ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1501 ข้าเชื่อซี
มู่เฉียนซีกล่าว “ไม่เป็นไรท่านปู่ แค่ปรุงยาไม่ได้เหนือบ่ากว่าแรงอะไร! ตอนนี้ข้าเริ่มปรุงได้ ยิ่งเร็วก็ยิ่งดี”
ในขณะที่กำลังจะเริ่มสัมผัสกับคำสาป จู่ ๆ สัตว์วิญญาณน้อยนั้นก็เกิดอาการขัดขืน ดิ้นรนขึ้นทันที
มันจับท่านปู่ตงหวงไว้ไม่ยอมปล่อย
ท่านปู่ตงหวงกล่าวว่า “ไม่ต้องกลัว!”
“ฮือ ๆ ๆ!” สัตว์วิญญาณน้อยตัวนั้นยังคงดิ้นรนขัดขืน
มู่เฉียนซีตกใจผงะไปเล็กน้อย “เป็นอะไรไปล่ะ หรือว่าคำสาปกำเริบขึ้นอีกแล้ว ท่านปู่ตงหวง…”
ท่านปู่ตงหวงตกใจนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง ดูเหมือนว่าเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมา
“ซีเอ๋อร์ คำสาปที่คนของเผ่าคำสาปสาป มีเพียงผู้ที่มีสายเลือดเผ่าคำสาปเท่านั้นที่จะสามารถแก้คำสาปได้! หากคนอื่นฝืนแก้คำสาป ก็จะถูกพลังของมันสะท้อนกลับเอาได้”
“ข้ามันช่างเป็นตาเฒ่าที่โง่เขลายิ่งนัก! ตื่นเต้นดีใจจนลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท ข้า…ข้าจะให้เจ้าแก้คำสาปนี้ได้อย่างไรกันเล่า”
มู่เฉียนซีได้ยินเช่นนี้ก็ตกตะลึงไป นางไม่รู้เรื่องนี้จริง ๆ
แต่ครั้งก่อนที่นางแก้คำสาปให้อารอง ก็ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย!
ท่านปู่ตงหวงกล่าว “ซีเอ๋อร์ เอาคัมภีร์หมื่นคำสาปของเผ่ามังกรเล่มนั้นให้ข้า ข้าจะทำให้มันสำเร็จเอง”
มู่เฉียนซีกล่าว “ท่านปู่ตงหวง ไม่ทันแล้ว! ต่อให้ทัน ท่านก็จะถูกพลังสะท้อนกลับได้”
“ข้าก็อายุปูนนี้แล้ว ไม่เป็นไร! เจ้ายังอยู่ในวัยเยาว์ ข้าจะไม่ยอมทำผิดต่อพ่อของเจ้าอีกเป็นอันขาด”
“ข้าไม่มีทางยอมมอบคัมภีร์หมื่นคำสาปของเผ่ามังกรเล่มนั้นให้ท่านเด็ดขาด ข้าจะแก้คำสาปเอง ท่านเป็นคนบอกเองว่าหากไม่ใช่สายเลือดของเผ่าคำสาปจะแก้คำสาปไม่ได้ แต่ข้าไม่ได้บอกสักหน่อยว่าข้าไม่มีสายเลือดเผ่าคำสาป!”
ท่านปู่ตงหวงกล่าวด้วยความกระวนกระวายใจว่า “ซีเอ๋อร์ เจ้าอย่าหาเรื่องใส่ตัวเลย! เจ้าจะมีสายเลือดของเผ่าคำสาปได้อย่างไรกัน”
“มู่เฉียนซีกล่าวถาม “แล้วท่านรู้ได้อย่างไรว่าข้าไม่มีสายเลือดนั้น?”
