ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1505 ตัวแทน
อัสนีลงทัณฑ์บ้าไปแล้ว มันพุ่งใส่มู่เฉียนซีอย่างบ้าคลั่ง!
มู่เฉียนซีกระโดดขึ้นไปกลางอากาศ นางเองก็จนปัญญาแล้วเช่นกัน
เดิมทีนี่เป็นอัสนีลงทัณฑ์ปกป้องดินแดนของผู้แข็งแกร่งขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับสูงสุด ทว่า ตอนนี้กลับไล่ล่าลงทัณฑ์มู่เฉียนซีที่มีพลังขั้นจักรพรรดิแห่งภูตระดับเก้า!
ช่างไร้เหตุผลยิ่งนัก!
ทุกคนก็เห็นร่างในชุดม่วงที่อยู่กลางอากาศร่างนั้นแล้ว พวกเขาอุทานขึ้นว่า “นั่นมันท่านหัวหน้าหอหนิ!”
“ท่านหมอปีศาจ!”
“ท่านหมอปีศาจมีพลังเพียงแค่ขั้นจักรพรรดิแห่งภูตระดับเก้าขั้นสูงสุดเท่านั้น เหตุใดถึงก่อให้เกิดอัสนีลงทัณฑ์เช่นนี้ได้”
มู่เฉียนซีถูกสายฟ้าตามฟาดฟัน และสิ่งนี้ทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้น
เชียนอ้าวเซี่ยกล่าว “เสี่ยวซีเอ๋อร์ นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
“เฉียนซี!” น่าหลานอวี้ก็ตกตะลึงขึ้นเช่นกัน
“สาวน้อย!”
“พี่ใหญ่!”
อัสนีลงทัณฑ์สำหรับผู้แข็งแกร่งขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับเก้าขั้นสูงสุด มู่เฉียนซีที่มีพลังขั้นจักรพรรดิแห่งภูตระดับขั้นจุดสูงสุดจะรับไหวได้อย่างไรกันล่ะ
พวกเขาเป็นห่วงมาก!
แสงสีเงินครอบคลุมลงมา มู่เฉียนซีพบว่าไม่เพียงแต่จะทำร้ายนางไม่ได้ แต่ดูเหมือนว่าจะยิ่งทำให้ร่างกายของนางแข็งแกร่งขึ้นอีกด้วย
หากนางไม่ยอมจากไป อัสนีลงทัณฑ์นี้ไม่ยอมเลิกราเป็นแน่
ทว่า จักรพรรดิแห่งภูตระดับเก้าขั้นสูงสุดทะลวงผ่านดินแดน เรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน จะสำเร็จได้อย่างนั้นเหรอ
มู่เฉียนซีถูกอัสนีลงทัณฑ์นี้ครอบคลุม แม้จะไม่สำเร็จ แต่นางก็ต้องเผชิญ!
มู่เฉียนซีอยู่กลางอากาศ กล่าวว่า “ทุกท่าน ต้องขอโทษด้วย! สถานการณ์คับขันเช่นนี้ ข้าจำเป็นต้องขอตัวไปก่อนแล้ว”
“ไม่ต้องเป็นห่วง ข้าจะไม่เป็นอะไรเด็ดขาด”
“เรื่องต่อจากนี้ไป ก็ทำตามที่ข้าได้วางแผนเอาไว้ ไม่ต้องรีบร้อน!”
“รอให้พวกเจ้าจัดการเรื่องทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราจะเจอกันที่แดนซวนเทียน! รักษาตัวด้วย!”
ร่างในชุดม่วงกระโจนขึ้นไปบนท้องฟ้า ท่ามกลางสายฟ้าฟาดนั้น มู่เฉียนซีปล่อยพลังวิญญาณอันแข็งแกร่งออกมา และทะลวงผ่านดินแดนไปได้แล้ว!
ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!
เชียนอ้าวเซี่ยและคนอื่น ๆ มองดูเงาที่จากไปของมู่เฉียนซีอย่างอาลัยอาวรณ์ ไม่อาจละสายตาได้
เชียนอ้าวเซี่ยกล่าวด้วยสีหน้าเจ็บปวด “ฮือ ๆ ๆ! เสี่ยวซีเอ๋อร์ทอดทิ้งข้าไปแล้ว”
น่าหลานอวี้กล่าว “ไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจมาก่อนเลย!”
