ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1496 มาฆ่าถึงที่
จิ่วเยี่ยผู้หึงหวงไม่อยากให้คนเกะกะขวางตาเหล่านี้มาวุ่นวายกับมู่เฉียนซี ดังนั้นจึงพามู่เฉียนซีหนีไป
จื่อโยวที่ถูกทอดทิ้งให้งุนงงเพียงลำพัง ในตอนนี้แทบจะร้องไห้ออกมาแล้ว
“เยี่ย เจ้า…เจ้ามันใจร้ายใจดำเกินไปแล้ว!”
“ไร้หัวใจ!”
“……”
เป็นเพราะว่าจิ่วเยี่ยได้จากไปไกลแล้ว จื่อโยวจึงได้สบถคำเหล่านี้ออกมา!
หากจิ่วเยี่ยยังอยู่ คาดว่าเขาต้องหวาดกลัวจิ่วเยี่ยแน่ ๆ!
“เสี่ยวซีเอ๋อร์!” เชียนอ้าวเซี่ยโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ จนดวงตาแทบจะกลายเป็นสีแดงอยู่แล้ว
“หวงจิ่วเยี่ย ช่างน่ารังเกียจเกินไปแล้ว อย่างน้อยก็ควรให้ข้าได้กินของอร่อย ๆ สักมื้อก่อน! ข้าก็ไม่ได้กินมากอะไรสักหน่อย” จวินโม่ซีเองก็โกรธเกรี้ยวจนแทบจะกระอักเลือดออกมาแล้วเช่นกัน
ทุกคนล้วนแต่หมดคำจะพูด เจ้าหมอนี่นะเหรอกินไม่เยอะ ใครจะเชื่อ!
ซวนหยวนชิงอวิ๋นกล่าวถามว่า “ปกติแล้วเฉียนซีจะไปที่ไหน?”
น่าหลานอวี้กล่าว “ข้าจะรีบส่งคนออกไปตามหาข่าว”
เชียนอ้าวเซี่ยรู้สึกตื่นเต้นขึ้นแล้ว “ใช่! หวงจิ่วเยี่ยพามู่เฉียนซีไป แต่เราก็ตามหาได้ไม่ใช่เหรอ ตราบใดที่ยังอยู่ในดินแดนสี่ทิศ ข้าไม่เชื่อเด็ดขาดว่าพวกเราจะหาไม่เจอ”
หวงจิ่วเยี่ยพามู่เฉียนซีไปที่ริมทะเลที่ที่ถูกสุ่ยจิงอิ๋งส่งตัวพวกเขาไปในตอนนั้น มู่เฉียนซีกล่าวถามว่า “จิ่วเยี่ย ไปหาเยี่ยเฉียในตอนนี้ เจ้าจะไม่เป็นอะไรแน่นะ?”
จิ่วเยี่ยกอดมู่เฉียนซีเอาไว้พลางกล่าว “หากซีไม่วางใจ จะตรวจดูข้าอย่างละเอียดอีกทีก็ได้นะ”
เมื่อนึกขึ้นได้ว่าแต่ละครั้งที่นางตรวจร่างกายของเขา จิ่วเยี่ยก็จะถอดเสื้อผ้าเปลือยกาย และเผยรูปร่างอันสมบูรณ์แบบนั้นออกมา อีกทั้งยัง…
หากไม่รู้ว่าเจ้าหมอนี่กินไม่ได้แล้วละก็ นางคงอดไม่ได้ที่จะพุ่งเข้าไปกัดกินเขาเป็นแน่!
มู่เฉียนซีพยักหน้าพลางกล่าว “ก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก แต่ข้าอยากไปด้วย”
“อืม!”
