ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1484 ไร้ยางอาย
กระบี่มังกรเพลิงสีแดงฉานระเบิดแสงอันพร่างพราวที่สุดออกมา คมกระบี่ตัดผ่านอากาศ
“บัวแดงพิฆาต!”
บัวอัคคีสีแดงฉานที่บานสะพรั่งอยู่กลางอากาศ ทำให้ลั่วอี้โจวรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาแล้ว
“เจ้า…”
ภายในช่วงเวลาอันสั้น นึกไม่ถึงเลยความแข็งแกร่งของนางจะน่ากลัวได้ถึงเพียงนี้
ช่างน่าเหลือเชื่อยิ่งนัก!
ตูม!
ลั่วอี้โจวหลบหลีกการโจมตีนี้ของมู่เฉียนซีอย่างจนตรอก
มู่เฉียนซีในตอนนี้แข็งแกร่งและรับมือได้ยากกว่ามู่เฉียนซีในตอนที่อยู่ในเกาะเมฆามาก
ลั่วอี้โจวพุ่งเข้าใส่มู่เฉียนซีด้วยความรวดเร็ว พร้อมกับง้างฝ่ามือข้างหนึ่งขึ้นหมายจะตบไปที่นาง
และสิ่งที่เขาไม่อยากจะเชื่อยิ่งไปกว่านั้นก็คือ มู่เฉียนซีไม่มีท่าทีที่จะหลบหลีกแต่อย่างใด
ตูม! พลังอันน่าสะพรึงกลัวได้ปกคลุมมู่เฉียนซีเอาไว้ แต่มู่เฉียนซีกลับไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อย
ร่างในชุดสีม่วงนั้นพลันเปลี่ยนเป็นเงาเงาหนึ่ง ไม่นานนักก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าลั่วอี้โจว
“ทักษะโยวหลัว!”
ปัง!
ลั่วอี้โจวถูกโจมตีจนร่างกระเด็นลอยออกไป อีกทั้งยังได้รับบาดเจ็บอีกด้วย
มู่เฉียนซีกล่าว “หัวหน้าเกาะลั่ว ตอนนี้เจ้าคิดว่าเจ้ายังจะมีกำลังมาแย่งชิงนางไปจากข้าอีกอย่างนั้นเหรอ?”
นึกไม่ถึงเลยว่าความแข็งแกร่งทางร่างกายของมู่เฉียนซีจะน่ากลัวถึงเพียงนี้ ลั่วอี้โจวกล่าว “มู่เฉียนซี เจ้าอย่าได้ดีใจเร็วเกินไปหน่อยเลย”
ตูม! ท้องฟ้าโดยบริเวณพลันมืดมิดลง!
เนื่องจากการต่อสู้ระหว่างผู้แข็งแกร่งแห่งดินแดนสี่ทิศกับเผ่าวิญญาณร้าย ทำให้บริเวณโดยรอบพันลี้ตอนนี้ราบเป็นหน้ากลองแล้ว
ศึกการต่อสู้ในครั้งนี้ เต็มไปด้วยซากศพของเผ่าวิญญาณร้ายและยอดฝีมือแห่งดินแดนสี่ทิศ ชายชราผมขาวผู้หนึ่งตะโกนขึ้นด้วยความโกรธ!
“หากลากตัวประหลาดอย่างเผ่าวิญญาณร้ายให้ตายไปด้วยได้ ข้าก็ยอม!”
ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!
ชายชราผู้นั้นพุ่งเข้าหาคนของเผ่าวิญญาณร้าย เขาพร้อมทำลายตัวเอง พร้อมลากคนของเผ่าวิญญาณร้าย ให้ตายตกไปด้วยกัน
พลังของพวกเขาถึงขีดจำกัดแล้ว แม้ว่าจะมียาลูกกลอนของหอหมอปีศาจคอยหนุน แต่ก็ไม่สามารถฝืนต่อไปได้อีกแล้ว
ก่อนจะล้มลงไปในวินาทีสุดท้าย การที่สามารถลากคนของเผ่าวิญญาณร้ายให้ตายไปด้วยได้ อีกทั้งยังช่วยแบ่งเบาภาระของคนที่เหลือได้ นับว่าเป็นการตายที่คุ้มค่าแล้ว
ผู้พิทักษ์ปกป้องดินแดนเห็นเช่นนี้ก็ตกตะลึงพรึงเพริดขึ้น “ผู้เฒ่าหลี่!”
