ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1506 ยึดครองตำแหน่ง
หัวหน้าโจรผู้นี้รูปร่างหน้าตาน่ากลัวยิ่งนัก
ตาข้างหนึ่งของเขามืดบอด แถมใบหน้าอีกข้างหนึ่งก็มีรอยแผลเป็นราวกับมีตัวแมลงติดตรึงอยู่บนใบหน้า
ดู ๆ แล้วอายุยังแก่กว่าผู้นำตระกูลหวังผู้นั้นเสียอีก มิน่าล่ะว่าเหตุใดผู้นำตระกูลหวังถึงไม่ยอมมอบลูกสาวให้หัวหน้าโจรผู้นี้
และเมื่อหัวหน้าโจรได้เห็นรูปร่างหน้าตาของมู่เฉียนซี เขาก็นิ่งอึ้งไปเลย
แม้ว่าเขาจะยึดครองพื้นที่มามากมายจนนับไม่ถ้วนแล้ว แต่เขาก็ไม่เคยเห็นหญิงสาวหน้าตางดงามเช่นนี้มาก่อนเลย!
หัวหน้าโจรกล่าว “นึกไม่ถึงเลยว่าเจ้าเฒ่าหวังนั่นจะไม่ยอมส่งลูกสาวของตัวเองมา กลับส่งตัวแทนมาเช่นนี้! แต่เห็นแก่ที่คนงามรูปร่างหน้าตางดงามกว่าลูกสาวของเขา ข้าจะไม่คิดติดใจเอาความอะไรแล้วกัน”
“คนงาม เรารีบเข้าห้องหอกันเถอะ!”
หัวหน้าโจรยื่นมืออ้วน ๆ ของเขาออกไป หมายจะจับมู่เฉียนซี พลันนั้นร่างของมู่เฉียนซีก็อันตรธานหายไปจากในเสลี่ยง
ในที่สุดพลังก็ฟื้นฟูกลับมาเล็กน้อยแล้ว
หัวหน้าโจรตกตะลึงขึ้นเล็กน้อย “นึกไม่ถึงเลยว่าคนงามจะมีพลังความแข็งแกร่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นนี้ด้วย แต่ข้าชื่นชอบเจ้าแล้ว เจ้าก็เตรียมตัวรอเป็นเมียหัวหน้าโจรภูเขาเช่นข้าผู้นี้ได้เลย!”
บ่าวรับใช้ของตระกูลหวังเหล่านั้นก็ตกตะลึงไปเช่นกัน แม่นางผู้นี้ตอนที่เอาตัวมาที่ตระกูลหวังนั้นท่าทางดูอ่อนแอเป็นอย่างมาก นึกไม่ถึงเลยว่าจะมีพลังความแข็งแกร่งด้วย
หัวหน้าโจรผู้นี้มีพลังความแข็งแกร่งขั้นจักรพรรดิแห่งยุทธ์ระดับเก้า ดังนั้นเขาจึงสามารถครอบครองพื้นที่แห่งนี้ได้
แม้ว่าความแข็งแกร่งของแม่นางผู้นี้จะไม่เลว แต่ก็ยากที่จะหนีรอดไปได้
หัวหน้าโจรเอื้อมมือไปจะจับมู่เฉียนซีอีกครั้ง พลังการกดขี่ข่มเหงขั้นจักรพรรดินั้นพัดกระโชกเข้ามาอย่างรุนแรง
แต่มู่เฉียนซีที่เผชิญหน้ากับการโจมตีนี้ของเขาไม่ได้หลบหลีกแต่อย่างใด
ทุกคนล้วนแต่คิดเหมือน ๆ กันว่า …นี่นางไม่รักชีวิตตัวเองแล้วหรืออย่างไร?
พวกเขารับรู้ได้ว่าร่างของมู่เฉียนซีมีพลังวิญญาณไหลเวียนอยู่ แต่ไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก เมื่อเทียบกับพี่ใหญ่แล้วยังห่างชั้นกันมากยิ่ง
จะต้านทานการโจมตีของพี่ใหญ่ได้อย่างไรกันเล่า
และทันใดนั้นเอง มู่เฉียนซีก็ลงมือแล้ว
พลังธาตุวารีโคจรขึ้น นิ้วมืออันเพรียวบางที่ราวกับว่าแค่บีบเพียงนิดก็จะหักได้นั้นง้างขึ้น!
