ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1513 ศิษย์น้องผู้แข็งแกร่ง
มู่เฉียนซีกล่าว “ตกลง ข้าจะตรวจสอบ!”
ทันทีที่มือของนางวางลงบนศิลาตรวจสอบ ไม่นานนักตัวเลขก็ปรากฏขึ้น
ผู้อาวุโสหูเองก็ตกตะลึงพรึงเพริดขึ้นเช่นกัน “สิบเจ็ดปี!”
อายุยังน้อยกว่าที่เขาคิดเอาไว้มากนัก นี่ช่างวิปริตเกินไปแล้วกระมัง
ผู้อาวุโสรับลงทะเบียนผู้นั้นกล่าว “สิบเจ็ดปี ผ่านเกณฑ์! ต่อไปก็เป็นการตรวจสอบระดับพลังวิญญาณ ไม่ต้องตื่นเต้น อายุผ่านเกณฑ์แล้ว อย่างอื่นก็จะผ่านไปได้”
อันที่จริงแล้ว ผู้อาวุโสหูเองก็สงสัยในระดับพลังวิญญาณของมู่เฉียนซีเช่นกัน
สามารถเอาชนะสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสี่ได้ ระดับพลังวิญญาณคงไม่ต่ำแน่นอน!
ทว่า ผลลัพธ์การตรวจสอบระดับพลังวิญญาณของมู่เฉียนซีที่ออกมานั้นทำให้ผู้อาวุโสทั้งสองรู้สึกทึ่งเป็นอย่างมาก
“จักรพรรดิแห่งภูตระดับหนึ่ง!”
ผู้อาวุโสหูเบิกตากว้างด้วยความตกใจ จ้องมองไปที่ตัวอักษร ‘จักรพรรดิ’ ตัวนั้น
เหตุใดตัวอักษรนี้ถึงไม่ใช่คำว่า ‘มหาจักรพรรดิ’ นี่มันน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว นี่เขาไม่ได้ตาฝาดไปใช่หรือไม่!
ผู้อาวุโสหูตกอยู่ในอาการมึนงง สิ่งนี้ทำให้ผู้อาวุโสท่านนั้นคิดว่าเขาตกใจจนจิตใจได้รับความกระทบกระเทือนไปแล้ว
“เหล่าหู! แม้ว่าอำนาจบารมีของเจ้าจะเป็นที่ประจักษ์ แต่หากมีคนรู้เข้าว่าเจ้ารับคนที่มีพลังขั้นจักรพรรดิแห่งภูตระดับหนึ่งเข้าสำนักนอกแล้วละก็ จะต้องมีคนวิจารณ์เป็นแน่” เขากล่าวเตือนด้วยความจริงใจ
ผู้อาวุโสหูมองมู่เฉียนด้วยความมึนงง “สาวน้อย เจ้าไม่จำเป็นต้องยับยั้งพลังวิญญาณเอาไว้!”
มู่เฉียนซีกล่าว “ผู้อาวุโสหู ตอนนี้พลังวิญญาณของข้าก็มีเพียงเล็กน้อยเท่านี้แล้ว ข้าไม่ได้เก่งกาจเหมือนอย่างที่ท่านคิด ตอนนี้ท่าน รู้สึกเสียใจทีหลังแล้วใช่หรือไม่?”
