลังระดับสามอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย และไม่ได้สนใจเรื่องอันใดเลย
ส่วนกู้ไป๋อีก็รู้ดีว่าต้องรีบควบคุมกองกำลังของตำหนักเป่ยหานทั้งหมดให้ได้เสียก่อน เช่นนี้ถึงจะตามหาตัวเป่ยกงจั๋วได้ง่ายขึ้น ดังนั้นเขาจึงไม่รีรอ ต้องรีบรวบรวมกองกำลังของตำหนักเป่ยหานกลับมาเหมือนเดิมให้เร็วที่สุด
ไม่นานนักก็มีข่าวแจ้งมาจากแดนใต้
“ท่านหัวหน้าหอ คนของเราเจอองค์รัชทายาทเป่ยกงปรากฏตัวที่เหลยโจวในแดนใต้ขอรับ”
มู่เฉียนซีกล่าว “ออกเดินทางไปเหลยโจวเดี๋ยวนี้!”
เมื่อมู่เฉียนซีได้ปล่อยหอฉงโหลวบนเมฆาออกมา กู้ไป๋อีก็รับรู้ได้ในทันที
“ซีเอ๋อร์ ข้าไปด้วย!” กู้ไป๋อีกล่าวเสนอตัว
“พี่สาวมู่ ข้าไปด้วย! ข้าหายดีแล้ว ข้าช่วยได้” ลั่วเหมี่ยวก็เดินออกมาพลางกล่าวเสนอตัวเช่นกัน
ในคราก่อน ลั่วเหมี่ยวใช้พลังอันแข็งแกร่งของนางไปเยอะมาก ดังนั้นร่างกายของนางจึงอ่อนแอไปช่วงหนึ่ง
มู่เฉียนซีจนใจ กล่าวตอบรับว่า “ไปกันเถอะ!”
แม้ว่าจะได้รับรายงานข่าวของเป่ยกงจั๋วมาแล้ว แต่มู่เฉียนซีก็ให้คนคอยเฝ้าค่ายกลส่งตัวระยะไกลของทั้งสองตำหนักไว้เป็นอย่างดี
ตอนนี้ ดินแดนสี่ทิศเป็นอาณาเขตของตนเองแล้ว รับมือกับเป่ยกงจั๋วได้ง่ายมาก หากเป่ยกงจั๋วหลบหนีไปอยู่ในอาณาเขตของเขา มันจะไม่เป็นผลดีต่อพวกนางเลย
ต้องกำจัดเขาให้เร็วที่สุด!
หอฉงโหลวบนเมฆาใช้ความเร็วอย่างรวดเร็วที่สุดมุ่งหน้าไปยังเหลยโจว สาเหตุที่พวกเขาถูกเปิดโปงก็เป็นเพราะว่ากองกำลังของแดนใต้ไม่อาจขาดแคลนยาลูกกลอนของหอหมอปีศาจได้
เป่ยกงจั๋วจึงหลบไปซ่อนตัวอยู่ที่เขาหมื่นอัสนี!
ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!
บางครั้งก็มีอัสนีฟาดลงมา หอฉงโหลวบนเมฆาจึงทำได้เพียงแค่หยุด ก่อนจะให้มู่เฉียนซีและพวกลงที่ด้านนอกภูเขา
มู่เฉียนซีกล่าว “ขึ้นเขา!”
ขวับ ๆ ๆ!
พวกเขาพุ่งตัวมุ่งหน้าขึ้นเขาไปอย่างรวดเร็ว!
นึกไม่ถึงเลยว่าเป่ยกงจั๋วจะไม่ได้หลบหนีแล้ว เขายิ้มอย่างอ่อนโยนพลางกล่าวว่า “ข้านึกไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าเจ้าจะมาเร็วกว่าที่ข้าจินตนาการเอาไว้มากนัก!”
“แต่จะว่าไป เจ้ามาก็เท่ากับมาตายชัด ๆ”
“ค่ายกลอัสนี! บังเกิด”
ทันใดนั้นเอง ท้องฟ้าพลันมืดมิดสนิทลง
เป่ยกงจั๋วเอาป้ายคำสั่งส่งตัวระยะไกลชิ้นสุดท้ายของเขาออกมา และตะโกนด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “พวกเจ้า ตายซะเถอะ!”
ไม่นานนักร่างของเป่ยกงจั๋วก็อันตรธานหายไปอย่างรวดเร็ว และนี่ก็คือกับดักนั่นเอง!
มู่เฉียนซีกล่าว “เสี่ยวไป๋ ลั่วเหมี่ยว รีบหนีไปเร็วเข้า ข้าจะขวางอัสนีนี้เอาไว้เอง”
“ซีเอ๋อร์!”
“พี่สาวมู่!”
