ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1521 คุณชายผู้อ่อนแอ
ไม่มีภารกิจใดที่โหดร้ายเหมือนกับภารกิจของถูขวงแล้ว ทว่า มู่เฉียนซีกลับสนใจภารกิจหนึ่ง
สถานที่ที่ตั้งในการทำภารกิจครั้งนี้นางมีความสนใจเป็นอย่างมาก ส่วนรายละเอียดภารกิจที่จะทำ นางก็สนใจเช่นกัน
ภารกิจครั้งนี้ไม่ได้ออกโดยสำนักลั่วเยว่ แต่เป็นภารกิจที่ออกโดยกองกำลังระดับสองแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลกับสำนักลั่วเยว่มากนัก
คุณชายของตระกูลพวกเขาเป็นนักปรุงยาท่านหนึ่ง เขาต้องการไปเก็บสมุนไพรวิญญาณที่ชื่อว่าผลจูอวิ๋นที่ป่าชานอวิ๋น
ป่าชานอวิ๋นมีสัตว์วิญญาณที่อันตรายมากมาย จำนวนคนในตระกูลของพวกเขามีไม่เพียงพอ ดังนั้นจึงส่งภารกิจนี้ให้กับสำนักลั่วเยว่
กิจกรรมเช่นนี้ไม่เพียงแต่จะส่งเสริมความสัมพันธ์กับกองกำลังระดับสามเท่านั้น แต่ยังอำนวยความสะดวกแก่ตระกูลของพวกเขาด้วย
ดังนั้น มู่เฉียนซีจึงรับภารกิจนี้มา
“เจ้าจะรับภารกิจนี้หรือไม่?”
มู่เฉียนวีกล่าว “อืม!”
“ความอันตรายของป่าอวิ๋นชานนั้นยากที่จะคาดเดาได้ ต้องระวังความปลอดภัยให้ดี อีกอย่างภารกิจครั้งนี้ก็มีคนของสำนักอื่นไปด้วย นอกจากต้องระวังอันตรายจากสัตว์วิญญาณแล้ว ต้องระวังคนเหล่านั้นด้วย”
เนื่องจากมู่เฉียนซีเพิ่งเข้ามาในสำนักในได้เพียงแค่ไม่กี่วัน ดังนั้นผู้อาวุโสผู้ดูแลท่านนี้จึงกล่าวเตือนนางเล็กน้อย
มู่เฉียนซีพยักหน้าพลางกล่าวว่า “ขอบคุณท่านผู้อาวุโสมากเจ้าค่ะที่เตือน ข้าจะระวังตัวและจะกลับมาจากภารกิจนี้ด้วยความสำเร็จและปลอดภัย”
มู่เฉียนซีเดินทางออกจากสำนักลั่วเยว่ด้วยสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ท่องนภา มุ่งหน้าไปที่ตระกูลโม่กองกำลังระดับสองครึ่งทันที
เมื่อมาถึงประตูทางเข้าตระกูลโม่ รายงานตัวว่านางเป็นศิษย์แห่งสำนักลั่วเยว่ นางก็ถูกเชิญเข้าไปด้วยความเคารพ
แม้ว่าระดับของกองกำลังจะห่างกันเพียงแค่ครึ่งระดับ แต่ตระกูลโม่ก็ไม่กล้าดูแคลนและเพิกเฉยคนของสำนักลั่วเยว่
หลังจากที่ได้รับเชิญเข้าไปในตระกูลโม่แล้ว มู่เฉียนซีก็พบว่ามีศิษย์จากสำนักอื่นมาด้วยกว่ายี่สิบสำนัก
และในตอนนี้เอง นายน้อยแห่งตระกูลโม่ก็มาแล้ว
ร่างกายที่อ่อนแอนั้นทำให้ทุกคนถึงกับตกใจผงะไปครู่หนึ่ง
ร่างกายของเขาซูบผอมราวกับต้นไผ่ ใบหน้าซีดขาวประหนึ่งกระดาษราวกับไม่มีเลือดหล่อเลี้ยงอยู่เลย