“ข้า…เพราะว่าข้า…” ท่านปู่ตงหวงกล่าวตะกุกตะกัก
“ท่านปู่ตงหวง หากท่านไม่ยอมบอกเหตุผลมา เช่นนั้นข้าก็จะคิดว่าข้ามีสายเลือดของเผ่าคำสาปแล้ว”
“สิ่งที่เจ้ามี ก็คือสายเลือดบริสุทธิ์ที่สุดของตระกูลมู่แห่งราชวงศ์ตงหวงต่างหากล่ะ ไม่มีความเกี่ยวข้องใดกับเผ่าคำสาปนั่นแม้แต่น้อย! เจ้าฟังปู่นะ เรื่องนี้มอบให้เป็นหน้าที่ข้า ผู้เป็นปู่ของเจ้าได้หรือไม่?”
มู่เฉียนซีส่ายหน้าพลางกล่าว “ไม่ได้!”
นางไม่มีทางยอมให้ท่านปู่ทำอะไรเช่นนี้เป็นแน่ นางมองไปที่จิ่วเยี่ย “จิ่วเยี่ย ข้าอยากลองดู! ส่วนท่านปู่ มอบให้เป็นหน้าที่ของเจ้าแล้ว เจ้าอย่าให้ท่านปู่เข้ามาขัดขวางข้าได้เด็ดขาด!”
ท่านปู่ตงหวงรู้สึกโกรธเกรี้ยวขึ้นมาแล้ว “เจ้าหนุ่มจิ่วเยี่ย เจ้ายังไม่รีบห้ามนางอีก! เจ้าจะให้นางเป็นเหมือนเจ้าเหรอ ไม่ได้เด็ดขาด!”
และสัตว์วิญญาณน้อยในตอนนี้ ก็ยืนอยู่ฝ่ายเดียวกับท่านปู่ตงหวง
แต่สุดท้ายมันก็ทนไม่ไหวจึงหลับไปอีกครั้ง พร้อมกันนั้นก็มีสัญญาณว่าคำสาปจะกำเริบขึ้นอีกครั้ง
เริ่มจะไม่ทันการแล้ว!
เผชิญหน้ากับสายตาอันโกรธเกรี้ยวของท่านปู่ผู้นี้ จิ่วเยี่ยจึงกล่าวว่า “ข้าเชื่อซี”
“เจ้า!” ท่านปู่ตงหวงโกรธจบแทบจะกระอักเลือดออกมาแล้ว
พลังของจิ่วเยี่ยกักขังท่านปู่ตงหวงเอาไว้ เขาทำได้เพียงแค่ยืนมองอย่างเดียว ไม่อาจเปล่งเสียงออกมาได้
มู่เฉียนซีวิ่งไปที่สัตว์วิญญาณน้อยตัวนั้น มันตัวเล็กและเบามาก
มู่เฉียนซีมองไปที่ท่านปู่ตงหวง ก่อนจะกล่าวออกมาว่า “ท่านปู่วางใจได้! ข้าเคยแก้คำสาปให้อารองมาครั้งหนึ่งแล้ว ข้ามีประสบการณ์! แล้วข้าก็เข้าใจวิธีการแก้คำสาปนี้ได้อย่างถ่องแท้แล้ว ไม่มีปัญหาแน่นอน”
ท่านปู่ตงหวงเบิกตากว้างขึ้นด้วยความตกใจ เฟิงหลิง เขา…นึกไม่ถึงเลยว่าเขาก็โดนคำสาปเช่นนี้ด้วย เขากลับไม่รู้เรื่องนี้เลย
มู่เฉียนซีวางสัตว์วิญญาณน้อยตัวนั้นไว้ที่ใจกลางดอกบัวหัวใจหยกหมื่นปี จากนั้นนางก็เริ่มทำการแก้คำสาป
ดวงตาของจิ่วเยี่ยจ้องมองไปที่มู่เฉียนซี เขาเชื่อซี เพราะนางคือวิญญาณลิขิตสวรรค์
ดังนั้น ซีต้องไม่เป็นอะไร!