คนอื่น ๆ ก็ได้เห็นการกระทำนี้ของผู้อาวุโสท่านนี้ ที่ในวินาทีสุดท้ายก่อนตายยังได้ลากคนของเผ่าวิญญาณร้ายให้ตายตกไปกับเขาด้วย!
ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!
การต่อสู้ยิ่งทวีความดุเดือดขึ้น การต่อสู้อันนองเลือด ต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด
พวกเขามีความมุ่งมาดปรารถนาที่จะปกป้องดินแดนสี่ทิศอย่างแรงกล้า และเผ่าวิญญาณร้ายผู้ชั่วร้ายนี้ไม่อาจเปลี่ยนแปลงอันใดได้
การทำลายตัวเองของผู้อาวุโสท่านนี้ทำให้คนของเผ่าวิญญาณร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัสและสูญเสียอย่างหนัก
แม้ว่ามู่เฉียนซีจะกำลังต่อสู้อยู่กับหัวหน้าเกาะลั่ว แต่นางก็สังเกตสถานการณ์รอบด้านอยู่ อาวุโสท่านนี้เป็นผู้กล้าที่น่ายกย่องยิ่งนัก
การต่อสู้อันยืดเยื้อนี้ไม่เป็นผลดีต่อลั่วอี้โจวเลย ส่วนมู่เฉียนซีนั้นมียาลูกกลอนฟื้นฟูพลังวิญญาณไม่ขาด
นางเองก็ไม่อยากจะเสียเวลากับลั่วอี้โจวมากนัก ดังนั้นจึงโจมตีไปด้วยกระบวนท่าอันดุเดือด
“บัวแดงพิฆาต!”
“มังกรน้ำแข็งท้าสวรรค์!”
“……”
พรวด! ลั่วอี้โจวได้รับบาดเจ็บสาหัสจนกระอักเลือดคำโตออกมา สีหน้าพลันซีเผือดลง
เขาตะโกนขึ้นว่า “ท่านหลัวซา ช่วยข้าด้วย!”
ทันใดนั้น ร่างในชุดคลุมยาวสีดำร่างหนึ่งได้ปรากฏขึ้น เขามองไปที่มู่เฉียนซี และกล่าวว่า “มู่เฉียนซี ผู้ที่มีวิญญาณลิขิตสวรรค์”
“เจ้าพบนางแล้ว แต่กลับไม่บอกข้า” หลัวซากล่าวด้วยน้ำเสียงโหดเหี้ยม
“ท่านหลัวซา ข้ารู้ผิดแล้ว! ข้าคิดว่านางเป็นเพียงแค่สาวน้อยคนหนึ่งรับมือได้ไม่ยาก แต่นึกไม่ถึงเลยว่า…”
คนที่สามารถรอดพ้นมาจากเงื้อมมือของท่านเทพมารมาได้นั้น หลัวซาไม่มีทางประเมินนางต่ำไปเด็ดขาด
เขาแผ่ซ่านพลังอันแข็งแกร่งที่สุดออกมาและโจมตีไปที่มู่เฉียนซี ในตอนนี้ ชิงอิ่งที่กำลังรับมือต่อสู้อยู่กับคนของเผ่าวิญญาณร้ายคนอื่น ๆ ก็รีบพุ่งเข้ามาขวางหน้ามู่เฉียนซีทันที
ปัง! พวกเขาทั้งสองถูกแรงกระแทกของพลังนี้อย่างรุนแรงจนร่างกระเด็นลอยออกไป
ชิงอิ่งกล่าวด้วยความเป็นห่วงว่า “เฉียน เป็นอะไรหรือไม่!”