มีศิษย์สำนักหนึ่งกล่าวขึ้นว่า “คุณชายโม่ ร่างกายของคุณชายไม่แข็งแรง อย่าไปเลยดีกว่า คุณชายบอกพวกเรามาเถอะว่ารูปร่างหน้าตาของผลจูอวิ๋นเป็นเช่นไร พวกเราจะเก็บเอามาให้”
“แม้ว่าร่างกายของข้าจะอ่อนแอ แต่ข้าก็ไม่ใช่คนไร้ประโยชน์”
ทันใดนั้น คุณชายโม่ที่อยู่ในสภาพร่างกายอ่อนแอราวกับร่างของเขาสามารถล้มลงได้เพียงแค่สายลมพัดผ่าน ก็แผ่ซ่านพลังความแข็งแกร่งขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับสองออกมา
พลังเช่นนี้ก็เพียงพอที่จะเป็นคุณชายผู้แข็งแกร่งแห่งกองกำลังระดับสามได้แล้ว ยุทธภพแห่งนี้ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่เป็นใหญ่ เมื่อเห็นเช่นนี้ ศิษย์ผู้นั้นก็ไม่ได้เปล่งเสียงกล่าวอะไรออกมาอีก
คุณชายโม่กล่าว “ป่าอวิ๋นชานอันตรายมากเพียงใด ทุกคนล้วนแต่รู้อยู่แก่ใจดี คนที่เข้าร่วมการทำภารกิจนี้จะต้องมีไหวพริบที่ดี ไม่ใช่อาศัยเพียงแค่คนจำนวนมาก ดังนั้นข้าจึงอยากคัดเลือกออกมาเพียงแค่เจ็ดคนเท่านั้น”
“เจ็ดคนเหรอ! หญิงสาวศิษย์สำนักลั่วเยว่ผู้นั้นคัดออกไปก็สิ้นเรื่อง! ที่นี่ไม่ใช่หน้าที่ของเจ้า” หนุ่งในคู่แข่งครั้งนี้กล่าวอย่างเย่อหยิ่ง
มีคนกล่าวอย่างเห็นด้วยว่า “ใช่ ๆ! ศิษย์สำนักในแห่งสำนักลั่วเยว่ก็ไม่ได้แข็งแกร่งอะไร ยิ่งเป็นสตรีเช่นนี้ด้วยแล้ว หากนางไปก็มีแต่จะเป็นตัวถ่วง”
คุณชายโม่ท่านนี้ก็หันมองไปที่มู่เฉียนซี หญิงสาวผู้นี้งดงามมาก อีกอย่างสัญชาตญาณของเขาก็บอกเขาว่า ในตัวนางมีบางอย่างที่ดึงดูดเขามาก
คุณชายโม่กล่าว “ข้าได้เตรียมลานประลองเอาไว้เรียบร้อยแล้ว สหายทั้งหลายไปประลองที่ลานประลองได้เลย เจ็ดคนสุดท้าย จะได้เข้าร่วมภารกิจในครั้งนี้”
“ประลองก็ประลอง! ศิษย์สำนักลั่วเยว่ข้าไม่กลัวหรอก”
แสงเย็นวาบผ่านดวงตาของมู่เฉียนซี กองกำลังระดับสามในดินแดนแห่งนี้มีทั้งหมดห้ากองกำลัง
นอกจากสำนักลั่วเยว่แล้ว ยังมีสำนักวารีเมฆา สำนักเพลิงสวรรค์ สำนักชิงเฟิง และวังกุ้ยหยวน
และผู้ที่ดูถูกเหยียดหยามนางมากที่สุดก็คือศิษย์สำนักในแห่งสำนักวารีเมฆานั่นเอง และคนที่เห็นดีเห็นงามในเมื่อครู่ ก็คือคนของสำนักวารีเมฆาเช่นกัน
ทุกคนมาพร้อมกันที่ลานประลอง หลังจากที่คุณชายโม่ประกาศเริ่มการประลอง ศิษย์สำนักวารีเมฆาผู้นั้นก็ลงมือโจมตีมู่เฉียนซีเป็นคนแรก
“หญิงสาวผู้ไร้ประโยชน์แห่งสำนักลั่วเยว่ ไสหัวไปซะเถอะ!”