ของล้ำค่าอีกสี่อย่างปรากฏขึ้น ลอยอยู่กลางอากาศห้อมล้อมโดยรอบทั้งสี่ทิศ และมู่เฉียนก็ยืนอยู่มุมหนึ่ง จนก่อตัวเป็นลำแสงดาวห้าแฉก
เปลวไฟ พลังแห่งชีวิต น้ำอมฤทธิ์ต้นไม้หมื่นปี วารีแห่งทะเลสาบวิญญาณ และดอกบัวหัวใจหยกหมื่นปีถูกดึงดูดเข้าหากันเนื่องจากพลังจิตอันแข็งแกร่งของมู่เฉียนซี
พวกมันได้ก่อตัวเป็นพลังหนึ่ง ก่อนจะหลั่งไหลเข้าสู่ร่างของสัตว์วิญญาณน้อยตัวนี้
ต่อมา ก็เป็นขั้นตอนที่ต้องระมัดระวังมากยิ่งขึ้น!
จิ่วเยี่ยได้ใช้พลังกักขังบริเวณโดยรอบเอาไว้ ไม่ให้ผู้ใดย่างกรายเข้ามาใกล้ได้
ส่วนท่านปู่ตงหวงที่ถูกกักขังอยู่ในตอนนี้ก็ทำได้เพียงยืนมองตัวแข็งทื่อราวกับเป็นก้อนหินไปแล้วก็มิปาน!
เขาทำได้เพียงแค่ภาวนาให้ทุกอย่างสำเร็จไปอย่างราบรื่น ภาวนาให้เรื่องคำสาปสะท้อนกลับนั้นเป็นเพียงแค่เรื่องโกหกหลอกลวง!
นับตั้งแต่รุ่งสาง จนตะวันตกดิน จวบจนยามรัตติกาลมาเยือน ท่านปู่ตงหวงก็รู้สึกได้ว่าพลังจิตอันบ้าคลั่งนั้นโคจรอย่างต่อเนื่องและไร้ทีท่าที่จะหยุด
พลังจิตอันน่าสะพรึงกลัวเช่นนั้น ซีเอ๋อร์จะทนได้หรือไม่?
มู่เฉียนซีกำลังอดทนยืนหยัดต่อไป นางจะล้มเหลวไม่ได้เด็ดขาด!
ขั้นตอนในการแก้คำสาปนี้ ทำให้จิ่วเยี่ยรู้สึกเจ็บปวดใจเป็นอย่างยิ่ง
การแก้คำสาปของเขา เขาไม่อยากให้ซีต้องมาเหน็ดเหนื่อยเช่นนี้ เห็นทีต้องจับคนสายเลือดเผ่าคำสาปมาเตรียมความพร้อมเอาไว้สักคนแล้ว
แม้ว่าคนเหล่านั้นจะจับตัวได้ยาก และยากที่จะปรากฏตัวออกมาก็ตาม!
ยามตะวันอยู่เหนือศีรษะของวันถัดมา มู่เฉียนซีก็ใช้พลังจิตอันน้อยนิดสุดท้ายที่เหลืออยู่กำจัดคำสาปสุดท้ายที่เหลืออยู่นั้นได้แล้ว
ดอกบัวหัวใจหยกก็พลันอันตรธานเปลี่ยนเป็นลำแสงสีขาวจาง ๆ หล่อเลี้ยงร่างกายของสัตว์วิญญาณน้อยตัวนั้นไว้
ตอนนี้มู่เฉียนซีรู้สึกปวดหัวอ่อนเปลี้ยเพลียแรง และปากซีดเป็นอย่างมาก นางมองไปที่ท่านปู่ตงหวง ก่อนจะกล่าวออกมาว่า “แก้คำสาปได้แล้ว มันจะดีขึ้น และข้าก็ไม่…”
ตุบ! มู่เฉียนซีทรงตัวไม่อยู่เกือบจะล้มลงไป แต่จิ่วเยี่ยเข้ามาประคองนางเอาไว้ทัน จิ่วเยี่ยกอดนางแน่น ก่อนจะบรรจงจูบลงบนริมฝีปากของนางเพื่อให้ริมฝีปากนั้นของนางชุ่มชื้นขึ้นมา
มู่เฉียนซีหลับตาลง และหลับไหลไปในอ้อมอกของจิ่วเยี่ย
จิ่วเยี่ยอุ้มนางเข้าไปในห้องข้าง ๆ ส่วนท่านปู่ตงหวงก็รีบพุ่งเข้าไปอุ้มสัตว์วิญญาณน้อยตัวนั้นทันที
ร่างของมันยังอุ่น!