“สาวน้อย เจ้าโกหก! ไหนเจ้าบอกข้าว่าจะฝึกบำเพ็ญให้ถึงขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับเก้าขั้นสูงสุดแล้วค่อยทะลวงพลังข้ามดินแดนล่ะ ก่อนจะข้ามดินแดนเจ้าบอกว่าจะทำอาหารอร่อย ๆ ให้ข้ากิน แต่สุดท้ายเจ้าก็…”
นึกไม่ถึงเลยแม้แต่น้อย พลังขั้นจักรพรรดิแห่งภูติระดับเก้าจุดสูงสุดก็ทะลวงข้ามดินแดนไปด้วยแล้ว ตอนนี้จวินโม่ซีเริ่มรู้สึกเสียใจทีหลังแล้ว!
“พี่ใหญ่! ภาระหน้าที่ที่พี่ใหญ่ทิ้งไว้ให้มันหนักหน่วงมากจริง ๆ นะ!” เยวี่ยเจ๋อก็เสียใจมาก
โม่จิ่นกับเย่เฉินนั้นมีความพ้องต้องกัน สายฟ้านั่นช่างน่ารังเกียจเกินไปแล้ว ภายในชั่วพริบตาก็พรากนายท่านจากพวกเขาไป
“ข้าจะตามนายท่านไป! เวลาสามปีข้าว่านานเกินไป” ในตอนนี้เอง น้ำเสียงอันเย็นชาเสียงหนึ่งดังขึ้น
จากนั้น เหลิ่งหนิงจือก็พุ่งตัวตามไปต่อหน้าต่อหน้าทุกคน
เดิมทีนางเป็นคนดินแดนชั้นบนที่ลงมายังดินแดนแห่งนี้ ติดตามมู่เฉียนซี นางจึงฟื้นตัวได้เร็วมาก นางมีพลังแข็งแกร่งพอที่จะกลับไป
เชียนอ้าวเซี่ยกล่าว “ข้าจะไปด้วย!”
ทว่า พลังของเขานั้นยังไม่ถึงขั้นที่จะทะลวงดินแดนไปได้ ร่างของเขาจึงชนกับปราการดินแดน!
เชียนอ้าวเซี่ยยังไม่ยอมตัดใจ เขาลองทำซ้ำ ๆ อยู่หลายครั้ง สุดท้ายก็ถูกน่าหลานอวี้ดึงกลับมา
“เซี่ย! ข้าขอแนะนำให้เจ้าจัดการเรื่องตำหนักเป่ยหานให้เรียบร้อยก่อน จากนั้นก็เก็บตัวฝึกบำเพ็ญพลังความแข็งแกร่ง เช่นนี้ต่างหากถึงจะขึ้นไปได้!”
“ที่เจ้าพูดมาก็ถูก!” ชั่วพริบตาเดียวเชียนอ้าวเซี่ยก็กำลังใจขึ้นมาทันที!
คนอื่น ๆ ก็เช่นกัน รีบไปจัดการหน้าที่ของตัวเอง จากนั้นก็เก็บตัวฝึกบำเพ็ญ!
รีบทะลวงข้ามดินแดนไปยังแดนซวนเทียนให้เร็วที่สุด!
“สาวน้อยผู้นี้เหมาะสมมาก เป็นตัวแทนคุณหนูได้ รีบพานางไป”
“ขอรับ!”
มู่เฉียนซีที่อยู่ในอาการสะลึมสะลือได้ยินเสียงคนคุยกัน ทว่าตอนนี้นางยังขยับตัวไม่ได้
อัสนีลงทัณฑ์นางไม่กลัว แต่พลังวิญญาณในการทะลวงข้ามผ่านดินแดนนั้นมันยิ่งใหญ่มาก นางมีพลังเพียงแค่ขั้นจักรพรรดิแห่งภูตระดับเก้าเท่านั้น เดิมทีพลังขั้นนี้ยังไม่เพียงพอที่จะทะลวงข้ามดินแดนได้
กว่าจะผ่านมาได้นั้นไม่ง่ายเลย สุดท้ายต้องมาพบกับลมพายุในดินแดนแห่งนี้อีก จากนั้นนางก็หมดสติไป
ตอนนี้นางไม่รู้เลยว่าตนเองอยู่ที่ใด
แม้ว่าคนเหล่านี้จะมีเจตนาร้าย แต่ก็ไม่ได้มีเจตนาฆ่าสังหารแต่อย่างใด นิ่งไว้เพื่อดูสถานการณ์ไปก่อนก็แล้วกัน!