มู่เฉียนซีโบกมือขึ้น และกล่าวอย่างเย็นชาว่า “มังกรวารีทำลาย!”
อุณหภูมิรอบ ๆ พลันลดต่ำลง การเคลื่อนไหวของศิษย์สำนักวารีเมฆาผู้นั้นช้าลงมาก จากนั้นมู่เฉียนซีก็กล่าวเสียงเบาว่า “มังกรวารีทำลาย!”
มังกรวารีตัวหนึ่งพุ่งไปที่เขา เขาไม่อาจหลบหลีกได้เลย ทำได้เพียงแค่รับการโจมตีของมังกรวารีตัวนี้จนร่างของเขากระเด็นลอยออกไปจากลานประลอง
ปัง! คนผู้นี้กระเด็นออกไปอย่างน่าสังเวช สีหน้าของเขาดุร้ายยิ่งนัก
“บัดซบ! เจ้าลอบกัดข้า”
มู่เฉียนซียืนอยู่บนลานประลองก้มมองดูเขาก่อนจะกล่าวว่า “เจ้ามันมีตาแต่หามีแววไม่ ข้าลอบกัดเจ้าตรงไหน แพ้ก็คือแพ้”
“เจ้าเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังธาตุวารี นึกไม่ถึงเลยว่าจะเอาตัวเองไปอยู่ในสำนักลั่วเยว่นั่น ช่างไร้อนาคตยิ่งนัก”
ศิษย์สำนักวารีเมฆามีผู้บำเพ็ญภูตพลังธาตุวารีมากมาย และบังเอิญว่าเขาก็เป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังธาตุวารีเช่นกัน!
มาพ่ายแพ้ศิษย์ผู้บำเพ็ญภูตพลังธาตุวารีของสำนักลั่วเยว่เช่นนี้ เขาโกรธเกรี้ยวจนแทบจะกระอักเลือดออกมาอยู่แล้ว
และในตอนนี้เองการโจมตีพลังธาตุวารีหนึ่งก็โจมตีเข้ามาจากทางด้านหลังของมู่เฉียนซี ศิษย์สำนักวารีเมฆาที่กระเด็นไปก่อนหน้านี้รู้สึกดีอกดีใจขึ้นมาแล้ว ศิษย์พี่หวังกำลังจะแก้แค้นแทนเขา
หญิงสาวผู้นี้ต้องตายแน่!
สุดท้ายร่างในชุดม่วงนั้นได้กลายเป็นร่างลวงตา หลบหลีกคมศรวารีนั้นไปได้อย่างรวดเร็ว
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เจ้าเองก็เป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังธาตุวารีเหมือนกัน เพียงแต่ว่าเจ้าอ่อนแอเกินไป เพียงกระบวนท่าเดียวของข้า ก็สามารถกำจัดเจ้าได้แล้ว”
ศิษย์พี่หวังผู้นี้โกรธเกรี้ยวจนเส้นเลือดที่ขมับกระตุกขึ้น “เจ้าฝันไปเถอะ เจ้ากับข้ามีพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับหนึ่งเหมือนกัน ทักษะวิญญาณพลังธาตุวารีของศิษย์สำนักวารีเมฆาจะสู้ทักษะวิญญาณของศิษย์สำนักลั่วเยว่ไม่ได้ได้อย่างไรกัน ช่างน่าขำยิ่งนัก!”
กล่าวจบเขาก็โจมตีไปด้วยหมัดหมัดหนึ่ง!
“หมัดวารีเมฆา!”