หัวใจยังเต้น อีกทั้งยังไม่ได้อ่อนแอเหมือนเมื่อครู่แล้ว!
เขาดีอกดีใจแสดงท่าทางออกมาราวกับเด็ก “ยอดเยี่ยมจริง ๆ ยอดเยี่ยมเกินไปแล้วจริง ๆ”
ท่านปู่ตงหวร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ เขาผ่านความมืดมนมานานนับไม่ถ้วน ในที่สุดตอนนี้ก็ได้เห็นแสงสว่างอีกครั้งแล้ว
มู่เฉียนซีเข้าสู่การหลับใหล สามวันแล้วก็ยังไม่ตื่นขึ้นมา แต่สัตว์วิญญาณน้อยตัวนั้นกลับตื่นฟื้นขึ้นมาแล้ว
“มู่เหยี่ยน เจ้ามันน่านัก! ข้าจะไปดูซีเอ๋อร์ของข้า หากซีเอ๋อร์เป็นอะไรไป ข้าไม่มีวันอภัยให้เจ้าเป็นอันขาด”
น้ำเสียงอันเกรี้ยวกราดดังก้องขึ้นในหัวของท่านปู่ตงหวง น้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว
“ฉีเอ๋อร์ เจ้าหายแล้วเหรอ เจ้าพูดกับข้าได้แล้ว เยี่ยมไปเลย ฮือ ๆ ๆ…” ท่านปู่ตงหวงร้องไห้สะอึกสะอื้นขึ้นด้วยความดีใจ
นานมากแล้วที่ไม่ได้พูดคุยกัน แม้จะรู้และเข้าใจอารมณ์และความรู้สึกของนางก็ตาม แต่ก็เป็นเพราะความเป็นพันธสัญญา จึงมีความเข้าอกเข้าใจกัน!
“อย่าร้อง! ขนข้าเปียกหมดแล้ว ข้าอยากเจอซีเอ๋อร์ ข้าเป็นห่วงซีเอ๋อร์”
“ข้าบอกเจ้าแล้วไม่ใช่หรอกเหรอว่าคนที่ไม่ใช่คนของเผ่าคำสาปจะถูกพลังสะท้อนคืน! เจ้ายังไม่ห้ามปรามอีก”
“ข้า…ก็ข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจ้าหนุ่มจิ่วเยี่ยผู้นั้นนี่” ท่านปู่ตงหวงกล่าวด้วยความกล้ำกลืน
“แม้แต่เด็กเจ้าก็สู้ไม่ได้ ยังมีหน้ามาพูดอีก!”
“เรื่องนี้ข้าฝากเอาไว้ก่อนเถอะ ค่อยมาคิดบัญชีกับเจ้าทีหลัง ไปดูซีเอ๋อร์กันเถอะ! ซีเอ๋อร์จะต้องไม่เป็นอะไร”
“อืม!”
ครั้นแล้วทั้งสองจึงไปหามู่เฉียนซี จิ่วเยี่ยเฝ้าอยู่ข้างกายนางไม่ห่าง
ท่านปู่ตงหวงกล่าว “ซีเอ๋อร์นาง…”
“ซีเอ๋อร์เหนื่อยมากจึงหลับไป ตื่นมาก็ดีขึ้นเอง”
แสงสีเงินแสงหนึ่งส่องกระทบลงบนร่างมู่เฉียนซี ในที่สุดนางก็วางใจแล้ว
ท่านปู่ตงหวงกล่าวถาม “ฉีเอ๋อร์ ซีเอ๋อร์เป็นอะไรไป?”
“ก็แค่เหนื่อยมากเกินไปจริง ๆ พลังจิตหมด ไม่ได้ถูกพลังสะท้อนกลับแต่อย่างใด ช่างเกิดปาฏิหาริย์กับซีเอ๋อร์จริง ๆ” สัตว์วิญญาณน้อย ก็คือเสียงของเฟิงฉีเอ๋อร์ที่กล่าวบอกท่านปู่ตงหวงผ่านทางจิต