นึกไม่ถึงเลยว่านางคิดจะสู้แบบตาต่อตาฟันต่อฟันกับหัวหน้าโจร นางบ้าไปแล้ว!
บ่าวรับใช้ของตระกูลหวังก็ผงะไปแล้วเช่นกัน “แม่นางผู้นี้เป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังธาตุวารีด้วยเหรอ!”
ในแดนซวนเทียน ผู้บำเพ็ญภูตพลังธาตุนั้นนั้นไม่ได้หายากเหมือนในดินแดนสี่ทิศ
แต่ผู้บำเพ็ญภูตพลังธาตุเช่นนี้ โดยทั่วไปแล้วจะกำเนิดมาจากตระกูลใหญ่ ๆ และสำนักใหญ่ ๆ
และสถานที่เล็ก ๆ เช่นนี้ของพวกเขาไม่มีทางที่จะพบเจอได้ง่าย ๆ
“ทักษะโยวหลัว!” มู่เฉียนซีกล่าวขึ้นอย่างเย็นชา
เดิมทีหัวหน้าโจรคิดว่าเขาสามารถจับตัวมู่เฉียนซีได้อย่างง่ายดาย แต่เขากลับรู้สึกได้ถึงพลังการโจมตีอันทำลายล้างหนึ่งที่เขาไม่อาจต้านทานได้
อันตราย! สีหน้าของเขาพลันเปลี่ยนไปอย่างมาก และเมื่อเขาตั้งสติได้ มันกลับสายไปแล้ว
เสียง ตูม! ดังสนั่นขึ้น ร่างอ้วนท้วมที่หนักสองร้อยกว่าจินของหัวหน้าโจรในตอนนี้ก็กระเด็นลอยออกไปไกลเสียแล้ว
พรวด! ร่างของหัวหน้าโจรกระเด็นลอยออกไปก่อนจะกระแทกลงบนพื้นจนกระอักเลือดคำโตออกมา
“นี่ตระกูลหวังของพวกเจ้ากล้าวางแผนลอบทำร้ายข้าอย่างนั้นเหรอ พวกเจ้าจำเอาไว้เลยนะ!” หัวหน้าโจรกล่าวด้วยน้ำเสียงดุดัน
ความแข็งแกร่งของหญิงสาวผู้นี้ดูเหมือนจะอ่อนแอ แต่ทักษะวิญญาณอันทรงพลังนี้ไม่ธรรมดาเลย ช่างแข็งแกร่งเกินไปแล้ว!
บ่าวรับใช้ตระกูลหวังเองก็จนปัญญาเช่นกัน พวกเขาก็ไม่รู้ว่าหญิงสาวผู้นี้จะแข็งแกร่งมากถึงเพียงนี้
หัวหน้าโจรไม่มีทางยอมปล่อยให้หญิงสาวผู้งดงามเช่นนี้หนีรอดพ้นเงื้อมมือไปได้แน่นอน เมื่อครู่ที่เขาถูกโจมตี ก็เป็นเพราะว่าเขาประเมินศัตรูต่ำเกินไป
เขากล่าว “เหล่าพี่น้อง! จับหญิงสาวผู้นี้ให้ข้า! ขึ้นไปบนเขาได้เมื่อไร เดี๋ยวนางก็จะเชื่อฟังข้าเอง”
“ขอรับ พี่ใหญ่!”
จากนั้นโจรกลุ่มนี้จึงพุ่งเข้าไปห้อมล้อมมู่เฉียนซี และเริ่มโจมตีมู่เฉียนซี
แต่เงาร่างสีม่วงของมู่เฉียนซีก็พุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว ทำให้พวกเขามองร่างนางไม่ชัดเจน
พวกเขาตกตะลึงนิ่งอึ้งไป “ช่างรวดเร็วยิ่งนัก!”