“พลังที่กระแทกเข้ามาส่วนใหญ่ถูกเจ้าสกัดกั้นเอาไว้ ข้าจะเป็นอะไรได้อย่างไรกันเล่า ยาลูกกลอนพวกนี้ มอบให้เป็นหน้าที่ของเจ้าแล้ว พลังของเจ้านี่ถือว่าแข็งแกร่งที่สุดในหมู่ของพวกมันแล้ว ต่อให้ฆ่าเขาไม่ได้ อย่างน้อยก็ต้องจับตัวเขาให้ได้”
“อื้ม!”
ครั้นแล้ว ชิงอิ่งก็พุ่งไปที่หลัวซา หลัวซากล่าว “เจ้าก็คิดจะเข้ามาขวางทางข้าด้วยอย่างนั้นเหรอ! เจ้ามันก็แค่หุ่นเชิดตัวหนึ่ง”
หลัวซาเย้ยหยัน พลันนั้นพลังแห่งวิญญาณร้ายอันดำมืดก็พรั่งพรูออกมาอย่างบ้าคลั่ง และพุ่งออกไป
หลัวซาประเมินชิงอิ่งต่ำเกินไปแล้ว ชิงอิ่งไม่ใช่หุ่นเชิดธรรมดาทั่วไป พลังแห่งชีวิตนั้นสามารถยับยั้งพลังแห่งวิญญาณร้ายได้
“นี่…นี่เจ้าเป็นตัวอะไรกันแน่!”
ตูม ปัง ปัง!
ในตอนนี้หลัวซาถูกควบคุมตัวแล้ว ความหวังที่เขาอยากจะจับตัวมู่เฉียนซีไปให้ท่านเทพมารของพวกเขานั้นได้ดับสูญไปแล้ว
หลัวซากล่าวเสียงเย็นชาว่า “ลงมือสิ จะยืนนิ่งอยู่ทำไมล่ะ?”
“ท่านหลัวซา ขะ ข้า…ข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนาง”
“ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนางอย่างนั้นเหรอ เจ้ารู้ดีว่าควรจะทำเช่นไร”
ลั่วอี้โจวมองไปที่มู่เฉียนซี พร้อมกับแอบกัดฟันกรอด ภายในชั่วพริบตาเดียวร่างของเขาก็ถูกพลังวิญญาณสีดำมืดห่อหุ้มขึ้น
“ระเบิดพลังวิญญาณ!”
เขามองมู่เฉียนซีด้วยสายตาเคียดแค้นชิงชัง ฝ่ามือข้างหนึ่งของลั่วอี้โจวง้างขึ้น และเหวี่ยงออกไปด้วยพลังแห่งวิญญาณร้ายอันน่าสะพรึงกลัว
พลังนี้ ร่างของมู่เฉียนซีไม่อาจต้านทานได้แน่นอน
ร่างในชุดสีม่วงเคลื่อนไหวหลบฝ่ามือสีดำมืดนั้นอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า เงากระบี่เงาหนึ่งสว่างวาบขึ้น
“มังกรเพลิงสังหาร!”
ตูม ปัง ปัง!
ลั่วอี้โจวไม่รู้ว่านางใช้กลอุบายใด พลังของนางถึงได้แข็งแกร่งจนรับมือได้ยากถึงเพียงนี้!
ลั่วอี้โจวไล่โจมตีมู่เฉียนซีอย่างโหดเหี้ยม “วันนี้ เจ้าต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย!”
ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!
สถานการณ์การสู้รบนี้พลิกผันไปมา มู่เฉียนซีหลบหลีกการโจมตีอันน่าหวาดเสียวของลั่วอี้โจวครั้งแล้วครั้งเล่า สีหน้านางก็ยิ่งซีดเผือดขึ้นเรื่อย ๆ
และในตอนนี้เอง กลางอากาศก็ปรากฏลำแสงสีฟ้าขึ้น และขับไล่พลังแห่งวิญญาณร้ายนี้ออกไปไม่น้อย
ทุกคนเห็นดอกบัวเงินครามที่ดุจดั่งมงกุฎจักรพรรดินีดอกหนึ่ง ลำแสงของมันได้มอบพลังการต่อสู้ให้กับยอดฝีมือของดินแดนสี่ทิศ
เดิมที ยอดฝีมือแห่งดินแดนสี่ทิศเหล่านี้ฝืนไม่ไหวจนแทบจะทำลายตัวเองอยู่รอมร่อ แต่ตอนนี้พวกเขากลับมามีแรงต่อสู้ขึ้นอีกครั้งแล้ว!