และเมื่อมู่เฉียนซีตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ก็ได้พบว่าตนเองนั้นอยู่ในห้องของหญิงสาวผู้หนึ่ง
นิ้วมือของนางขยับเล็กน้อย พลังวิญญาณถูกดูดจนหมดสิ้น ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อไหร่จะฟื้นฟูกลับมา
สถานการณ์ตรงหน้าไม่ชัดเจนเลย!
และในตอนนี้เอง ชายวัยกลางคนรูปร่างอ้วนท้วมผู้หนึ่งเดินเข้ามา
เมื่อเขาเห็นมู่เฉียนซีฟื้นขึ้นมาแล้ว เขาก็เผยสีหน้าดีอกดีใจออกมา “แม่นาง เจ้าฟื้นแล้วเหรอ! สาวใช้ของข้าเป็นคนช่วยเจ้าเอาไว้ และหากไม่ได้ข้าช่วยเจ้า ไม่รู้ว่าเจ้าจะโดนสัตว์ร้ายใดฉีกกระชากเนื้อหนังมังสาไปแล้ว”
“ในเมื่อพวกข้าช่วยเจ้าเอาไว้ เจ้าก็ควรจะตอบแทนพวกข้าสักหน่อย! อีกสามวันจากนี้ ข้าจะให้เจ้าเป็นตัวแทนลูกสาวของข้าแต่งงานออกเรือน ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่ปฏิเสธนะ”
จากนั้น คนผู้นี้ก็ออกคำสั่งให้สาวใช้หาอาหารสำรับมาให้มู่เฉียนซีกิน ทำให้มู่เฉียนซีอาการดีขึ้น
และในที่สุด เวลาสามวันก็มาถึงแล้ว
โอสถและยาลูกกลอนนางไม่เอาออกมาใช้ เพราะหากคนอื่นเห็นสิ่งนี้แล้ว จะต้องเกิดความโลภจนดวงตาแทบจะถลนออกมาเป็นแน่
และมันจะเป็นการสิ้นเปลือง!
“อู๋ตี้ เสี่ยวหง พวกเจ้าไปสืบข่าวมา”
ตอนนี้นางไม่สะดวก ไม่เหมาะที่จะออกไปสืบข่าว
“นายท่าน รอฟังข่าวดีจากข้าได้เลย!”
หนึ่งวันผ่านไป ในที่สุดอู๋ตี้กับเสี่ยวหงก็กลับมาแล้ว
“นายท่าน!”
“นายท่าน!”
พวกมันเอ่ยปากเรียกพร้อมกัน อู๋ตี้กล่าว “เจ้าพูดก่อน!”
“เจ้าพูดก่อนสิ!”
มู่เฉียนซีกล่าว “อู๋ตี้ เจ้าก่อน!”
อู๋ตี้กระโดดขึ้นไปในอ้อมอกมู่เฉียนซี มันกล่าวว่า “นายท่าน ข้าไปสืบข่าวมาจากข้างนอก ที่นี่คือแดนซวนเทียนจริง ๆ เราไม่ได้มาผิดที่”
“ที่นี่คืออาณาเขตของราชวงศ์ตงหวง ตั้งอยู่มุมหนึ่งในทิศตะวันออกเฉียงใต้ของราชวงศ์ตงหวง ชื่อว่าอาณาจักรหนานหลิง และอย่าคิดว่าเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งนะขอรับ เพราะจากที่ข้าได้รู้มาดูเหมือนว่าจะกว้างใหญ่กว่าดินแดนสี่ทิศเสียอีก”
“ความกว้างใหญ่ของแดนซวนเทียน ไม่ใช่สิ่งที่ดินแดนสี่ทิศจะเทียบได้”
อย่างไรเสีย อู๋ตี้ก็มีร่างเป็นสัตว์ สามารถสืบข่าวเช่นนี้มาได้ก็นับว่าไม่เลวแล้ว
ขอเพียงแค่มั่นใจแล้วว่านางอยู่ในแดนซวนเทียนก็ดีมากแล้ว เรื่องอื่น รอให้ร่างกายของนางดีขึ้นก่อน แล้วค่อยทำความรู้จักและทำความเข้าใจไปอย่างช้า ๆ
มู่เฉียนซีมองไปที่เสี่ยวหง และกล่าวว่า “เสี่ยวหง เจ้าว่ามา!”