กำปั้นขนาดใหญ่ที่ก่อตัวมาจากพลังธาตุวารีปรากฏขึ้นและพุ่งโจมตีไปที่มู่เฉียนซี
เผชิญหน้ากับการโจมตีนี้ มู่เฉียนซีไม่ได้หลบหลีกแต่อย่างใด แต่ยังเผชิญหน้าด้วยความใจเย็น และในขณะที่กำปั้นนั้นกำลังจะเข้าใกล้มู่เฉียนซี มู่เฉียนซีตะโกนอย่างเย็นชาว่า “มังกรน้ำแข็งท้าสวรรค์!”
มังกรน้ำแข็งพลังธาตุวารีอันแข็งแกร่งปรากฏขึ้น และพุ่งไปที่ศิษย์พี่หวังผู้นั้นทันที!
สามารถทำลายพลังของกำปั้นนั้นได้อย่างง่ายดาย และพุ่งเข้าหาศิษย์พี่หวังอย่างรวดเร็ว
ด้วยความเร็วนี้ ไม่ใช่สิ่งที่ศิษย์พี่หวังจะหลบหลีกได้!
เขาคิดไม่ถึงเลยแม้แต่น้อยว่าผู้บำเพ็ญภูตพลังธาตุวารีของสำนักลั่วเยว่ผู้นี้ไม่เพียงแต่จะมีทักษะวิญญาณที่สมบูรณ์แบบเท่านั้น แต่ยังมีทักษะวิญญาณที่สามารถต่อสู้ข้ามระดับได้ด้วย
เผชิญหน้ากับมังกรน้ำแข็งอันดุร้ายเช่นนี้ ศิษย์พี่หวังก็อุทานขึ้นด้วยความตื่นตระหนกว่า “ไม่!”
ปัง! ร่างของศิษย์พี่หวังถูกพลังของมังกรน้ำแข็งโจมตีจนร่างกระเด็นลอยออกไป และลงไปกระแทกบนพื้นดิน
พรวด! ศิษย์พี่หวังกระอักเลือดออกมา สีหน้าซีดเผือดลง
พ่ายแพ้แล้ว! ภายในกระบวนท่าเดียวก็พ่ายแพ้แล้ว สำนักลั่วเยว่มีศิษย์ผู้บำเพ็ญภูตพลังธาตุวารีที่แข็งแกร่งเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน
พลังของมู่เฉียนซีทำให้คุณชายโม่ประหลาดใจเป็นอย่างมากเช่นกัน เขากล่าวเสียงต่ำว่า “สำนักลั่วเยว่เหรอ?”
มู่เฉียนซีกำจัดคนสองคนนี้ได้ด้วยพลังอันแข็งแกร่ง คนอื่นเห็นเช่นนี้ก็ไม่กล้าหาเรื่องใส่ตัวยุ่งกับมู่เฉียนซีอีก
ปัง ปัง ปัง!
ต่อมาก็ถูกโจมตีลงจากลานประลองไปทีละคน สุดท้ายบนลานประลองก็เหลือเพียงแค่เจ็ดคน และมู่เฉียนซีก็เป็นหนึ่งในนั้น
ในตอนนี้เอง ชายหนุ่มผมแดงผู้หนึ่งเดินไปข้างกายมู่เฉียนซี และกล่าวว่า “ทักษะวิญญาณพลังธาตุวารีของเจ้าช่างเก่งกาจยิ่งนัก หากไม่ใช่เพราะออกมาทำภารกิจแล้วละก็ ข้าอยากจะประลองกับเจ้าสักตั้ง”
พลังของชายหนุ่มผู้นี้ไม่ได้อ่อนแอเลย อีกทั้งยังเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังธาตุอัคคีด้วย มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าวว่า “รอให้สำเร็จภารกิจแล้ว ค่อยมาประลองกันก็ย่อมได้! หากเจ้าไม่กลัวความพ่ายแพ้น่ะนะ”
.