เนื่องจากผลลัพธ์ของดอกบัวเงินครามหัวใจทะเลนั้นไม่เลวเลย คำสาปจึงถูกยับยั้งจนคงที่ ดังนั้นจิ่วเยี่ยจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องกังวลสิ่งใด
“ตอนนั้นที่ข้าไปที่เกาะเมฆา ข้าจำเส้นทางได้ หอฉงโหลวบนเมฆาสามารถส่งตัวพวกเราไปได้”
จากนั้นมู่เฉียนซีก็เรียกหอฉงโหลวบนเมฆาออกมา ก่อนจะถูกจิ่วเยี่ยอุ้มนางเดินขึ้นไป
ในขณะที่เชียนอ้าวเซี่ยและอื่นตามมาถึง พวกเขาก็เห็นหอฉงโหลวบนเมฆาเพิ่งจะเคลื่อนตัวเข้าสู่ม่านเมฆไป พวกเขาโกรธเกรี้ยวจนแทบจะกระอักเลือดออกมาอยู่รอมร่อ
“มาช้าไปแล้ว!”
“พวกเขาจะไปที่ใด?”
“เสี่ยวซีเอ๋อร์ รอข้าด้วย!”
ร่างในชุดเขียวพุ่งเข้าไป เป็นจื่อโยวที่ไปขวางหน้าพวกเขาเอาไว้
“ข้ายุ่งจนหัวหมุนแล้ว พวกเจ้ายังมีเวลามาหาเรื่องเช่นนี้อีก”
“เจ้า หัวหน้านักปรุงยาแห่งหอหมอปีศาจ และเจ้า หัวหน้านักพิษ พวกเจ้าคิดว่าหอหมอปีศาจไม่มีเรื่องให้ทำอย่างนั้นเหรอ?”
“รองหัวหน้าหออย่างพวกเจ้าสองคนก็ว่างมากนักหรือไง! เหตุใดถึงไม่เอาเย่เฉินเป็นตัวอย่างบ้าง?”
“เจ้าก็ด้วย หัวหน้าน่าหลาน! ดินแดนสี่ทิศกลายเป็นเช่นนี้แล้ว ยังรอให้เจ้าพัฒนาการค้าอยู่นะ!”
เชียนอ้าวเซี่ยกล่าว “พวกเจ้ารีบไปเถอะ! อย่างไรเสีย ข้าก็ไม่มีอะไรต้องทำ ข้าตามหาเสี่ยวซีเอ๋อร์เจอแน่”
“องค์รัชทายาทเซี่ย ความมั่นคงของเซี่ยโจวและแดนใต้ มอบให้เป็นหน้าที่ของเจ้าแล้ว เจ้ายังจะบอกว่าตัวเองไม่มีอะไรทำอีกอย่างนั้นเหรอ?”
“ไม่เด็ดขาด! ข้าขอคัดค้าน!” เชียนอ้าวเซี่ยกล่าว
“คัดค้านไปก็ไร้ประโยชน์ ต่อให้คนงามอยู่ตรงนี้ นางก็จะพูดกับเจ้าเช่นนี้อยู่ดี! หากคนงามกลับมาแล้วเห็นทุกอย่างกลับสู่ความปกติ นางจะต้องดีใจมากแน่นอน” จื่อโยวกล่าว
เมื่อคิด ๆ ดูแล้ว ที่จื่อโยวกล่าวมาก็ถูก!
หลังจากที่พวกเขาถูกจื่อโยวสั่งสอนไป ในที่สุดพวกเขาก็เชื่อฟังแต่โดยดี
พวกเขาทำได้เพียงแค่ส่งเสียงฮึดฮัดออกทางจมูกด้วยความไม่พอใจ ในเมื่อจะต้องขมขื่น ก็ต้องขมขื่นไปด้วยกัน!
มู่เฉียนซีไม่รู้ว่าเหล่าบรรดาสหายของตนเองนั้นถูกจื่อโยวจัดการเช่นไร ในตอนนี้พวกเขาได้ย่างกรายขึ้นไปบนเกาะเมฆาแล้ว
ในตอนเกิดศึกครั้งใหญ่ คนของเผ่าวิญญาณร้ายทั้งหมดในเกาะเมฆาต่างก็เคลื่อนไหว แต่ก็มีคนบางส่วนที่กำลังความแข็งแกร่งไม่เพียงพอ จึงถูกให้เฝ้าอยู่บนเกาะแห่งนี้
พวกเขารู้ว่าพวกเขาพ่ายแพ้แล้ว!