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างไม่ลังเลว่า “ฟังข้า! ตอนนี้พวกเจ้ารีบตามเป่ยกงจั๋วไปเร็วเข้า เป้าหมายของเป่ยกงจั๋วก็คือค่ายกลส่งตัวระยะไกลของตำหนักเป่ยหานและตำหนักตงจี๋แน่นอน”
“ถึงแม้ว่าข้าจะเตรียมการซุ่มโจมตีเอาไว้แล้ว แต่คนอย่างเป่ยกงจั๋วมีอุบายมากมาย ข้าไม่อาจวางใจได้ มีเพียงแค่เจ้าเท่านั้นเสี่ยวไป๋ หากเจ้าเป็นคนคุมสถานการณ์ข้าถึงจะวางใจ”
ในตอนที่ได้ข่าวของเป่ยกงจั๋ว นางใช่ว่าจะไม่เตรียมพร้อมอะไรเลย
เป่ยกงจั๋วเป็นคนเจ้าเล่ห์ เขาต้องการจะล่อเสือออกจากถ้ำ เขามีของล้ำค่าที่สามารถหนีเอาตัวรอดได้ เหมือนที่นางมีหอฉงโหลวบนเมฆา
แต่กลับนึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะเรียกค่ายกลอัสนีอันน่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ขึ้นมา!
กู้ไป๋อีอดที่จะมองหน้ามู่เฉียนซีครู่หนึ่งไม่ได้ จากนั้นเขาจึงพาคนอื่น ๆ ล่าถอยไป
เมื่อเทียบกับอัสนีนี้แล้ว งูพิษอย่างเป่ยกงจั๋วอันตรายกว่ามาก
และในขณะที่พวกเขากำลังล่าถอยไป มู่เฉียนซีก็พุ่งไปที่มังกรอัสนีสีเงินตัวนั้นแล้ว!
กระบี่มังกรเพลิงระเบิดเปลวไฟออกมา และก่อตัวเป็นกำแพงเพลิงกั้นด้านหน้ามู่เฉียนซีเอาไว้ “นายท่าน ข้าฟื้นแล้ว!”
“มังกรเพลิง เจ้าได้รับบาดเจ็บหรือไม่ ข้านึกไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะหลับใหลไปโดยไม่บอกไม่กล่าวไปเช่นนั้น”
มังกรเพลิงเองก็สับสนเล็กน้อย “ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกัน จู่ ๆ ก็ผล็อยหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ แต่นายท่านไม่เป็นอะไรข้าก็ดีใจแล้ว”
ไม่นานนัก มังกรเพลิงก็ตกตะลึงขึ้นเล็กน้อย
นายท่านหนีรอดมาจากกรงเล็บของเทพมารเยี่ยเฉียผู้นั้นได้แล้ว เหตุใดตอนนี้ถึงมาถูกอัสนีฟาดอยู่เช่นนี้ได้อีก!
อีกอย่างสายอัสนีนี้ก็แข็งแกร่งมากด้วย!
มู่เฉียนซีกล่าว “มังกรเพลิง อดทนเอาไว้นะ!”
“บัวแดงพิฆาต!”
บัวอัคคีสีแดงฉานกับมังกรสีเงินนั้นพัวพันเข้าด้วยกัน เนื่องจากกำลังของมู่เฉียนซีไม่เพียงพอ ดังนั้นมังกรสีเงินตัวนั้นจึงโจมตีบัวอัคคีและพุ่งเข้าใส่มู่เฉียนซี
เสียง เปรี้ยง! ดังสนั่นขึ้น เปลวไปกับอัสนีสายนั้นประสานกันและกำลังพุ่งโจมตีไปที่มู่เฉียนซี
ทันใดนั้นลำแสงสีฟ้าลำแสงหนึ่งก็ปรากฏขึ้นขวางเปลวไฟที่สามารถทำลายดวงจิตของมู่เฉียนซีได้นั้นเอาไว้
มู่เฉียนซีโล่งอกไปเปลาะหนึ่ง “ออกไปจากที่นี่ก่อน!”
มู่เฉียนซียังไม่ทันได้ลงจากเขา! อัสนีก็ฟาดฟันลงมาอีกครั้ง
มู่เฉียนซีโกรธเกรี้ยวขึ้นมาแล้ว “ยังไม่จบใช่หรือไม่!”
มู่เฉียนซีจึงเพิ่มความเร็วในการหนีให้เร็วขึ้นยิ่งกว่าเดิม!
เปรี้ยง!
ต่อให้เร็วมากเพียงใดก็ยังคงไม่เร็วเท่าสายอัสนีนี้!
เปรี้ยง!
แม้จะมีอัสนีฟาดฟันลงมา แต่ก็มีมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ผู้พิทักษ์นิรันดร์ปกป้องเจ้านายของมันอยู่!
ผลลัพธ์ที่ได้ก็คืออัสนีนั้นโจมตีมู่เฉียนซีไม่ยอมเลิกรา
ทว่า พลังของสุ่ยจิงอิ๋งในตอนนี้ทำได้เพียงแค่ป้องกันการโจมตีอันคร่าชีวิตให้นางได้เพียงแค่สองครั้งเท่านั้น หลังจากผ่านไปสองครั้ง ต่อไปจะต้องดิ้นรนต่อสู้อย่างสุดชีวิตกับอัสนีนี้เองแล้วใช่หรือไม่?