แม้แต่ชายเสื้อก็ไม่อาจจับได้ แล้วนี่จะต่อสู้ได้อย่างไรกัน
มิหนำซ้ำยังถูกนางโจมตีอีก! โจรกลุ่มนี้เผยสีหน้าหวาดกลัวออกมา!
และในตอนนี้เอง มู่เฉียนซีก็กล่าวออกมาอย่างเย็นชาว่า “มังกรวารีทำลาย!”
“มังกรวารีสังหาร!”
“มังกรน้ำแข็งท้าสวรรค์!”
“อ๊า ๆ ๆ!”
เผชิญหน้ากับการโจมตีพลังธาตุวารีอันทำลายล้างเช่นนี้ของมู่เฉียนซี ร่างของโจรเหล่านี้แต่ละคนต่างก็กระเด็นลอยออกไป ก่อนจะตกลงไปกระแทกพื้นจนต้องส่งเสียงโหยหวนด้วยความเจ็บปวดออกมา!
ปัง ปัง ปัง!
มู่เฉียนซีพุ่งไปที่พี่ใหญ่ของพวกเขา และโจมตีด้วยทักษะโยวหลัวอีกครั้ง
“ทักษะโยวหลัว!”
เท่านี้ยังไม่หมด มู่เฉียนซีลงมือต่ออีกครั้ง “ทักษะเทียนซวน!”
ปัง ปัง ปัง!
คนตระกูลหวังเบิกตากว้างจ้องมองมู่เฉียนซีโจมตีกลุ่มโจรที่ทำให้ตระกูลหวังหวาดกลัวที่สุดกลุ่มนี้อย่างโหดเหี้ยม
“แม่นาง ได้โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย!”
“แม่นาง พวกเรารู้ผิดแล้ว!”
“พวกเรามีตาแต่หามีแววไม่!”
หลังจากที่ถูกมู่เฉียนซีโจมตีไปอย่างรุนแรง โจรกลุ่มนี้แต่ละคนต่างก็คุกเข่าลงอย่างไร้เรี่ยวแรงและเริ่มขอร้องอ้อนวอน
หัวหน้าโจรผู้ชั่วร้ายผู้นั้นในตอนนี้หน้าตาฟกช้ำดำเขียวไปหมดแล้ว เขาคิดว่านี่เป็นโศกอนาฎกรรมที่น่าขันยิ่งนัก
แสงเย็นยะเยือกแสงหนึ่งปรากฏขึ้น เข็มยาเข็มหนึ่งพุ่งไปที่คอของหัวหน้าโจรผู้นี้
“โอ๊ย!” หัวหน้าโจรส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
เขากล่าวด้วยใบหน้าอันแสนโศกเศร้าว่า “แม่นาง นี่เจ้า…”
“ใช่ เจ้าถูกพิษของข้าเข้าแล้วล่ะ!” มู่เฉียนซีกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“หากเจ้ากล้าเล่นอุบายใดกับข้าอีก ข้ารับประกันได้เลยว่าเจ้าจะต้องน่าสังเวชกว่านี้อีกพันเท่าหมื่นเท่า” แสงเย็นวาบผ่านดวงตาของมู่เฉียนซี
หัวหน้าโจรรู้ว่าครั้งนี้เขาเจอของจริงเข้าแล้ว เขาอยากจะทำลายล้างตระกูลให้ย่อยยับจริง ๆ นึกไม่ถึงเลยว่าจะพาดาวร้ายเช่นนี้มาให้พวกเขา
เมื่อเห็นมู่เฉียนซีจัดการโจรกลุ่มนี้อย่างโหดเหี้ยม บ่าวรับใช้ของตระกูลหวังเหล่านั้นก็ทั้งตกใจและหวาดกลัว อีกทั้งยังไม่กล้ายกเท้าวิ่งหนีอีกด้วย
พวกเขากล่าวด้วยความกระวนกระวายใจว่า “แม่นาง พวกเรา…พวกเรารู้ผิดแล้ว! ได้โปรดไว้ชีวิตพวกเราด้วยเถอะ!”