ทว่า เกาะเมฆานั้นแอบซ่อนตัวอย่างลึกลับมาโดยตลอด ไม่มีผู้อื่นย่างกรายเข้ามาได้!
และในขณะที่ท้องฟ้ามืดครึ้มลงนั้น พวกเขาก็เกิดลางสังหรณ์ไม่ดีขึ้น!
พวกเขาเห็นร่างของคนผู้หนึ่งที่ดุจดั่งเทพมาร และร่างของหญิงสาวชุดม่วงผู้หนึ่งลอยตัวลงมาจากกลางอากาศ
มีคนอุทานขึ้นว่า “หญิงสาวผู้นั้น ใช่ท่านนักปรุงยามู่ มู่เฉียนซีหรือไม่?”
“เป็นนาง! ในการประลองครั้งก่อนข้ายังเห็นนางอยู่เลย”
“นางจะต้องกลับมาแก้แค้นแน่นอน จะทำเช่นไรดี ฆ่าพวกเขาเลยดีหรือไม่?”
คนที่เหลืออยู่เหล่านี้ ผู้ที่มีพลังแข็งแกร่งที่สุดนั้น มีพลังเพียงแค่ขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับต่ำเท่านั้น
อย่าว่าแต่รับมือกับจิ่วเยี่ยเลย แม้แต่กับมู่เฉียนซี พวกเขาก็รับมือไม่ได้!
มู่เฉียนซีเอากระบี่ยาวสีแดงฉานออกมา และนี่ก็คือกระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณเล่มที่สมบูรณ์แบบแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่นางใช้มัน
นางรับรู้ได้ว่าตนเองมีพลังธาตุอัคคีแล้ว
ร่างในชุดม่วงเคลื่อนไหวไป มู่เฉียนซีพุ่งออกไปที่คนเหล่านี้อย่างรวดเร็วราวกับเปลวไฟที่ลุกโชน
“มังกรเพลิงสังหาร!”
“บัวแดงพิฆาต!”
“เพลิงสังหารซิวหลัว!”
ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!
ด้วยการโจมตีของพลังวิญญาณของมู่เฉียนซี ทั่วทั้งเกาะเมฆาได้กลายเป็นทะเลเพลิงไปในทันที
อ๊า!
“ได้โปรดไว้ชีวิตด้วย!”
“ท่านมู่! พวกเรายังไม่อยากตาย”
เมื่อเผชิญหน้ากับกำลังในการต่อสู้อันน่าทึ่งเช่นนั้นของมู่เฉียนซี ต่อให้พวกเขามีจำนวนคนเยอะมากกว่าพวกเขาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมู่เฉียนซีอยู่ดี จึงทำได้เพียงแค่คุกเข่าขอร้องอ้อนวอน
และในตอนนี้เอง น้ำเสียงอันเย็นยะเยือกเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น
“พวกสวะไร้ประโยชน์!”
พลังแห่งวิญญาณร้ายได้ห่อหุ้มทุกคนในที่แห่งนี้ไว้ ภายในชั่วพริบตาเดียวพวกเขาแต่ละคนก็ได้กลายเป็นหุ่นเชิดที่ไร้สติสัมปชัญญะ และพุ่งไปที่มู่เฉียนซี
ตอนนี้พวกเขาไม่เกรงกลัวต่อความตายแล้ว!