เสี่ยวหงกล่าว “นายท่าน ตอนนี้พวกเราอยู่ในเมืองเล็ก ๆ เมืองหนึ่ง และที่ที่นายท่านอยู่ก็คือตระกูลหวัง ตระกูลอันดับหนึ่งของเมืองนี้ โจรกลุ่มหนึ่งที่อยู่เขตนอกเมืองเป็นกลุ่มที่แข็งแกร่งมาก ตระกูลหวังหวาดกลัวโจรกลุ่มนั้นมาก”
“หัวหน้าโจรกลุ่มนั้นชอบคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลของพวกเขามาก และแน่นอนว่าพวกเขาไม่ยอมแต่งงานกับหัวหน้าโจรนั้น แต่พวกเขาไม่กล้าล่วงเกินหัวหน้าโจร จึงได้หาหญิงสาวรูปร่างหน้าตาดีไปเป็นตัวแทน แต่บังเอิญไปเจอนายท่านได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่ ดังนั้นจึงคิดให้นายท่านเป็นตัวแทน”
อู๋ตี้กล่าว “คนพวกนั้นช่างน่ารังเกียจเกินไปแล้ว ไม่ถามนายท่านสักคำว่ายอมเป็นตัวแทนหรือไม่ อีกทั้งยังจะให้นายท่านไปแต่งงานกับหัวหน้าโจรนั่นอีก! นายท่าน เราจะสู้กับพวกมันเลยดีหรือไม่”
มู่เฉียนซีกล่าว “พักผ่อนก่อนสักวัน แม้จะมีพวกเจ้าอยู่ แต่ตอนนี้ร่างกายของข้ายังไม่ฟื้นฟูกลับมาหายดี วันพรุ่ง อาการของข้าน่าจะดีขึ้นมาก ข้าก็อยากเห็นหน้าหัวหน้าโจรนั่นเหมือนกัน”
อู๋ตี้กับเสี่ยวหงกล่าว “ตกลง! เช่นนั้นนายท่านพักผ่อนเถอะขอรับ!”
เช้าวันต่อมา มู่เฉียนซีตื่นขึ้นมาเพราะเสียงที่ดังจอแจ
จากนั้นก็ถูกจับตัวยัดเข้าเสลี่ยง ผู้นำตระกูลหวังผู้นั้นยังกล่าวด้วยเหตุผลว่า “แม่นางรูปร่างหน้าตางดงามเช่นนี้ เจ้าจะต้องมีความสุขแน่นอน เมื่อได้ดิบได้ดีแล้ว อย่าลืมความดีของตระกูลข้าล่ะ!”
มุมปากของมู่เฉียนซีกระตุกขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะเอนกายพิงพักผ่อนไป
เสลี่ยงนี้ออกจากเขตเมือง และมุ่งหน้าเข้าสู่หุบเขาลึก
น้ำเสียงอันหยาบกระด้างดังขึ้น “ใคร?”
“พวกเราเป็นบ่าวรับใช้ของตระกูลหวัง มาครั้งนี้ก็เพื่อมาส่งตัวภรรยาให้กับท่านหัวหน้าของพวกเจ้า รีบไปรายงานหัวหน้าพวกเจ้ามารับตัวภรรยาเร็วเข้าเถอะ” บ่าวรับใช้ของตระกูลหวังรีบกล่าว “คุณหนูใหญ่แห่งตระกูลหวังถูกส่งตัวมาแล้ว นับว่าพวกเจ้ายังรู้จักเอาตัวรอด ข้าจะรีบไปแจ้งพี่ใหญ่เดี๋ยวนี้!”
.
.