“แต่ต่อให้เสียใจทีหลังก็ไร้ประโยชน์อยู่ดี! ท่านรับปากข้าแล้ว อีกอย่างที่นี่ก็คือสำนักลั่วเยว่ ข้าจะต้องเข้าให้ได้”
ผู้อาวุโสหูกล่าว “เสียใจทีหลังเหรอ! ข้าจะไปเสียใจทีหลังได้ยังไงกันล่ะ ข้าไม่ใช่คนคร่ำครึนะ ข้าเชื่อในสายตาตัวเอง”
“แต่ว่า สาวน้อย เจ้าช่างวิปริตเกินไปแล้วจริง ๆ”
จักรพรรดิแห่งภูตระดับหนึ่ง นึกไม่ถึงเลยว่าจะเอาชนะสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสี่ได้ ช่างน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว
หากเป็นเขาในเมื่อก่อน ตอนที่มีพลังขั้นจักรพรรดิแห่งภูตระดับหนึ่ง เมื่อต้องเผชิญหน้าสู้รบกับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสี่เช่นนั้น เขาจะต้องถูกฆ่าตายภายในชั่วพริบตาเดียวและไม่มีทางได้ตอบโต้กลับเป็นแน่
พลังขั้นจักรพรรดิแห่งภูตก็วิปริตได้ถึงเพียงนี้แล้ว หากรอให้สาวน้อยผู้นี้เลื่อนพลังวิญญาณขึ้นอีกระดับสองระดับ นางจะต้องเอาชนะอัจฉริยะขั้นมหาจักรพรรดิของสำนักอื่นได้อย่างง่ายดายเป็นแน่
ผู้อาวุโสรับลงทะเบียนไม่รู้ว่าผู้อาวุโสหูกำลังตื่นเต้นอันใดอยู่ เขากล่าวถามว่า “เจ้าแน่ใจนะว่าจะให้นางเข้าเป็นศิษย์สำนักนอก”
ผู้อาวุโสหูกล่าว “แน่ใจ ข้าแน่ใจ!”
“หากเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังธาตุ ก็ต้องตรวจสอบพลังธาตุสักหน่อย”
มู่เฉียนซีพยักหน้าพลางกล่าว “ได้เลย!”
นางบดบังพลังธาตุอัคคีเอาไว้ และปล่อยพลังธาตุวารีออกมา
“ผู้บำเพ็ญภูตพลังธาตุวารี”
หลังจากที่ผ่านขั้นตอนการตรวจสอบมาแล้ว ก็มีศิษย์ร่วมสำนักพามู่เฉียนซีไปที่บ้านพักของนาง
ผู้อาวุโสหูเองก็ไม่ได้ผิดสัญญาที่ให้นางไว้ ทรัพยากรในการฝึกฝนก็มีเพียงอัจฉริยะสามอันดับแรกเท่านั้นจึงมีได้ ก็ได้มอบให้กับนาง ที่พักก็จัดเตรียมที่พักส่วนตัวให้นางเช่นกัน
ในฐานะที่สำนักลั่วเยว่เป็นกองกำลังระดับสาม พลังวิญญาณที่นี่เข้มข้นและแข็งแกร่งมาก เหมาะกับการฟื้นฟูพลังของมู่เฉียนซีมาก
ดังนั้นมู่เฉียนซีจึงฟื้นฟูพลังวิญญาณที่นี่ และแน่นอนว่านางก็ไม่ได้อยู่บ้านพักตลอด
หอเก็บตำราของสำนักกองกำลังระดับสามสามารถทำให้นางเข้าใจแดนซวนเทียนมากขึ้น
หลายวันที่ผ่านมานี้ ในหอเก็บหนังสือมีศิษย์น้องหญิงผู้แปลกประหลาดคนหนึ่งมาอยู่บ่อย ๆ นางไม่ได้อ่านตำราทักษะวิญญาณ แต่นางกลับหาตำราเกี่ยวกับเรื่องราวต่าง ๆ ของแดนซวนเทียนอ่าน
ศิษย์น้องหญิงผู้นี้ แม้ว่าจะรูปร่างหน้าตาดีมาก แต่ก็ไม่คิดจะพัฒนาตัวเองเลย!
และในขณะที่มู่เฉียนซีกำลังอ่านตำราที่ศิษย์ร่วมสำนักหลายคนบอกว่าไร้ประโยชน์นี้ เรื่องราวของศิษย์น้องหญิงผู้มาใหม่ก็เป็นที่แพร่หลายแล้ว
ได้ยินมาว่าศิษย์น้องหญิงผู้นี้อายุเพียงแค่สิบเจ็ดปีเอง ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องปกติ!