“แม่นางมู่ นึกไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะมาเร็วเพียงนี้ ตอนนี้ข้าไม่สะดวกจะพบเจ้า ของเล่นพวกนี้ ข้ามอบให้เจ้าเอาเล่นไปก่อนก็แล้วกัน”
พลันนั้นร่างแยกของเยี่ยเฉียก็ปรากฏขึ้น อันที่จริงแล้วเยี่ยเฉียกำลังนั่งรอคอยโชคลาภให้ไปหา
ในศึกรบครั้งใหญ่นั้น เขาคิดว่า แม้ว่ามู่เฉียนซีจะไม่ตาย แต่นางก็ต้องได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างแน่นอน ดังนั้นเขาจึงมีเวลามากพอที่จะเตรียมพร้อม แต่นึกไม่ถึงเลยว่ามู่เฉียนซีจะมาเร็วเช่นนี้
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชาว่า “สวะไร้ประโยชน์เหล่านี้ของเจ้า ต่อให้ถูกเจ้ายัดเยียดพลังระดับสูงสุดให้พวกเขา แต่ฝีมือก็ยังอ่อนด้อยอยู่ดี”
จิ่วเยี่ยอยากช่วยมู่เฉียนซี คนเหล่านี้ล้วนแต่เป็นยอดฝีมือระดับสูงสุดทั้งสิ้น หากซีรับมือคนเดียว มันจะยุ่งยากเกินไป
มู่เฉียนซีกล่าว “จิ่วเยี่ย ข้าจัดการเอง! บางทีอาจจะทำให้ข้าทะลวงพลังขั้นมหาจักรพรรดิได้ก็ได้นะ”
“อีกอย่าง ตอนนี้ข้าก็มีกระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณเล่มที่สมบูรณ์แบบแล้ว และมีพลังธาตุอัคคีอีกด้วย คนเหล่านี้ไม่ได้อยู่ในสายตาข้าเลย”
ตูม ปัง ปัง!
ร่างในชุดม่วงกระโจนผ่านเปลวเพลิงไป ชั่วขณะนั้นเองพลังอันกดขี่ข่มเหงก็ปะทุออกมา!
ไม่เพียงแค่การโจมตีของพลังธาตุอัคคีเท่านั้น แต่ยังมีการโจมตีของพลังธาตุวารีอีกด้วย!
“มังกรน้ำแข็งท้าสวรรค์!”
“มังกรวารีบังเกิด!”
ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!
การต่อสู้ในครั้งนี้ มู่เฉียนซีเหงื่อไหลท่วมกาย!
ครั้งก่อนนางถูกล้อมโจมตี ถูกลอบกัด จึงทำได้เพียงแค่หลบหนีเท่านั้น
คนของเกาะเมฆาคิดไม่ถึงเลยว่าเวลาผ่านไปเพียงแค่ช่วงระยะหนึ่ง เมื่อมู่เฉียนซีกลับมาอีกครั้ง นางจะสามารถทำลายเกาะทั้งเกาะของพวกเขาได้
เกาะแห่งนี้เป็นที่สถิตอยู่ของเผ่าวิญญาณร้าย และไม่มีเผ่าวิญญาณร้ายอื่นแล้ว
มู่เฉียนซีวางกระบี่ในมือลง ต่อไปก็รอจัดการกับเยี่ยเฉียแล้ว
“ถูกฆ่าตายหมดแล้ว ตายหมดแล้ว! เป็นฝีมือของใคร?” เมื่อเยี่ยเฉียรับรู้ได้ถึงเรื่องนี้ เขาก็รู้สึกตื่นตระหนกขึ้นเล็กน้อย
“แต่ที่นี่ ไม่ใช่ที่ที่พวกนั้นคิดจะมาก็มาได้”
ดินแดนเทพทะเลเมฆา ไม่ใช่ที่ที่อยากจะเข้ามาแล้วจะสามารถเปิดเมื่อใดก็ได้
เวลาอันสั้น เขายังวางแผนรับมือกับมู่เฉียนซีไม่ได้เลย
มู่เฉียนซีกล่าว “เยี่ยเฉีย ข้ามาแล้ว! เปิดดินแดนเทพทะเลเมฆาเดี๋ยวนี้ เรามีเรื่องต้องคุยกัน”
เยี่ยเฉียกล่าวเสียงเย็นชาว่า “ข้าไม่อยากเจอเจ้า”
มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าวว่า “เป็นอะไรไปล่ะ กลัวอย่างนั้นเหรอ? นึกไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะขี้ขลาดได้ถึงเพียงนี้”
“อย่างไรเสีย ข้าก็ไม่มีทางพบเจ้าตอนนี้แน่นอน!” เยี่ยเฉียกล่าว