“ฆ่า! กำจัดเผ่าชั่วร้ายนี้ให้สูญสิ้น!”
“สู้จนตัวตาย!”
“……”
ในสนามรบนี้ ส่งเสียงกึกก้องไปทั่วทั้งดินแดนสี่ทิศ
“ลั่วเหมี่ยว เจ้ามาได้อย่างไร?”
นางให้คนไปส่งลั่วเหมี่ยวที่ทุ่งรกร้างอันกว้างใหญ่ ที่นั่นมีค่ายกลที่สุ่ยจิงอิ๋งวางเอาไว้ มันเป็นที่ที่ปลอดภัยมาก
ลั่วเหมี่ยวกล่าว “ข้าอยากช่วยพี่สาวมู่ ค่ายกลใหญ่ทางด้านนู้นพวกเราควมคุมสถานการณ์เอาไว้ได้แล้ว ข้าก็เลยอยากจะทำอะไรเพื่อพี่สาวมู่บ้าง”
“พี่สาวมู่วางใจได้ ข้าได้รู้ตื่นถึงพลังบางอย่างบ้างแล้ว ข้าไม่เป็นอะไรแน่นอน”
พลังนี้คือการชะล้าง!
ผลลัพธ์ของมันจึงได้ผลมากกว่ายาลูกกลอนมาก สมกับเป็นพืชวิญญาณที่กลายร่างมนุษย์จริง ๆ!
และเมื่อลั่วอี้โจวได้เห็นดอกบัวเงินครามดอกนั้นแล้วก็เกิดจิตใจทะเยอทะยาน ละโมบโลภมากขึ้นทันที
“นั่นมัน ลั่วเหมี่ยว บุตรสาวของข้า ลูกของข้า…”
แม้ว่าลั่วเหมี่ยวจะลอยตัวอยู่กลางอากาศในกายแท้ แต่จิตสำนึกของนางก็ยังสังเกตพื้นที่รอบ ๆ บริเวณที่มู่เฉียนซีอยู่ และเมื่อลั่วเหมี่ยวเห็นลั่วอี้โจว นางก็ตกใจผงะไปเล็กน้อย!
สีหน้าท่าทางเช่นนี้ ไม่ใช่ท่านพ่อที่อยู่ในความทรงจำของนางเลยแม้แต่น้อย
ลำแสงสีฟ้าสาดส่องลงมาปกคลุมร่างของมู่เฉียนซี ลั่วเหมี่ยวกล่าว “พี่สาวมู่ ข้าจะสนับสนุนพี่สาวมู่ให้เอาชนะเขาเอง!”
ลั่วอี้โจวได้ยินเช่นนี้ก็โกรธเกรี้ยวขึ้น “เจ้ามันคนเนรคุณ กินบนเรือนขี้รดบนหลังคา นึกไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะช่วยคนอื่นมาลงมือจัดการข้า”
“ข้าเกิดบนฟ้าดิน และฟ้าดินก็คือพ่อแม่ของข้า ไม่ใช่ท่าน! ท่านก็เป็นเพียงแค่คนหลอกลวงคนหนึ่ง ข้าไม่ยอมให้ท่านทำร้ายพี่สาวมู่เป็นอันขาด”
ลั่วเหมี่ยวแสดงพลังออกมาแล้ว พลังของนางเสริมความแข็งแกร่งให้กับมู่เฉียนซี ทำให้พลังของมู่เฉียนซีสามารถรับมือกับลั่วอี้โจวในวันนี้ได้ พลังวิญญาณอันแข็งกร้าวพรั่งพรูออกมาจากร่างของมู่เฉียนซี นางตะโกนด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ยังมีหน้ามาเรียกตัวเองว่าเป็นพ่อของเสี่ยวเหมี่ยวอีกรึ เจ้ารีบดับสูญไปเสียเถอะ! อยู่ไปก็เกะกะขวางหูขวางตาเสียเปล่า ๆ!”
.