แต่เพิ่งจะถึงขั้นจักรพรรดิแห่งภูตระดับหนึ่ง สิ่งนี้ทำให้หลาย ๆ คนรู้สึกไม่ยุติธรรม
อีกอย่าง นางยังได้รับการปฏิบัติเทียบเท่ากับอัจฉริยะสามอันดับแรกอีกด้วย นางมีสิทธิ์อะไร
ทั้งสำนักนอกลุกเป็นไฟขึ้นแล้ว นี่มันไม่ยุติธรรมเอาซะเลย แม้ว่าจะเป็นคนที่ผู้อาวุโสหูแนะนำมา ก็ไม่ควรได้รับประโยชน์มากมายถึงเพียงนี้กระมัง!
หากพรสวรรค์สูงส่ง พวกเขาถึงจะยอมรับ!
แต่นี่เป็นเพียงแค่ขั้นจักรพรรดิแห่งภูตระดับหนึ่ง มีสิทธิ์อันใด
นอกจากนี้ยังมีคนคอยใส่ไฟนางอยู่เรื่อย ๆ ดังนั้นจึงมีคนจำนวนมากที่ไม่พอใจต่อศิษย์น้องผู้นี้
คนจำนวนมากล้วนอิจฉาริษยา ดังนั้นพวกเขาจึงพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อจะสืบหาว่าศิษย์น้องหญิงผู้นี้เป็นใคร และในที่สุดก็มีคนสืบจนรู้
ศิษย์น้องหญิงผู้นั้นชื่อมู่เฉียนซี ทุก ๆ วัน นางจะไปอ่านตำรามากมายในหอเก็บตำรา
และในขณะที่มู่เฉียนซีเดินออกมาจากหอเก็บหนังสือ นางก็พบว่าตนเองได้ถูกคนอื่นล้อมรอบเอาไว้แล้ว
“เป็นนาง ศิษย์น้องหญิงผู้ที่เล่นเส้นสายผู้นั้น มู่เฉียนซี” จู่ ๆ ก็มีคนกล่าวขึ้น
เมื่อได้ยินเสียงของพวกเขา มู่เฉียนซีก็ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย จากนั้นชายหนุ่มรูปร่างสูงเพรียวผู้หนึ่งก็เดินมาตรงหน้ามู่เฉียนซี “ศิษย์น้องหญิงผู้นี้คงคือมู่เฉียนซี ผู้ที่เล่นเส้นสายกระมัง!”
“จักรพรรดิแห่งภูตระดับหนึ่งอย่างนั้นเหรอ?”
มู่เฉียนซีกล่าว “ใช่! แล้วอย่างไร?”
เขากล่าว “ข้าชื่อจางกัง! เป็นอัจฉริยะอันดับแปดของสำนักนอก! ข้าอยากรู้ว่าศิษย์น้องหญิงมีความสามารถใดกันถึงได้รับทรัพยากรการฝึกฝนของอัจฉริยะสามอันดับแรกได้”
“หากเจ้าไม่มีความสามารถนั้น เจ้าก็ควรละทิ้งทรัพยากรที่มันไม่คู่ควรจะเป็นของเจ้าเหล่านั้นไปซะ”
กล่าวจบ เขาก็พุ่งจะไปจับมู่เฉียนซีทันที
ลงมือครั้งแรก เจ้าหมอนี่ก็ปล่อยพลังอันแข็งแกร่งออกมาทันที อัจฉริยะสิบอันดับแรกของสำนักนอกมีพลังความแข็งแกร่งขั้นจักรพรรดิแห่งภูตระดับเก้า ศิษย์น้องหญิงที่มีพลังขั้นจักรพรรดิแห่งภูตระดับหนึ่งผู้นี้จะต้านทานได้อย่างไรกันเล่า
มู่เฉียนซีไม่ขยับถอยแม้แต่ครึ่งก้าว พลันนั้นข้อมือของนางก็ขยับเคลื่อนไหว!
พลังแห่งการทำลายล้างอันทรงพลังพุ่งโจมตีไปที่ศิษย์พี่จางผู้นั้น “ทักษะโยวหลัว!”
ทักษะนั้นพุ่งตัดผ่านอากาศโจมตีจางกังอย่างรวดเร็ว จางกังที่รู้สึกได้ถึงอันตรายจึงรีบป้องกัน!