“พวกเราไม่กล้าทำเช่นนี้อีกแล้ว”
มู่เฉียนซีกล่าว “เห็นแก่ที่ตระกูลหวังของพวกเจ้าเอาตัวข้ามา ไม่ให้ข้าต้องอยู่ในป่ารกร้างนั่นให้สัตว์ร้ายกิน อีกอย่างสามวันที่ผ่านมานี้ก็ดูแลข้าเป็นอย่างดี ดังนั้นข้าไม่ฆ่าพวกเจ้าหรอก”
“แต่พวกเจ้าต้องกลับไปบอกผู้นำตระกูลหวังของพวกเจ้า เขาส่งข้ามาเป็นตัวแทนของลูกสาวเขามาที่หุบเขาแห่งนี้ เขาก็ควรจะมอบประโยชน์ใดให้ข้าบ้าง แต่หากข้าไม่พอใจแล้วละก็ ข้าจะส่งคนไปเยี่ยมเยือนเขาอีกครั้ง”
คนเหล่านี้ได้ยินคำพูดนี้ก็รู้สึกหวาดกลัวจนเหงื่อเย็นไหลพราก รีบพยักหน้าพลางกล่าวว่า “พวกเราเข้าใจแล้วขอรับ!”
“พวกเราจะรีบกลับไปบอกท่านผู้นำตระกูลเดี๋ยวนี้ขอรับ”
ครั้นแล้วพวกเขาก็รีบวิ่งไปอย่างรวดเร็ว และที่แห่งนี้ก็เหลือเพียงแค่โจรผู้ขี้ขลาดตาขาวเหล่านี้เท่านั้น
หัวหน้าโจรกล่าว “แม่นาง เจ้า…เจ้าไม่ไปเหรอ?”
มู่เฉียนซีกล่าว “ข้าจะไปทำไมล่ะ หุบเขาของพวกเจ้าก็นับว่าเป็นสถานที่ที่ล้ำค่ามาก ข้าอยู่พักสักหน่อยก็แล้วกัน นำทางไปเถอะ!”
จะพักสักหน่อยอย่างนั้นเหรอ! จะน่ากลัวเกินไปแล้ว!
หัวหน้าโจรไม่กล้าปฏิเสธ เขาจึงทำได้เพียงกล่าวว่า “ตกลง! แม่นางตามข้ามา!”
“เรียกข้าว่าพี่ใหญ่!”
“ขอรับ! พี่ใหญ่! ต่อไปพี่ใหญ่จะเป็นพี่ใหญ่คนใหม่ของข้า”
ในหุบเขา เมื่อหัวหน้าโจรพาหญิงสาวผู้งดงามคนหนึ่งกลับมา เหล่าบรรดาโจรทุกคนต่างก็โห่ร้องส่งเสียงล้อเลียน
“ในที่สุดภรรยาของหัวหน้าก็มาจนได้!”
“ช่างงดงามยิ่งนัก พี่ใหญ่ต้องมีความสุขมากแน่ ๆ”
“……”
พวกเขาต่างโห่ร้องส่งเสียงล้อเลียนกันจนลืมสังเกตใบหน้าฟกช้ำดำเขียวอันน่าสังเวชนั้นของพี่ใหญ่ไปเสียแล้ว
เจ้าพวกนี้ปากไม่มีหูรูด พี่ใหญ่ผู้เป็นหัวหน้าโจรหวาดกลัวจนเหงื่อไหลพราก กล่าวกับพวกเขาว่า “พวกเจ้าทั้งหมดหุบปากเดี๋ยวนี้!”
“พวกเจ้าพูดจาเหลวไหลอะไรกัน! นับจากนี้ต่อไป นางคือพี่ใหญ่ของข้า และเป็นพี่ใหญ่ของพวกเจ้าด้วย พวกเจ้าจะพูดอะไรก็ควรจะเกรงใจข้าบ้าง มิเช่นนั้นข้าจะฆ่าพวกเจ้าซะ”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของเขา ทุกคนก็ตกตะลึงดวงตาเบิกกว้างขึ้น! นี่มัน…นี่มันเกิดอะไรขึ้น
.
.