การป้องกันของเขาไม่ค่อยได้ผลมากนัก เขาจึงถูกโจมตีจนร่างกระเด็นลอยออกไป
ปัง! จางกังกระแทกลงบนพื้น และกระอักเลือดคำโตออกมา
การลงมือในครั้งนี้ของมู่เฉียนซีทำให้ศิษย์ที่มุงดูอยู่เหล่านี้ตกตะลึงขึ้น
ศิษย์พี่จางพ่ายแพ้แล้ว อีกทั้งยังโดนโจมตีภายในกระบวนท่าเดียวอีกด้วย
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “ในเมื่อพวกเจ้าเข้ามาฝึกฝนในสำนักลั่วเยว่แล้ว เช่นนั้นก็ต้องเชื่อในสายตาของผู้อาวุโสแห่งสำนักลั่วเยว่ด้วย ยังมีใครที่มีปัญหาอีก เข้ามาได้เลย!”
“ข้าขอเพียงแค่เงื่อนไขเดียวเท่านั้น อย่ามายุ่งวุ่นวายกับข้าอีก”
ศิษย์น้องหญิงมาใหม่ผู้นี้ค่อนข้างเย่อหยิ่งยิ่งนัก!
แต่นางมีความแข็งแกร่งที่สามารถจะเย่อหยิ่งได้ จางกัง อัจฉริยะอันดับแปดเพิ่งจะพ่ายแพ้นางไปในกระบวนท่าเดียว แล้วพวกเขา…
ในตอนนี้เอง ศิษย์พี่หลิวก็เดินเข้ามา
เขาแอบอยู่ในกลุ่มผู้คนมาโดยตลอด จางกังพ่ายแพ้เช่นนี้ เขาผิดหวังมาก ดูท่าเขาคงต้องยอมแล้ว!
ศิษย์พี่หลิวเอากล่องไม้กล่องหนึ่งยื่นให้มู่เฉียนซี และแน่นอนว่าด้านในมีหยกซวนระดับสูงอยู่ มู่เฉียนซีจึงรับมันมา
“นั่นศิษย์พี่หลิวไม่ใช่เหรอ เขามอบสิ่งใดให้กับศิษย์น้องหญิงมู่กันล่ะ หรือจะเห็นว่าศิษย์น้องมู่เก่งกาจ ก็เลยทำดีกับศิษย์น้องมู่”
“เขาช่างเจ้าเล่ห์ยิ่งนัก! ทำไมข้าถึงไม่เตรียมอะไรติดไม้ติดมือมาบ้างเลยนะ!”
ในสำนัก ผู้มีพลังความแข็งแกร่งที่ทำให้ผู้คนยอมรับเท่านั้นที่จะทำให้คนอื่นนับถือเลื่อมใสได้
มู่เฉียนซีเปิดกล่องดู ด้านในมีหยกซวนระดับสูงจำนวนหนึ่งร้อยอัน!
“พระเจ้าช่วย! หยกซวนระดับสูงมากมายเพียงนี้ ศิษย์พี่หลิวก็ยังมอบให้ได้!”
ศิษย์พี่หลิวมีทุกข์ก็ยากจะพูดออกมาได้! เขาไม่ได้อยากให้ แต่หากไม่ให้ เขาก็จะต้องเป็นใบ้ตลอดไป
รสชาติของการเป็นใบ้นั้นมันไม่สนุกเลย อดทนมานานแล้ว จนในที่สุดเขาก็ตัดสินใจเอาหยกซวนมามอบให้มู่เฉียนซีเพื่อเป็นการแก้ให้เขาหายจากอาการใบ้นี้
มู่เฉียนซีโยนยาขวดหนึ่งให้เขา นางกล่าว “ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย ต่อไปหากเจ้ายังกล้าเล่นอุบายกับข้าอีก มันจะไม่ง่ายเหมือนการเป็นใบ้แล้ว”
ศิษย์พี่หลิวรู้สึกเสียวสันหลังวาบขึ้นทันใด เรื่องที่เขาใส่ไฟนาง นึกไม่ถึงเลยว่าจะโดนนางจับได้แล้ว
.